...ยินดีต้อนรับ
ที่นี่โรงจำนำหมายเลขแปดอันเลื่องชื่อ
รับจำนำทุกอย่าง ให้ราคายุติธรรมที่สุด
...เชิญผู้สิ้นหวัง ผู้ละโมบ
มาสานต่อความหวัง ความฝัน ความสุข ที่นี่
...พบเถ้าแก่รูปงาม
หนักแน่น ราวเจ้าชายสูงศักดิ์
ชายผู้จำนำความรักของเขาไว้ตลอดกาล
...พบหญิงสาวแสนสวย
ผู้รับใช้เท่าแก่มาสองศตวรรษ
หญิงผู้โหยหาความรักที่ไม่มีวันได้รับ
...ชั่วนิรันดร์...
ทั้งสองจะให้การต้อนรับลูกค้าอย่างดีที่สุด
...ที่นี่..ที่โรงจำนำหมายเลขแปด
โรงจำนำที่ผู้จำนำจะไม่มีวันไถ่ถอนอะไรคืนได้เลย
ไม่ค่อยได้อ่านงานแปลของจีนเลย แต่เลือกที่จะซื้อเล่มนี้มา เพราะเคยอ่านรีวิวเพื่อนบล็อกแล้วโดนใจ พล็อตมันแปลก คนอ่านแนวนี้อาจคิดว่าธรรมดามั๊ง แต่ด้วยความที่ตัวเองไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้ จึงคิดว่าพล็อตไม่ซ้ำใครดี
อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกหลอนอะไรอย่างที่คิดเอาไว้ กลับให้อารมณ์และรู้สึกหม่นนิดๆ ไปกับตัวละครในบางส่วน อย่างตัวเอกหญิงของเรื่อง ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กของอาจิง การบรรยายภาพความยากจน ความโหยหาอาหาร ที่ไม่เคยได้กินบ่อยๆ ...ชิ้นเนื้อชิ้นเดียว ที่เธออยากอมไว้ตลอดทั้งชีวิตเพื่อซึมซาบถึงรสชาติของมัน
...ความโหยหาความรักของเธอที่มีต่อเถ้าแก่ตัวเอกชายของเรื่อง ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่อาจิงเฝ้าหลงรัก แต่เขากลับมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า...
ชอบการบรรยายความรู้สึกของเธอที่ว่า เธอชอบที่สุดคือการได้มองแผ่นหลังอบอุ่นของเขา เพราะอย่างน้อยเวลาที่มองเห็นเพียงด้านหลังของเขาอย่างโหยหา เขาจะได้ไม่ต้องมองเห็นความรู้สึกของเธอและเยาะเย้ยเธอ...และเธอก็จะได้ไม่ต้องเห็นความเย็นชาบนใบหน้าของเขาให้ตัวเองต้องปวดใจ
ฉากหนึ่งที่ชอบก็คือ ฉากที่ทั้งคู่ขี่ม้าแข่งกัน...ฉันอ่านไปรอบที่สอง ก็ยังอดหัวใจกระตุกนิดๆไม่ได้ เวลาที่เราหลงรักใครซักคน แค่มองแผ่นหลังของเขา มันก็อบอุ่นมากมายแล้วเหรอ แค่ซักครั้งหนึ่งที่ได้ขี่ม้าเคียงคู่กันไป ก็ทำให้อาจิงมีความสุขจนสามารถเยียวยาความเจ็บปวดที่ผ่านมาเป็นร้อยๆปีได้ แม้เขาไม่เคยมองเห็น ไม่ว่าจะทำดีซักเท่าไหร่ สายตาเย็นชาที่เขามองมา มันสามารถกรีดหัวใจของคนที่เป็นฝ่ายแอบรักได้จริงๆ
...เจ็บแค่ไหนก็ยังรัก ตัดใจไม่ขาดเสียที...
แต่ส่วนหนึ่งที่เราขัดใจนิดหน่อย...เราไม่ชอบเท่าไหร่ที่บทของซุนโจว ตัวเอกหญิงอีกตัวหนึ่งที่เปิดตัวมาหลังๆ สาวน้อยที่เถ้าแก่คอยดูแลมาตลอดเป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งมาแย่งซีนบทเด่นของอาจิงไปไม่น้อย ปูพื้นมาเหมือนเธอจะเป็นนางเอกของเรื่องด้วย แต่เรื่องราวในตอนท้ายๆ กลับทำร้ายตัวละครตัวนี้
และบทสุดท้ายก็จบลงแบบสั้นๆ และห้วนทีเดียว...อารายว้า อยู่ดีดี คนที่ไม่มีวี่แววว่าจะรักกันซักนิดอย่างเถ้าแก่ก็หันมารักอาจิงเฉยเลย สงสารซุนโจว...เถ้าแก่ใจร้ายกับซุนโจวมากที่มาเบียดบังความรักของเธอไปเพื่อตัวเองและอาจิง
แค่นี้ก็นึกว่าจะมันควรจะจบลงแล้ว พอมาถึงตอนที่ไฟเริ่มลุกไหม้ร่างทั้งสองคน (คนอ่านอย่างเรากุมขมับ) ...แง แง...หลายปีทีผ่านอุปสรรคมามากมาย ความรัก ความอาทร ความผูกพันธ์ที่อาจิงเฝ้ารอมาหลายร้อยปี ทุกอย่างจบลงแค่เนี๊ย...ง่ายไปเปล่า?? แล้วซุนโจวที่เถ้าแก่เฝ้าดูแลฟูมฟักมานาน เขากลับหวังเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น
ปล.อีกส่วนที่ตัวละครทั้งสองคนรักกันอย่างรวดเร็วมาก คนอ่านตามไม่ทัน สงสัยว่าเราอ่านนิยายรักโรแมนติกมากไป เลยคาดหวังความโรแมนติกสูง วางหนังสือแล้วซักพัก...เริ่มทำใจได้...จึงได้คิด อ้อ อืม...ที่พระเอกรักนางเอกช้าไปนั้น เพราะเขาจำนำความรักของเขาไปแล้วนี่เอง จึงไม่เคยมีความรู้สึกใดๆกับใครทั้งนั้น กว่าจะรักกันก็โน่น เกือบจบเรื่องแล้ว
ชวนคนที่ยังไม่เคยอ่าน มาอ่านค่ะ คิดว่าหลายคนน่าจะชอบแนวนี้ แต่รีวิวนี้อ่านแล้ว อาจจะไม่ได้อารมณ์สดใหม่ซักเท่าไหร่ เพราะว่าอ่านมานานพอสมควรแล้ว และก็รีวิวดองไว้นานจนเค็มปี๋ มาเปิดข้อมูลเก่าๆ ดู เพิ่งเห็น เลยเอามาลงบล็อกค่ะ เพราะถือว่าเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าอ่านทีเดียว
ปอลิง ว่าแต่มีใครสนใจจะจำนำฟามรักไว้กับอิชั้นมั้ยก๊ะ ไม่มีไถ่ ไม่มีถอน ไม่คิดดอกเบี้ย แค่รักวันละนิดๆก็พอ ฮิ้ววววววว เน่าได้อี๊กกกกก !!!!!!