Group Blog
All Blog
|
ภรรยาทั้งสี่ (คำสอนของพระพุทธเจ้า) ภรรยาทั้งสี่ (คำสอนของพระพุทธเจ้า) ในสมัยพุทธกาล พ่อค้ามหาเศรษฐีคนหนึ่งมีภรรยาสี่คน เขาหลงรักภรรยาคนที่สี่มากที่สุด จึงมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามหรืออาหารโอชะ ขณะเดียวกัน...เขาก็รักภรรยาคนที่สาม ภาคภูมิใจในตัวเธอมาก และมักจะนำเธอไปอวด แก่เพื่อนฝูงอยู่เนืองๆ แต่พ่อค้าก็อดกลัวไม่ได้ว่าวันหนึ่งข้างหน้าสาวเจ้าอาจจะหนีตามชายอื่นไป เขามีความรักให้ภรรยาคนที่สองด้วยเช่นกัน เธอผู้นี้เป็นคนเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีน้ำอดน้ำทน และเป็นภรรยาที่พ่อค้าสามารถไว้วางใจได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรค ปัญหาใดก็ตาม พ่อค้าก็จะหันหน้าไปปรึกษาภรรยาผู้นี้ ซึ่งเธอก็ช่วยเหลือเขา ด้วยดีมาโดยตลอด ฝ่ายภรรยาคนแรกนั้นเป็นคู่ชีวิตที่มั่นคงต่อสามี ทั้งยังได้อุทิศตัวสอดส่องดูแลธุรกิจ ตลอดจนเรื่องภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี ..แต่อนิจจาพ่อค้ากลับไม่ได้รักตอบ.. รวมทั้งไม่ค่อยจะไยดีเธอสักเท่าไร วันหนึ่ง เมื่อพ่อค้าล้มป่วยลง รู้ว่าตนเองจะต้องจบชีวิต ลงในไม่ช้า เขาก็นึกถึงชีวิตอันแสนสุขที่ได้ผ่านมาและอดรำพึงรำพันกับตัวเองไม่ได้ว่า เราเองมีภรรยาถึงสี่คนที่รักเรา และเราก็หลงใหลพวกหล่อนมาก แต่เมื่อถึงคราว ที่จะต้องตายลง เราก็ต้องโดดเดี่ยวเอกา... คิดได้ดังนั้น เขาจึงตามภรรยาคนที่สี่มา เพื่อสอบถามว่า ข้ารักเจ้ามากที่สุด และที่ผ่านมาข้าก็ได้มอบผ้าผ่อนแพรพ รรณอันงดงามให้ แก่เจ้าดูแลเจ้าเป็นอย่างดี...แต่ตอนนี้ข้ากำลังจะตาย เจ้าคิดจะตาย ตามข้าหรือเปล่า ไม่มีทาง หล่อนตอบ แล้วก็จากไปโดยไม่กล่าวอะไรอีก อนิจจา คำตอบนั้น ช่างเปรียบเหมือนคมมีดกรีดเฉือนหัวใจพ่อค้าเลยทีเดียว แล้วพ่อค้าเจ้าทุกข์ก็ถามคำเดียวกัน นี้กับภรรยาคนที่สาม คำตอบนี้คือ ไม่! ถึงตอนนี้พ่อค้ากลับรู้สึกเหน็บหนาวร้าวลึกในหัวอก เขาพูดกับ ภรรยาคนที่สองว่า ข้ามักจะหันหน้าไปหาเจ้าเสมอ เมื่อมีเรื่อง ทุกข์ร้อน และเจ้าก็สามารถช่วยข้าได้ทุกครา ถึงตอนนี้ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าอีกครั้ง เมื่อข้าตายลงเจ้าจะยอมตายตามข้าหรือไม่ ขอโทษที่ครั้งนี้ข้าไม่อาจช่วยท่านได้ อย่างมากที่สุดข้าก็จะอยู่จัดการเรื่อง ฌาปนกิจให้ท่านเท่านั้น คำตอบนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดทำให้พ่อค้าถึงกับตะลึงงัน ข้าจะอยู่กับท่านเสมอ จะติดตามท่านไปไม่ว่าจะเป็นที่ใด นี่เป็นคำตอบของภรรยาคนที่หนึ่ง ผู้ที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเขา บัดนี้หล่อนดูซูบลงมาก เนื่องมาจากไม่ค่อยได้รับอาหารที่มีคุณค่า พ่อค้าตอบไปด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ่งว่า ข้าควรจะดูแลเจ้าให้ดีกว่านี้... ฉะนี้ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ภรรยาคนที่สี่เปรียบเสมือนร่างกายของเราไม่ว่าเราจะพยายามดูแลให้ดีสักเท่าไรก็ตาม มันก็ไม่จีรัง ขณะที่ภรรยาคนที่สามเปรียบได้ดั่งอาชีพการงาน สถานะทางสังคม และความร่ำรวย เมื่อเราตาย ทรัพย์สินก็ย่อมจะตกไปอยู่กับคนอื่น คิดหรือว่าคนอื่นๆ เขาจะไม่มาเอาฐานะตำแหน่งของเราไป... " ภรรยาคนที่สองก็คือครอบครัวและเพื่อนๆ ของเรา แม้เราจะได้อยู่ด้วยกันยามมีชีวิต แต่ถึงที่สุดแล้วเขาจะอยู่กับเราได้อย่างมากที่สุดก็ในงานฌาปนกิจ... " ส่วนภรรยาคนแรกนั้นก็คือจิตวิญญาณของเรา ที่มักจะถูกละเลยลืมเลือน เพราะเรามัวแต่ให้ความสนใจกับวัตถุและความทุกข์ทางกามารมณ์ ขณะที่จิตวิญญาณนั้นเป็นสิ่งเดียวที่จะติดตามเราไปทุกที่" ... เรื่องนี้ดีมากๆเลยค่ะ ได้ข้อคิดและคำสอนของพระพุทธเจ้า ขอบคุณมากนะคะ ที่เอามาแบ่งปันกัน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
โดย: Patarawan H วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:24:55 น.
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีครับ เป็นวิธีการสั่งสอนที่น่าฟังและไม่น่าเบื่อด้วยนะครับ
โดย: everything on วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:44:26 น.
|
LiTa Long Time Can't See
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] เป็นพนักงานบริษัทเอกชน มาถึง 12 ปี กำลังจะพยายาม เปลียนมาเป็น "เจ้านายตัวเอง" หรืออีกนัยหนี่งคือ "ลูกจ้างตัวเอง" ณ. เวลาขณะนี้ (01-06-09) การเดินทางครั้งใหม่ กับเส้นทางใหม่ ๆ ที่เลือกเอง มาถึงแล้ว จากที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ กำลังจะนับ 1.2..3...4.... ไปเรื่อย ๆ แล้ว " การเปลียนแปลงย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่า ณ เวลานั้นเรามีสติพร้อมที่ยอมรับ และจัดการกับการเปลียนแปลงนั้นได้มากขนาดใหน" Friends Blog
Link
|