Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
1 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 

ER แบบไทย ๆ

ทีแรกวันนี้จะนัดเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานละ โทรไปคอนเฟิร์มนัดดันบอกเราว่าไม่สบาย เพราะว่าไม่สบายแล้วกินยาแก้อักเสบ เป็นแคปซูล แล้วดื่มน้ำตามไปน้อยเกินไป ทำให้ยาไปติดอยู่ตรงหลอดอาหาร แล้วก็เกิดอาการอักเสบ เพื่อนเล่าว่า เกือบตายนึกว่าแพ้ยา เพราะหายใจไม่ออก หมอว่ามีคนเป็นแบบนี้เยอะ เราว่ามันก็เป็นไปได้ เพราะแคปซูลนั้นแสนจะเหนียว ถ้ามือเปียกน้ำหน่อยไปจับจะรู้สึกว่าหนึบเชียว เป็นอันว่าต้องออกจากบ้านฟรีไป แต่พอดีวันนี้มีงาน Baby & Kids Best Buy 2007 ที่ศูนย์สิริกิติ์ เลยได้ทีไปเดินซะหน่อย ไปคนเดียวด้วย ฝากลูกไว้กับสามีดีกว่า

ออกจากที่ทำงานสามี นั่งรถไฟใต้ดินไป ก็ยังโอเคนะ พอไปถึงซักพัก เดินไปเดินมา ก็รู้สึกว่าง่วงจัง เดินไปเดินมาชักไม่ดีซะแล้ว เกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุนอีกแล้ว เวลาง่วงทีไร หิวหรือเครียด ก็มักจะเป็นแบบนี้ เพิ่งเป็นหนัก ๆ ไปเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มค เอง ตอนไปกินข้าวกับรินกับนาดา กลางร้านอาหารเลย (Ramentei) อาเจียนแทบสลบถึงกับต้องเรียกสามีมารับ แต่คราวนี้พอเริ่มไม่ดี ก็ไปห้องพยาบาล ในห้องมีทั้งผู้จัดงาน และก็เป็นห้องพยาบาลด้วย มีเจ้าหน้าที่มาจากสมิติเวช เราไปนั่งที่โซฟา ไม่มีใครสนใจจะถามอะไรสักคำ เราไปนั่งหลับตา จนทนไม่ไหว เดินไปถามเจ้าหน้าที่ว่ามีที่นอนป่าว เออ แบบว่าทีมปฐมพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ไม่มีใครสนใจคนป่วยเลยแฮะ ก็ตลกดีเนอะ แต่เขาก็ดีแหละ จัดการเอาเตียงที่ปรับจากนั่งเป็นนอนได้ให้เรานอน เรานอนก็ไม่ได้หลับอะไร แต่ก็ได้พัก เพราะในห้องเสียงดังมาก ๆ ซักพักเราว่าเราขอยากินดีกว่า เคยกิน Dramamine แล้วหาย แต่เราไม่ได้กินยานี้มานานแล้ว สำหรับแก้อาการเวียนหัว เมารถ เมาเรือ เพราะกินแล้วจะง่วงมาก ๆ แล้วตอนนั้นก็ 11.30 น. หิวข้าวแล้ว บอกว่าเราหิวข้าว ก็บอกเราว่าแถวนี้หาอะไรให้ทานไม่ได้ เอาชาเขียวรถเหมือนน้ำตาลสดมาให้เราทานรองท้องก่อนกินยา เราก็ทำตาม แต่เราไม่ไหวท้องร้องอย่างแรง การหิวจะทำให้เครียดไปอีก ทำให้เวียนหัว จนเราต้องบอกซ้ำว่าไม่ไหวจริง ๆ ช่วยไปซื้ออะไรให้หน่อย เขาเลยไปหยิบกล่องข้าวของทีมงานแถว ๆ นั้นมาให้ด้วยความเกรงใจ (เจ้าหน้าที่จัดงาน ไม่ใช่เรานะ) ได้ข้าวผัดกระเพราไข่ดาวมากล่องนึง หุหุ อร่อยดีนะ เผ็ด ๆ ไม่ได้กินมานานแล้ว กินไปครึ่งกล่อง แล้วนอนพักสักหน่อย ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นเลยลุกออกมาซ่าต่อ แอบซื้อของอีกนิดหน่อย

นึกว่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว เดินไปสักพักเอ ง่วงมาก ๆ เลย สงสัยไม่ดีแน่ กลับดีกว่า จะประหยัดขึ้นรถไฟฟ้าก็คงไม่ไหวเผื่อเป็นลมเป็นแร้งไปไม่คุ้ม เดินออกไปเรียกแท็กซี่ พอดีเลย มาจอดตรงหน้ามีคนลงจากรถ ให้ไปส่งที่จุฬา โทรบอกสามีไว้ แล้วนั่งหลับตาไปตลอดทาง ตอนแรกง่วงมาก ๆ เวียนหัวนิด ๆ นั่ง ๆ ไปชักแย่ สงสัยจะเวียนหัวบวกอาการเมารถ เพราะรถโคลงเหลือเกิน เหมือนจะไม่มีโช้คเอาซะเลย กว่าจะไปถึงที่ทำงานสามีเราก็เวียนหัวมาก ๆ เลย สามีลงมารับ เราลุกไม่ไหว ล้มเลย ทรงตัวไม่อยู่ สามีอุ้มลูกมาด้วย เลยบอกให้พาไปโรงพยาบาลจุฬาดีกว่า เพราะอยู่ใกล้ เราลุกไม่ไหว ต้องล้มแต่นอน และไม่รู้สาเหตุด้วยว่าเป็นอะไร เผื่อว่าไปตรวจตอนเป็นจะเจออะไรมั่ง เพราะเคยไปตรวจมาก่อนแล้วไม่พบอะไร เราเตรียมถุงไว้อ้วกพร้อม

ไปถึงโรงพยาบาล ไปห้องฉุกเฉิน (ER) รถแท็กซี่จอดแล้ว มีคนเข็นรถมารับ มันช่างห่างไกลกับหนังเรื่อง ER เหอ ๆ
เจ้าหน้าที่.............. ลุกมานั่งที่รถเข็น
เรา........................ ลุกไม่ไหวค่ะ ทรงตัวไม่อยู่
เจ้าหน้าที่.............. ยังไงก็ต้องมานั่งรถเข็นนะคะ ให้พยาบาลดูอาการก่อน
เรา........................ ลุกไม่ไหว ล้มค่ะ นั่งไม่ได้
สามี...................... เขานั่งไม่ได้
เจ้าหน้าที่เอาเตียงมา ลุกค่ะ มาที่เตียง
เรา........................ ลุกไม่ไหวค่ะ
เจ้าหน้าที่.............. ยังไงก็ต้องลุกมานอนที่เตียง
โชคดีอาการเราดีขึ้นนิดนึง เลยกระเสือกกระสนลุกมาไหว ไม่งั้นเราคงล้มไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่กะจะให้เราลุกไปที่เตียงเนี่ยนะ ตามจินตนาการของเราก็คือว่าต้องมีเจ้าหน้าที่ พยายามหิ้วปีก หรืออุ้มเรา มีเตียงเปลมารับถึงรถ

เอาเนอะ ถ้าเราลุกไม่ไหวจริง ๆ เขาจะทำยังหนอ

สรุปว่าเราก็ถูกเข็นไปยังห้องฉุกเฉินมีหมอมาตรวจวัดความดัน ตรวจน้ำตาลในเลือด ดูการเคลื่อนไหวของตา ดูว่าประสาทเราทำงานปกติไหม ดูว่าเรามีแรงรึป่าว สรุปว่าเหมือนปกติทุกอย่าง คาดว่าจะเกิดจากการอดนอน เราว่าช่วงนี้เราจะนอนไม่ค่อยหลับซะด้วย ไม่รู้เป็นอะไร ความเครียดมาจากไหน สุดท้ายหมอเลยให้พยาบาลฉีด Dramamine ให้เรา แต่ยาฉีดเข้าเส้นมันคงแรงมาก เพราะฉีดไม่นานเราก็ง่วงสุด ๆ ก็เพลียหลับไป แต่ระหว่างก่อนจะฉีดยา ก็มีคนเข็นเตียงมาข้าง ๆ สงสัยจะอาการหนักกว่าเราเยอะ มีอาการอาเจียนเป็นเลือดด้วย

ดูแล้วเราคงไม่มีอะไร หมอว่าจะให้เรากลับบ้านหรือจะพักต่อ แต่ด้วยฤทธิ์ยา เราคงลุกไม่ไหวแน่ ๆ เพราะง่วงมาก เลยขอนอนต่อ ตอนหลังสงสัยจะมีคนป่วยเข้ามาเยอะ เลยย้ายเรามาอยู่ห้องข้างนอก มองเห็นสามีกับลูกรออยู่ เลยให้เข้ามาทักทายกันหน่อย แล้วก็ให้ติดต่อขอกลับบ้าน ได้ยาขยายหลอดเลือดให้เลือดไปเลี้ยงสมองมาชุดนึง ระหว่างรอสามีไปซื้อยาทิ้งมาร์วี่ไว้กับแม่ มาร์วี่อยู่ในท่าเหมาะ นอนกินนมซะเลย อิอิ

จริง ๆ เราเคยเป็นแบบนี้มาก่อน มีอาการครั้งแรก 7-8 ปีก่อน กลางสถานีรถไฟใต้ดินในนิวยอร์คเชียว แทบตาย ทรงตัวไม่อยู่ อาเจียน เป็นแบบนี้มา 4-5 ครั้ง แต่นานแล้ว มีช่วงเดือนที่ผ่านมาเนี่ยแหละที่แย่ มีอาการมาเรื่อย ๆ แต่ไม่รุนแรงเหมือนวันจันทร์ที่เขียนไปแล้ว เมื่อก่อนหน้านี้สักปีกว่าสองปี ก็มีอาการนิดหน่อย ให้เขามานวดกดจุดก็หาย แต่เมื่อวันอาทิตย์ให้เขามานวด เส้นเครียดที่คอนี่ตึงเชียว แต่ดูเหมือนนวดคราวนี้ไม่ได้ช่วยอะไรมาก อาจจะต้องนวดอีก การนวด เพื่อให้เลือดลมเดินดี เผื่อจะไปเลี้ยงสมองได้ดี

เคยไปหาหมอจีน เขาว่าอาจจะเป็นเพราะเลือดน้อย ให้เราไปซื้อยามากิน แล้วไปหาเขาอีก ก็ยังไม่ได้ไปซะที ให้ยาประเภทบำรุงหัวใจ และให้กินกุยช่ายกับเห็ดหูหนูดำ ก็ไม่ได้กินสักเท่าไหร่ กุยช่ายนอกจากกินเป็นขนมกุยช่ายก็ไม่รู้จะทำอะไรกินดี ส่วนเห็ดไม่อยากกินเพราะเคยมีปัญหาเป็นเชื้อราเลยไม่อยากไปกระตุ้นมันสักเท่าไหร่

มีคนบอกว่า อาจจะเป็นเพราะเลือดน้อย เราก็งั้นแหละ ต้องบำรุงเลือดซะหน่อย

วันนี้หมอก็ว่าต้องพักผ่อนเยอะ และไม่กินกาแฟ เออเนอะ ก่อนหน้าจะไปงานวันนี้เราดันกินไอติมกาแฟไป จะเกี่ยวกันไหมเนี่ย เรางงว่าทำไมกินกาแฟไม่ดีตรงไหน เขาว่ากาแฟไปกระตุ้นให้หัวใจทำงานสูบฉีดเยอะขึ้น แต่ดันไปบีบหลอดเลือดซะงั้น สรุปว่าเลยไม่ควรจะกิน เพราะเราเลือดน้อยอยู่แล้ว

ตอนนี้เลยขาดความมั่นใจหน่อย ๆ ว่าจะออกไปไหนได้ไหมหนอ เกิดออกไปอีกแล้วไม่มีใคร แล้วเกิดแบบนี้จะทำยังไงดี วันนี้กับการเวียนหัวรอบที่แล้วยังดีที่ไม่ได้เอาลูกไปด้วย




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550
1 comments
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 22:21:08 น.
Counter : 730 Pageviews.

 

อ่านแล้วเสียความรู้สึกกะเจ้าหน้าที่เล็ก ๆ นะคะ

ก็คนป่วยอยู่นินา บังคับอยู่ได้ น่าร้องเรียน (เฮ้ย..ไปกันใหญ่)

เวลาไปไหนระวังตัวไว้ด้วยนะคะ เพราะว่าไม่รู้ว่ามันจะเกิดเป็นช่วงไหน เป็นห่วงค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan ) 1 กุมภาพันธ์ 2550 22:46:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pinkyjung
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add pinkyjung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.