『สะใภ้เจ้าสัว/ช่อง 3』


บทประพันธ์ : วัตตรา
บทโทรทัศน์ : ปัทม์
กำกับการแสดง : สิทธิวัชร์ ทับแป้น
ผลิตโดย บริษัท : ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด

นำแสดงโดย

ตุ้ย เกียรติกมล ล่าทา รับบทเป็น ร.ต.ทไตรวิช
เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา รับบทเป็น ฟ้าใส
ต้อย เศรษฐา ศิรฉายา รับบทเป็น เจ้าสัวเทียน
จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตนันท์ รับบทเป็น อาหลิว
อ๊อฟ AF2 ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ รับบทเป็น ไอ้ไม้
กระแต-ศุภักษร ไชยมงคล รับบทเป็น เรืองริน
กิฟท์-วรรธนะ กัมทรทิพย์ รับบทเป็น ไตรเทพ
กิก-ดนัย จารุจินดา รับบทเป็น ไตรภูมิ
อาร์ท-พลังธรรม กล่อมทองสุข รับบทเป็น ไตรภพ
หนิง-ปณิตา พัฒนาหิรัญ รับบทเป็น วัลลภา
กิฟท์-อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์ รับบทเป็น ดาวเรือง
โย่ง เชิญยิ้ม รับบทเป็น นายมิ่ง
เอ๋-กษมา นิสสัยพันธุ์ รับบทเป็น เสี่ยไฮ้
ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล รับบทเป็น วิมาน
อูม-วิยะดา อุมารินทร์ รับบทเป็น พะยอม



เรื่องย่อ


เจ้าสัวเทียน ผู้กุมอำนาจของตระกูล เศรษฐกิจเดชากุล และผู้บริหาร ไหมทองสยาม ผู้ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยระดับแถวหน้าของประเทศ ประสบความสำเร็จจนเป็นที่กล่าวขานถึงของผู้คนในแวดวงธุรกิจ อาหลิว เป็นภรรยาที่สวยมากซึ่งแม้ลูกชายจะโตเป็นหนุ่มกันหมดแล้วทั้ง 4 คน แต่ก็ยังคงสวยราวกับสาวสองพันปี แถมยังใจกว้างไม่เคยตามเช็คบิลบรรดากิ๊กน้อยใหญ่ของสามีเลยสักครั้ง เธอเลี้ยงลูกเก่งประสบความสำเร็จและอยู่ในโอวาทกันทุกคน

เจ้าสัวเทียนเลือก เรืองริน ลูกสาวเพื่อนในวัยหนุ่มเจ้าของธุรกิจค่ายหนัง ซึ่งเป็นดาราสาวมากฝีมือ โหงวเฮ้งดี มารยาทงามมาเป็นภรรยาของ ไตรเทพ ลูกชายคนรอง ซึ่งเขาไม่อาจจะปฏิเสธหญิงที่พ่อจัดให้ได้ หลังแต่งงานเรืองรินไม่เคยมีเวลาทำหน้าที่ภรรยาเลย ไตรเทพใฝ่ฝันอยากเป็นนักกีฬาจนได้ฉายาว่า เจ้าพ่อฟิตเนส และมักจะถูกเก้งกวางลวนลามเสมอ คนสงสัยว่าเขาเป็นเกย์หรือเปล่า แต่ที่ไตรเทพรักฟิตเนสเพราะในอดีตเคยอ้วนเหมือนตุ่มจนไม่มีสาวมอง เจ้าสัวให้ไตรเทพดูแลด้านการพัฒนาและออกแบบสิ่งทอให้กับไหมทองสยาม ไตรเทพทำงานได้ดี แต่สิ่งที่เจ้าสัวเทียนเคืองไม่หายก็คือการแอบไปถ่ายแบบชุดว่ายน้ำนั่นเอง





ส่วน ไตรภูมิ ลูกชายคนที่สามได้วิชารำมวยไท้เก๊กมาจากเจ้าสัวเทียนมาทุกกระบวนท่า ทุกเช้าเขาจะไปที่สวนสาธารณะเพื่อสอนไท้เก๊กจนเขากลายเป็นขวัญใจของเหล่าอา ม่าอาซิ้ม เจ้าสัวเทียนให้ไตรภูมิดูแลเรื่องการเงินให้และได้เลือก วัลลภา ลูกสาว เจ้าของธุรกิจอาหารแช่แข็งมาเป็นสะใภ้ที่สาม ให้เหตุผลว่าผู้หญิงที่อยู่กับธุรกิจอาหารการกินจะเป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ เมื่อได้สะใภ้ที่ถูกใจให้ลูกทั้ง 2 คน แต่เจ้าสัวก็ยังไม่พอใจ เพราะ ไตรภพ ลูกชายคนโตที่เป็นคนค่อนข้างธรรมะธัมโม แล้วยังชอบพูดปรัชญาสุภาษิตจีนเพื่อให้ข้อคิดกับคนใกล้ตัวเสมอ จนบางครั้งทั้งน้อง ๆ และทุกคนรำคาญ

เจ้าสัวเทียนให้ไตรภพดูแลด้านการตลาด ไตรภพขอทำงานหนักเพื่อแลกกับการที่จะไม่ถูกจับแต่งงานกับสาวใดทั้งสิ้น เจ้าสัวเทียนโกรธมากสงสัยว่าลูกชายจะเป็นเกย์ อาหลิวจึงแอบไปจ้าง ซินแสเหวง ให้มาทำนายว่า ถ้าไตรภพแต่งงานธุรกิจจะระส่ำระสาย แม้เจ้าสัวเทียนจะยอมเชื่อ แต่ก็ไม่ละความพยายามที่จะหาภรรยาให้ไตรภพ

ปัญหาใหญ่ที่ค้างคาใจเจ้าสัวมิใช่เพียงเรื่องของไตรภพ แต่เป็นเรื่องของลูกชายคนเล็ก ไตรวิช ที่ไม่ยอมเดินตามเส้นทางที่เจ้าสัวเทียนขีดไว้ ความอยากเป็นตำรวจทำให้เขาวางแผนการศึกษาด้วยตนเองหลังจบนิติศาสตร์ ไตรวิชแอบไปสอบตำรวจและเลือกเดินออกจากกงสีไปบรรจุในอำเภอเล็กๆ ที่จังหวัดสกลนคร โดยไม่ฟังเสียงใคร ไม่หวงสมบัติที่พ่อบอกว่าจะยกให้กิ๊ก ให้สาวใช้และการกุศล ในส่วนที่ควรจะเป็นของเขา แม้ไตรวิชจะแยกตัวออกไปใช้ชีวิตเพียงลำพัง แต่ก็ยังรักห่วงใยต่อพี่ชายทั้ง 3 และแม่ ส่วนกับเจ้าสัวเทียนนั้น ไตรวิชไม่ชอบความเผด็จการ เขาจึงไม่ค่อยติดต่อด้วยเพราะเกรงจะถูกบังคับให้กลับบ้าน ซึ่งเขาไม่มีวันยอม





เมื่อออกไปสู่ชนบทชีวิตเขาแสนอิสระและได้มาพบ ฟ้าใส สาวอีสานบ้านนาคนสวยแห่งหมู่บ้านบึงน้ำงาม ลูกของ นายมิ่ง กับ นางทองสร้อย ที่เรียนจบมาทางด้านการเกษตรและเป็นผู้ช่วยเกษตรตำบลให้กับบ้านเกิด ฟ้าใสมีคู่หูคือ ไอ้ไม้ ญาติผู้น้องวัยรุ่นจอมกวนที่มาอยู่ช่วยงานที่บ้าน งานถนัดคือซิ่งมอเตอร์ไซค์แว้นในหมู่บ้านคอยส่งข้าวส่งน้ำพ่อแม่ฟ้าใสตอนออก ไปที่ท้องนา ทั้งสองได้สร้างวีรกรรมกับไตรวิชไว้มากนับแต่วันแรกพบ เขาก็เกิดความสนใจ อยากรู้จักเธอ จึงยังไม่ยอมเปิดเผยตัวเอง ฟ้าใสกับไม้หลงเชื่อจึงเป็นมิตรกับเขาแต่เพราะเห็นความเป็นสุภาพบุรุษ มีน้ำใจ อ่อนน้อม แถมยังแอบโรแมนติกด้วย ทำให้ฟ้าใสรู้สึกประทับใจและให้ความไว้วางใจ เธอจึงออกโรงโต้แทนเขา

แต่วันหนึ่งฟ้าใสก็หน้าแตกเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือ ร้อยตำรวจโทไตรวิช เศรษฐกิจเดชากุล ผู้หมวดฝ่ายปราบปรามคนใหม่ ที่เพิ่งย้ายมาประจำการ สภอ.กาศสมบูรณ์ ฟ้าใสจึงรวมหัวกับไม้แก้เผ็ดเขากลับ ไตรวิชไม่อยากเป็นศัตรูกับฟ้าใสและไม้ เขาจึงยอมยกธงขาว แต่ฟ้าใสไม่ยอมยกโทษให้เขาง่ายๆ ยังหาทางกลั่นแกล้งเขาเพื่อความสะใจ ไตรวิชอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของคนในหมู่บ้านจึงยอมรับคำสั่งของฟ้าใส จนชาวบ้านบางคนถึงกับจะยกลูกสาวให้ แต่ไตรวิชก็ปฏิเสธและให้ข้อคิดแก่พ่อแม่เด็กให้ส่งเสริมการศึกษาให้ลูกดีกว่า





ความสนิทสนมระหว่างไตรวิชกับฟ้าใสที่ก่อตัวขึ้น ท่ามกลางอุปสรรคคือ ผู้ใหญ่คง พ่อหม้ายวัยดึก กับ เสี่ยไฮ้ หนุ่มใหญ่จอมเจ้าชู้ประจำหมู่บ้านที่ต่างหมายปองฟ้าใสอยู่และพยายามอวยรวย แข่งกันเพื่อจะเอาชนะใจฟ้าใส แต่เมื่อมีไตรวิชมาเป็นศัตรูหัวใจก็ร่วมมือกันหาทางกลั่นแกล้งไตรวิ ชหลายอย่าง เพื่อไม่ให้ไตรวิชไปมาหาสู่ฟ้าใส การสร้างความร้าวฉานคืองานของพวกเขา แต่ด้วยความฉลาดและจอมวางแผนของไตรวิชเอาคืนผู้ใหญ่คงและเสี่ยไฮ้จนราบคาบ

ชิดชัยตามเจอไตรวิชและให้อาหลิวมาตาม ไตรวิชตัดสินใจกับไปบ้านแต่จ้างฟ้าใสให้เป็นเมียเพื่อจะได้มีโอกาสออกมาจาก บ้านอีก ฟ้าใสไม่ยอมไตรวิชบอกว่าจะได้เอาเงินไปเรียนปริญญาโท แล้วจะได้เอาไหมไปขายให้กับบริษัทด้วย และตกลงว่าจะเป็นแค่จดทะเบียนกันเฉยๆ ฟ้าใสจึงตกลงเพื่อจะได้เรียนแล้วกลับมาพัฒนาหมู่บ้านต่อ ไตรวิชจึงบอกให้พ่อแม่เธอได้รับรู้ก่อนที่จะขอแต่งงาน พวกเขารู้สึกใจหายที่ฟ้าใสต้องจากบ้านเกิดไปอีกครั้งหลังไปเรียนในกรุงเทพฯ จนจบมาแล้วครั้งหนึ่ง และก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะพวกเขาเชื่อที่ว่าการได้เป็นสะใภ้ของครอบครัวชาว จีนนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก และเท่าที่ฟังไตรวิชพูดถึงครอบครัวแล้ว ทั้งสองเชื่อว่างานนี้ฟ้าใสเหมือนเข้าสู่สมรภูมิรบ จึงย้ำเตือนฟ้าใสว่าให้ใช้ "ความอดทน" และ "ความดี" เพราะจะเป็นเกราะกันภัยและทำให้ชนะกับอุปสรรคได้

ไอ้ไม้รับปากกับฟ้าใสว่าจะเลี้ยง เจ้านำโชค และ เจ้านำชัย ไก่คู่ที่ไตรวิชได้รับมาจากชาวบ้านที่ซาบซึ้งในบุญคุณที่เขาช่วยเหลือ และจะคอยดูแล ดาวเรือง เพื่อนสนิทของฟ้าใสที่ต้องอยู่กับ พะยอม ผู้เป็นแม่ตามลำพัง ซึ่งไอ้ไม้แอบหลงรักสาวรุ่นพี่ แต่ไม่เคยจีบสำเร็จ เพราะพะยอมใช้ฤทธิ์มีดบินสะกัดความรักของหนุ่มน้อยขาแว้นไว้ได้ตลอดด้วยความ หวงลูกสาว

ด้านเจ้าสัวเทียนกังวลว่าก้อนเนื่อเล็กๆเท่าเม็ดถั่วเขียวในสมองของเขา ที่เคยทำให้เขาปวดศรีษะบ่อยๆ เมื่อหลายปีก่อนจนอาหลิวต้องแอบพาเขาหนีไปรักษาที่เมืองนอก มันจะกำเริบหรือถึงขั้นคร่าชีวิตเขาไปวันไหน เรื่องนี้เจ้าสัวเทียนกับอาหลิวสัญญากันว่าจะไม่บอกให้ลูกๆรู้เพราะไม่อยาก ให้เป็นกังวล เจ้าสัวจึงยอมให้ไตรวิชกลับมาแล้วก็พาเมียมาด้วย แต่เพราะเจ้าสัวเทียนมีแผนที่จะจับคู่ให้ ไตรวิชกับ อรณิชา หญิงสาวสวยทันสมัยและกิริยามารยาทงาม ลูกสาวของเจ้าสัวลี และ นางเข็มทอง เจ้าของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อดัง โดยที่ไม่รู้ความจริงเลยว่าธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าของเจ้าสัวลีนั้นกำลังจะ ถูกเปลี่ยนมือ หายไม่มีใครมาช่วยพยุงฐานะ

เจ้าสัวรู้แค่ว่าฟ้าใสเป็นลูกของชาวนาธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียง ยิ่งคิดก็ยิ่งช้ำใจเขาตั้งใจจะให้บทเรียนกัลฟ้าใสอย่างสาสม ทำทุกอย่างเพื่อทวงไตรวิชกลับคืนมา หาวิธีปราบสะใภ้เถื่อนอย่างฟ้าใสให้เด้งออกไปจากตระกูลของเขาให้เร็วที่สุด แต่ฟ้าใสกลับสามารถรับมือกับเจ้าสัวได้ทุกรูปแบบ และยิ่งเจ้าสังจงเกลียดจงชังฟ้าใสเท่าไหร่ อาหลิวก็ยิ่งรักและแอบเชียร์ฟ้าใสอยู่ในใจเพิ่มมากขึ้นและอาหลิวมั่นใจว่า ไตรวิชจะมีความสุขไปทั้งชีวิต แถมหล่อนกับสามีก็สามารถจะฝากผีฝากไข้เอาไว้ได้ ต่างกับสะใภ้ไฮโซทั้งสองที่เจ้าสัวเทียนเลือกให้ลูกชาย ด้วยความภาคภูมิใจ

เรืองริน ดาราสาวมากฝีมือและจอมบทบาท ชีวิตของเรืองรินนั้นมีแต่งานกับพ่อแม่ และญาติพี่น้อง แม้ว่าจะแต่งงานแล้วแต่เรืองรินก็ยังไม่เคยทิ้งงานแสดง เธอไม่เคยมีเวลาดูแลเอาใจไตรเทพ แม้แต่ยามว่างเรืองรินก็ยกเวลาทั้งหมดให้กับครอบครัวของเธอ ส่วนวัลลภานั้นเป็นแม่บ้านที่ดีทุกกระเบียดนิ้ว ภายนอกดูใสซื่ออาโนเนะ แต่พอหึงขึ้นมาเธอจะกลายร่างเป็นนางกระทิงดุที่พร้อมจะไล่ขวิดชะนีทุกนางที่ พาพัวพันกับไตรภูมิ ไม่เว้นแม้แต่อาม่าและอาซิ้มแฟนคลับมวยไท้เก๊กของไตรภูมิ

ไตรวิชจับได้ว่าเจ้าสัวมีกิ๊ก เจ้าสัวเทียนตกใจแต่ไตรวิชบอกถ้าพ่อไม่เลิกแกล้งฟ้าใสเรื่องก็จะถึงหูอาหลิว เจ้าสัวเทียนจำต้องถอยยอมรับปากเพื่อเอาตัวรอด แต่เมื่อพ่อแม่ของฟ้าใสมาเยี่ยมที่บ้านก็ไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากเจ้า สัวเทียน ไอ้ไม้จึงขออยู่กับฟ้าใสเพื่อช่วยเหลือ ซึ่งอาหลิวก็ยินดี

เรืองริน และวัลลภาไม่ถูกชะตากับฟ้าใสตั้งแต่แรกเห็นเพราะเกรงว่าหากเจ้าสัวเทียนยอม รับฟ้าใสเข้ามาเป็นสะใภ้ด้วยความเต็มใจ สมบัติก็จะถูกแบ่งส่วนไปให้กับฟ้าใส จึงหาทางกลั่นแกล้งฟ้าใสทุกอย่าง ยิ่งฟ้าใสทำดีเท่าไหร่ยิ่งทำให้ทั้งสองหมั่นไส้และอิจฉาที่ใครๆต่างก็เริ่ม รักฟ้าใสขึ้นมา โดยเฉพาะไตรเทพที่มักจะเข้าไปใกล้ชิดสนิมสนมกับฟ้าใสเพราะเห็นในความน่ารัก จริงใจของเธอ ซึ่งต่างกับภรรยาอย่างเรืองริน จึงสร้างความไม่พอใจให้กับเรืองรินมาก เธอจึงหาเรื่องใส่ร้ายและพยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างไตรวิชและฟ้าใสด้วย การร่วมมือกับอรณิชาที่ต้องการจะจับไตรวิชอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้ผลไตรวิชและฟ้าใสเริ่มระหองระแหงกัน เธอน้อยอกน้อยใจที่เห็นเขาสนิทชิดใกล้กับอรณิชาออกนอกหน้า

เจ้าสัวลีและนางเข็มทองบังคับขู่เข็ญให้หล่อนเร่งผูกไมตรีกับไตรวิชให้ เร็วที่สุด เพื่อจะได้แต่งงานเร็วๆ จะได้มีคนประคองฐานะ และไม่มีใครรู้ว่าอรณิชานั้นมี โอห์ม เป็นคนรักอยู่แล้ว แต่อรณิชาก็ต้องหงุดหงิดรำคาญใจกับไอ้ไม้ที่คอยป่วนกวนใจเพราะเห็นอรณิชาทำ ตัวชิดใกล้กับไตรวิชเกินไป ในขณะที่แพนเค้กซึ่งเหม็นขี้หน้าไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วคอยเออออตามอย่าง ประจบประแจง พอเห็นว่าแพนเค็กคือคนที่อยู่ข้างหล่อน จึงจ้างให้แพนเค้กเป็นซ้อแปดนักข่าวหัวเห็ด ที่คอยรายงานความเคลื่อนไหวของฟ้าใสกับไตรวิช แต่แพนเค้กก็แอบถ่ายโอห์มแฟนหนุ่มอรณิชาที่แอบมาเยี่ยมตอนที่หล่อนบอกโอห์ม ว่าจำเป็นต้องแต่งงานเพื่อพยุงฐานะให้พ่อ แม้จะท้องกับโอห์มแล้วทั้งสองแสดงความรักต่อกัน โดยไม่รู้ว่ามีคนแอบถ่ายคลิปเอาไว้ แพนเค้กมองหาลู่ทางทำเงินให้ตนเองได้อีกทาง

แต่แล้วเรื่องวุ่นวายก็ทำให้เจ้าสัวเนื้องอกกำเริบ จนต้องเข้าโรงพยาบาลและเมื่อตื่นมาก็พบว่าคนที่มาคอยดูแลเจ้าสัวตลอดคืออา หลิวกับฟ้าใส สะใภ้ที่เค้าจงเกลียดจงชัง บัดนี้ในใจของเจ้าสัวเทียนเริ่มสั่นคลอนเพราะความฉลาด ความขยัน

ไตรเทพได้มีโอกาสไปบึงน้ำงามแต่สิ่งที่ไตรเทพให้ความสนใจมากที่สุดคือ ฝีมือการทอผ้าไหมของคนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะลวดลายที่มาจากฝีมือของดาวเรืองที่ไตรเทพชื่นชอบเป็นพิเศษ จนไตรเทพจ้างเธอให้ไปออกแบบลวดลายผ้าไหมกับไหมทองสยาม พะยอมเห็นด้วยให้ไปทำงานกับไตรเทพ โดยไม่ห่วงว่าสุขภาพตัวเอง เจ้าสัวเทียนปฏิเสธเสียงแข็งที่จะรับดาวเรืองเข้ามาอยู่ร่วมชายคา แต่เมื่อเห็นฝีมือของดาวเรืองก็ต้องยอมใจอ่อน

เจ้าสัวเทียนจึงให้ดาวเรืองเป็นผู้ออกแบบลวดลายผ้าไหมให้กับสินค้า ชุดใหม่ของไหมทองสยาม ดาวเรืองเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านก็ช่วยงานฟ้าใสเกือบทุกอย่าง ช่วยปรนนิบัติทุกคนที่อยู่ในบ้านโดยเฉพาะไตรเทพ จนอาหลิวก็อดคิดไม่ได้ว่าดาวเรืองเหมาะที่จะเป็นคู่ชีวิตของไตรเทพมากกว่า เรืองริน ไตรเทพก็ตอบแทนความมีน้ำใจของดาวเรืองด้วยการพาเธอออกไปเที่ยวอย่างที่เขา ไม่เคยได้ทำกับเรืองรินเลยเพราะเรืองรินไม่เคยมีเวลา ให้เขา

เจ้าสัวเทียนเริ่มหลงรักในตัวของฟ้าใสเตรียมให้เธอเข้าไปช่วยงานที่ บริษัท เรืองรินยังไม่วายอยากจะกำจัดฟ้าใส ด้วยการใส่ร้ายป้ายสีและสร้างสถานะการณ์จนฟ้าใสผิดในสายตาทุกคน จนเธอต้องพ้นจากบ้านเศรษฐกิจเดชากุล แต่สุดท้ายก็พยายามพิสูจน์ความจริงจนได้ แต่เหมือนทุกอย่างจะสายเกินไปเมื่องเธอรู้ว่าอดีตสามีนั้นกำลังตกอยู่ในภาวะ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก กับเรื่องที่จะต้องแต่งงานกับอรณิชา ฟ้าใสหนีกลับบ้าน

จากเหตุการณ์นั้นทำให้เจ้าสัวเทียนคิดมากจนเครียดช๊อคหมดสติ เนื้องอกในสมองเริ่มโตขึ้น อาหลิวจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เจ้าสัวเทียนเคยไปผ่าตัดเนื้องอกที่เมืองนอก มาก่อนให้ลูกๆได้รับรู้ และสารภาพว่าการป่วยครั้งที่ผ่านมาอาหลิวกับฟ้าใสต่างช่วยกันปิดบังทุกคนไว้ เพราะกลัวทุกคนจะเป็นกังวลจนไม่เป็นอันทำงาน

ฟ้าใสเมื่อเห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ก็รีบขึ้นมาที่กรุงเทพทันที เธอตกใจมากเมื่อรู้ว่าเจ้าสัวเทียนต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน และเปอร์เซ็นต์ความปลอดภัยหมอให้ไว้ 50/50 ฟ้าใสจึงคอยช่วยอาหลิวดูแลเจ้าสัวเทียนอย่างใกล้ชิด และภาวนาให้เจ้าสัวเทียนปลอดภัยฟื้นจากการผ่าตัดเจ้าสัวเทียนก็พบหน้าลูกชาย ของเขาทุกคนกับฟ้าใสอดีตสะใภ้ที่เขารังแครังคัดและ หาวิธีปราบเธอให้เด้งออกไปจากตระกูลมาโดยตลอด ส่วนสะใภ้ที่เขารักและเลือกให้กับลูกชายทุกคนกลับไม่ได้มายืนอยู่เคียงข้าง เขาเลยแม้แต่คนเดียว ฟ้าใสเมื่อเห็นว่าอาการของเจ้าสัวเทียนดีขึ้นจนกลับบ้านได้แล้ว เธอจึงขอลากลับบ้าน ก่อนกลับฟ้าใสอวยพรให้ไตรวิชมี..




» ที่มา : baanseries







Create Date : 05 มิถุนายน 2553
Last Update : 5 มิถุนายน 2553 12:31:59 น.
Counter : 466 Pageviews.

0 comments

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
มิถุนายน 2553

 
 
1
2
3
4
6
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30