4 ส.ค. 49 กลับมาแล้วจ้า
วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2549 --- 15 weeks 3 days --- =========== น้ำหนัก 60.6 kg. ==========
หนีไปเที่ยวกันสองคนกับสามีมาจ้า จุดหมายปลายทางคือ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง หลังจากที่ลังเลไปๆมาๆ ว่ามีมรสุมเข้า ฝนตกบ่อยจัง จะไปเที่ยวเกาะได้รึเปล่าน้อ สุดท้ายก็ตัดสินใจ เอาวะ.. เป็นไงเป็นกัน
ออกเดินทางสี่ทุ่มกว่า คืนวันอังคารที่ 1 ไปนอนค้างที่บางแสน 1 คืน ใช้เส้นทางด่วนลอยฟ้า บางนา เจอฝนหนักระหว่างทาง จนต้องเปิดไฟกระพริบ ชักใจไม่ดี จะไปเกาะได้ไม๊เนี่ย แต่พอไปถึงบางแสน ว้าว.. ลมเย็นจังเลย ลมแรงทีเดียว แต่อากาศดีมาก มีฝนปรอยเล็กน้อย เลือกที่พักริมหาด ได้ที่ถูกใจแล้ว ก็ออกไปหามื้อดึกทานกันตอนตีหนึ่ง ที่ร้านริมหาดบางแสน แล้วค่อยกลับที่พัก เปิดน้ำอุ่น นอนแช่ในอ่างอาบน้ำ เพลิดเพลิน กว่าจะได้หลับ ปาเข้าไปตีสองกว่า อ้อ..เราไปกันวันธรรมดา ได้ที่พักดี ราคาประหยัด คืนละ 500 บาทจ้า ตู้เย็น ทีวี เคเบิ้ล แอร์ น้ำอุ่น (มีอ่างอาบน้ำ) มีน้ำอัดลมกับน้ำดื่ม ให้ดื่มในตู้เย็นด้วยจ้ะ
เช้าวันรุ่งขึ้น เก็บข้าวของเตรียมตัวไปเที่ยวเกาะเสม็ดกัน รายการแรกของวันนี้ เราแวะดูปลาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ บางแสน จากนั้นหาอาหารเติมท้องที่ร้านอาหารบนเขาสามมุก ราคาชวนขนหัวลุกไม่น้อย เราเลยทานกันพอรองท้อง มีกั้งขนาดใหญ่ทอดกระเทียมพริกไทย 2 ตัว, ข้าวผัดปู 1 จานเล็ก, ข้าวผัดกุ้ง 1 จานเล็ก, น้ำเปล่า, น้ำแข็ง โดนไป 590 บาท ไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่เลย ต้องอาศัยขนมบนรถทานต่อ ผล็อยหลับไป เพราะเมื่อคืนนอนดึกมาก ตื่นมาอีกทีสามีก็ขับรถถึงระยองแล้ว เราแวะเข้าไปที่โลตัส ระยอง เพื่อซื้อขนมขบเคี้ยว ตุนไปกินที่เกาะเสม็ด เพราะคาดว่าของบนเกาะคงจะราคาสูง แล้วมุ่งตรงไปหาดแม่รำพึง ทานอาหารทะเลให้เต็มคราบ อย่างที่ตั้งใจไว้ เราทานกันเยอะมาก เหมือนเกิดมาไม่เคยทานอาหารทะเล มีทั้ง กุ้งแชบ๊วยอบ, ปูม้านึ่ง 1 กก.เศษ, หอยตลับผัดพริกเผา, หอยหวานเผา, กั้งกระดานเผา ทุกอย่างล้วนเป็นไซส์บิ๊กบึ้ม กินจนลุกแทบไม่ไหว เก้าร้อยเศษๆ ค่อยคุ้มค่าเิงินหน่อย
จากนั้นตรงไปท่าเรือข้ามฝากไปเกาะเสม็ด ได้ขึ้นเรือตอน 6 โมงเย็นพอดี ทะเลเรียบ ไม่ค่อยมีคลื่น ไปช่วงกลางทาง มีคลื่นบ้างเล็กน้อย พอให้เรือโยกเยก สนุกดี ขึ้นฝั่งที่ท่าหน้าด่าน เกาะสมุย เดินขึ้นลงเนินอีก 500 เมตร ถึงที่พักที่โทรจองไว้ แล้วข้ามแพไปที่พัก ซึ่งสร้างไว้ในทะเล ไม่ได้อยู่บนพื้นดิน
ความพิเศษของที่พักที่เราเลือกคือ ใต้เตียงจะเจาะพื้นทำให้เราเห็นทะเลด้านล่าง และ บริเวณร้านอาหาร ก็จะเจาะพื้นใต้โต๊ะเช่นกัน นั่งห้อยขาลงไป เท้าลอยต่องแต่งอยู่บนพื้นทะเลเขียวใส ด้านล่าง มีปลาว่ายน้ำเล่นไปมา เราโชคดีมาก ที่วันนี้อากาศดี เย็นสบาย ไม่มีฝนเลย แต่ราคาอาหารที่ที่พัก แพงมาก เช่น ผัดซีอิ้ว จานละ 200 บาท เราเปิดเมนูแล้วทานไม่ลง เลยต้องข้ามแพมาเดินหาร้านชาวบ้านทาน ราคาก็สูงกว่าบนฝั่งอยู่พอสมควร แต่ก็ยังดีกว่า ผัดซีอิ้วจานละ 200 อ่ะนะ ที่ที่พักเรามีแต่ชาวต่างชาติไปทาน เพราะบรรยากาศดี (แต่แพงมั่กๆ) ทานเสร็จ ซื้อขนมปังตุนไว้เผื่อยามหิวที่ 7eleven แล้วกลับที่พัก
แปลกนะ เวลาอยู่บ้านไม่เคยนึกอยากทานขนมถุงๆ มันฝรั่ง ข้าวเกรียบกุ้ง แต่พอไปเที่ยวแบบนั้น หาทานยาก เออ.. มันอยากทานไปหมดเลยแฮะ เสบียงที่เราเตรียมมาเลยช่วยชีวิตไว้ได้เยอะ ตอนซื้อทีแรกสามียังบ่นว่า จะเอาไปทำไมเยอะแยะ (ราวกับจะมาเปิดมินิมาร์ทบนเกาะ) คืนนั้นเข้านอนกัน แต่หลับไม่สบายเท่าไหร่ เพราะไม่คุ้นกับหมอน และผ้าห่มผืนเล็ก (ที่บ้าน ต้องมีหมอนเต็มเตียง ผ้าห่มคิงไซส์ คนละผืน )
ตื่นมาตอนเช้ามืด ชาวประมงเริ่มออกเรือหาปลากันแล้ว ที่พักเราอยู่ละแวกเดียวกับหมู่บ้านชาวประมง เลยได้เห็นเรือหาปลาเต็มไปหมด เช้านี้อากาศดี สดชื่น ลมเย็นสบาย เสียที่เมฆมากไปหน่อย เลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นงามๆ ชมวิวกันพอสำราญใจ แล้วอาบน้ำรอทานอาหารเช้า แทงสนุ๊กเล่นเพลินๆ ที่โต๊ะสนุ๊กเกอร์ในที่พัก ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ไปพายเรือคยักเที่ยวเล่นในบริเวณใกล้่ๆ กลับเข้าห้องพัก เตรียมตัวเก็บข้าวของเช็คเอาท์ออกเดินทางต่อ
เราข้ามเรือกลับมาฝั่งระยอง เรือที่เรานั่ง ลำค่อนข้างใหญ่ เลยไม่มีปัญหากับคลื่นที่เริ่มสูงขึ้นมากนัก แต่ลำเล็กๆ ลำอื่นที่แล่นอยู่ เห็นแล้วหวาดเสียวแทน โคลงเคลงจนน้ำเข้า กลับถึงฝั่ง เราไปทานมื้อกลางวัน คือ ผัดไทยปู, ยำไ่ข่ปู, ส้มตำปูม้า ฝนเริ่มตกลงมา ลมแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมีต้นสนริมทาง โค่นหักลงมาเป็นระยะๆ คลื่นในทะเลเริ่มสูง ขาวไปหมด เราโชคดีจริงๆ ที่ข้ามมาถึงฝั่งนี้เรียบร้อย ก่อนจะเจอลมแรงแบบนี้ แรงขนาดที่เราออกไปยืนโต้ลม เม็ดทรายเล็กๆ ลอยมาปะทะตัวเจ็บไปหมด ตัวเซไถลไปข้างหลัง ในจังหวะที่ลมแรงขึ้น
เราแวะไปเดินเล่นที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ระยอง อีกพักหนึ่ง ที่นี่สวยงามกว่าที่บางแสนมากทีเดียว แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปชมด้านใน เพียงแต่เดินดูตู้ปลา ด้านนอก จากนั้นขับรถไปเดินห้าง ทานอาหารอีกรอบ แล้วออกมาหาร้านสปา นวดฝ่าเท้า นวดตัวกัน เจอคลีนิคที่มีบริการอัลตร้าซาวด์อยู่ใกล้ๆ เลยไปเสียเงินสักหน่อย
ดูกันเลยดีกว่า
เจ้าหนูในท่าเอาก้นลง ครั้งนี้เห็นกระดูกสันหลัง และกระโหลกศีรษะชัดเจนแล้ว มีโครงกระดูกทั้งตัว น่าเสียดายที่นอนในท่าที่ไม่เห็นเพศ
ดูหน้าหนูชัดๆหน่อย หัวกลมโตเชียว สงสัยลูกออกมาไม่พ้นหน้ากลมเหมือนปะป๊า หม่าม้าแน่ๆเลย
เจ้าหนูโตกว่าอายุครรภ์อยู่นิดหน่อยอีกตามเคย อายุครรภ์จริง ไม่เกิน 15 สัปดาห์ กับ 2 วัน แต่จากอัลตร้าซาวด์ ได้ 15 สัปดาห์ 6 วัน ความยาวหัวถึงก้น 8.9 ซม. ศีรษะ 3.3 ซม. โตกว่าเดิมเยอะเลย
เปรียบเทียบกับเมื่อคราวที่แล้ว ตอน 11 สัปดาห์กับ 1 วัน ยังตัวเล็กเป็นลูกหนู 4.38 ซม.
ดูชัดๆ
หมอคนนี้ (ถือเป็น second opinion) บอกว่า เนื้องอก(ที่หมอที่เราฝากครรภ์บอก) ไม่ใช่เนื้องอก แต่เป็นเนื้อของมดลูกธรรมดา ผลการอัลตร้าซาวด์ครั้งนี้ คือ ปกติ ดูดีทุกอย่าง
ครรภ์เดี่ยว (ไม่ใช่แฝดแน่ๆแล้ว) ท่าเด็ก ก้นนำ (หันก้นลงไปทางช่องคลอด) หัวใจเต้นดี ไม่มีความผิดปกติของทารก เนื้อรกเกาะข้างบน, กลาง, หน้า ,ไม่เกาะต่ำ น้ำคร่ำปกติ กำหนดคลอดคำณวนจากอัลตร้าซาวด์ 19 ม.ค. 50 (เร็วขึ้นอีกหน่อย)
Create Date : 04 สิงหาคม 2549 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2555 13:53:11 น. |
|
5 comments
|
Counter : 580 Pageviews. |
|
|
|
ขอให้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูกนะจ้า
อยากมีมั่งอ่า