สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
การสักยันต์

การสักยันต์เป็นกรรมวิธีกำกับสติของคนไทยมาแต่โบราณ แต่ร่วงโรยเสื่อมความนิยมและใกล้จะดับสูญไปตามสมัยนิยม คนไทยแต่โบราณนั้นนับถือพระพุทธศาสนา แต่ส่วนใหญ่กลับไม่รู้หนังสือ บางคนก็ความจำไม่ดี และเชื่อว่าพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ จะคุ้มครองป้องกันตนให้พ้นจากอันตรายทั้งปวงได้


ดังนั้นจึงแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการสักยันต์ไว้กับตัว วัตถุประสงค์ที่แท้จริงก็คือเพื่อให้มีสติรู้ว่ามีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ อยู่กับตัว หากจะเป็นตายร้ายดีประการใดก็ยังอุ่นใจว่ายังอยู่กับพระ แม้หากจะถึงตายก็ย่อมตายดี





ดังนั้นบรรดาทหารที่จะออกไปทำศึกสงครามจึงรักที่จะสักยันต์ไว้กับตัว เพราะในยามสู้รบกระทำศึกต่อกันนั้นความมุ่งมั่นก็จะอยู่ที่การสู้รบ ไม่อาจรำลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัยได้ จะได้ทำการสู้รบโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง และการสักยันต์ในสมัยโบราณก็ต้องกระทำโดยผู้ที่รู้หนังสือเป็นอย่างดี ซึ่งยุคนั้นภาษาไทยยังใช้ภาษาเขียนแบบภาษาขอม และผู้ที่รู้หนังสือเช่นนี้ก็คือพระสงฆ์ โดยเฉพาะสมภารเจ้าวัดต่าง ๆ


และเป็นธรรมดาของพระที่มีความเมตตาอาทรต่อพุทธศาสนิกชน ดังนั้นแม้วัตถุประสงค์แท้คือความต้องการให้มีพระรัตนตรัยติดอยู่กับตัว แต่พอสักยันต์เข้าจริงก็มักจะมีการตั้งจิตให้มั่นคง เพ่งเอาความปลอดภัยให้บังเกิด เพราะเหตุที่พระสงฆ์ในยุคนั้นมีความบริสุทธิ์ในศีล มีกำลังของสมาธิที่แก่กล้า มีจิตที่มั่นคง จึงมีพลังที่สามารถแผ่ไปปกป้องคุ้มครองผู้อื่นด้วยอำนาจแห่งพระรัตนตรัยได้ ดังนั้นจำนวนมากของการสักยันต์จึงไม่เพียงแต่เป็นแค่ให้รำลึกถึงคุณพระรัตนตรับ หากได้แฝงฝังความขลังของกำลังจิตไว้ในการสักยันต์นั้นด้วย จึงมีอานิสงส์เป็นอย่างเดียวกันกับอานิสงส์ของพระปริตร คือ ปกป้องคุ้มครองป้องกันและกำจัดสรรพอุบาทว์และสรรพภัยทั้งหลายได้มากบ้างน้อยบ้างตามควรแก่กรณี


ผู้ที่เห็นและได้รับอานิสงส์เช่นนั้นก็จะกล่าวเล่าขานกันออกไป จนในที่สุดก็เลื่องชื่อลือชาว่าการสักยันต์นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ มีผลทางเมตตามหานิยมหรืออยู่ยงคงกระพันหรือแคล้วคลาด จึงทำให้การสักยันต์ยิ่งแพร่หลายขยายตัวออกไป ทั้งผู้คนที่อยู่ในฝ่ายราชการและชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เมื่อความนิยมมีมากขึ้นการขวนขวายหาพระหรืออาจารย์เก่ง ๆ ก็ยิ่งกว้างขวางออกไป เรื่องการสักยันต์ก็ยิ่งโด่งดังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นไปอีก


การสักยันต์ในสมัยก่อนนั้นจะมีส่วนประกอบ 4 ส่วน คือ พระหรืออาจารย์ที่ทรงวิทยาคม ส่วนหนึ่ง หมึกซึ่งใช้ในการสักยันต์ อย่างหนึ่ง ซึ่งส่วนนี้ไม่ใช้หมึกดังที่ใช้กันในปัจจุบัน แต่จะใช้ดีปลาช่อนแล้วฝนด้วยว่านนาคราชหรือว่านสบู่เลือด และหินอาถรรพ์หรือข้าวเม่าอาถรรพ์จำพวกหนึ่ง ซึ่งจำพวกนี้จะมีผลในทางอยู่ยงคงกระพันหรือแคล้วคลาด หรืออีกจำพวกหนึ่งจะใช้น้ำมันมนต์แทนหมึกสักอย่างเดียว หรือใช้น้ำมันอาถรรพ์ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปลาพะยูน น้ำมันเสือ น้ำมันช้าง หรือน้ำมันจันทน์ซึ่งจะมีผลในทางเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์อีกจำพวกหนึ่ง นั่นเป็นสองส่วนสำคัญแล้ว ส่วนที่สามคือ อักขระวิธี ซึ่งเป็นอักษรขอมโบราณสักเป็นบทพระคาถาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ หรือบทอิติปิโสแปดทิศ หรือหัวใจศีล หรือบทคาถาเต่าเลือน เป็นต้น และส่วนที่สี่ก็คือส่วนประกอบจะเป็นรูปภาพ เสือบ้าง พญานาคบ้าง นกคุ่มบ้าง ในส่วนนี้ยังมีส่วนรูปยันต์ไม่ว่าจะเป็นรูปยันต์มหาอุตม์ ยันต์ตรีนิสิงเห ยันต์มะอะอุ ยันต์ธาตุทั้งสี่ เป็นต้น และยังรวมถึงรูปพระภัควัมบดี รูปอุนนาโลม รูปหัวกระดาน รูปท้ายกระดาน เป็นต้น


นั่นเป็นสี่ส่วนสำคัญของการสักยันต์ นอกจากนี้ก็ยังมีบทพระคาถาในการสักตัวอักขระ ในการสักรูปยันต์ หรือในการสักรูปพระ รวมทั้งบทตรึงพระคาถาอาคมทั้งหลาย แต่ทั้งหมดนั้นจะมีอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาได้ก็ด้วยพลังจิต ที่ผู้สักมีภูมิธรรมขั้นสูงในระดับอย่างน้อยทุติยฌาน หรือถ้าจะเลิศก็ต้องอยู่ในระดับจตุตถฌาน และกระทำในอุปจารสมาธิ


ในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องราวของการสักยันต์โดยกรรมวิธีที่ว่านี้ได้แพร่ขยายไปในทุกภาคของประเทศไทย และในหมู่ชายชาติอาชาไนยทั้งปวง แต่หลังเสร็จสงครามแล้วความนิยมก็ออกจะเสื่อมถอยลงไป ยิ่งเมื่อได้รับวัฒนธรรมตะวันตกก็ยิ่งเห็นว่าการสักยันต์เป็นเรื่องของพวกนักเลงหัวไม้ ประกอบทั้งบรรดาผู้มีฝีไม้ลายมือทั้งหลายเมื่อว่างศึกแล้วจำนวนหนึ่งก็ประพฤติตัวเป็นโจรผู้ร้าย ทำให้อาชญากรจำนวนมากมีภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อสาธารณะว่ามีรอยสัก


ดังนั้นพอนานวันเข้าใครเห็นใครมีรอยสักกับตัวก็จะเกิดความรู้สึกว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้วางใจ หนักเข้าก็มองว่าเป็นพวกอาชญากรไปเลย จะไปสมัครทำงานที่ไหนก็ถูกเขารังเกียจ ยิ่งทำให้การสักยันต์ค่อย ๆ เสื่อมสลายสูญหายไป กรรมวิธีและกระบวนการในการสักยันต์ก็ค่อย ๆ สูญหายไป แต่ต่อมาเมื่อเกิดสงครามเวียดนามพวกทหารฝรั่งเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น แล้วเกิดติดอกติดใจในรอยสักและแสวงหาอาจารย์สักยันต์ เมื่อสักแล้วกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนของตนก็เกิดการแตกตื่นฮือฮาเป็นเรื่องแปลกเป็นเรื่องประหลาด แล้วระบาดหนักเข้าไปอีกเพราะบรรดาดาราหรือนักร้องฝรั่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังกระทั่งพวกฮิปปี้ก็พออกพอใจในรอยสักนั้น พากันเข้ามาแสวงหาในประเทศไทย


จึงเกิดธุรกิจใหม่ขึ้นในประเทศไทยคือ การสักยันต์ แต่เพราะเหตุที่กรรมวิธีและกระบวนการสักเลือนหายไปมากแล้ว และเพราะการสักมีความเจ็บ มีความปวดแสบปวดร้อนเป็นอันมาก บางคนก็ทนไม่ได้ จึงทำให้เกิดกรรมวิธีใหม่คือการวาดรูปแทนการสักยันต์


ดังนั้นการสักยันต์ในยุคใหม่จึงมีอยู่สองแบบ คือ แบบที่สักกับตัวแต่ใช้หมึกเป็นพื้น แบบนี้สักกันทั้งเป็นรูปยันต์บ้าง เป็นรูปภาพต่างๆ ตามแต่จะนิยม หรือตามแต่ใจชอบบ้าง ส่วนอีกแบบหนึ่งก็คือการเขียนด้วยหมึกแทนการสัก (หรือเรียกว่า เฮนน่า) แต่เป็นหมึกที่ติดทนนาน อยู่ได้ถึง 15 วัน แบบนี้จะเป็นนักเขียนอาสาสมัครซึ่งบ้างก็เป็นชาวบ้านธรรมดา บ้างก็จบช่างเขียน


การสักยันต์ทั้งสองแบบเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ ดาราฮอลลีวูดคนหนึ่งเกิดติดอกติดใจในรอยสักและเดินทางมาสักยันต์ในประเทศไทย โดยพาพรรคพวกเข้ามาสักยันต์อีกหลายคน


ถ้าหากสักยันต์แล้วมีความรู้สึกสำนึกในบาปบุญคุณโทษ มีความเกรงกลัวและละอายต่อบาปเพราะมียันต์อันประกอบด้วยคุณของพระรัตนตรัยอยู่กับตัวแล้ว คอยกำกับสติตัวเองไม่ให้เผอเรอ ไม่ให้หลงก่อกรรมทำชั่ว ไม่ให้กินสินบาทคาดสินบนเช่นนั้นแล้ว การสักยันต์นั้นก็จะเป็นมงคลแก่ตัว และจะมีความสวัสดีในที่ทั้งปวง


ใครจะตั้งตัวเป็นอาจารย์สักยันต์ก็เหมือนกัน จะเป็นบาปอย่างมหันต์ถ้าหากว่าทำให้คนหลงเชื่อว่าการสักยันต์นั้นจะเป็นเครื่องป้องกันความผิด หรือฮึกเหิมกล้าที่จะทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวบาปและกฎหมาย แต่จะได้รับผลบุญอนันต์ถ้าหากทำให้คนเชื่อได้ว่าเมื่อได้สักยันต์แล้วจะต้องมีสติมั่นคง มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป และมุ่งบำเพ็ญแต่ความดี เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของคนอื่น




ขอบคุณข้อมูลจาก//www.tlcthai.com


Create Date : 10 ธันวาคม 2552
Last Update : 10 ธันวาคม 2552 9:02:29 น. 0 comments
Counter : 2476 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
10 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.