เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 

พระราชวังพญาไท

พระราชวังพญาไท



วันนี้ขอพาไปรู้จักพระราชวังแสนสวยใจกลางกรุงกันครับ นั่นก็คือ "พระราชวังพญาไท" ซึ่งเดินทางไม่ยาก จากสถานี BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วเดินไปมุ่งหน้าไปยังถนนราชวิถี

และจาก BTS มาระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตรครับ อากาศเย็นๆ แบบนี้เดินได้สบายๆ โดยเดินผ่านโรงพยาบาล พระมงกุฎเกล้าไปเล็กน้อย ก็จะเจอทางเข้าครับ





พระราชวังพญาไท รัชกาลที่ 6 เสด็จฯ มาประทับที่พระราชวังนี้เป็นประจำ และพระองค์ทรงสถาปนาเป็นพระราชวังพญาไท



เราสามารถเข้าไปชมในวังได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม โดยจะมีเจ้าหน้าที่พาไปชมวัง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าจำไม่ผิด คือเวลา 9.30 น. และ 13.30 น. ครับ



โดยก่อนเริ่ม ทางวังจะให้เข้าไปนั่งชม VCD แนะนำพระราชวังพญาไท เพื่อให้เราสามารถเพิ่มความรู้เกี่ยวกับที่นี่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที



พอชมเสร็จ ไกด์ของวัง ก็จะมาแนะนำตัว และอธิบายเพิ่มเติมให้ฟัง

โดยที่นี่อนุญาตให้ถ่ายภาพได้ทุกมุมเลยครับ และที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมวังด้วยครับ



ที่นี่เริ่มสร้างในสมัย รัชกาลที่ 5 แต่มามีความสำคัญในช่วงรัชกาลที่ 6 ซึ่งเรื่องราวส่วนใหญ่ที่ปรากฎในวัง จึงเป็นช่วงเวลาของพระบาทสมเต็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แทบทั้งสิ้น ซึ่งพระองค์เสร็จฯ มาประทับเป็นระยะเวลานานทีเดียว



เสร็จแล้วทางวังก็จะพาเดินชมส่วนต่างๆ โดยจะอธิบายตลอดทางที่พาเดินเลยครับ รอบๆ คือผู้ที่สนใจเข้าชมวังด้วยกัน โดยจะมีฝรั่งสนใจเข้าร่วมชมด้วยครับ



ห้องนี้เป็นห้องแรก ซึ่งอยู่ด้านล่าง ผมจำไม่ได้ว่าเป็นห้องอะไร แต่น่าจะเป็นห้องทรงงานนะครับ



ถัดมาก็จะพาไปชมห้อง ห้องเสวยร่วมกับฝ่ายใน



ลวดลายการตกแต่งภายในสวยงามอลังการมากๆ ครับ



จากนั้นก็เดินออกมาเพื่อไปยัง พระที่นั่งเทวราชสภารมย์



เป็นท้องพระโรงเดิมในสมัยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเสด็จมาประทับ ณ วังพญาไท

โดยจำลองให้เหมือนโรงละคร ให้มีที่ชมด้านบน แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้ขึ้นไปด้านบน



ลักษณะท้องพระโรงได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบไบเซ็นไทน์ มีโดมอยู่ตรงกลางรับด้วยหลังคาโค้งประทุน 4 ด้านบนผนังมีจิตรกรรมรูปคนและลายพรรณพฤกษา เคยเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาในงานพระราชกุศล เช่นงานเฉลิมพระชนมพรรษา วันธรรมดาใช้รับรองแขกส่วนพระองค์ที่มาเข้าเฝ้า บางครั้งเป็นโรงละคร หรือโรงภาพยนตร์แล้วแต่โอกาส

เป็นการตกแต่งที่สวยงามมากๆ ครับ



จากนั้นก็ย้อนกลับไปยัง พระที่นั่งพิมานจักรี ต่อครับ



คราวนี้ขึ้นไปที่ชั้น 2 กัน



และห้องแรกที่จะพาไปชมเป็นห้องที่สวยงามมากๆ ครับ



ห้องนี้เป็น ห้องพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ภายในตกแต่งลายเพดานงดงามด้วยจิตรกรรมเขียนด้วยเทคนิคสีปูนแห้ง เป็นภาพคัมภีร์ในศาสนาพุทธเขียนบนใบลาน



และภาพพญามังกร หมายถึงสัญลักษณ์ของความเป็นพระราชา และปีพระราชสมภพ ซึ่งก็คือ ปีมะโรง นั่นเองครับ



ด้านนอกจะมีรูปปั้นพระวรุณ ซึ่งเป็นเทพแห่งฝนและสัตว์น้ำตั้งอยู่



ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องทรงพระอักษรครับ



ซึ่งจะอยู่ทรงส่วนของมุมโค้งของโดมพอดี



จากนั้นก็ไปต่อกันที่ ท้องพระโรงกลาง

ลืมบอกไปว่าห้องที่เป็นพื้นปาเก้ จะต้องถอดรองเท้าไว้ด้านนอกนะครับ



ห้องนี้ เป็นห้องเสด็จออกให้เฝ้าส่วนพระองค์ หรือเสวยแบบง่ายๆ ภายในตกแต่งแบบยุโรป มีเตาผิงซึ่งตอนบนประดิษฐาน พระบรมสาทิศลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นปรานของห้อง ในกรอบที่ประดับด้วยตราจักรี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ภายในรูปวงรี และภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎล้อมรอบด้วยพระรัศมี



จากนั้นก็ขึ้นต่อไปยังชั้นสามครับ



ชั้นนี้มีห้องกระจายเสียงทางวิทยุอยู่ครับ



บนเพดานมีจิตรกรรมลักษณะแบบ อาร์ต นูโว สวยงามมากๆ ครับ



ชั้นนี้ยังมีห้องที่ยังรอการบูรณะอยู่อีก ซึ่งห้องนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงเพือมองวิวรอบๆ วังได้อีกด้วย



วิวด้านบนสวยงามทีเดียวครับ



จากนั้นก็ลงไปยังข้างล่างกันต่อครับ



ด้านล่างยังมีตำหนักที่สำคัญอย่าง พระตำหนักเมขลารูจี



อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพระที่นั่งพิมานจักรี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักองค์น้อยขึ้นหนึ่งองค์ที่ริมคลองพญาไทตอนกลาง พระราชทานนามว่า พระตำหนักอุดมวนาภรณ์ เป็นเรือนไม้สัก 2 ชั้น หลังคามุงกระเบื้องดินเผา



จากนั้นก็จะมุ่งหน้าไปยังสวนโรมัน ซึ่งจะผ่านทางนี้

โดยดุสิตธานี เป็นเมืองจำลองที่ รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดให้สร้างเพื่อจำลองการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งเดิมที่พระราชวังแห่งนี้จะมีเมืองจำลองมากมาย แต่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่สวนโรมันเท่านั้น



สวนโรมัน เข้าใจว่าเดิมเป็นหนึ่งในสามของพระราชอุทยานในพระราชวังพญาไทสำหรับพักผ่อนพระราชอิริยาบถ การจัดแต่งภูมิสถาปัตย์เป็นลักษณะแบบเรขาคณิต ประกอบด้วยศาลาในสวนที่ใช้รูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบโรมัน



มีการประดับด้วยตุ๊กตาหินอ่อนแบบโรมัน บริเวณบันไดทางขึ้น



ศาลาทรงกลมตรงกลาง มีหลังคาโดมรับด้วยเสาแบบคอรินเธียน (Corinthian Order) ขนาบด้วยศาลาทรงสี่เหลี่ยมโปร่งไม่มีหลังคากำหนดขอบเขตด้วยเสาแบบเดียวกันกับโดม รองรับคานที่พาดด้านบน (Entablature)

ด้านหน้ามีสระน้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในแนวแกนเดียวกับโดม มีทางเดินกว้างโดยรอบสระน้ำเชื่อมต่อกับศาลา ซึ่งศาลานี้ใช้เป็นเวทีการแสดงกลางแจ้งในบางโอกาส



โดยตรงกลางสระน้ำก็เป็นที่ตั้งของรูปปั้น พระวรุณ



นอกจากนี้ภายในพระราชวังยังมีร้านกาแฟที่ตกแต่งให้เข้ากับยุคสมัยของ รัชกาลที่ 6 โดยใช้ชื่อร้านว่า "กาแฟนรสิงห์"

ร้านกาแฟนรสิงห์เกิดขึ้นภายในพระราชวังพญาไท เพื่อรำลึกถึงร้านกาแฟแห่งแรกของประเทศไทย ที่สร้างขึ้นในสมัยปลายรัชกาลที่ 6 ตั้งอยู่ภายในรั้วสนามเสือป่า สำหรับใช้เป็นที่พักผ่อนยามเย็นของผู้รับราชการเสือป่ารักษาพระองค์ รวมทั้งพ่อค้าและชาวต่างประเทศไปรวมตัวเป็นจำนวนมาก โดยมีบริการอาหารคาวหวานเป็นที่ถูกอกถูกใจของคนกรุงเทพฯ เป็นอย่างยิ่ง แต่มาเลิกกิจการในสมัยต้นรัชกาลที่ 7

จนกระทั่งทางมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไทฯ รื้อฟื้นให้คนกรุงเทพฯ ได้สัมผัสบรรยากาศเก่าๆ อีกครั้ง โดยเริ่มเปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2553 ครับ









ที่นี่สวยงามและชวนให้เพลิดเพลินยิ่งนัก จนไม่คิดว่าการใช้เวลาว่าง 1 วันแบบนี้จะเป็นการมาเดินเล่นในวังหลายชั่วโมงทีเดียวครับ รู้ตัวอีกทีก็บ่าย 4 โมงเย็นแล้ว





ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2554
9 comments
Last Update : 19 ธันวาคม 2554 22:34:41 น.
Counter : 8279 Pageviews.

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง Photo Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โหวตให้เลยค่า รูปสวยมากกกกก

 

โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ 19 ธันวาคม 2554 22:52:18 น.  

 

ชาลีตามมาชมด้วยคนค่า

 

โดย: sierra whiskey charlie 19 ธันวาคม 2554 23:51:42 น.  

 

 

โดย: Kavanich96 20 ธันวาคม 2554 8:23:30 น.  

 

ฝีมือไม่ตก นายแน่มาก

 

โดย: ผู้หญิงสายน้ำ 20 ธันวาคม 2554 9:04:27 น.  

 

ภาพสวยมากๆค่ะ ทำไมเราถ่ายเองไม่เห็นออกมาสวยแบบนี้เลย ฝีมือคนละขั้น กล้องก็คนละชั้น ^^

 

โดย: หญิงไทย IP: 223.206.238.67 20 ธันวาคม 2554 10:41:03 น.  

 

ภาพสวยเหมือนเดิม ไม่ผิดหวัง เหมือนได้ไปเ่ที่ยวชมเองเลยนะคะ

 

โดย: มิลเม 20 ธันวาคม 2554 13:24:12 น.  

 

@ คุณ Schnuggy ชนุ๊กกี้ : ขอบคุณมากๆ ครับพี่ไก่ น่ารักที่สุดดดด เลยครับ

@ คุณ sierra whiskey charlie : สวัสดีจ้า คุณชาลี

@ คุณ Kavanich96 : ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ

@ คุณ ผู้หญิงสายน้ำ : ขอบคุณมากๆ ครับ รู้สึกเป็นปลื้มที่สุด

@ คุณ หญิงไทย : ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวก็ดีครับ กล้อง Compact ก็ถ่ายให้สวยได้นะครับ

@ คุณ มิลเม : ขอบคุณมากๆ ครับ ที่นี่เค้าสวยอยู่แล้วด้วย ภาพเลยออกมาดูดีครับ

 

โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง 21 ธันวาคม 2554 9:10:12 น.  

 

ขอบคุณนะคะ ที่พาไปชม ของดีอยู่ใกล้ๆนี่เอง แต่ไม่เคยไปเลย

 

โดย: วิวรรณ (wiwan K ) 26 ธันวาคม 2554 17:18:27 น.  

 

@ คุณ วิวรรณ : ผมก็เพิ่งได้มีโอกาสไปชมของดีมานี่แหละครับ ผ่านไปผ่านมาอยู่นานทีเดียว

 

โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง 27 ธันวาคม 2554 8:07:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.