Bloggang.com : lisalee : 5 days Seoul and Incheon (Korea)

5 days Seoul and Incheon (Korea)

กลับมาอัพบล็อกครั้งนี้ดาจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเกาหลีค่ะ หลายคนถามว่าปีๆ นึงนี่ดาเที่ยวบ่อยจัง ไม่ทำงงทำงานเหรอ ดาก็ตอบว่างานก็ทำมีเวลาก็เที่ยว เพราะการที่เราออกไปดูโลกภายนอกมันก็เป็นการเปิดหูเปิดตาอย่างนึง คนจีนออฟฟิศดาหลายคนเลยค่ะที่ไม่เคยได้ออกไปไหนแล้วก็ไม่สนใจความเป็นไปของประเทศต่างๆ แล้วก็เข้าใจว่าประเทศจีนยิ่งใหญ่และเจริญที่สุด แน่นอนว่าคนพวกนี้เห่อฝรั่งแต่ดูถูกคนเอเชียด้วยกัน ดากลับมาจากเกาหลีก็มาถามดาด้วยคำถามแนวว่าเกาหลีเจริญอย่างเซี่ยงไฮ้ไม๊ เจริญอย่างที่ว่าไม๊ เนื่องจากในเซี่ยงไฮ้แผ่นหนังเกาหลีเยอะมาก และถ้าใครเคยดูหนังหรือละครเกาหลีจะเห็นว่าส่วนใหญ่ฉากสวย ถ้าเป็นฉากในเมืองก็ดูเดิร์น คนจีนเค้าก็เลยสงสัยว่ามันจะจริงหรือเปล่า ความเป็นชาตินิยมของคนจีนบางทีก็แปลกๆ ค่ะ คือ จะชาตินิยมกับคนเอเชีย แต่เห่อฝรั่ง ชาติไหนก็ได้ขอหัวทองๆ เป็นใช้ได้ อย่างมีหนุ่มอังกฤษมาเป็นครูสอนภาษาไปๆ มาๆ กลายเป็นนายแบบไปซะงั้น เนื่องจากว่าตอนนี้ความต้องการนายแบบฝรั่งในเมืองจีนสูงมากจนขนาดมีไม่พอความต้องการ ตามหน้าห้างซุปเปอร์ก็ใช้นายแบบฝรั่งมาแต่งตัวเป็นพนักงาน ดาเดินห้างนี้มาเกือบสามปียังไม่เคยเจอตาคนนี้เลย

ขนาดว่ากับเกาหลี ญี่ปุ่น คนจีนยังเฉยๆ สืบเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยโบราณที่จีนยิ่งใหญ่ในแถบนี้ ญี่ปุ่น เกาหลี ยังเป็นคนเกาะต้องพึ่งพาศาตร์ ความรู้ต่างๆ จากจีน ความรู้สึกอันนี้ก็ยังฝังใจคนจีนอยู่ พอพูดถึงประเทศไทยคนจีนบางคนยังไม่รู้จักเลยและออกจะดูถูกประเทศไทยด้วยซ้ำ ยิ่งช่วงหลังๆ มานี้จีนบูมมากออกข่าวไปทั่วโลก เพราะงั้นคนไทยหรือจีนบนแผ่นไทยที่เคยคิดดูถูกคนจีนก็รู้ไว้นะคะว่าคนจีนเองเค้าก็ไม่ได้คิดต่างจากเรา

ข่าวเกี่ยวกับเมืองไทยที่ดาอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ที่นี่เป็นข่าวที่ไม่ได้ช่วยโปรโมทภาพพจน์ของประเทศไทยเลย ข่าวเด็กไทย คนไทยเก่งๆ ได้รางวัลระดับนานาชาติ ข่าวเทคโนโลยีความก้าวหน้าของไทยไปไหน？ ดาไม่เชื่อถ้ามีคนบอกว่าเมืองไทยไม่มีอะไรดีเลย อะไรก็ไม่ก้าวหน้า คนไทยก็ไม่เก่ง เรามัวแต่มองจุดดำๆ บนกำแพงที่มีอยู่ไม่กี่จุดแล้วก็บอกว่ากำแพงนี้ไม่สวยเลย ทุบทิ้งเหอะ อย่างนั้นหรือเปล่า ? สิ่งที่ดีๆ ในเมืองไทย ในตัวคนไทยมีมากมายทำไมเราไม่หยิบเอาจุดนั้นมาพัฒนา ดาก็ไม่ใช่นักวิชาเกินกับเค้าหรอกแต่เนื่องจากว่าพอมาอยู่ที่นี่แล้วเห็นข่าวประเทศตัวเอง มันสลดใจปนแค้นว่า ใครฟระที่มันเอาข่าวพรรค์นี้มาลง ถ้าเป็นคนไทยจะถามว่าคิดก่อนหรือเปล่าว่าข่าวนี้มันให้ประโยชน์อะไรกับประเทศบ้าง ถ้าไม่ใช่ก็อยากรู้ว่าประเทศเราปล่อยให้นักข่าวต่างชาติทำข่าวเสรี อยากเขียนอะไรก็เขียนอย่างนั้นเหรอ ดูข่าวประเทศจีนเป็นตัวอย่างบ้าง ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวที่ดูแล้วดี สร้างความมั่นใจให้กับคนในชาติและก็ต่างชาติ จะจริง 100% หรือเปล่ามันอีกเรื่อง ซึ่งประเทศไหนๆ ใครๆ ก็ทำ คนเรายังต้องสร้างภาพให้ตัวเองดูดีแล้วภาพพจน์ของประเทศล่ะ

มีอยู่วันนึงดานั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านกับเพื่อนชาวญี่ปุ่น มีชายคนนึงท่าทางเป็นพนักงานออฟฟิศพอดีว่าที่นั่งไม่พอเค้าก็เลยมานั่งโต๊ะเดียวกัน เค้าฟังดากับเพื่อนใช้ภาษาจีนคุยกันก็รู้ว่าเราไม่ใช่คนจีน เค้าก็ชวนคุย พอเค้ารู้ว่าดามาจากประเทศไทยก็ถามดาว่าประเทศไทยเทียบกับเซี่ยงไฮ้เป็นยังไง กรุงเทพฯ มีห้างใหญ่ๆ เหมือนเซี่ยงไฮ้หรือเปล่า ดาก็ว่ามีสิ เมืองหลวงประเทศไหนไม่มีห้างใหญ่ๆ บ้างฟระ เค้าก็ทำหน้าไม่เชื่อ (หาว่าตูโกหกอีก) เค้าบอกว่าในความเข้าใจของเค้าเนี่ยประเทศไทยเป็นประเทศที่ค่อนข้างยากจน คนไม่ค่อยมีการศึกษา ดาเลือดขึ้นหน้าแล้วตอนนั้น พูดจาสุนัขๆ แบบนี้เดี๋ยวสวย ดาก็ถามเค้าว่าเคยไปกรุงเทพฯ ไม๊ เคยไปไทยไม๊ ไม่เคย ไม่เคยออกไปนอกประเทศเลยด้วยซ้ำ ดาก็ว่าไม่เคยไปแล้วเอาอะไรมาตัดสิน ก็จากข่าวที่เค้าอ่าน ข่าวทีวีนั่นแหละ

ดาอยู่ที่นี่สิ่งที่ทำให้ดารังเกลียดคนจีนมากที่สุด ไม่ใช่เรื่องถุยไม่เลือกที่ พูดจาโหวกเหวกโวยวาย แต่เป็นเรื่องที่คนจีนมาดูถูกประเทศไทย คนไทย ถึงแม้ว่าดาจะจีนแต่ดาก็ไม่ชอบที่คนจีนมาว่าประเทศไทยอย่างโง้นอย่างงี้ ตั้งแต่คบกับเพื่อนญี่ปุ่น เกาหลีมา หรือแม้แต่เจ้านายชาวสวิส ไม่เคยมีคนไหนพูดจาดูถูกประเทศไทย (ให้ได้ยิน) ขนาดว่าคนเค้ามีความเป็นอยู่ดีกว่าคนจีนมากมาย

กลับมาเรื่องเที่ยวดีกว่า ก่อนจะกลายเป็นบล็อกคนแก่ขี้บ่น ครั้งนี้ดาไปกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นออกจากเซี่ยงไฮ้ไปถึงสนามบินอินชอน อธิบายนิดนึง สนามบินอินชอนตั้งอยู่บนเกาะยองจองโดค่ะ ถ้านั่งลีมูซีนบัส (แอร์พอร์ตบัสนั่นแหละ แต่เค้าเรียกให้มันดูโก้ๆ) ก็ปรืดเดียวเข้าโซลเลย แต่ดากะเพื่อนอยากลอยลม ก็นั่งรถเมลล์ ราคาพันวอน ไปลงที่ท่าเรือแล้วก็นั่งเรือเฟอร์รีข้ามฟาก....โรแมนติกซะ

เพื่อนดาเองค่ะ ถ้าใครได้อ่านเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นของดา ก็เพื่อนคนนี้ล่ะค่ะที่เป็นนางแบบให้ดาถ่ายรูปขั้นตอนการใส่ยูคาตะ (กิโมโนฉบับย่อ)

นั่งไปถึงอีกฟากก็คือวอลมิโด แถบนั้นร้านอาหารทะเลเพียบมาก

ดากับเพื่อนก็เลือกมั่วๆ เข้าไปร้านที่อยู่ในรูปนั่นแหละ ดาพอจะพูดเกาหลีได้บ้างงูๆ ปลาๆ เพื่อนดาพูดได้ดีกว่าดา แถมเธออ่านภาษาเกาหลีได้ด้วย สรุปก็เลยช่วยกันมั่ว เจ้าของร้านก็พยายามเข้าใจ ก็ได้ไอ้เจ้านี่มากิน "แฮมุลทัง" อาหารเกาหลีจะมีออร์เดิร์ฟมาก่อนจานที่เราสั่ง อย่างในรูปที่อยู่รอบๆ เป็นออร์เดิร์ฟ (ไม่ต้องสั่งมันก็มา) รอบสอง

ภาษาเกาหลีกับภาษาจีนหลายคำออกเสียงแล้วก็ความหมายเหมือนกัน อย่าง "ทัง" ภาษาจีนแปลว่าซุป ภาษาเกาหลีก็เหมือนกัน

นี่เป็นออร์เดิร์ฟรอบแรก

ไม่นึกว่าออร์เดิร์ฟของเค้าจะมากมายได้ขนาดนี้ ซุปกาละมังนั้นน่ะขนาด 6 คนกินค่ะพี่น้อง ตอนเจ้าของร้านยกออกมาดากับเพื่อนนี่นั่งตาค้าง เพราะว่าแค่ออร์เดิร์ฟก็อิ่มกันแล้ว ในซุปนั้นเป็นอาหารทะเลล้วนๆ แถมใส่มาซะไม่บันยะบันยัง กะว่ากินกันให้ตายกันไปข้าง ด้วยความเสียดายก็พยายามกินเท่าที่กินลง เจ้าของร้านก็บอกว่าทำไม่ไม่กิน ไม่อร่อยเหรอ (พุงจะแตกอยู่แล้วเจ๊) กินไปคุยไปกับเจ้าของร้าน กินเสร็จเจ้าของร้านพาขึ้นไปร้านชั้นบนเป็นแบบโต๊ะนั่งพื้น เห็นทะเลอยู่ข้างหน้า เอากาแฟออกมาเลี้ยงอีก ใจดีจัง

สรุปว่าดากับเพื่อนนั่งอยู่ร้านนี้เกือบ 3 ชม. เฮฮาสนุกสนาน คุยกันรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง เจ้าของร้านก็ใจดีตั้งใจสอนภาษาเกาหลีให้เราใหญ่ ก่อนกลับก็ขอรูปเป็นที่ระลึกหน่อย

เจ้าของร้านคือคนที่ใส่กันเปื้อนน่ะค่ะ

เกือบลืมบอก มื้อยักษ์นั้นน่ะราคาหมื่นหกพันวอนค่ะ

จากนั้นดากับเพื่อนก็นั่งรถไฟฟ้าเข้าโซล แนะนำว่าควรใช้บัตรโดยสาร เป็นการ์ดเติมเงิน ค่ามัดจำการ์ด 2500 วอน การ์ดนี้ใช้ได้หมดทั้งรถเมลล์ รถไฟฟ้า ลีมูซีนบัส แล้วจะได้ลดค่าโดยสารด้วยค่ะ ในเซี่ยงไฮ้ก็ใช้บัตรแบบนี้ใช้กับรถแท็กซีก็ได้ด้วย แต่ไม่ได้ลดเหมือนในเกาหลี (ไม่รู้ว่าบัตรนี้ในเกาหลีใช้กับรถแท็กซีได้หรือเปล่า ไม่ได้ลอง)

คืนนั้นดากับเพื่อนมานอนที่บ้านเพื่อนคนเกาหลีที่รู้จักกันตอนเรียนภาษาจีนที่เซี่ยงไฮ้นี่ล่ะค่ะ แล้วสิ่งที่ดาอยากเห็นมาตั้งนาน ที่สุดก็ได้เห็น แท่นแท๊นนน.......

ตู้เย็นสำหรับกิมจิเจ้าค่ะ ทุกบ้านมีกันหมด

เหมือนจะยาวไปแล้ว คราวหน้าค่อยมาเล่าต่อนะคะ

ดาได้ฟังเพลงนี้โดยบังเอิญ ชอบเสียงร้องคนนี้มากๆ จากนั้นก็สืบได้มาว่า คนร้องชื่อ "คิมจองกุก" จากนั้นถึงได้รู้จักหน้าตาคนร้อง อยากบอกว่าหน้ากับเสียงไม่เข้ากันเลยค่ะ บล็อกหน้าจะลงรูปให้ดู

Create Date : 28 กรกฎาคม 2550

Last Update : 28 กรกฎาคม 2550 13:21:19 น.

17 comments

Counter : 913 Pageviews.

การเที่ยวก็เหมือนกับการชาร์ทแบตให้ชีวิตครับ

หาเวลาเที่ยวบ้าง ไม่ใช่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ

ผมก็ตั้งปณิธาณกับตัวเองว่าเราต้องหาเวลาเที่ยว

อย่างน้อยๆ ที่สุด ปีละประเทศก็ยังดีครับ

ผมเริ่มทำงานได้ 3 ปี ตอนนี้ได้ 2 ประเทศแล้วครับ

ใกล้ๆ นี่เอง ฮ่องกง มาเก๊า

ปลายปีนี้จะไปเวียตนามครับ

ปีหน้าตั้งใจว่าจะไปเกาหลีครับ

ขอทำงานเก็บเงินก่อนนะครับ

โดย: มิสเตอร์ฮอง

วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:22:35 น.

อยากไปเกาหลีมั่งจัง จะได้ไปมั้ยเนี้ยชาตินี้

อิจฉาค่ะๆๆๆ

โดย: mini mini

วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:28:37 น.

หวัดดีค่ะ คุณดา
แวะมาเที่ยวเกาหลีด้วยคนค่ะ
เคยไปครั้งเดียวเองค่ะ และคาดว่าจะไม่ได้ไปอีก เลยตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ เที่ยวแบบนี้สนุกดีนะค่ะ มันส์ไปเลย.... อยากไปด้วยจังเลยค่ะ......

โดย: ann_269

วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:19:53 น.

สวัสดีค่ะ เพิ่งเปิดบ้านก็มีแขกมาเยี่ยมแล้ว ดีใจจังค่ะ

คุณ มิสเตอร์ฮอง เป็นนักเที่ยวเหมือนกัน ใช่เลยค่ะ ดาก็คิดแบบนี้แหละ ไปไหนก็ได้ ออกไปดูคนอื่นเค้าบ้าง

คุณ mini mini ว่างๆ ก็หาโอกาสไปดูนะคะ ท่าให้ดีต้องไปเอง เที่ยวไปหลงไป มั่วมันไปเรื่อยๆ สนุกดีค่ะ

คุณ ann_269 มันส์จริงค่ะ เที่ยวแบบลอยลมเนี่ย แต่บางคนอาจไม่ชอบเที่ยวแบบดาก็ได้นะ

โดย: ดา (lisalee

) วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:39:45 น.

อ่านแล้วโมโหตามเรื่องที่ถามว่ากรุงเทพฯ เจริญมั๊ย...

แต่ก็นะ คนที่ยังไม่เคยออกมาจากกะลา ก็ต้องอภัยๆ เค้าไปเถอะ...

เมื่อวานก็เพิ่งไปกินอาหารเกาหลีมาเหมือนกันจ๊ะ ช่วงนี้ชอบกินข้าวยำหน่ะ รู้สึกว่ามันได้กินผักเยอะดี...

ปล. ช่วงที่ดาไปที่เกาหลีไม่หนาวเหรอ..

โดย: กวางตุ้งหวาน

วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:43:08 น.

ลุยไปเที่ยวด้วยกันสองคน น่าสนุกจังนะคะ ..

ยังจำเรื่องที่คุณดาพาเที่ยวญี่ปุ่นได้เลยค่ะ
ประทับใจกับความงามตามธรรมชาติของเมือง
และบ้านที่ไปพักมากๆ เลย ..

ที่เกาหลีก็ชอบสภาพบ้านเมืองถนนหนทางที่วอลมิโด
ดูเป็นเมืองเล็กๆ สงบเงียบ น่าไปเที่ยวดีนะคะ
อาหารก็ดูน่าทาน โดยเฉพาะเรื่องออร์เดิร์ฟ
น่าสนใจมากๆ ค่ะ ..

โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight

) วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:38:44 น.

ตกลงดาจะกลับบ้านอาทิตย์หน้าเหรอ

โชคดีน๊า ว่าแต่กลับมานานเปล่าอ่ะงวดนี้

โดย: กวางตุ้งหวาน

วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:38:24 น.

ชอบเกาหลีอยู่ค่ะช่วงนี้ โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ แล้วจะมาตามดูต่อนะจ๊ะ
ปล.ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อิอิ

โดย: นู๋จ๋ายเจ้าขา

วันที่: 3 สิงหาคม 2550 เวลา:10:15:49 น.

แวะมาดูว่าคุณดาอัพพบล็อคยัง จะไปเที่ยวด้วยค่ะ

โดย: ann_269

วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:19:49:32 น.

อ่านแล้วเลือดขึ้นหน้าเหมือนกันนะคะ ดา

คนไม่รู้จักประเทศเราแล้ว หาว่าไม่ดีอย่างโน้น อย่างนี้

คิดถึงดานะคะ

อยากไปเกาหลีด้วย ตอนนี้เกาหลี ญี่ปุ่น อยากไปหมดเลยค่ะ

แต่ที่สุดคือไทยค่ะ หุหุห อยากกลับเมืองไทย

โดย: yadegari

วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:23:16:19 น.

ดีค่าทุกคน ตอนนี้ดาอยู่เมืองไทยแล้วค่า เพิ่งมาถึงเมื่อตีสามของวันนี้เองค่ะ สบายใจจริงๆ ที่ได้กลับมา ที่ไหนก็ไม่ดีเท่ากับประเทศเราจริงไหมคะ

กวางตุ้งหวาน...ดาจะอยู่แค่สองวันก่อนจะไปอินโดฯ จ๊ะ ไปเรื่องงาน

ป้าติ๋ว...อาหารที่นั่นน่าทานทุกอย่างเลยค่ะ กลายเป็นทริปเพิ่มน้ำหนักไปซะงั้น

นู๋จ๋ายเจ้าขา...ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ

ann_269...ดากลับไปเซี่ยงไฮ้เมื่อไหร่จะรีบอัพโดยด่วนเลยค่ะ

คุณแบม....ดาเจอคนจีนพูดแบบนี้กับดาบ่อยมากกกค่ะ จนบางทีทำให้ดาไม่ค่อยอยากเสวนาด้วย

โดย: ดา (lisalee

) วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:17:42:24 น.

สุขสันต์วันแม่ค่ะ

แอนแวะมาอวยพรเนื่องในโอกาสวันแม่ค่ะ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้คุณแม่ , คุณและครอบครัวมีความสุขมากๆ และมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงตลอดไปค่ะ

โดย: ann_269

วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:10:37:16 น.

อ่า....ดามาแค่ 2 วันเองเหรอ....อดเจอเลยอ่ะ เสียดายจัง ไว้คราวหน้าเนอะ...

โดย: กวางตุ้งหวาน

วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:8:52:56 น.

อาหารน่าทานมากกกกกครับ เหอๆๆ

อืม ผมเห็นด้วยกับคุณดาครับ คนไทยเราที่จริงมีศักยภาพมากมาย แต่กลับไม่ดึงเอามาใช้ หรือดึงมาใช้ไม่เต็มที่เพราะมัวแต่ไปมองอะไรที่เรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ

เรื่องดีๆอย่างที่เด็กเราไปทำชื่อเสียงในต่างประเทศกลับไม่ส่งเสริมไม่ลงข่าว ไม่โปรโมต แต่กลับมาโปรโมตเรื่องไปประกวดหล่อสวย สร้างค่านิยมฉวบฉวยไปวันๆ ช่างไม่สร้างสรรค์เอาซะเลย

เมือ่ก่อนตอนผมอยู่ตปท. เวลาเพื่อนมาพูดว่าประเทศเรา ผมจะรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนมาก จะต้องมาพูดแก้ไขตลอดว่าไม่จริงนะ ประเทศเราเป็นแบบนี้เพราะอะไรๆ ก็จะอธิบาย แต่เดี๋ยวนี้ถ้ามีคนมาพูดแบบนี้ผมคงเฉยๆครับ เพราะมันจริง ไม่อยากมานั่งเเก้ต่างให้เสียเวลาแล้ว..ประเทศเรากำลังแตกสลายอย่างกู่ไม่กลับแล้วครับ

..ก่อนหน้านี้ผมป่วยไปสามสี่วันเพราะอาหารเป็นพิษน่ะครับ เลยไม่ค่อยได้เข้ามา ตอนนี้หายดีแล้วแต่แอบขี้เกียจ เลยนอนพักต่อ

ตอนนี้ก็เก็บของเตรียมย้ายบ้านครับ เดือนหน้าถ้าไม่มีอะไรขัดข้องก็คงได้เริ่มย้ายซะที ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรเลย กะไปตายดาบหน้าจริงๆ บ้านเช่าก็ยังหาไมได้เลยครับ...

โดย: พ่อน้องโจ

วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:16:29:54 น.

ดาจ๋า

คิดถึงดาจังเลยค่ะ

กินอาหารเผื่อแบมมั้ยคะ

โดย: yadegari

วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:5:56:15 น.

สวัสดีค่ะ กวางตุ้งหวาน คุณพ่อน้องโจ คุณแบม แล้วก็เพื่อนบล็อกคนอื่นๆ ด้วยนะคะ

ช่วงนี้งานยุ่งมากเป็นพิเศษแล้วก็เร่งด้วยค่ะ เนื่องจากว่าต้นเดือนม.ค.ปีหน้า ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทจะออกสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิกซึ่งผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในความดูแลของดาก็เลยต้องเตรียมเรื่อง market launch plan, sales support packge, customer service, etc เลยไม่มีเวลาได้อัพบล็อกซักกะที กลับถึงบ้านก็แทบสลบ ดาก็ลุ้นมากว่าผลออกมาจะเป็นยังไง ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้เวลาเกือบ 2 ปีตั้งแต่เริ่มไอเดียจนมาถึงขั้นดีไซน์ ปรับปรุงทั้งรูปแบบและคุณภาพจนได้ออกมาอย่างนี้
ต้นเดือนต.ค. ที่จีนหยุด 1 อาทิตย์ เนื่องจากเป็นวันหยุดชาติจีนค่ะ ดาก็เลยกลับไทยไปหาที่ผ่อนคลายซะหน่อย ก่อนกลับมาลุยกันใหม่

เพื่อนๆ ล่ะคะ เหนื่อยกับงาน แต่อย่าท้อนะคะ Aza aza fighting !!

โดย: ดา (lisalee

) วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:7:51:16 น.

เข้าใจครับ ผมเองตอนอยู่ตปท. เพื่อนๆเคยมาถามว่าที่เมืองไทยมีเครื่องิบนมั้ย มีไอติมมั้ย มีมหาวิทาลัยมั้ย เค้าคิดว่าเราขี้ช้างไปเรียน และนั่งนอนบนต้นไม้จริงๆครับ

และยิ่งถ้าเรามีข่าวเสียเนี่ยภาพประเทศเราจะเป็นลบไปในทันทีโดยที่ม่สามารถสร้างให้เป็นบวกได้ในเวลาอันเร็วได้เลยครับ

สำหรับคนจีนเนี่ยผมเคยเจอตอนไปอเมริกา ไม่มีมารยาทมาก ผมตั้งจานอารไว้ที่โต๊ะ มีกระเป๋าผมตั้งอยู่ด้วย ผมแค่เดินไปเอาเครื่องดื่ม ปรากฏว่ามีกลุ่มคนจีนมาแย่งที่นั่งผมเฉยเลย แถมพูดก็ไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมลุกอีกต่างหาก แถมชอบส่งเสียงดังโวยวายไม่เกรงใจใครเดินขากถุยกันแบบว่าอึ้งมากๆ ผมยังจำสีหน้าคนอเมิรกันที่มองคนกลุ่มนี้ได้อย่างไม่มีวันลืมเลย แถมเขาคิดว่าผมเป็นพวกเดียวกับคนกลุ่มนี้ซะด้วย น่าอายเเทนมากครับ

สำหรับฝรั่งเเล้ว ชาวเอเชียเขาจะเหมารวมไปหมดว่ามาจากจีน เป็นคนจีนไปหมด และจะชอบมองด้วยสายตาดูถูกประจำ

แย่มากๆครับ

Take Careนะครับคุณดา

โดย: พ่อน้องโจ

วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:23:31:38 น.