Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
1 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
ทำไมถึงเลือกไปเป็น exchange student ที่แคนาดา

ลองพยายามรวบรวมเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกไปแลกเปลี่ยนในโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยนของมหาลัยที่ประเทศแคนาดา ถ้าจะสรุปจะมี 2 ประเด็นใหญ่ๆ คือ
1. ทำไมถึงเลือกไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน
2. ทำไมถึงเลือกไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ประเทศแคนาดา

ตอบคำถามข้อ 1
1. ได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าหน้าที่จาก Int'l Office ของมหาวิทยาลัยที่มาให้ข้อมูล และโน้มน้าวว่าถ้าไปแล้วจะทำให้ profile เราดูมีคุณวุฒิและประสบการณ์ในสายตาของผู้ว่าจ้างเวลาสมัครงาน (คนเดนส์เห่อนักเรียนนอกเหมือนคนไทย?)

2.อยากฝึกและเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง เพราะรู้สึกว่าเวลานั่งเรียนในชั้นเรียนที่นี่ จะนั่งเป็นเบื้อใบ้ตลอด ไม่ค่อยจะกล้าแสดงความคิดเห็นซักเท่าไหร่ (ปากหนักเหลือเกิน แต่ทีเวลาบ่นพี่เย็นซ์นี่ทำได้ถนัดนัก?)

3.การไปเป็น นศ แลกเปลี่ยน มันเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงอย่างหนึ่งของนักศึกษาที่นี่ ก็เลยทำให้มีแรงจูงใจตามเพื่อนๆ ในชั้นเรียนด้วย เพราะเพื่อนๆ ในชั้นเรียนที่เรียน ป.ตรี ด้วยกันก็ไปกันมาหลายคนเลย ทั้งออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษ และประเทศไทย (มีเพื่อนคนเดนส์นึงชอบเมืองไทยมากๆ ต้องไปทุกปี ตอนสมัครแลกเปลี่ยนก็เลยเลือกไป ม.ธรรมศาสตร์ แถมปัจจุบันเรียนตรีจบแล้ว ก็ยังขอไปฝึกงานที่สำนักงานพาณิชย์เดนมาร์กในกรุงเทพฯ) ส่วนเพื่อนที่เรียนด้วยกันปัจจุบัน ก็ไป exchange กันมาแล้วทั้งนั้น นอกจากประเทศข้างต้น ยังมี สิงคโปร์ เกาหลี เม็กซิโก ญี่ปุ่น (เด็กเดนส์ก็ชอบโกอินเตอร์เหมือนกัน?)

4.รู้สึกว่าตั้งแต่ตัวเองมาอยู่ที่นี่ (เดนมาร์ก) แล้ว จะทำอะไรได้น้อยลง และกระบวนการการเรียนรู้ด้วยตัวเองลดลง เนื่องมาจากเวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา เราก็มีพี่เย็นซ์ไว้คอยถาม หรือให้ช่วยแก้ปัญหาตลอด นับตั้งแต่ปั่นจักรยานหลงทาง ก็โทรถามพี่เย็นซ์ว่าจะไปต่อยังไง หรือเวลาไปทำงานเป็นล่าม แล้วหาที่อยู่ของลูกค้าไม่เจอก็จะโทรถามพี่เย็นซ์ มีปัญหาเรื่องคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ก็ให้พี่เย็นซ์จัดการ เวลากลับบ้านตอนเย็นแล้วฝนตก หรือมีหิมะตกแบบไม่หนักหนาสาหัส ก็จะให้พี่เย็นซ์ก็จะมารับ เวลาจ่ายกับข้าวสำหรับมื้อเย็น แล้วขาดเครื่องปรุงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็โทรให้พี่เย็นซ์ช่วยซื้อเวลาขับรถกลับจากทำงาน ตอนย้ายบ้านและซ่อมบ้านเราก็ช่วยพอสมควร แต่ภาระหนักๆ จะตกที่พี่เย็นซ์และพ่อแม่พี่เย็นซ์ พี่เย็นซ์มักจะพูดทีเล่นทีจริงว่า Du er så forkælet! (You’re so spoiled!) เราว่าก็จริงนะ มานั่งนึกๆ ดูแล้ว ตอนอยู่เมืองไทยสมัยเป็นโสด ก็ทำอะไรเองได้ทุกอย่าง หลงทางในกรุงเทพฯ ก็ไม่มีคนมาช่วย เครื่องคอมที่ทำงานผิดปกติก็ต้องหาทางแก้ไขเอง เวลาไปไหนมาไหนก็ไปเองตลอด

5. อยากไปเที่ยว เหตุผลนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยจะเข้ากับเนื้อหาเท่าไหร่ แต่ว่าคิดว่าการที่เราได้อยู่ต่างประเทศซัก 3-4 เดือน น่าจะทำให้เราได้เรียนรู้สถานที่ต่างๆ ได้ในหลายมุมมอง ทั้งวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประวัติศาสตร์ ความคิดความอ่านและค่านิยมของผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆ

เอาล่ะ เมื่อรวบรวมความกล้าที่จะไปสมัครไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนกับเค้าแล้ว คำถามที่ตามมาในข้อถัดไปคือ แล้วจะเลือกไป U. ไหน ประเทศอะไรล่ะ เมื่อศึกษาข้อมูลใน intranet ของมหาลัยซึ่งมีข้อมูลของมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้กับมหาลัยที่เรียน พร้อมกับ report ต่างๆ ที่นักศึกษาที่ได้ไปแลกเปลี่ยนในแต่ละประเทศได้จัดทำเอาไว้ พร้อมกับข้อกำหนดต่างๆ ที่มีอยู่ในหัวของตัวเองอยู่แล้ว ก็เลยมาลงตัวที่เมือง Toronto ประเทศแคนาดานี่แหล่ะ เหตุผลเหรอ
1. อยากฝึกฝนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะทักษะการพูด และทักษะสำหรับ presentation ซึ่งเราคิดว่าเรายังขาดทักษะในส่วนที่สองอยู่มากๆ พอต้องไป present งานหน้าชั้นทีไร ต้องพกโพยไปทุกที แล้วก็มือเย็น เกร็งซะสุดๆ ไปเลย และการศึกษาในประเทศแถบอเมริกาเหนือจะมีการฝึกทักษะในด้านนี้ที่ดีมาก ส่วนภาษาอังกฤษ ถึงแม้ปัจจุบันเรียนภาคภาษาอังกฤษ แต่ว่าเวลาจะพูดที ก็นึกแล้วนึกอีก

2. แคนาดา เป็นประเทศในฝันที่อยากไปมานานมากๆ เป็นประเทศแรกที่เขียนเลือกตอนไปแลกเปลี่ยนของ AFS แต่ว่าที่ไม่ได้ไป เพราะไม่มีประเทศแคนาดาอยู่ในโควต้าที่โรงเรียนเราได้รับ (ก็เลยเลือกมาเดนมาร์กแทนไง)

3. เลือกเมือง Toronto เพราะยังอยู่ใกล้ๆ กับฝั่งตะวันออก จะได้ไม่ไกลจากยุโรปจนเกินไป และสะดวกสำหรับคนมาเยี่ยมจากฝั่งยุโรป (ปี 2007 นี่พี่เย็นซ์มี holiday ตั้ง 8 อาทิตย์แน่ะ)

4. ส่วนตัวแล้วคาดว่า ถ้าอยู่เมืองใหญ่อะไรอะไร ก็น่าจะสะดวกมากกว่า อาทิเช่น China Town อันนี้อยากมากๆ เห็นในรูปมีร้านอาหารเป็ดย่าง หมูกรอบแขวนกันเป็นแถว ที่เดนมาร์กไม่มีแบบนี้เลยอ่ะ แถมสังคมยังเป็นแบบ multicultural ด้วย ซึ่งอยากไปสัมผัสมากๆ ซึ่งจริงๆ แล้วอเมริกาก็มีเยอะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมว่าเฉยๆ กับอเมริกา ส่วนที่ยุโรปนี่ ไม่ multicultural เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นมุสลิม แอฟริกา และเอเชีย ซะมากกว่า

5. ส่วนมหาวิทยาลัย ที่เลือกคือ York U. เพราะตอนแรกเห็นชื่อแล้วฟังดูดี (ปิ๊งที่ชื่อก่อนเลย) แถมยังอยู่ในเขต Toronto ซึ่งเป็นผลพวงมาจากเหตุผลข้อ 3 หลังจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูล อ่านรายงานของนักศึกษาที่เคยไปแลกเปลี่ยนที่ U. นี้มา ซึ่งก็ส่วนใหญ่จะเป็น feedback ที่ดี ทั้งด้าน social และด้านเนื้อหาวิชาการ และพอหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็เจอว่าที่นี่ติดอันดับ Top 10 ของ Best Non US Business School จากหลายๆ ที่ที่มีการจัดอันดับ ก็เลย ว้าว เลือกเป็นอันดับ 1 เลย แต่ในใจก็ไม่ได้หวังว่าจะได้ เพราะว่าเราคะแนน Toefl ไม่ถึงตาม requirement ของมหาลัย แต่เมื่อตอนสิ้นเดือนมกราที่มีจดหมายจาก Int'l Office ของมหาลัยเรามาแจ้งว่าเราได้รับคัดเลือกให้ไป U. นี้ก็ดีใจสุดๆ


ตอนนี้ขั้นตอนที่เหลือคือ รอจดหมายตอบรับจากมหาลัยอย่างเป็นทางการ เพื่อจะได้นำไปเดินเรื่องขอวีซ่านักเรียน และจะลองดูวิชาที่จะลง และเดินเรื่องขอ pre-approval จากภาควิชา ในการขอโอนหน่วยกิตกลับมาจาก York U. และต้องจัดการเรื่องทำเรื่องขอทุนสนับสนุนจาก funds ต่างๆ (ยังไปไม่ถึงไหนเล๊ยเรา) ถ้าไม่ได้ทุนสนับสนุนเลย ก็ต้องจัดการควักเนื้อตัวเองเอาเงินเก็บมาใช้ละกัน



พอบอกพ่อแม่พี่เย็นซ์ แกก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย แต่ย่าพี่เย็นซ์จะหัวโบราณนิดๆ โดยแกจะคอมเม้นท์ประมาณว่า นศ ที่ไปแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่เค้ายังไม่แต่งงานไม่ใช่เหรอ ก็เลยเก็ทเลยว่าย่าไม่ค่อยจะสนับสนุน ส่วนพ่อพี่เย็นซ์นี่ รู้ปุ๊ปก็วางแผนจะไปเที่ยวแคนาดาเลย โดยให้น้องไบร๋ (น้องชายพี่เย็นซ์) ไปเที่ยวด้วยกัน จะได้ช่วยแปลกโดยแกให้เหตุผลประมาณว่า Brian taler amerikansk men jeg taler engelsk (Brian speaks American language, but I speak English) แต่จริงๆ แล้วป๊ะป๋าพี่เย็นซ์ก็พูดแต่ภาษาเดนส์แหล่ะ ที่เหลือก็มั่วเอาบ้าง อาศัยพูดเก่ง ชอบไปแค้มปิ้งประเทศโน้นประเทศนี้ ก็เลยได้เป็นบางคำ

ส่วนแม่เราก็สนับสนุนเต็มที่ อะไรที่คิดว่าจะเป็นความก้าวหน้า แม่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย (แหมก็เราพูดโน้มน้าวแม่ซะอย่างดี ฮิฮิ)


Create Date : 01 พฤษภาคม 2550
Last Update : 1 พฤษภาคม 2550 1:05:36 น. 10 comments
Counter : 2376 Pageviews.

 
ขอให้มิ้งค์ได้ประสบการณ์แบบที่ตั้งใจไว้นะจ๊ะ

กิ๊ฟก็ว่าดีนะไปแคนาดา เพราะว่าแปลกแต่กต่างออกไปจากยุดรปอะนะ แล้ว ที่นั่นก็สวยด้วยนิ เปลี่ยนบรรยากาศ

ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะจ๊ะ


โดย: grippini วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:14:14 น.  

 
ได้ประสบการณ์ดีๆกลับมาแน่ๆแหละมิ้ง น่าตื่นเต้นดีจัง

อายเคยเรียนที่แคนาดานะ แต่เรียนที่แวนคูเวอร์ โตรอนโต้นี่ได้แค่ไปเที่ยว เมืองสวยงามดีนะ ชอบๆ
เราว่าแคนาดามีอะไรคล้ายๆสแกน อืม อาจจะเพราะอยู่เหนือๆเหมือนกันเป็น nothern spirit หรือเปล่าไม่รู้ แต่ว่าแคนาดารื่นเริงกว่า เป็นมิตรกว่า คนเอเซียมีโอกาสมากกว่าแถวนี้อย่างไม่ต้องสงสัย สรุปว่าอิจฉามิ้งที่ได้ไปเป็นนร.แลกเปลี่ยน เรายังอยากกลับไปเที่ยวเลย แต่คงอีกนานกว่าจะมีโอกาสอีก


โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:36:37 น.  

 
Image Hosted by ImageShack.us

I like Canada ka


โดย: Baby I love you วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:56:54 น.  

 
กรี๊ด ยังไงมาแถวโตรอนโตแล้ว อย่าลืมแวะขอวีซ่าเมกาติดมาด้วยน๊ะคะ
จะได้ข้ามเที่ยวฝั่งนี้ แล้วแวะมากินข้าวบ้านเราน๊ะ
จากโตรอนโตมาบ้านเราขับรถแค่ สองชม.เอง
โตรอนโตหน่ะสุดยอดแล้วจ๊ะ มีของเอเซียโครตเยอะเลย
เราชอบข้ามฝั่งไปซื้อของกินมากๆๆผลไม้ไทยมีเกือบทุกชนิดที่อยากกิน
สบายแล้วคุณมิ้งเอ่ยๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: สาวเขียน วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:4:06:49 น.  

 
แคนาดาน่าอยู่ค่ะ ไม่เคยไป แต่มันใก้ลกับที่เอ๋อยู่มาก


โดย: jaa_aey วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:4:20:37 น.  

 
P" Ming

Welcome to Canada na krab


โดย: JumboNanaimo วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:10:02 น.  

 
ขอบคุณนะคะสาวๆ + น้องจัมโบ้ ที่เข้ามาแสดงความเห็น และสนับสนุน

กิ๊ฟ ขอบใจมากนะ สำหรับคำอวยพร ไม่รู้ว่าจะคิดถึงบ้าน (ที่เดนมาร์กรึเปล่า) กลัวคิดถึงพี่เย็นซ์อ่ะ

อาย ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าอายเคยไปเรียนที่แคนาดามาก่อน สงสัยว่างๆ ต้องอีเมลล์ไปถามข้อมูลบ้างแล้วล่ะ ตอนนี้ก็ซื้อ Guide book ของเมืองโตรอนโต้มาอ่านอยู่บ้าง เรื่องความเป็นมิตรของคนนี่ได้ยินมาเหมือนกัน เพราะอย่างคนที่มาปฐมนิเทศน์ pre-departure เค้าก็บอกว่า เค้าเคยไปแคนาดาด้วย และก็เคยเลือกไปอเมริกาตอนสาวๆ เค้าบอกว่าถ้าเค้าย้อนเวลากลับไปได้ จะเลือกไปอยู่แคนาดาแทน

คุณแพทขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาสนับสนุน ทำให้รู้สึกว่าประเทศนี้มีแต่คนชอบติดใจ

คุณแพร ถ้าได้ไปโตรอนโต้แล้ว รับรองว่าไม่ลืมข้ามฝั่งไปแน่ๆ จ้า(จะได้ไปเยี่ยมคุณแม่ลูกอ่อนด้วยไง ฮิฮิ) แต่ว่าถ้าได้วีซ่าไปแคนาดา แล้วนี่ต้องขอวีซ่าเข้าอเมริการด้วยเหรอ ไม่ค่อยแน่ใจอ่ะ เพราะตอนไปปฐมนิเทศน์เค้าบอกว่าถ้าได้วีซ่านักเรียนเข้าแคนาดาแล้ว ก็สามารถเข้าอเมริกาได้?

คุณเอ๋ ถ้าใกล้ก็ต้องไปค่ะ ไป survey ไว้ก่อน แล้วจะได้แวะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมที่บล็อกคุณเอ๋ด้วย

น้องจัมโบ้ ขอบใจจ้า ไม่รู้ตอนไปถึงที่โน่น จะมีคนมา welcome รึเปล่า ตื่นเต้นดี


โดย: MingDK วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:34:46 น.  

 
มิ้งค์จะไปจริงเหรอ แล้วแฟนมิ้งค์ล่ะ จะไปอยู่นานแค่ไหนเสียดายเราไม่มีโอกาสเจอกันเลย ยังไงขอให้มิ้งค์สู้นะสักวันมันต้องเป้นวันของมิ้งค์บ้างแหละ ให้กำลังใจกันเองแบบนี้แหละเวลาช่วงท้อมันสาหัสนัก มิ้งค์จะไปตอนไหนละเนี่ยะ


โดย: stila วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:2:53:38 น.  

 
พิม ไม่เป็นไร ไม่เจอกัน เดี๋ยวก็เจอกันนะ เราไปแค่ 4 เดือนเอง (1 เทอม อ่ะ) เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว นอร์เวย์สวยมากๆ ไม่แน่เราอาจจะได้ไปเจอพิมที่นอร์เวย์ก็ได้

พี่เย็นซ์ก็คงอยู่ทำงานที่นี่ต่อไป เพียงแต่โชคดีที่หัวหน้าให้เอาวันลาพักร้อนที่ไม่ได้ใช้ของปีที่แล้ว มาทบกับของปีนี้ก็เลยได้หลายอาทิตย์เลย เค้าก็กะว่าจะไปเยี่ยมเราที่โน่น แล้วก็ถือโอกาสเที่ยวด้วยซะเลยอ่ะ เรากว่าจะไปก็โน่น เกือบๆ ปลายเดือนสิงหาคมแน่ะ เพราะว่ามหาลัยที่แคนาดาเปิดสิ้นเดือนสิงหา ก็ไปล่วงหน้าอาทิตย์นึง จะได้มีเวลาหาหอพัก และจัดการอะไรต่อมิอะไรให้เข้าที่เข้าทางด้วย

ขอบใจนะสำหรับกำลังใจ


โดย: MingDK วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:4:16:32 น.  

 
แวะมาหนับหนุนให้ไป "หาประสบการณ์" ด้วยคนครับ


โดย: เขาพนม วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:44:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MingDK
Location :
Copenhagen Denmark

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ยังเขียนเล่าประสบการณ์ต่อไปหลังจากมาใช้ชีวิตในฐานะแม่บ้าน นักศึกษา และรับงานฟรีแลนซ์ หลังจากมาใช้ชีวิตในต่างแดนได้หกปีกว่า จนบรรลุเป้าหมายได้งานประจำสมใจอยาก :)
Friends' blogs
[Add MingDK's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.