|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
9 กรกฏาคม 2554 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อยากจะมีชีวิตครอบครัวเหมือนคนอื่นๆบ้าง
จะว่าอิจฉาก็ได้ อิจฉาหลายๆคนที่เค้ามีพ่อแม่คอยอยู่เคียงข้างในวันที่ต้องการคนปลอบใจ เราอิจฉาเพื่อนรักของเราคนหนึ่ง บ้านของเขา แม้แต่แอร์กับอินเตอร์เน็ตก็ไม่มี แม่ทำงานคนเดียว เงินเดือนเดือนละสองหมื่น(ไม่รวมค่าวิจัยและค่าอื่นๆในตำแหน่งอาจารย์มหาวิทยาลัย) ทั้งพ่อและแม่เป็นนักวิชาการ ส่งเสริมลูกในทางที่ลูกชอบ น้องชายเขาอยากเรียนดนตรี ทั้งๆที่ค่าเทอมหกหมื่นกว่า แต่แม่เขาก็ยอมส่ง เพราะเป็นสิ่งที่ลูกชอบ
แม้จะอยู่ต่างจังหวัดที่ค่อนข้างไกล แต่พ่อแม่ก็ยังเดินทางมาเยี่ยมลูกบ้าง นานๆครั้ง ให้คำปรึกษาแนะนำลูกได้ในเกือบทุกเรื่อง และเพื่อนรักของเราคนนี้ก็เติบโตมาอย่างแข็งแรง เรียนเก่ง เล่นกีฬาเก่ง เล่นดนตรีเก่ง มีสุขภาพจิตดี มีความคิดที่จะสร้างสรรค์สังคมวิชาการ และทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ
แล้วเราล่ะ บ้านเรารวยกว่าเขาแน่ๆ เรามีน้ำอุ่นใช้ มีแอร์ใช้ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ แต่เราไม่เคยมีความสุขจริงๆเลยสักวัน พ่อแม่ไม่เคยสนับสนุนในทางที่เราชอบ ญาติพี่น้องก็รังแต่จะคอยหาเรื่องกระแนะกระแหน เราเรียนในมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในประเทศ แต่ไม่มีใครภูมิใจกับเรา ไม่มีใครยินดีกับเรา ตั้งแต่เราเรียนมหาวิทยาลัย แม่ก็ไม่เคยมาหาเราสักครั้ง แม้แต่โทรศัพท์ก็นานๆจะโทรมาหาสักที
ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขในชีวิตได้ ทำให้เราอยากดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ มีเพียงการเรียนในสิ่งที่เรารัก เราอยากจะเรียนไปทั้งชีวิต มันผิดตรงไหนที่อยากจะเรียนอักษรศาสตร์ แม้ไม่ใช่คณะทำเงิน ไม่ใช่อาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาด แต่มันให้ความสุขกับเรา ชีวิตคนเราขอเพียงมีความสุข มันก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ หากทำงานที่ได้เงินเยอะๆ แต่ตลอดชีวิตไม่มีความสุขเลย เราจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม
พ่อแม่คิดว่าตัวเองเรียนไม่สูง แต่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนจบปริญญา เพราะมีฐานะดีกว่า ร่ำรวยกว่า พวกเขาเชื่อเช่นนั้น ถ้าหากเขามีความสุข เราก็ยินดีด้วย แต่สำหรับเรา พวกเขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการเลี้ยงดูลูก ความคิดเช่นนี้ทำให้เราไม่อยากมีลูก เราไม่อยากให้ลูกของเราเกิดมาแล้วรู้สึกเช่นเดียวกับเรา
แม่ทำธุรกิจมายี่สิบกว่าปี แต่แม่ก็ไม่เคยอยู่ในตำแหน่งบริหารอย่างแท้จริง แม่ต้องทำเองทุกขั้นตอนการผลิต ธุรกิจมันจึงเป็นเพียงธุรกิจขนาดเล็ก และต้องทำงานตลอดเวลา แค่เวลาพักผ่อนก็ยังแทบไม่มี นับประสาอะไรกับเวลาที่จะมาอยู่กับลูก เราไม่คิดว่าทำเช่นนี้จะเรียกว่าทำธุรกิจเก่ง เราคิดว่าคนที่ทำธุรกิจเก่งจะต้องสามารถใช้คนอื่นทำงานแทนเราได้ เราไม่ต้องลงมือทำเอง แค่ใช้ความคิด ไม่ต้องใช้แรงงาน
เรามันก็คนไม่มีหัวทางธุรกิจ เราสนใจแต่วิชาการ แนวคิดของเราเกี่ยวกับธุรกิจก็เป็นเพียงความคิดตื้นเขินที่หาแก่นสารอะไรมิได้
ตอนเด็กๆเราเคยสนิทกับพ่อ เพราะแม่เราทำงาน มีแต่พ่อที่ว่างมาเล่นด้วย เมื่อเติบโตขึ้น เข้าใจอะไรมากขึ้น เราถึงได้เพิ่งตระหนักว่าแม่ยอมเสียสละมากกว่าพ่อมากมายนัก มีแต่เพียงแม่ที่ยอมให้เราเลือกทางเดินชีวิตของเราเอง(แม้ว่ามันจะสายไปสำหรับอะไรหลายๆอย่างแล้วก็ตาม) แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เราต้องฝืนใจทนเรียนสิ่งที่ไม่ชอบต่อไป และอาจเป็นบ้าฆ่าตัวตายไปในวันหนึ่งข้างหน้า
ไม่แปลกที่จะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่คิดอะไรง่ายๆ ว่าลูกได้เรียนอะไรที่ทำเงิน ลูกก็จะสบายในอนาคต เพราะคนแบบนี้มีมากมาย ในสังคมที่เห็นเงินเป็นใหญ่ แต่ในเมื่อถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่มีแม่คนไหนยินดีที่เห็นลูกต้องทุกข์โศก แต่คนเป็นพ่อกลับไม่สนใจว่าลูกจะทุกข์แค่ไหน ขอเพียงต้องทำในสิ่งที่พ่อสั่ง และเมื่อไม่ยินยอมทำ ก็มักเยาะเย้ยถากถางอยู่เสมอๆ ในเส้นทางที่ลูกเลือกเอง
พวกเขาคิดว่าพวกเขาร่ำรวย แต่พวกเขาก็มองแค่ในจังหวัดเล็กๆ เราถือว่าแค่พอมีอันจะกินเท่านั้น เมื่อเทียบกับชนชั้นกลางในกรุงเทพฯ ยังห่างชั้นไกลนัก คนอื่นๆสามารถส่งลูกไปเรียนซัมเมอร์เมืองนอกได้ทุกๆปี แต่บ้านเรายังติดหนี้อีกเป็นล้าน เช่นนี้จะเรียกว่าร่ำรวยได้อย่างไร ยังมีคนร่ำรวยอีกมากมายนับไม่ถ้วน
หลายคนอาจบอกว่าทำไมเอาแต่มองคนที่สูงกว่า ทำไมไม่มองคนที่ต่ำกว่า จะได้รู้สึกสบายใจ เราไม่รู้จะไปมองคนที่ต่ำกว่าทำไม ด้วยนิสัยของปุถุชนมันก็ต้องอยากจะได้อะไรที่ดีกว่า เพียงแต่สิ่งที่เราอยากได้ มันไม่ใช่เงินทอง ที่หายากหาเย็นเหล่านั้น เราแค่อยากให้พ่อแม่เข้าใจเราบ้าง ให้กำลังใจเราบ้าง ปลอบใจเราบ้าง ให้เวลากับเราบ้าง ในยามที่เราต้องการ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องลงทุนลงแรงเลย
เราเป็นลูกคนเดียว มีปัญหาอะไรก็ต้องแก้ด้วยตัวเอง มีเรื่องไม่สบายใจก็ไม่มีพี่น้องให้ปรับทุกข์ แต่ก่อนเราเคยมีหมาให้นึกถึง มีหมาอยู่เคียงข้าง แม้ว่ามันจะพูดไม่ได้ แต่การที่พูดไม่ได้ บางครั้งก็เป็นข้อดี เพราะมันไม่เคยทำร้ายเราด้วยคำพูด เหมือนอย่างที่คนมักจะทำกัน แต่บัดนี้หมาได้ตายจากเราไปแล้ว เราก็เปรียบเสมือนน้องชายตายไป เราไม่เหลืออะไรให้นึกถึง ไม่เหลืออะไรให้รู้สึกอยากกลับไปที่บ้านอีกแล้ว
ทำไมเรามักประสบกับแง่ร้ายของชีวิตอยู่เสมอนะ เราไม่เห็นอยากจะมีชีวิตยืนยาวเหมือนที่คนอื่นๆเค้าอยากกัน เราไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เห็นแม่ต้องจากเราไป ขนาดหมา เรายังทำใจไม่ได้เลย เราจะมีชีวิตอยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้ได้อย่างไร
Create Date : 09 กรกฎาคม 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 14:49:57 น. |
Counter : 3002 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: backhold 9 กรกฎาคม 2554 15:16:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: auyza 9 กรกฎาคม 2554 15:52:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กต่างจังหวัด IP: 124.120.58.234 9 กรกฎาคม 2554 19:49:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: Takayuki IP: 58.9.131.113 12 เมษายน 2555 22:03:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: noo IP: 1.47.157.123 8 สิงหาคม 2558 11:03:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: noo IP: 1.47.157.123 8 สิงหาคม 2558 11:03:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธนวัฒน์ IP: 182.232.161.96 20 พฤษภาคม 2563 13:05:43 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|