|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร?
วันนี้ ฝนเอาบทความที่อาจเป็นประโยชน์บ้าง สำหรับพ่อแม่ที่กำลังมีลูกเล็กมาให้อ่านค่ะ...
เมื่อวัยอนุบาล เคยถามเจ้าตัวเล็กว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร คำตอบที่ได้มีหลากลาย -ทั้งเป็นกระเป๋ารถเมล์ (เพราะอยากถือกระบอกฉีกตั๋ว)
อยากเป็นนักวิทยาศาสต์คิดค้นยาที่จะทำให้เหาหมดไปจากโลก (เพราะเคยขยาดกับเหายิ่งนัก)
อยากเป็นพ่อ (เพราะไม่มีใครมาบอกว่าถึงเวลานอนแล้ว)
หรือบางครั้ง ถ้าไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะตอบ ก็คือ "ใครจะตอบได้ล่ะคะ มันเรื่องของอนาคต"
เข้าสู่วัย 9 ขวบ ถึงไม่มีใครมาไต่ถามเจ้าตัวก็หมั่นพูดใส่หู
แม่ให้ได้ยินอยู่เสมอว่า อยากจะเป็นโน่นเป็นนี่
และสิ่งที่อยากจะเป็นก็ดูจะมีเหตุผลน่าฟังขึ้น
อยากจะเป็นครู เพราะคุณครูบอกว่าหนูชอบเล่า ชอบอธิบาย
แล้วก็พูดมากเหมือนคุณครู
อยากจะเป็นโอเปอเรเตอร์ เพราะพูดๆ ๆ อย่างเดียว ไม่ต้องคิดอะไรมาก
อยากจะเป็นนักมายากล เพราะหนูบิดลูกโป่งเป็นตัวหมาได้แล้ว
ตามหลักวิทยาพัฒนาการ
ในเบื้องแรกความใฝ่ฝันอยากจะเป็นอะไรในอนาคตของเด็ก
จะมีพื้นฐานมาจากสิ่งที่ชอบก่อน ซึ่งจะแสดงให้เห็นในวัยประมาณ 6-7 ขวบ
แต่ต่อมาจะมีพื้นฐานมาจากการค้นพบว่าตัวเอง ทำได้
นั่นคือประมาณ 9 ขวบ ซึ่งคำตอบจะมีความหมายแฝงความนัยมากขึ้น
เพราะเด็กเริ่มมีพัฒนาการที่จะสนอกสนใจรอบตัวที่ไกลออกไปจากตัวเองและครอบครัว และเริ่มที่จะจินตนาการตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกที่เห็นได้
โดยเทียบกับความเป็นจริงของตัวเอง นอกจากนั้น
ก็ยังโตพอที่จะรู้จักยินดียินร้ายไปกับชีวิตที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของพ่อแม่ได้แล้ว พัฒนาการขั้นนี้สำคัญมากค่ะ ...
เพราะความอยากจะเป็นแล้วค้นพบว่าตัวเองทำอะไรพอจะได้บ้าง
จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เด็กเกิดความมุ่งมั่น
พยายามและใฝ่ฝันที่จะไปให้ถึง และเพราะสิ่งที่พ่อแม่พูด คิด กระทำ
เกี่ยวกับงานอาชีพของตัวเองที่ทำอยู่
มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อการเลือกอาชีพของลูกในอนาคต
ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างมากมายในสังคม
ที่ลูกมักเจริญรอยตามพ่อแม่ในเรื่องการเลือกอาชีพ
หรือการสร้างความฝันให้ลูก ดังนั้น พ่อแม่ต้องรับบทหนักอีกแล้วล่ะค่ะ
ในการเป็นผู้จุดประกายความใฝ่ฝันให้กับลูก
ประสบการณ์จากโลกแห่งการทำงานของพ่อแม่
วิธีเริ่มต้นที่ดีที่สุดง่ายที่สุดคือ การคุยอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับงานที่พ่อแม่ทำ เล่าให้ลูกฟังถึงขอบข่ายงานที่ทำ เขียนหนังสือ พิมพ์คอมพิวเตอร์ คุยกับลูกค้าทางโทรศัพท์ จัดการบริหารโครงการ พูดถึงทักษะจำเป็นที่ต้องใช้เช่น ต้องภาษาอังกฤษดี หรือพูดจาดี การอธิบายลักษณะงานจะช่วยกระตุ้นให้เด็กได้คิดว่าทักษะหรือ ความสามารถที่เขามีนั้นเหมาะกับงานประเภทไหน
เรื่องสนุกที่ทำงาน น่าจะเป็นหัวข้อที่คุณคุยให้ลูกฟังบ่อยๆ การพบปะผู้คนใหม่ๆ เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ โจ๊คเกี่ยวกับผู้คนที่ทำงาน การใช้ทักษะความสามารถของคุณในงานศิลป์หรืองานเขียน เหล่านี้จะช่วยพัฒนาทัศนคติที่ดีในการมองงานและให้เห็นภาพงาน ที่น่าเบิกบานในอนาคตพร้อมกับการมองงานว่าเป็นเรื่องน่าท้าทาย ได้รับการตอบแทนเป็นรางวัลสำหรับความเหนื่อยยากและ ความคิดสร้างสรรค์ที่ลงไป และที่สำคัญ สามารถทำให้ลูกเห็นได้ไม่ยากว่า การเรียนนั้นมีผลต่อการทำงานอย่างไรด้วย
การวาดภาพงานในด้านบวกให้ลูกเห็นไม่ได้หมายความว่า จะต้องปิดบังปัญหาของงานไม่ให้ลูกรู้ วันนี้หากมีเรื่องหงุดหงิดใจไม่สบายใจในที่ทำงาน หรือไม่มีความสุขกับการตัดสินใจในบางเรื่อง ถ้าลูกถามหรือสังเกตเห็นก็เล่าให้ลูกฟังได้ เพราะลูกวัยนี้ทำความเข้าใจได้ว่า แม้คนที่ลูกนิยมยกย่องก็ล้วนต้องดิ้นรนต่อสู้เอาชนะอุปสรรค เหมือนที่เด็กวัยขนาดลูกก็ต้องทำและบางครั้งพ่อแม่ก็ผิดพลาดได้ และก็ต้องลุกขึ้นเริ่มต้นใหม่อีกครั้งได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรจะบ่นงึมงำๆ เรื่องงานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันให้ลูกได้ยินได้ฟังเพราะแน่นอน ลูกจะรู้สึกว่างานนั้นช่างน่าเบื่อหน่ายเสียจริง
อาชีพที่หลากหลาย
เมื่อเห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดมาจากผลสำเร็จของงาน ควรให้ลูกได้มองเห็นถึงที่มาด้วย เช่น เวลาพาลูกไปซื้อผักที่ตลาด บอกลูกด้วยว่ากว่าจะมีผักคะน้ากำนี้มา จะต้องมีคนปลูกผัก และต้องมีคนเอาผักมาส่ง ลูกถึงจะซื้อผักได้ หรือหลังจากดูภาพยนต์จบ ขยายความให้ลูกฟังอีกหน่อยว่า ภาพยนต์เรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากการทำงานเขียนบทภาพยนต์ และต้องมีการจ้างนักแสดงมาเล่นตามบท วิธีการนี้จะช่วยให้เด็กๆ เห็นว่า ยังมีอาชีพอื่นอีกนอกไปจาก ครู หมอ หรือตำรวจ
อาชีพไม่มีเพศ
เด็กๆ อาจเหมาเอาได้ว่า งานแบบนี้แบบนั้นจะต้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายทำเท่านั้น หากได้เห็นแบบอย่างซ้ำซากจากสังคมรอบตัว หรือแม้แต่ในบ้านเอง (แม่มักจะทำกับข้าว ซักผ้า รีดผ้า ส่วนพ่อตัดแต่งต้นไม้ที่สนามนอกบ้าน) พ่อแม่จึงควรให้ความคิดเรื่องงานที่ใครๆ ก็ทำได้กับลูกด้วย อย่างเช่น ตอนดูทีวีด้วยกัน "ดูสิลูกทำไมพยาบาลในเรื่องต้องเป็นผู้หญิงหมด แหม
ทำไมไม่เอาผู้หญิงมาเล่นเป็นหมอบ้างนะ" นอกจากนั้นก็ควรให้ลูกได้พบได้เห็นอาชีพที่ผู้คนมักมองว่าจะต้องเฉพาะเพศเท่านั้น เช่น ครูสอนคาราเต้ที่เป็นผู้หญิงหรือครูสอนเต้นรำที่เป็นผู้ชาย
อาชีพที่เป็นไปได้ยาก
ลูกบางคนอาจจะมีความฝันที่ดูห่างไกลจากความจริง หรือทะแม่งหูสำหรับพ่อแม่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่นักร้องวัยรุ่นกำลังมาแรง เพียง 9 ขวบ 10 ขวบก็เป็นซูเปอร์สตาร์กันแล้ว ลูกจึงมีสิทธิ์ที่จะฝันได้ แล้วรีบซุ่มซ้อมฟังเพลง ร้องเพลงเป็นการใหญ่และไปได้ดีเสียด้วย แต่ก็ใช่ว่าเด็กที่ รักการฟังเพลงวัย 9 ขวบ จะเติบโตขึ้นไปเป็นนักร้องสังกัดค่ายดังได้ทุกคนไป เจอแบบนี้พ่อแม่จะทำอย่างไรดี คำแนะนำคือ ให้ลูกร้องต่อไป แต่ถ้าพ่อแม่พอมีกำลังส่งเสีย การให้ลูกไปเรียนเปียโนก็เป็นทางออกทางหนึ่ง เพราะอย่างน้อย ครูสอนเปียโนก็เป็นอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้ได้ดี
ยังเลือกไม่ได้
ยังมีเด็กอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่แน่นอนหรือไม่ได้พูดถึงสิ่งที่อยากจะเป็นในอนาคต ซึ่งอาจจะเป็นเพราะยังมีความสนใจหลากหลายมาก ก็อย่าเพิ่งไปขัดกรอบกะเกณฑ์ แต่ควรช่วยลูกมองหาและพัฒนาทักษะของตัวเองไปก่อน เพราะเด็กบางคนอาจจะค้นพบตัวเองเอาเมื่อจบชั้นมัธยม 6 ก็ยังมี
พาไปทำงานด้วย
การจะทำให้ลูกเห็นซึ้งถึงงาน โดยเฉพาะงานของพ่อแม่ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพาลูกไปที่ทำงานด้วย (ถ้าเจ้านายอนุญาต เพื่อนร่วมงานยินดี และสภาพการทำงานไม่วุ่นวายนัก) การพาลูกไปที่ทำงานมิใช่ประโยชน์เพียงแค่เข้าใจหรือรู้จักงานที่พ่อแม่ทำแต่ตลอดช่วงเวลาที่ลูกขลุกอยู่ใกล้ๆ ลูกจะได้เห็นถึงวิธีที่พ่อแม่พูดคุยกับผู้ร่วมงาน สั่งงาน รับงาน พูดคุยโทรศัพท์ หรือถ้าพ่อแม่มีเวลา อาจจะอธิบายลูกไปด้วยก็ดีเลยว่า ทำไมปัญหานี้ถึงได้เลือกการตัดสินใจอย่างนี้ นอกจากนั้น ลูกยังจะได้มีโอกาสเห็นการทำงานประเภทอื่นๆ ในที่ทำงานพ่อแม่ด้วย แต่ก่อนพาไปที่ทำงาน ควรถามลูกก่อนว่าอยากไปไหม เพราะเด็กบางคนอาจจะค่อนข้างเขิน หรือกลัวว่าไปแล้วพ่อแม่จะยุ่งจนไม่มีเวลามาคุยด้วย เพราะฉะนั้นอย่าบังคับ แต่ถ้าลูกยินดี ก็ต้องพูดคุยกับลูกก่อน ว่าพาไปเพราะอะไร และต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เช่น ไม่แตะต้องข้าวของเครื่องมือถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ดูแล หลังจากกลับมาแล้ว พ่อแม่ควรได้พูดคุยต่อกับลูกว่า ลูกรู้สึกอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อยากจะทำงานอย่างพ่อแม่ไหม หรืออยากจะทำงานอย่างอื่นหรืออยากจะดูอะไร คุยกับใครอื่นอีกไหม ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกรู้จักงานที่พ่อแม่ทำอยู่คือการให้ลูก สัมภาษณ์ โดยสมมติลูก เป็นนักข่าวมาสัมภาษณ์เรื่องราวของพ่อแม่ เช่น
ตอนเป็นเด็กอายุเท่ากันนี้ พ่อแม่เคยคิดอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น
ความฝันมีอิทธิพลต่อการเลือกงานไหม
เคยเล่าให้คุณตาคุณยายฟังเรื่องความฝันเหล่านี้ไหม ถ้าเล่า คุณตาคุณยายว่าอย่างไรบ้าง
คุณตาคุณยายมีอิทธิพลต่อการเลือกงานในปัจจุบันนี้ไหม
ถ้ามีโอกาสเลือกงานใหม่อีกครั้ง จะเลือกงานแบบเดิม หรือแตกต่างไปเลย
อะไรที่พ่อแม่คิดว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการ เลือกงานของคนเรา
ปิดเทอมแล้ว จัดเวลาให้ลูกหน่อยเถอะค่ะ เพราะวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้มองเห็นว่าการได้ทำงานประกอบอาชีพ คือส่วนที่ต่อยอดออกไปจากความสนใจและความมุ่งมั่นของตัวเอง การทำงานไม่ใช่เพียงเพื่อสิ่งซึ่งได้มาเพื่อให้มีชีวิตรอด มีเงินอยู่ในตู้เอทีเอ็มเมื่อปลายเดือน หรือ
เพื่อให้สมความปรารถนาของพ่อแม่ เมื่อลูกเข้าใจจุดนี้ ลูกก็จะเดินไปได้ถูกทางอย่างรู้ว่าเมื่อโตขึ้นเขาอยากเป็นอะไรจริงๆ
ขอบคุณ..บทความของคุณทอฝัน จากหนังสือ..life & family ปีที่ 3 ฉบับที่ 36 มีนาคม 2542
ขอบคุณของแต่งบล็อคสวยๆจากเพื่อนๆทุกท่านค่ะ ขอบคุณ คุณทาสบอย,คุณแคนดี้ดอลCandy Doll,คุณไอซ์และ คุณเนยสีฟ้าค่ะ ขอบคุณ บีจี สวยๆ และเพลงเพราะๆจาก หนู Nilz ค่ะ
Create Date : 19 เมษายน 2550 |
|
33 comments |
Last Update : 19 เมษายน 2550 4:46:25 น. |
Counter : 604 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: fontor 19 เมษายน 2550 8:10:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้อง IP: 131.191.78.21 19 เมษายน 2550 9:25:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: chichiro 19 เมษายน 2550 10:37:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 19 เมษายน 2550 11:43:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ratchy69 19 เมษายน 2550 13:06:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: Htervo 19 เมษายน 2550 16:11:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: caramella (caramella ) 19 เมษายน 2550 18:46:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลายฟากฟ้า IP: 67.167.216.80 19 เมษายน 2550 22:49:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฝน IP: 67.167.216.80 21 เมษายน 2550 6:20:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: กัปตันผู้เดียวดาย (ฉันรอเธออยู่ ) 21 เมษายน 2550 19:28:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ratchy69 21 เมษายน 2550 23:35:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฝน IP: 67.167.216.80 22 เมษายน 2550 11:31:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: fonejank 22 เมษายน 2550 14:12:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: fonrin 22 เมษายน 2550 16:55:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกษ IP: 202.139.223.18 22 เมษายน 2550 21:39:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฝน(ปลายฟากฟ้า) IP: 67.167.216.80 22 เมษายน 2550 23:45:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่บี IP: 124.120.227.139 24 เมษายน 2550 15:06:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฝน(ปลายฟากฟ้า) IP: 67.167.216.80 25 เมษายน 2550 1:20:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกษ IP: 202.139.215.169 27 เมษายน 2550 1:44:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฝน IP: 67.167.216.80 27 เมษายน 2550 9:06:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกษ IP: 202.139.215.177 27 เมษายน 2550 23:28:45 น. |
|
|
|
|
|
|
หลังไมค์ถึงฝน..กดที่นี่
|
|
|
|
|
|
|