เพื่อนนั้นสำคัญไฉน
คุณว่า เพื่อน นั้น สำคัญมั้ย
เหตุที่ตั้งคำถามนี้ขึ้นมา เพราะเพื่อนมีบทบาทในชีวิตของคนเรามากทีเดียว บางคนยอมตายแทนเพื่อน บ้างก็ให้กำลังใจและให้ยืมเงินเมื่อธุรกิจล้ม เป็นคนที่ฟังเราคร่ำครวญยามอกหัก กอดคอไปไหนไปกัน เที่ยวด้วยกันได้ทุกที่ หรืออาจเป็นคนที่ช่วยเถียงแทนเรา แบ่งขนมให้เรากินในวันที่ลืมขอเงินจากแม่ก็เป็นได้ และอีกหลายสิ่งที่คุณได้จากเพื่อน ซึ่งจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับวัยและสภาพแวดล้อม
เพื่อนแต่ละวัย
เมื่อยังเด็ก เพื่อนมีประโยชน์หลักคือ เอาไว้เล่นด้วย
พอเข้าวัยรุ่น เพื่อนเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น จนอาจสำคัญกว่าคนในครอบครัว เพราะการมีเพื่อนหมายถึงว่าเรามีคนยอมรับ ซึ่งแปลได้ต่อว่าเราดีพอ การได้อยู่กลุ่มเพื่อนคนดังจะทำให้วัยรุ่นรู้สึก ยืด เหมือนผู้ใหญ่ที่ขับรถหรูหรือถือกระเป๋าแบรนด์เนม แต่แม้จะไม่ได้อยู่กลุ่มคนดัง การมีกลุ่มเพื่อนก็ยังทำให้รู้สึกมีพรรคพวกที่ชอบสิ่งเดียวกัน ทำอะไรสนุก ๆ แผลง ๆ ด้วยกันได้ เข้าใจเราอย่างที่คนอื่นโดยเฉพาะผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ นอกจากนี้ครูมักให้ทำรายงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่มอยู่เสมอ ฉะนั้นคนในวัยนี้จะรู้สึกกดดันมาก หากไม่มีเพื่อน มิหนำซ้ำวัยรุ่นบางคนไม่สามารถทำอะไรตามลำพังได้ ต้องมีเพื่อนไปด้วยตลอด เช่น กินข้าว เข้าห้องน้ำ จนบางคนถึงขั้นยอมตามเพื่อนทุกอย่างหรือให้เพื่อนเอาเปรียบเพราะกลัวถูกทิ้งก็มี แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป รูปแบบการคบเพื่อนอาจเปลี่ยน แต่การให้ความสำคัญกับเพื่อนอย่างมากของวัยรุ่นยังคงอยู่ ซึ่งผู้ปกครองควรเข้าใจ ไม่ตำหนิว่าไร้สาระ แต่ควรหาโอกาสบอกพวกเขาอย่างสม่ำเสมอว่าการมีเพื่อนเป็นสิ่งที่ดี แต่การขาดเพื่อนในบางช่วงก็เป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้ และไม่ได้หมายความว่าเราไม่ดีพอ ที่สำคัญคือบางครั้งเราต้องกล้าปฏิเสธและหาเพื่อนใหม่ ถ้าเพื่อนที่มีอยู่กำลังชักนำเราไปในทางที่ผิด
ในวัยผู้ใหญ่ เราควรจะเลิกยึดติดเพื่อนเหมือนสมัยวัยรุ่น รวมทั้งต้องเปลี่ยนความคาดหวังต่อเพื่อนด้วย เพราะเพื่อนที่เคยไปไหนไปกันได้ทุกเวลา อาจมีภาระการงานหรือครอบครัวมาทำให้ไม่สามารถไปได้ คนที่เคยฟังเราคร่ำครวญเป็นวันอาจต้องตัดบทในครึ่งชั่วโมง กลุ่มก๊วนที่เคยเหนียวแน่นก็มักต้องสลายลง แม้ฟังดูจะน่าเศร้าเสียดาย แต่จริง ๆ แล้วก็เป็นเพียงกระบวนการธรรมชาติที่ทุกสิ่งย่อมต้องเปลี่ยนแปลง และถ้าเราสามารถปรับตัวตามได้ก็จะมีความสุข เพราะธรรมชาติของวัยผู้ใหญ่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีงานที่มั่นคง สามารถดูแลตัวเองและครอบครัว ซึ่งรวมตั้งแต่คู่สมรส ลูก จนถึงพ่อแม่ที่เริ่มชราลงได้
แม้ว่าในวัยผู้ใหญ่ เพื่อนจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอันดับแรก แต่เพื่อนก็ยังมีความสำคัญในวัยนี้ เพื่อนอาจช่วยเปิดมุมมองใหม่ ให้แง่คิดที่แตกต่าง คำแนะนำในเรื่องงานหรือครอบครัว รวมถึงเป็นตัวเชื่อมไปถึงโอกาสในงานและธุรกิจ นอกเหนือไปจากเดิมที่ร่วมเฮฮา กิน เที่ยว แม้ว่าเราอาจโทรศัพท์คุยกันเพียงเดือนละครั้งจากที่เคยวันละ2ครั้งสมัยวัยรุ่น หรือพบกันเพียงปีละ2-3ครั้ง แต่คุณค่าของมิตรภาพไม่ได้วัดเพียงแค่ปริมาณ คุณภาพต่างหากที่สำคัญกว่า
ประเภทของเพื่อน
เราอาจอยากได้เพื่อนที่มาหาเราทุกครั้งที่เรียกหาอย่างที่เห็นในละครโทรทัศน์ หรือเพื่อนตายอย่างที่เห็นในนิยายกำลังภายใน แต่ในชีวิตจริงคงเป็นไปได้ยาก แล้วถ้าได้เพื่อนกินล่ะไม่แย่หรือ ความจริงแล้วเพื่อนกินไม่ได้แย่เสมอไป เพราะบางครั้งเราก็อาจต้องการมีใครมากินกับเราในยามเหงา หรืออยากได้เพื่อนกินมาร่วมเฮฮาในวันที่เรามีความสุข อย่างไรก็ตามหากคุณคบใครเป็นเพื่อน ลองดูนะคะว่าเพื่อนคุณเข้าข่ายแบบไหน
1.เพื่อนที่ทำเรามีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งมีทั้งเพื่อนที่ร่วมสุข สนุกสนานเฮฮาผ่อนคลายด้วยกัน และเพื่อนที่ร่วมทุกข์ รับฟัง ให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือยามเรามีปัญหา อาจบ่นหรือดุว่ายามเราทำอะไรโง่ ๆ รวมถึงเพื่อนที่มาขอความช่วยเหลือจากเรา ก็สามารถจัดอยู่ในกลุ่มนี้ถ้าไม่มากจนทำให้เราเดือดร้อน เพราะการที่เรามีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นกำลังใจ คำแนะนำ หรือทรัพย์สิน ทำให้เราภูมิใจในตัวเอง ซึ่งทั้งหมดนี้อาจอยู่ในเพื่อนคนเดียวหรือหลาย ๆ คนก็ได้ แต่โดยทั่วไปเพื่อนคนเดียวอาจไม่สามารถเป็นได้ทุกอย่าง
2.เพื่อนที่ทำเรามีชีวิตที่แย่ลง เช่นเดียวกับเพื่อนกลุ่มแรก ในกลุ่มนี้มีทั้งเพื่อนที่ร่วมสนุกสนาน แต่ต่างกันตรงที่เพื่อนกลุ่มนี้จะทำให้เราสนุกโดยเสียสุขภาพ เงินทอง อิสรภาพ หรือแม้กระทั่งชีวิต เช่น ชักชวนเล่นการพนัน ใช้สารเสพติด ซิ่งรถ หรือทำร้ายผู้อื่น และเพื่อนกลุ่มนี้ก็ยังมีเพื่อนที่ร่วมทุกข์ในทางที่ผิด เช่น ชวนกินเหล้า ชกต่อย วิวาท สาดน้ำกรดเพื่อแก้แค้นหรือทวง ศักดิ์ศรี นอกจากนี้พวกที่หลอกลวง ข่มขู่ เอาเปรียบหรือใช้ประโยชน์จากเราก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
เราจึงควรทบทวนว่าเพื่อนที่เรามีอยู่จัดอยู่ในกลุ่มไหน เพราะแม้การมีเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าต้องมีเพื่อนที่ทำเรามีชีวิตที่แย่ลง การไม่มีน่าจะดีกว่า และการสลัดเพื่อนที่แย่ ๆ ออกไปก็เป็นการเปิดโอกาสให้คนดี ๆ ได้เข้ามาคบกับเรา เพื่อนที่ดีควรจะเป็นได้ทั้งผู้ให้และผู้รับ ผู้นำและผู้ตาม นอกจากนี้อย่าลืมที่จะทบทวนดูด้วยว่า เราเองเป็นเพื่อนแบบไหน อย่าหลงลืมนึกว่าเพื่อนเป็นแม่ ลูก ธนาคาร จิตแพทย์ เจ้านาย หรือทาสเรา
สุดท้ายอย่าลืมว่าตัวเราเองก็นับเป็นเพื่อนที่เก่าแก่และใช้เวลาอยู่กับเราได้มากที่สุด ฉะนั้นจริง ๆ แล้วไม่มีเวลาไหนหรอกที่เราไม่มีเพื่อนเลย เพราะตัวเรายังคงเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ และพร้อมจะตามใจเราทุกอย่างอยู่เสมอ
"ฉะนั้นจึงควรใส่ใจดูแลสุขภาพกายและใจของเพื่อนคนนี้ด้วยนะคะ"
ขอบคุณข้อมูลจากผศ.พญ.สุทธิพร เจนณณวาสิน จิตแพทย์ Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
Create Date : 22 ธันวาคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 8:39:49 น. |
Counter : 586 Pageviews. |
|
|
|