ตุลาคม 2556

 
 
2
3
5
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
30
31
 
 
ดูวิวสวยที่บนดอยเวา@ แม่สาย

 

 

เมืองที่เห็นคือท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า

รัฐชาน หรือ รัฐฉาน (พม่า ช๊าน ปหฺยี่แหน่; ไทใหญ่เมิ้งไต๊) บ้างเรียก รัฐไทใหญ่ เป็นรัฐหนึ่งในประเทศพม่า

ไทใหญ่เกิดขึ้น 96 ปี ก่อนคริสต์ศักราช พ.ศ. 448 คำว่าฉาน เพี้ยนมาจากคำว่า สยาม เนื่องจากการออกเสียงของคนพม่า

ลักษณะภูมิประเทศของรัฐฉานเต็มไปด้วยภูเขาสูงและผืนป่า รัฐฉานจึงเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สินค้าส่งออกที่สำคัญของรัฐฉานจึงเป็นจำพวกแร่ธาตุและไม้ชนิดต่างๆ

ปัจจุบันรัฐฉานเป็นส่วนหนึ่งของประเทศพม่า มีชายแดนติดกับประเทศไทยด้านตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ

รัฐฉาน ในอดีตกาลมีชื่อเรียกว่า “ไต” หรือที่เรียกกันว่า "เมิงไต" ในสำเนียงไต หรือ "เมืองไต" ในสำเนียงไทย

มีประชากรหลายชนชาติและอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยมีชนชาติไทยใหญ่อาศัยอยู่มากที่สุด เมืองไตเคยมีเอกราชในการปกครองตนเองมาเป็นเวลาหลายพันปี

ก่อนที่อังกฤษจะขยายอิทธิพลเข้ามาถึง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมืองไตกับพม่าในอดีตนั้นจัดเป็นอิสระต่อกัน หรือกล่าวได้ว่าเป็นคนละอาณาจักรกัน

-เหมือนดั่งอาณาจักรอยุธยากับอาณาจักรเขมร

อาณาเขตของเมืองไตประกอบด้วยเมืองรวมทั้งหมด 33 เมืองแต่ละเมือง ปกครองด้วยระบบเจ้าฟ้าสืบต่อเนื่องกันมาตั้งแต่อดีต และถึงแม้จะมีเจ้าฟ้าปกครองหลายเมือง

 แต่ทุกเมืองก็รวมกันเป็นแผ่นดินชนชาติไต เนื่องมาจากที่ตั้งของเมืองไตอยู่ใกล้กับประเทศพม่า

เมืองไตกับประเทศพม่ามีการติดต่อค้าขายช่วยเหลือ และให้ความเคารพซึ่งกันและกันมาโดยตลอด เห็นได้จากในช่วงที่เจ้าฟ้าเมืองไตปกครองประเทศพม่าประมาณเกือบ 300 ปี

ไม่เคยมีการสู้รบกันเกิดขึ้น และยังมีการติดต่อค้าขายยังดำเนินไปอย่างสันติสุขเช่นกัน จนกระทั่งมาถึงสมัยบุเรงนอง

ได้มีการสู้รบกันกับเจ้าฟ้าเมืองไตกับกษัตริย์พม่าเกิดขึ้น โดยฝ่ายเจ้าฟ้าเมืองไตเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงทำให้ราชวงศ์เจ้าฟ้าบางเมือง ต้องจบสิ้นไปดังเช่นราชวงศ์เจ้าฟ้าเมืองนาย

ซึ่งเป็นราชวงศ์ของกษัตริย์มังราย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายราชวงศ์ที่ต้องสูญสิ้น ไปเพราะการสู้รบกับบุเรงนอง

  • พ.ศ. 2305 ในสมัยพระเจ้าอลองพญา รัฐฉานตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า ได้จากกรุงศรีอยุธยา กษัตริย์พม่าได้ทำการปราบปรามราชวงศ์
  • เจ้าฟ้าไทใหญ่จนหมดสิ้นไปเป็นจำนวนมาก อาจกล่าวได้ว่าไตได้เป็นเมืองขึ้นของพม่าไปแล้ว และในช่วงเวลานี้ทหารพม่าได้เริ่มการกดขี่ข่มเหงทำร้ายคนไต ทำให้คนไตรู้สึกเกลียดชังคนพม่านับตั้งแต่นั้น
  • 1 มกราคม พ.ศ. 2428 อังกฤษได้ทำการจับกุมและยึดอำนาจกษัตริย์พม่า และขยายอาณาเขตไปยังเมืองเชียงตุงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองไต
  • พ.ศ. 2433 ได้ประกาศว่า"อังกฤษได้ยึดเอาเมืองไตเรียบร้อยแล้ว"

    เนื่องจากประเทศพม่าซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มและเมืองไต ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาไม่ใช่ประเทศเดียวกัน อังกฤษจึงไม่ได้ทำการเข้ายึดพร้อมกันและถึงแม้อังกฤษ

     จะยึดทั้งสองเมืองเป็นเมืองขึ้นของต้นแต่อังกฤษก็ไม่ได้ปกครองทั้งสองเมืองในลักษณะเดียวกัน หากแบ่งการปกครองออกเป็นสองลักษณะ

     คือประเทศพม่าเป็นเมืองใต้อาณานิคม ส่วนเมืองไตเป็นเมืองใต้การอารักขา

    และอังกฤษยัง ได้ทำการจับกุมกษัตริย์พม่าและกำจัดราชวงศ์ทั้งหมดของกษัตริย์พม่า ส่วนเมืองไตอังกฤษไม่ได้ทำลายราชวงศ์เจ้าฟ้า

     อีกทั้งยังสนับสนุนให้เจ้าฟ้าแต่ละเมือง มีอำนาจปกครองบ้านเมืองของตนเอง และได้สถาปนาให้เมืองทั้งหมดเป็นสหพันธรัฐฉานขึ้นกับอังกฤษ มิได้เป็นส่วนหนึ่งของพม่าแต่อย่างใด

    • 25 มกราคม พ.ศ. 2485 ญี่ปุ่นขอไทยสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ยกกำลังทหารยึดรัฐฉาน เชียงตุง ในประเทศพม่า
    •  จากทหารจีนก๊กมินตั๋ง ของจอมพลเจียงไคเช็ค ญี่ปุ่นได้ส่งมอบให้ไทย ผนวกเป็นสหรัฐไทยเดิม เป็นจังหวัดไทใหญ่
    • 1 มกราคม พ.ศ. 2489 รัฐฉานกลับมาสู่อิสรภาพ ครั้งนี้อังกฤษได้ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของพม่า
    • พ.ศ. 2490 ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางการพม่าพยายามโน้มน้าวเหล่าบรรดาเจ้าฟ้าไต ให้เข้าร่วมเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ
    •  เจ้าฟ้าไตจึงได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาปางโหลง กับชาวพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อขอเอกราชจากอังกฤษ โดยสัญญาดังกล่าวได้นำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญ
    •  ซึ่งระบุให้ชนชาติที่ร่วมลงนามในสัญญา สามารถแยกตัวเป็นอิสระได้หลังจากอยู่ร่วมกันครบสิบปี
    • พ.ศ. 2491 อังกฤษได้ให้เอกราชกับพม่าและไต รัฐบาลกลางพม่าไม่ยอมทำตามสัญญา และพยายามการรวมดินแดนให้เป็นของประเทศพม่า
    • เหตุนี้จึงทำให้ชาวไตหรือไทยใหญ่ จึงก่อตั้งกองกำลังกู้ชาติของตนเองขึ้น

    ทางรัฐบาลทหารพม่าได้ใช้ระบอบเผด็จการทหารกับชาวไต อีกทั้งยังได้ทำลายพระราชวังของไทยใหญ่

    ในเมืองเชียงตุงและอีกหลายเมือง และเข้ามาจัดการศึกษาเกี่ยวกับพม่าให้แก่เด็กในพื้นที่ รัฐบาลทหารพม่าได้บังคับให้ประชาชนกว่า 3 แสนคนย้ายที่อยู่

     ประชาชนมักถูกเกณฑ์ไปบังคับใช้แรงงาน ทั้งโครงการก่อสร้างและเป็นลูกหาบอาวุธให้ทหาร ทำให้มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากหนีเข้ามายังประเทศไทย

    ปัจจุบันสถานการณ์ภายในรัฐฉานก็ยังไม่มีเสถียรภาพทางความมั่นคงเท่าใดนัก และก็ยังมีกองกำลังกู้ชาติของตนเองอยู่

    หากในช่วงที่ไม่มีการปะทะกับฝ่ายรัฐบาลทหารพม่า รัฐฉานก็จะมีความเงียบสงบซึ่ง เป็นพื้นฐานความต้องการที่แท้จริงของ ชาวไตหรือไทใหญ่

     และพวกเขายังหวังลึกๆว่าสักวันหนึ่งรัฐฉานจะได้เป็นเอกราชของตนเอง ไม่ขึ้นกับทางพม่าอีกต่อไป

    • พ.ศ. 2552 ได้มีการจัดตั้งสภารัฐฉาน

     

     

    อำเภอแม่สาย (คำเมือง: Lanna-Mae Sai.png; พม่า: Burmese-Mae Sai.png) เป็นอำเภอเหนือสุดของจังหวัดเชียงรายและเหนือสุดของประเทศไทย

    ตั้งที่ว่าการที่ตำบลเวียงพางคำ ทิศเหนือจดแม่น้ำสายซึ่งกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ทิศตะวันออกติดต่อกับอำเภอเชียงแสนจังหวัดเชียงราย ทิศใต้ติดต่อกับอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

     ทิศตะวันตกติดต่อกับอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย และประเทศพม่า โดยมีด่านชายแดนไทย-พม่าเรียกว่า "ด่านแม่สาย"

     สามารถผ่านด่านข้ามไปยังจังหวัดท่าขี้เหล็กของพม่าได้โดยมีแม่น้ำสายเป็นพรมแดนทางธรรมชาติ การคมนาคมจากอำเภอเมืองเชียงรายไปอำเภอแม่สายโดยทางหลวงหมายเลข 1

    (พหลโยธิน ตอนเชียงราย-แม่สาย) ระยะทาง 63 กิโลเมตร

    อำเภอแม่สาย แรกตั้งเป็นกิ่งอำเภอแยกจากอำเภอแม่จันเมื่อ พ.ศ. 2481 ยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2493

    และเปิดที่ว่าการอำเภอหลังแรกเมื่อวันที่ 14 มกราคมของปีถัดมา มีตำบลแปดตำบลและหมู่บ้านเก้าสิบสองหมู่บ้าน ขึ้นตรงต่อจังหวัดเชียงราย

    พระธาตุดอยเวา

     

     

    แวะชมสามเหลี่ยมทองคำ

     

     แม้นขณะนี้ ชายไทใหญ่ก็ยังเคลื่อนไหวเพื่อจะต่อสู้  ออกจากอ้อมอกของพม่า

  • สังเกตบางคนจะบอกว่าฉันไม่ใช่คนพม่า

  • ฉันคือไทใหญ่ มาจาก รัฐฉาน




  • Create Date : 11 ตุลาคม 2556
    Last Update : 12 ตุลาคม 2556 9:30:19 น.
    Counter : 1607 Pageviews.

    30 comments
      
    ถ้าผมเอาเนื้อหาในบล็อกพี่ไหมไปถามมาดาม
    เธอต้องตอบไม่ได้แน่ๆครับ 555
    ทั้งๆที่เธอเป็นคนแม่สายนี่ล่ะครับ 555

    ประวัติน่าสนใจจังเลยครับพี่
    ช่วงนี้ผมก็อ่านประวัติศาสตร์กับหมิงหิมง
    สนุกดีครับ
    ได้รู้ประวัติศาสตร์ไทยกับพม่าในหลายๆช่วงเวลาเลย

    โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:12:18:29 น.
      
    สวัสดีค่ะคุณไหม มาตอนอัพบล็อกใหม่ ๆ รอบหนึ่งแล้วแต่เข้าไม่ได้ค่ะ
    วันนี้ตามมาชิมวิว ไหว้พระด้วยคนค่ะคุณไหม
    แถมยังได้รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ด้วย
    ปล.คิดถึงทริปมอไซด์ลุย ๆ ด้วยนะคะ

    โดย: เนินน้ำ วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:12:38:51 น.
      
    ปกติผมไม่สนใจประวัติศาสตร์เลย
    นอกจากประวัติศาสตร์จีน
    ตอนนี้ต้องมาอ่านประวัติศาสตร์ไทยกับพม่ากับหมิงหมิงครับ 5555


    โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:13:32:24 น.
      
    สามเหลี่ยมทองคำ ตอนที่พี่ไป ยังไม่มีแบบนี้เลยค่ะ

    ภาพช่วงแรกสวยมากค่ะคุณไหม ถึงฟ้าจะมืดครึ้มไปนิด...

    ไลค์ 1 ค่ะ

    ขนมพี่ ดูไม่ได้เลยคุณไหม อายเค้าซะที่ไหนคะ ลงไปโลด เนาะ
    โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:14:08:16 น.
      
    ภาพองค์พระพุทธรูปๆสุดท้ายที่คุณไหมถ่ายสวยจนเหมือนมีมรกตผสมอยู่ในเนื้อหล่อเลยค่ะ
    โดย: ร้อยคืนหมื่นวัน วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:15:58:08 น.
      
    นึกแล้วต้องพระธาตุดอยเวา
    โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:16:02:56 น.
      
    ช่วงค่ำๆวิวจากแสงไฟสวยค่ะ
    โดย: maistyle วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:18:15:23 น.
      
    สวัสดียามเช้าครับพี่ไหม


    โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:7:11:10 น.
      
    โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:10:39:26 น.
      
    หวัดดีครับ (หลังจากหายหน้าไปนาน 555)

    ฟ้าสวย บรรยากาศงามมากครับ
    โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:13:01:02 น.
      
    อยากไปจังเลยค่ะ
    นานแล้วนะไม่ได้ไป
    คิดว่าไม่นานคงได้เยือนเนอะ

    อากาศกับเมฆแบบนี้
    น่าจะอากาศดีมากๆ

    ปล...ดูเจริญมากขึ้นเยอะเลยค่ะ

    โดย: Pikake วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:13:39:09 น.
      
    สวัสดียามบ่ายค่ะคุณไหม
    โดย: ร้อยคืนหมื่นวัน วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:13:49:25 น.
      
    ชอบจริงจัง
    ภูเขาเยอะดีแท้เหลา
    โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:18:03:20 น.
      
    แวะมาราตรีสวัสดิ์ครับพี่ไหม ช่วงนี้งานยุ่งจริงๆไม่ค่อยได้แวะมาทักทายต้องขอโทษด้วยครับ
    ชอบBlogนี้จริงๆเลยครับ เป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากเลย
    ปล.Blogนี้เห็นพี่ไหม เปลี่ยนแนวเป็นเที่ยวสบายๆ แปลกไปอีกอย่างนะครับ
    โหวตให้ครับ
    โดย: หมอหว่อง วันที่: 13 ตุลาคม 2556 เวลา:0:20:48 น.
      
    สวัสดีค่า พี่ไหม ^^
    ทริปนี้ดูสนุกสนาน ไม่เหงานะคะ
    ภาพก็สวยมากๆ คมชัดแปลกตาเลยค่ะ

    ขอบคุณสำหรับข้อมูล และภาพสวยๆค่า

    โดย: lovereason วันที่: 13 ตุลาคม 2556 เวลา:0:43:35 น.
      
    สวัสดียามเช้าครับพี่ไหม


    โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2556 เวลา:6:46:48 น.
      
    งามมากค่ะคุณไหม ช่วงนี้เที่ยวบ่อยนะจ้ะ เมืองสวยมากจ้ะ ดูสุดลูกหูลูกตาดีจัง
    โดย: apologise วันที่: 14 ตุลาคม 2556 เวลา:1:02:22 น.
      
    thx u crab
    โดย: Kavanich96 วันที่: 14 ตุลาคม 2556 เวลา:4:50:08 น.
      
    มาส่งกำลังใจในวันจันทร์ค่ะ

    โดย: Pikake วันที่: 14 ตุลาคม 2556 เวลา:8:50:21 น.
      
    อลาโภ ธมฺมิโก เสยฺโย ยญฺเจ ลาโภ อธมฺมิโก

    ถึงไม่ได้ แต่ชอบธรรม ยังดีกว่าได้โดยไม่ชอบธรรม

    มีความสุขในการดำรงชีวิตอย่างมีสติรู้ตลอดเวลา...นะคะ



    (ขอบคุณภาพสวยจากสายหมอกและก้อนเมฆ)

    อ่านแล้วได้รับความรู้มากมาย
    ไลค์และโหวตให้เลยค่ะ

    โดย: พรหมญาณี วันที่: 14 ตุลาคม 2556 เวลา:9:50:58 น.
      
    ดูภาพแล้ว ข้างบนเป็นภาพที่ พม่าเหรอครับ
    สวยดีเหมือนกัน..

    กำลังหา เสียงพูดของพม่า เทียบเคียงกับภาษา
    ไทยเหมือนกัน สนใจครับ เพราะตอนเด็กอยู่
    ใกล้ชิด ชายแดน... จำญาติ พูดกันได้เป็น
    บางคำครับ
    โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 ตุลาคม 2556 เวลา:17:24:13 น.
      

    Like ให้เป็นคนที่ 4
    วิวสวย ภาพงดงามทุกภาพเลยค่ะ
    โดย: อุ้มสี วันที่: 15 ตุลาคม 2556 เวลา:22:05:45 น.
      
    เห็นแล้วอยากไปดอยเวาจัง บรรยากาศดูสวยดีคร่า
    โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 16 ตุลาคม 2556 เวลา:2:16:06 น.
      
    สวัสดี วันที่น้องนารีมาเยือนเมืองไทย..ค่ะ

    ฝนฟ้าตกชุ่มฉ่ำ ชุ่มโชก กันถ้วนหน้า
    เดินทางไปไหนมาไหน ตั้งสติก่อนสตาร์ท

    ขอให้มีความสุขกับวันฝนโปรยกันทุกท่าน...นะคะ



    โดย: พรหมญาณี วันที่: 16 ตุลาคม 2556 เวลา:14:51:38 น.
      
    สวัสดียามเช้าครับพี่ไหม


    โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ตุลาคม 2556 เวลา:6:08:27 น.
      
    แวะมาทักทายพร้อมสายฝนเลยครับพี่


    โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ตุลาคม 2556 เวลา:12:37:22 น.
      
    ชอบจัง เมืองในภูเขาแบบนี้
    โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 17 ตุลาคม 2556 เวลา:14:01:05 น.
      
    สวัสดีวันฝนพรำนะค่ะ

    มีความสุขมากๆ
    อากาศดีแล้ว ชื่นใจกัน

    โดย: Pikake วันที่: 17 ตุลาคม 2556 เวลา:14:50:58 น.
      
    สวัสดีวันฝนพรำค่ะคุณไหม
    จริง ๆ ผัดโหงวก๊วยรังเผือกก็หมดไปนานแล้วล่ะค่ะ
    พอดียังไม่ได้อัพบล็อกใหม่ค่ะ
    วันนี้ไปธุระข้างนอนแต่เช้าเพิ่งกลับเข้าบ้านจ้า..
    โดย: เนินน้ำ วันที่: 17 ตุลาคม 2556 เวลา:15:32:36 น.
      
    สวัสดียามเช้าครับพี่ไหม


    โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ตุลาคม 2556 เวลา:6:43:56 น.
    ชื่อ :
    Comment :
     *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
     

    maistyle
    Location :
    เชียงราย  Thailand

    [ดู Profile ทั้งหมด]
     ฝากข้อความหลังไมค์
     Rss Feed
     Smember
     ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




    Destiny is not a matter of chance.
    It is a matter of choice.
    It is not a thing to be waiting for.
    It is thing to be achieved.





    ซื้อ-ขายที่ดินเชียงของ
    Chiang Khong Real Estate

    คลิกที่ลิ๊งค์ด้านล่าง


    www.baansakuna.com





    Don't try to understand everything.
    Sometimes it is not meant to be understood, just acceped.

    อย่าพยายามทำความเข้าใจกับทุกอย่างในชีวิต
    เพราะบางอย่างก็ไม่ได้เกิดขึ้นให้เราทำความเข้าใจ
    แต่ให้เรายอมรับมันเท่านั้น