สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
ตำนานแหลมงอบเกาะช้าง




สมัยหนึ่งพระโพธิสัตว์ได้มาสร้างตำหนักเลี้ยงช้างอยู่ที่เกาะช้าง มีช้างพลายเชือกหนึ่งเป็นจ่าโขลง ชื่อว่า อ้ายเพชร และมีสองตายายผู้เลี้ยงชื่อ ตาบ๋าย และยายม่อม วันหนึ่งอ้ายเพชรจ่าโขลงตกมันหนีเตลิด เข้าป่าไปผสมพันธุ์กับนางช้างป่า ตกลูกมา ๓ เชือก เมื่อพระโพธิสัตว์ทราบเรื่องจึงสั่งให้สองตายายไปติดตาม โดยให้ไปคนละทาง อ้ายเพชรหนีไปจนสุดเกาะด้านเหนือจึงว่ายน้ำข้ามทะเลมาขึ้นฝั่งซึ่งเดี๋ยวนี้เรียกว่า บ้าน ธรรมชาติ ส่วนลูกทั้งสามที่ตามมาด้วยว่ายน้ำไม่เป็น จึงจมน้ำตาย กลายเป็นหินสามกองอยู่บริเวณอ่าว คลองสน ชาวบ้านเรียกว่า หินช้างสามลูก ในขณะที่อ้ายเพชรว่ายน้ำไปถึงกลางทะเลลึกก็ได้ถ่ายมูลไว้กลายเป็นหินกองอยู่ตรงนั้นเรียกว่า "หินขี้ช้าง"ปัจจุบันมีกระโจมไฟ (ประภาคาร) บนหินกองนี้ เมื่อขึ้นฝั่งได้แล้ว อ้ายเพชรก็มุ่งหน้าเลียบไปตามชายฝั่งด้านทิศใต้ ตาบ๋ายซึ่งเป็นผู้เลี้ยงเห็นว่าตามไปไม่ทันแล้วจึงเดินทาง กลับ จึงคงปล่อยให้ยายติดตามไปแต่เพียงผู้เดียว ยายม่อมตามไปจนทันช้างขึ้นฝั่งแต่ไม่กล้าเข้าป่ากลัวสัตว์จะทำร้าย ในที่สุดก็ตกลงไปในโคลนถอนตัวไม่ขึ้นถึงแก่ความตาย ร่างกายของแกกลายเป็นหินกองอยู่ตรงนั้น ชาวบ้านจึงเรียกว่า "หินยายม่อม" ส่วนงอบที่แกสวมไว้ได้ลอยไปติดปลายแหลมและกลายเป็นหิน ชาวบ้าน เรียกว่า "แหลมงอบ" ตรงบริเวณที่ตั้งกระโจมไฟในปัจจุบัน ซึ่งเป็นชื่อที่ได้จากงอบของยายม่อมที่ลอยไปติดชายฝั่ง

เมื่อพระโพธิสัตว์ทราบเรื่องจากคนเลี้ยงว่า อ้ายเพชร มุ่งหน้าไปทางทิศใต้
จึงเข้าใจว่า อ้ายเพชรจะต้อง คิดไปที่เกาะอีก จึงเกณฑ์คนให้ทำคอกดักไว้เกือบถึงท้ายเกาะด้านใต้ ชาวบ้านจึงเรียกหมู่บ้านแถบนี้ว่า "บ้านคอก" และเกาะซึ่งเกิดจากลิ่มและสลักที่ทำคอกนั้น เรียกว่า "เกาะลิ่ม" "เกาะสลัก" ส่วนมากเรียกรวมกันว่า "บ้านสลักคอก" ฝ่ายอ้ายเพชรนั้นเมื่อเลียบชายฝั่งมาจนถึงท้ายเกาะก็คิดข้ามไปยังเกาะจริงตามที่คาดไว้ พอว่ายน้ำไปได้หน่อยหนึ่งก็ถ่ายมูลออกมากลายเป็น "หินกอง" มาจนทุกวันนี้ น้ำในบริเวณนั้นลึกมาก แม้มีหินโผล่ขึ้นมาแต่มิได้อยู่ในเส้นทางการเดินเรือ จึงไม่ได้มีการจัดตั้งประภาคารไว้ที่หินเหล่านี้ เมื่ออ้ายเพชรไปถึง แล้วแทนที่จะกลับเข้าคอกกลับเดินเลียบฝั่งอ้อมแหลมเข้าไปทางอ่าวด้านนอก พระโพธิสัตว์สั่งให้คนไปสกัดให้กลับมาเข้าคอก ชาวบ้าน จึงเรียกที่ไปสกัดข้างนี้ว่าไปสลักหน้า และเรียกหมู่บ้านบริเวณนี้ว่า "บ้านสลัก เพชร" ซึ่งหมายถึง สลักหน้าอ้ายเพชร โดยเหตุที่เกิดความยุ่งยากนี้พระโพธิสัตว์จึงฝังอาถรรพ์ไว้ตามเกาะ ต่าง ๆ มิให้ช้างอาศัยอยู่อีกต่อไปนับแต่นั้นมาเกาะต่าง ๆ จึงไม่มีช้างอาศัยจนถึงปัจจุบัน



เป็นเรื่องเล่าต่อกันมา โดยสอดแทรกเนื้อหาสาระ เพื่ออธิบายความเกี่ยวข้องในการดำรงชีวิตของตนเองกับสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างเป็นเหตุเป็นผล โดยสอดแทรกความสนุกสนานให้ผู้ฟังเข้าใจสิ่งที่อยู่ รอบตัวได้ง่าย และชวนให้สนใจอยากหาคำตอบบางประการ เช่น ชื่อเกาะช้าง ทำไมจึงไม่มีช้างอาศัยอยู่เลย



ขอบคุณข้อมูลจาก//tarachai.tripod.com/
03seethaitumnan/east/trad001.htm


Create Date : 07 พฤษภาคม 2553
Last Update : 7 พฤษภาคม 2553 9:01:41 น. 0 comments
Counter : 1116 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.