☄ น้ำ...หัวใจของความงาม

น้ำเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่ดีที่สุดต่อมนุษย์ ร่างกายของคนเราโดยเฉพาะผู้หญิง มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่สูงถึง 70%

เมื่อร่างกายโดยเฉพาะผิวหน้าได้รับการบำรุงรักษาอย่างเพียงพอจากน้ำจะทำ ให้ใบหน้าชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน หากร่างกายเก็บน้ำได้ดีไม่ระเหยไปโดยเร็วจะทำให้ผิวคุณชุ่มฉ่ำสดชื่นเหมือน ผิวเด็ก และจะดีแค่ไหนว่าน้ำที่คุณได้รับนั้น เป็นน้ำแร่จากธรรมชาติใต้ทะเลลึกที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย

ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามหลายคนอย่าง ชู อูเอมูระ ก็ได้ให้นิยามถึงผิวที่งดงามในอุดมคติว่า นุ่มนวลดุจกลีบดอกไม้ที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำ จึงเป็นที่มาของปรัชญาความงามสำคัญของ ชู อูเอมูระ ที่ว่าน้ำคือหัวใจที่สำคัญของความงาม เป็นแรงบันดาลใจให้เขาได้เสาะแสวงหาน้ำที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของตัวเอง นี่จึงเป็นที่มาของการค้นพบ น้ำแร่ดีพซีวอเตอร์จากใต้ทะเลลึก ที่คัดสรรและพิสูจน์แล้วว่าเป็นน้ำชั้นเลิศสำหรับการบำรุงผิว






มหัศจรรย์น้ำแร่

น้ำแร่ดีพซีวอเตอร์ มีกำเนิดจากน้ำแข็งจากขั้วโลกที่ละลายและได้ดำ ดิ่งสู่ทะเลลึก กลายเป็นกระแสน้ำที่เดินทางพัดเวียนในห้วงมหาสมุทรต่างๆ กว่า 2,000 ปี และถูกค้นพบที่แหลมมุโรโตะ จังหวัดโกจิ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เป็นน้ำแร่จากใต้ทะเลลึก 200 เมตร ระดับที่ลึกเกินกว่าแสงอาทิตย์และมลพิษจะกล้ำกราย ทำให้ยังคงความบริสุทธิ์และอุดมด้วยแร่ธาตุกว่า 60 ชนิด เป็นผลให้ดีพซีวอเตอร์จึงเข้ากับผิวได้ดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูแลผิว


คุณประโยชน์ที่ได้จากน้ำแร่


    1.เพิ่มพลังงานให้กับผิว ทำให้สวยสมบูรณ์แบบมากขึ้น ทำให้ผิวทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและเกิดปัญหาผิวน้อยลง
    2.เพิ่มพูนความต้านทานแก่ผิว ช่วยให้มีเอนไซม์ปกป้องผิวให้มากขึ้นถึง 5 เท่า ช่วยปกป้องผิวจากการรุกรานภายนอก และป้องกันการสูญเสียน้ำภายในผิว ลดภาวะการขาดน้ำของผิว
    3.ผิวสร้างความชุ่มชื้นให้กับตัวเองได้ ทำให้ผิวจะชุ่มชื้น นุ่มนวล ละเอียด กระจ่างใส
    4.มีความเสถียรสูง (อยู่ตัวสูง ไม่สลายตัวง่าย)

จากการที่น้ำแร่ดีพซีวอเตอร์ เป็นน้ำแร่เข้มข้นมีแร่ธาตุกว่า 60 ชนิด โดยมีแร่ธาตุหลักๆ ที่สำคัญคือ

    - แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่มากที่สุดในร่างกายของคน สำหรับผิวแคลเซียมช่วยสร้างความแข็งแรงของการยึดของเซลล์ผิวที่ชั้นนอก (Stratum Comeum) จึงช่วยควบคุมการคายตัวของน้ำมันในผิว (Lipids) และช่วยส่งเสริมกระบวนการผลัดเซลล์ผิว พร้อมสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
    - โซเดียม ในยุโรปสมัยกลาง โซเดียมนั้นใช้เป็นยาช่วยรักษาอาการปวดศีรษะ สำหรับผิวโซเดียมช่วยรักษาสมดุลของเซลล์ด้วยการรักษาสมดุลของความดัน การดูดซึมน้ำภายในเซลล์ และค่าความเป็นกรด/ด่าง
    - แมกนีเซียม มีอยู่ในร่างกายในรูปของเกลือ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญคือ มีส่วนร่วมในกระบวนการสันดาป การสร้างโปรตีนและรักษาสุขภาพที่ดีของร่างกาย สำหรับผิวแมกนีเซียมช่วยสร้างกรดอะมิโนและโปรตีนกระตุ้นเอนไซม์ที่ช่วยขจัด พิษ และกระบวนการสร้างพลังงานของผิว
    - โปแตสเซียม มีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบประสาท และการรักษาความสมดุลของการดูดซึมระหว่างเซลล์ สำหรับผิวโปแตสเซียมช่วยรักษาความสมดุลของเซลล์ผิว






แต่งสวยด้วยน้ำแร่

มาแต่งหน้าให้สวยด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำแร่เข้มข้นกันดีกว่า
    1. สำหรับทุกสภาพผิว เพื่อผิวสุขภาพดี ดีพซีมอยส์เจอร์ด้วยส่วนผสมของน้ำแร่ดีพซีวอเตอร์ที่ประกอบด้วยสารสกัดจาก สาหร่าย 3 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำเงิน สีแดง และสีน้ำตาล
    2. สำหรับผิวที่เริ่มมีริ้วรอย แรกเริ่มด้วยเอชเบตา-จี เป็นส่วนผสมของเบตา กลูแคน ที่เป็นยีสต์ขนมปังที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นกระชับให้ผิว พร้อมส่วนผสมของวิตามิน A C E เพิ่มการบำรุงผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส
    3. สำหรับผิวขาวที่ต้องการความกระจ่างใส ปราศจากจุดด่างดำ ด้วยไวท์รีคัฟเวอรีเอ็กส์ เป็นสารสกัดจากซากุระ และพรุนสกัด เพื่อลดเลือนจุดด่างดำ และเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวขาว
    4. สำหรับผิวที่มีริ้วรอยมากขึ้น ขาดความกระชับ ด้วยไฟโตแบล็กลิฟต์ พลังแห่งส่วนผสมสีดำจากธรรมชาติเพื่อผิวที่ร่วงโรยและมีริ้วรอยมากขึ้น ด้วยส่วนผสมของชาดำหมัก น้ำตาลดำ เปลือกลิ้นจี่
    5. เพื่อความสดชื่น ผ่อนคลาย น้ำแร่ดีพซีในรูปแบบสเปรย์พร้อมส่วนผสมของสมุนไพรอะโรมาเทอราพี เพื่อโปรยปรายเติมความสดชื่นเย็นฉ่ำและบำรุงผิวให้ใบหน้า ร่างกาย เส้นผมระหว่างวัน คุณสมบัติความพิเศษของดีพซีวอเตอร์ บริสุทธิ์ เพราะปลอดจากมลภาวะและเชื้อโรคต่างๆ ที่ใต้ทะเลลึกมีอุณหภูมิต่ำตลอดปี อุดมด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อผิวและร่างกาย และสเปรย์น้ำแร่ยังใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอื่นร่วมด้วย เช่น ดอกไม้ และผลไม้นานาพรรณ เพื่อคุณประโยชน์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผิว มีให้เลือกหลากกลิ่นของพืชพรรณธรรมชาติจากประเทศฝรั่งเศส กลิ่นหอมละมุนเพื่อความผ่อนคลาย

นอกจากนี้ ยูจิ อะซาโน International Chief Make-up Artist ที่ทำงานในแวดวงนี้มาเกือบ 20 ปี ได้แนะนำเคล็ดลับการแต่งหน้าในปี 2009 ว่า เทรนด์การแต่งหน้าจะกลับมาเป็นแนวสวยใสตามธรรมชาติด้วยสีโทนอ่อนหวาน หรือจะเลือกแต่งหน้าตามสไตล์ที่คิดว่าเหมาะกับเรา โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเทรนด์มากเกินไป

หากสาวใดที่ไม่อยากแต่งหน้ามาก ต้องการแต่งหน้าแบบสวยใสจริงๆ ก็ขอให้เน้นเฉพาะพวงแก้มอย่างเดียว โดยให้แก้มแดงอมชมพูแบบสาวสุขภาพดีมีเลือดฝาด และทาลิปกลอสบางๆ บนริมฝีปาก เท่านี้คุณสาวๆ ก็จะทำใหหน้าดูสดใสมีชีวิตชีวาได้โดยไม่ต้องเน้นส่วนอื่นของใบหน้าเลยก็ได้

ที่สำคัญก็คือ อย่าลืมดูแลผิว เพราะผิวคือสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกับการแต่งหน้า เนื่องจากการแต่งหน้าเปรียบเสมือนการสวมเสื้อผ้า และการดูแลผิวเปรียบเสมือนการอาบน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่ขาดไม่ได้ทั้งคู่

เขากล่าวว่า ความงามในความหมายของเขาก็คือ ความมีสุขภาพดี และคิดว่าความงามคือวิธีเสกสรรค์ภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่ดีที่สุด





ขอบคุณมูลดี ๆ จาก posttoday ค่ะ ถ้าต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเชิญคลิ๊กเข้าไปดูตามลิ้งที่ทำไว้ได้เลยคะ




คำหวาน









Create Date : 08 ตุลาคม 2551
Last Update : 17 เมษายน 2553 13:08:51 น.
Counter : 442 Pageviews.

0 comments

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
ตุลาคม 2551

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog