ป๊ะป๋า...คิดถึง
อย่างที่เคยบอกน่ะค่ะว่าป๊ะป๋าไปสู่สวรรค์แล้ว .... วันนี้เลยจะมาบันทึกเสียที.... จริง ๆ รู้มาพอสมควรตั้งแต่ตุลาฯ แล้วว่าป๊ะป๋าเป็นมะเร็ง แต่ว่าตอนนั้นป๊ะป๋ายังแข็งแรง ตายังใสปิ๊ง... หัวเราะทียังเสียงดังลั่นห้อง... เราก็เลยไม่คิดว่าจะมีเวลาเหลืออีกแค่สี่ห้าเดือน... ถึงแม้ว่าตอนนั้นหมอจะบอกแล้วว่าไม่เกินหกเดือน แต่เราก็ยังดื้อแพ่งกันไม่เชื่อหมอ แต่แล้วก็เป็นตามที่หมอบอก ช่วงสองเดือนหลังนี่เร็วมา ๆ ค่ะ.. ป๊ะป๋าจะมีอาการท้องบวมตลอดเวลา ตลอดสองเดือนหลังนี่แหล่ะ ที่แม่บอกว่าเห็นพ่อปวดหลาย ๆ ทีแล้วอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก... ได้แต่บอกพ่อว่าอย่าเพิ่งรีบไป อยู่เป็นเพือนแม่เค้าก่อน... จำได้ว่ามีวันหนึ่งเค้าโทรไปเล่าให้เราฟัง.. แม่บอกว่า แม่ถามพ่อว่ารักแม่ไหม พ่อบอกว่ารัก แม่เลยบอกว่าแล้วทำไมจะรีบทิ้งแม่ไป แม่อยู่คนเดียวไม่ได้ พ่อบอกว่าพ่อไม่ห่วงลูก ๆ ทุกคนรักแม่ดี... เหมือนพ่อเค้าก็รู้กลาย ๆ แล้วล่ะ ว่าเค้าคงไม่ได้ออกจากรพ.แล้ว... ตอนสองอาทิตย์สุดท้าย... หมอได้แต่เจาะเอาน้ำออกจากท้อง..พ่อปวดตลอดเวลา เราถามทีไร พ่อก็บอกว่าเจ็บ แต่เค้าก็ไม่บ่น ไม่โวยวาย ซึ่งป๊ะป๋าจะเป็นคนแบบนี้ เค้าจะอดทนดีมาก ๆ ซึ่งถ้าเป็นเรา เราเชื่อว่าเราคงดิ้นไปดิ้นมา โวยวาย แต่พ่อไม่เลย ไม่อาละวาดเลย เค้าทน ๆ แล้วก็นอน พออึราด ก็เรียกให้เปลี่ยน เราก็ไปเปลี่ยน อุ้มเค้าขึ้นมานอน ตอนนั้นนะ ก็ยังไม่คิดว่าแกจะอยู่อีกไม่กี่วัน ตอนก่อนเรากลับ แกเรียกเราไปซื้อสไปร์ท เราก็บอกว่าไม่ได้ กินไม่ได้ แกยังพูดอยู่เลยว่า ไม่ได้หรอกเชื่อหมอแบบนี้แกตายแน่ ๆ จนเราก็เลยไปซื้อมาให้แกกินนิดหนึ่ง...... แล้ววันเรากลับเราก็ไปลาแก..ตอนนั้นหมอที่พระมงกุฏฯ บอกแล้วว่าคงจะประคับประคองไป พี่ชายเลยคิดจะเปลี่ยนรพ. ก็เลยติดต่อไปรพ.กลาง เพราะคิดว่าถ้าหมอที่นี่ไม่สู้ ก็สู้ไปหาหมอที่อื่นดีกว่า พอบอกพ่อ พ่อก็อยากย้ายไป แกก็เร่ง ๆ พี่ชายว่าได้เตียงยัง ไปได้ไหม... จนวันย้ายพี่ชายเล่าว่าพ่อเรียกแต่เช้าว่า จะได้ไปหรือยัง... พอย้ายไปปุ๊บ ปรากฏว่าพอแกไปถึงที่รพ.กลาง อาการแกก็ทรุดลง... แต่ก็ยังคุยได้ แต่แกจะหนื่อย ๆ จนท้ายสุดวันที่สองหลังจากที่ย้ายไป ตอนเช้า ๆ ที่บ้านก็โทรมาบอกว่า ถ้าป๊ะป๋าหยุดหายใจไปจะให้ปั๊มไหม ได้ยินแค่นี้ก็ทำนบน้ำตาแตกเลยค่ะ... แทนที่จะรีบจองตั๋วกลับ ก็ดันห่วงงาน คือเหมือนคิดอะไรไม่ออก ถามแม่ว่ากลับเลยไหม แม่ก็บอกว่าไม่ต้อง..รอก่อน ... พอบ่าย ๆ พี่ชายเลยโทรมาว่า กลับเลย ให้รีบกลับ...
แต่ไม่ทัน... ป๊ะป๋าไปก่อน... ตอนห้าโมง.. เวลาที่นี่ก็หกโมง เรายังนั่งรอเครื่องบินกลับอยู่เลย... น้องชายเป็นคนเดียวที่อยู่เวลานั้น... เค้าบอกว่าป๊ะป๋าค่อย ๆ หายใจช้าลง ๆ จนหยุดหายใจไป....
วันนั้นเราถึงเมืองไทยสี่ทุ่ม...ที่บ้านมารอรับกับหมด... แต่ไม่มีใครพูดอะไร แม่ตาแดง ๆ แต่ไม่ได้ร้องไห้แล้ว... กลับบ้าน..ก็น้ำตาซึม..เรานอนกะแม่แม่เค้าก็พูดแค่ว่า.. ไม่คิดว่าพ่อจะไปเร็วแบบนี้.. ได้ยินแค่นี้เราก็ร้องไห้... เลยนอนกอดแกแล้วก็ร้องไห้ ... เรานอนข้างล่างแหล่ะ..นอนแล้วมองไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพที่แกเคยเดินไปเดินมาในบ้าน... มองรถเวสป้าแกแล้วก็ร้องไห้... ตอนเช้าก็ไปที่รพ.กลางไปรับศพ ตอนก่อนไปรับศพ ไม่มีใครพูดอะไร ก็ไปกินข้าวต้มเลือดหมูกันปกติ... จนตอนที่เค้าให้เข้าไปรับศพ... พอเราเห็นป๊ะป๋า..ก็ร้องไห้ทันที... เหมือนเปิด Switch เลยล่ะ ตามหลักแล้วเค้าจะไม่ให้แม่ยุ่งเท่าไร เพราะกลัวว่าพ่อจะมารับไปด้วย... ก็ให้ลูก ๆ มาป้อนข้าวเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็พูดระหว่างที่ป้อนข้าวเป็นภาษาจีน แปลประมาณว่า "พ่อเลี้ยงเราโต เราเลี้ยงพ่อแก่" ระหว่างนี้เค้าจะคอยบอกว่าต้องอย่าให้น้ำตาโดนตัวป๊ะป๋า เพราะว่าแกจะเป็นห่วง จากนั้นก็เค้าก็ยกป๊ะป๋ามาลงโลง ทีนี้แม่ต้องนั่งหันหลังให้ แล้วให้เราใส่ชุดกระสอบ แล้วไหว้ป๊ะป๋า แล้วจากนั้นก็ยกขึ้นรถ แม่ห้ามไปกับรถด้วย ลูก ๆ ก็ไปส่ง เวลาขึ้นสะพานก็ต้องคอยบอกว่าขึ้นสะพาน แล้วเข้าวัดก็ต้องบอกว่าเข้าวัด จากนั้นก็ยกไปตั้งที่ศาลา... แล้วก็สวดสี่คืน ทำกงเต๊กคืนที่ห้า.... แล้วก็เผาวันถัดไป เราเลือกเผากัน เพราะป๊ะป๋าไม่เคยสั่งอะไร... แต่แม่บอกว่าป๊ะป๋าเคยพูดว่า อีกหน่อยก็เป็นขี้เถ้าไปกันหมด แล้วแม่เองก็อยากเผา พวกเราก็เลยเลือกกันแบบนั้น....
คิดถึงป๊ะป๋ามาก ๆ เขียนแบบนี้ก็นั่งร้องไห้... ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าเหลือแต่หม่ามี๊แล้ว...จะดูแลแกอย่างดี จะพาแกไปเที่ยว... ผ่านมาจะเดือนแล้ว พี่ชายบอกว่าแม่ก็ยังเครียด ๆ อยู่ดี... นั่ง ๆ มองรูปป๊ะป๋าแล้วก็ร้องไห้... ไม่ยอมไปสายสี่...เพราะไม่อยากอยู่ในบ้านแล้วเห็นรูปป๊ะป๋า....
จะรีบกลับบ้านแล้วล่ะ.... :)
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
3 comments |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2550 20:57:44 น. |
Counter : 507 Pageviews. |
|
|
|
ดูแลหม่ามี๊ดี ๆ นะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ