สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
เรื่องเล่าเกี่ยวกับอัญมณี ตอนจบ

มาถึงตอนจบของเรื่องเล่าเกี่ยวกับอัญมณีแล้วนะค่ะ คงได้รับประโยชน์และ
ความรู้กันบ้างนะค่ะ





มรกต เรื่องเล่าจากศาสนาคริสต์ว่ามีฑูตสวรรค์ชื่อว่า ลูซิเฟอร์ได้ทําตัวเท่าเทียมพระเจ้าจึงได้ถูกขับไล่จากสวรรค์ไปอยู่ที่นรก ในขณะนั้นเองมรกตที่ประดับที่มงกุฏได้กระเด็นออกมาและต่อมาได้นํามาแกะเป็นถ้วยโฮลี่เกร็ล(Holy Grail) ต่อมาได้หายสาบสูญไป (ลูซิเฟอร์คือซาตานเจ้าแห่งนรก บางตํานานกล่าวว่าอัญมณีสีเขียวนี้เป็นเทท์ไทท์หรือโมลดาไวท ถ้วยโฮลี่เกร็ลได้ปรากฏอีกครั้งเมื่อพระเยซูได้ใช้ถ้วยใบนี้ดื่มร่วมกับสาวกทั้ง12คนเมื่อได้รับประทานอาหารร่วมกันเป็นมื้อสุดท้ายก่อนที่พระองค์ถูกจับไปตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์ โดยที่ หนึ่งในสาวกของพระองค์เป็นคนทรยศและชี้ตัวพระเยซูให้กับทหารโรมัน อาหารมื้อนี้รวมกันได้ 13 คน ทางศาสนาคริสต์จึงถือว่าเลข13เป็นเลขอัปมงคล) สมัยโรมันจักรพรรด์ชื่อเนโร ได้ใช้มรกตตัดเป็นแผ่นใช้เป็นเครื่องส่องดูการแข่งรถเทียมม้าเพื่อป้องกันสายตาเหมือนกับเป็นแว่นกันแดดเพราะมีความเชื่อว่ามรกตรักษาสายตา ชาวอียิปต์สมัยโบราญเชื่อว่ามีความหมายถึงความสมบูรณ์แข็งแรงและการเกิดใหม่ เล่ากันว่ามรกตที่ใช้สมัยโบราญอาจจะนํามาจากเหมืองของพระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ ปัจจุบันนี้พบว่ามีแต่มรกตคุณภาพตํ่าเท่านั้น

ไพลินสีนํ้าเงิน มีเรื่องเกี่ยวกับไพลินว่าเมื่อพระยะโฮวา (พระเจ้าของศาสนาคริสต์หรือพวกคริสต์เตียนเรียกว่าพระบิดา) ได้ประทานบัญญัติ10ประการแก่ชาวยิวผ่านทางโมเสสที่ขึ้นไปบนภูเขาบัญญัติทั้ง10 ข้อนี้กล่าวกันว่าได้จารึกบนแผ่นหินคอรันดัมหรือที่เรียกกันว่า ไพลินอีกเรื่องเกี่ยวกับไพลินคือ ถ้าผู้ใดสวมไพลินและไพลินเกิดอาการหมอง ไม่มีประกายสดใสนั่นหมายถึงคนรักจะทรยศ แต่ถ้าไพลินที่สวมอยู่เปล่งประกายสวยงามหมายถึงจะได้พบรักแท้ไพลินทําให้เลือดหยุดไหลถ้าบุคคลชั่วร้าย ไม่ซื่อสัตย์สวมจะทําให้ไพลินหมองหรือแตกร้าว

ปะการัง ชาวอียิปต์ใช้ปะการังเป็นเครื่องรางป้องกันตัวเพราะเชื่อว่าใช้ป้องกัน
ดวงตาปีศาจได้(Devil's eyes)ยังสามารถใช้เป็นเครื่องรางเพื่อป้องกันบุคคลที่อาจจะเป็นเหยื่อจากการล่อลวงของพวกพ่อมดหมอผีและช่วยสตรีให้พ้นจากคาถาอาคมจากบุคคลที่คิดร้าย

โอปอล ในปลายศตวรรษที18ที่ประเทศอังกฤษมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Old Wives Tails ซึ่งเป็นหนังสือที่นิยมมากในสมัยของพระนางเจ้าวิคตอเรีย
ได้เขียนไว้ว่ามีสตรีผู้หนึ่งได้ซื้อสร้อยโอปอลเส้นงามมาสวมแต่มันได้ถูกสาปแช่งไว้ต่อมาเธอได้ฆ่าตัวตายในบางแห่งกล่าวไว้ว่าถ้า
บุคคลใดไม่ได้เกิดเดือนตุลาคมสวมใส่โอปอลจะโชคร้าย(โอปอลเป็นอัญมณีของเดือนตุลาคมนี่ไม่ใช่เรื่องจริงแต่เป็นเพราะเป็นพ่อค้าเพชรพลอย
ที่อยากจะให้ราคาของโอปอลถูกลงในตลาดโลกและจะได้ซื้อไว้เพื่อ
เก็งกําไรจึงทําเป็นข่าวขึ้นแต่ทําไม่สําเร็จ โชคดีของคนรักโอปอลไปเลยค่ะ) ชาวโรมันได้เปรียบเทียบโอปอลว่าเหมือนกับความรักที่งดงามของเด็กน้อย(เด็กน้อยชาวโรมันถือว่าเหมือนกับตัวแทนของกามเทพหรือคิวปิดเป็นเทวดาองค์เล็กๆหน้าตาเหมือนเด็กน่ารักมีปีกในมือถือคันธนูและลูกศร)

อเล็กซานไดร้ท์ เป็นเป็นอัญมณีในตระกูลคริสโซเบอริลถูกค้นพบวันเดียวกับที่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2แห่งประเทศรัสเซียขึ้นครองราชย์จึงตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่พระองค์ อเล็กซานไดร้ท์สามารถเปลี่ยนสีได้ตามทิศทางของแสงคือเปลี่ยนจากสีเขียวในแสงธรรมชาติหรือเดย์ไลท์เป็นสีแดง สีม่วงอ่อนหรือนํ้าตาลอมทองในแสงที่ไม่ใช่แสงที่เกิดจากธรรมชาติเช่นแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าเป็นต้น/the very rare and valuable alexandrite changes from green in day light to red, mauve or brown under incandescent light such as a light bulb- Gemstone by Hall ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่สีแดงเขียวเป็นสีของเครื่องแบบของทหารรักษาพระองค์ที่พระราชวัง เชื่อว่าถ้าสวมอเล็กซานไดร้ทในเวลากลางวันจะทํา
ให้โชคดีและสวมในเวลายามกลางคืนจะเพิ่มอารมณ์เสน่หา

อําพัน ตํานานของกรีกเล่าว่า ฟาอีตันซึ่งเป็นลูกชายของ เฮลิออสเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ได้ขอขับรถ(คือพระอาทิตย์แทนบิดาของตนในตอนเช้าเพื่อให้แสงสว่างแก่โลก)แต่ด้วยความไม่ชํานาญหรือประมาทจึงทําให้รถแฉลบเข้ไกล้โลกเกินไปเกิดไฟไหม้โลกไปส่วนหนึ่ง(ว่ากันว่าส่วนที่ถูกไฟไหม้นี้คือทวีปอาฟริกา)เทพเจ้าซุสพิโรธบรรดาลให้ฟ้าผ่า ฟาอีตันตายไป ทําให้น้องสาวชื่ออีเลคทีดิสร้องไห้ครํ่าครวญอยู่กับศพของฟาอีตันจนทําให้เหล่าเทพเจ้าเกิดการสังเวชจึงเปลี่ยนสองพี่น้องให้เป็นต้นป็อปล่าร์อยู่ริมฝั่งแม่นํ้าอีริแดนแต่ต้นไม้นี้ก็ยังไม่หายจากการโศกเศร้ามีนํ้าตาไหลออกมาเป็นอําพัน

เพชร ชื่อมาจากภาษากรีกแปลว่าไม่เทียบเทียมได้ ในสมัยโบราณมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ ใช้เพชรเป็นเครื่องประดับ ต่อมากลางศตวรรษที่ 19 มีสตรีชื่อ เอ็กเนส ซอเรล สนมของพระเจ้าชาลส์ที่7ได้เริ่มใช้เพชรเป็นคนแรกและเริ่มเป็นแฟชั่นสําหรับสตรีตั้งแต่นั้นมา เล่ากันว่าเพชรเข้าสู่ยุโรบโดยบังเอิญซึ่งค้นพบในในถุงยาเล็กๆของหมอผีชาวอาฟริกัน

เจ็ท หินสีดําที่เกิดจากฟอสซิลของไม้ตามเหมืองถ่านหิน เชื่อว่าอํานาจของมันจะเกี่ยวข้องกับพื้นดิน และการกสิกรรมเพราะเกิดจากสิ่งมีชีวิต สมัยกรีกได้ใช้ในการบูชาเทพธิดาแห่งการเพาะปลูกชื่อ ซีเบลเลมูนสโตน ตํานานของกรีกและโรมันถือว่าเป็นหินของเทพธิดาไดอาน่า เธอชอบล่าสัตว์หน้าที่ของเธอคือให้แสงสว่างยามกลางคืน(พี่ชายของเธอคือ อพอลโล่เทพแห่งพระอาทิตย์) เป็นหินสีดําคล้ายกระจกแข็งมากเกิดในบริเวณภูเขาไฟ มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้ใช้หินชนิดนี้ทําเป็นเครื่องใช้ต่างๆเช่นหัวธนู ขวาน กระจก หน้ากาก กริชและดาบ อ็อบซีเดียนมีอยู่หลายชนิดและที่พบมากในอเมริกาชื่อว่า อาปาเช่สเทียร์ หรือหยดนํ้าตาของอินเดียนเผ่าอปาเช่(Apache Tear)อินเดียนแดงเผ่าอาปาเช่ที่สู้รบกับกองทหารม้าในหนังคาวบอยอเมริกัน)มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อประมาณสองร้อยกว่าปีมาแล้วพวกนักรบเผ่านี้ได้สู้กับกองทหารม้าอเมริกันและสู้ไม่ได้มาจนมุมที่หน้าผาแห่งนี้และด้วยความกล้าหาญไม่ยอมแพ้พวกอาปาเช่จึงยอมตายโดยการควบม้ากระโจนลงจากหน้่าผาตายทั้งหมดบรรดาคนรักและผู้หญิงเผ่าอาปาเช่
ได้มาร้องไห้ครํ่าครวญที่หน้าผาแห่งนี้หยดนํ้าตาร่วงลงมากลายเป็น
อาปาเช่ส์เทียร์

เทคไทท์หรือโมลดาไวท์ได้มีความพยายามมากที่จะหาคําจํากัดความว่าหินชนิดนี้มาจากไหนบางตํานานเชื่อว่าเป็นสะเก็ดดาวมาจากนอกโลกและเกิดการเผาไหม้ในบรรยากาศหรือว่าเกิดการชนกันของดาวหางที่กระทบกับโลกและแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วค่อยเย็นตัวลงแหล่งที่พบมากคือที่ริมฝั่งแม่นํ้า โมลดาเวียสาธารณรัฐเชครีพับลิค

อเมธิสท์ ชาวกรีกและโรมันเชื่อว่าถ้าบุคคลใดดื่มสุราที่ใช้ถ้วยที่ทําจากอเมธิสท์จะทําไม่เมา เหล้ากันอาการเมาค้างและป้องกันไม่ให้กินอาหารมากเกินไปเป็นสัญญาลักษณ์ของการคุ้มครอง ครอบครัว ความจริงใจเมตตากรุณา ขับไล่อาการฝันร้าย ใม่ให้พูดปดแต่ตามตํานานของกรีก อเมธิสต์เป็นชื่อของนางไม้ที่มีความสวยงามมากและมีเทพที่ชื่อไดโอนีซอสได้หลงรักเธอจึงไล่ติดตาม

ส่วนอเมธิสท์หนีไม่พ้นจึงได้ร้องขอเทพที่เธอนับถือชื่ออเตมิสท์จึงบันดาลให้เธอกลายเป็นคริสตัลที่สวยงามและมีความเยือกเย็นของไดโอนีซอสได้เห็นเช่นนั้นจึงเกิดการสํานึกผิดจึงได้เทเหล้าองุ่นลงบนคริสตัลนี้เพื่อให้สีที่สวยงามของเหล้าองุ่นปรากฏบนคริสตัลนี้(ซึ่งอาจเป็นคําอธิบายว่าอเมธิสต์จึงมีสีม่วงเฉพาะตอนปลายของคริสตัลเท่านั้นและส่วนฐานมักจะเป็นคริสตัลสีขาวใสเสมอ)ส่วนตํานานทางศาสนาคริสต์เชื่อว่าอเมธิสต์มีสีฟ้าที่สัญลักษณ์ของสวรรค์และสีแดงที่หมายถึงโลหิตของพระเยซูผสมกันอยู่ซึ่งกลับมาในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ์ณหรือสมัยเรอแนสซองส์ได้ให้อเมธิสต์เป็นสัญญาลักษณ์ของศาลปกครองของคณะสงฆ์ในศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นศาลศาสนาที่เข้มงวดมากในการตัดสินหาความผิดอย่างเป็นทางการในสมัยโบราญของเสปญ ส่วนทางพวกยิวให้ชื่ออเมธิสต์ว่าเป็นหินที่ทําให้ฝันดี

ทับทิม ถ้าทับทิมที่ไม่มีตําหนิจะเป็นทับทิมที่มีพลังพิเศษในอินเดียเชื่อว่าถ้าได้บูชาถวายทับทิมแก่พระกฤษณะได้เกิดใหม่ในวรรณะกษัตย์ที่ยิ่งใหญ่และในยุคกลางของยุโรบถือว่าทับทิมเป็นเครื่องหมายของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับหมู่ศัตรูได้นานเท่าที่สวมไว้ในมือข้างซ้ายถ้าเป็นเข็มกลัดต้องติดไว้ที่ด้านซ้ายเช่นกันแม้แต่พระหรือนักบวชชั้นผู้ใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคใช้ทับทิมเป็นหัวแหวนเพื่อแสดงตําแหน่งเช่นพระคาร์ดินัลซึ่งเทียบเท่ากับตําแหน่งพระสังฆราชเป็นต้น

อันนิกซ์ ในสมัยโบราณใช้อันนิกซ์ในการควบคุมอารมณ์เสน่หาที่มีมากเกินไปให้สงบลง ในสมัยโบราญบางแห่งเชื่อว่าอันนิกซ์มีสีดําและสีขาวแยกจากกันอย่างชัดเจนเหมือนกลางวันและกลางคืนและส่วนที่อยู่ระหว่างสีดํากับสีขาวจะมีสีใสทําให้มีความคิดที่เกี่ยวโยงไปถึงพวกปีศาจหรืออํานาจมืดในสมัยกลางศตวรรษที่12ซึ่งเชื่อว่าได้มีปีศาจถูกขังอยู่ภายในและทําให้ตกใจตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนทําให้เกิดอาการหวาดกลัวและฝันร้ายได้นอกจากนั้นอันนิกซ์ยังเป็นเครื่องหมายของความรักระหว่างสามีและภรรยาอีกด้วยในอินเดียจะสวมอันนิกซ์ไว้รอบคอเพื่อลดความเร่าร้อนของอารมณ์รักลงได้

ลาปิส ลาซูลี่ ในสมัยโบราญกษัตย์ของชาวยิวชื่อโซโลมอนได้รับแหวนวิเศษ วงหนึ่งจากฑูตสวรรค์พระองค์ได้ใช้อํานาจของแหวนเพื่อควบคุมพวกปีศาจและได้สร้างมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ถวายแก่พระเจ้าคือพระยะโฮวา


ขอบคุณข้อมูลจาก//www.oknation.net


Create Date : 15 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2552 16:14:18 น. 0 comments
Counter : 1298 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
15 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.