☄ คุณรู้จัก แปรงแต่งหน้า คู่ใจดีพอแล้วหรือ?

แน่ใจแล้วหรือว่าคุณรู้จัก แปรงแต่งหน้า คู่ใจดีพอ เพราะไม่ใช่แค่เครื่องสำอางเท่านั้นที่สำคัญ แต่การเลือกแปรงอย่างใส่ใจจะช่วยดับเบิ้ลผลลัพธ์ความงามขึ้นมาได้อีกมากที เดียว





ชนิดของขนแปรง

1. ขนแปรงธรรมชาติ (ขนสัตว์)

ขนสัตว์ที่นิยม ได้แก่ กระรอก ม้า เซเบิล โคลินสกี แพะ วัว และหมู อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นการทารุณสัตว์ เพราะช่างทำแปรงจะเลือกใช้ขนที่ผลัดตามธรรมชาติและใช้เฉพาะปลายขนเพื่อให้ ได้ขนแปรงที่นุ่มนวลแบบสุดๆ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแปรงเหล่านี้ถึงได้แพงนัก แต่รับรองว่าใช้แล้วไม่ผิดหวัง เพราะขนสัตว์จะดูดเครื่องสำอางประเภทฝุ่นได้ดีเป็นพิเศษ



2. ขนแปรงสังเคราะห์


สำหรับสาวที่มีงบไม่มากนัก ลองเลือกแปรงที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์อย่างเทคลอนและไนลอน ซึ่งมีความนุ่มใกล้เคียงขนสัตว์มากที่สุด แต่ถึงอย่างไรการสปริงตัวให้ขนแปรงคืนรูปอาจสู้ขนสัตว์ไม่ได้ เห็นได้ชัดจากขนแปรงที่จะมีการหักงอเสียรูปได้ง่ายกว่า




วิธีเลือกแปรง


   • ลองปัดขนแปรงบนหลังมือ (ถ้าเป็นบนใบหน้าได้ก็จะดีมาก) เพื่อทดสอบความนุ่มของขนแปรง

   • แปรงที่ดีควรมีด้ามจับขนาดเหมาะมือ ไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป

   • ขนแปรงควรมีรูปทรงที่สวยงาม ไม่หักงอ และไม่หลุดจากตัวยึดแปรงง่ายๆ






ประเภทของแปรง

1. Powder Brush


หมด สมัยทาแป้งหนาเตอะแล้ว นาทีนี้เมคอัพอาร์ติสท์เขาใช้แปรงพุ่มกลมขนาดใหญ่ลงแป้งฝุ่นทั่วใบหน้าให้ดู เบาบางเป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบด้ามยาว (Face Brush) และด้ามสั้น (KabukiBrush) เลือกได้ตามถนัด

How to: เทแป้งฝุ่นใส่บนฝาเล็กน้อย แล้วใช้ส่วนปลายของขนแปรงแตะวนเป็นวงกลมก่อนนำมาปัดวนเป็นวงกลมทั่วใบหน้า



2. Blusher Brush / Cheek Brush


เลิก ใช้แปรงอันจิ๋วที่แถมมาในตลับ แล้วหันมาใช้แปรงปัดแก้มที่มีลักษณะค่อนข้างแบนและมีปลายกลมมนแทนดีกว่า ถ้าต้องการให้สีของบลัชออนกระจายตัวเป็นธรรมชาติ ควรเลือกแปรงที่มีขนาดใหญ่พอดีกับแก้ม เพราะถ้าเล็กเกินไปอาจทำให้เกลี่ยสีได้ไม่ทั่วจนแลดูเป็นจ้ำได้

How to: ใช้ หน้าแปรง (ด้านแบน) แตะบลัชออน จากนั้นวางแปรงในแนวนอนแล้วปัดเฉียงขึ้น แต่ถ้าอยากให้ดูมีเลือดฝาดให้ตั้งแปรงขึ้น (ด้ามแปรงชี้ลงพื้น) แล้วแตะแปรงบนโหนกแก้มเบาๆ/p>

3. Angle Contour Brush


มี ลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับแปรงปัดแก้มต่างกันที่ปลายจะมีหน้าตัดเฉียง แปรงแบบนี้เหมาะกับมือโปรมากกว่า เพราะใช้ในการเฉดดิ้งและไฮไลท์แก้ไขรูปหน้าได้ดี

How to: ใช้หน้าตัดของแปรงแตะเฉดดิ้งหรือลงไฮไลท์ตามแนวกระดูกต่างๆ



4. Foundation Brush


สาวๆที่ชอบลงรองพื้นด้วยนิ้ว เปลี่ยนมาใช้แปรงเถอะ แปรงที่มีลักษณะแบนและปลายมนจะช่วยเกลี่ยครีมรองพื้นให้ดูเบาบางเสมอกันทั้งใบหน้า แถมยังช่วยประหยัดครีมรองพื้นด้วย

How to: เท ครีมรองพื้นบนหลังมือแล้วใช้หน้าแปรง (ด้านแบน) แตะครีมรองพื้นมาเกลี่ยให้กระจายออกไปตามกรอบหน้าก่อนใช้ด้านปลายมนตกแต่ง บริเวณร่องปีกจมูกปาก และใต้ตา



5. Eye Brush


แปรงทาอายแชโดว์มีทั้งชนิดกลมและแบน โดยชนิดแบนจะใช้เกลี่ยเป็นบริเวณกว้าง ส่วนชนิดกลมจะใช้เน้นสีเฉพาะจุด เช่น ชิดขอบตา ชั้นพับตา

How to: ใช้ แปรงแบนไล้สีให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นเน้นน้ำหนักสีหรือไล่สีด้วยแปรงกลม หรือถ้าอยากแต้มสีที่ขอบตาล่างและหัวตาก็ให้ใช้ปลายแปรงกลมเช่นกัน



6. Liner Brush


ฮิตกรีดอายไลเนอร์ขนาดนี้คงต้องมีไว้สักอัน ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าชอบการวาดเส้นขอบตาแบบไหน ถ้าชอบเส้นเรียวเล็กให้เลือกเป็นแบบหัวกลมปลายแหลม แต่ถ้าอยากได้เส้นใหญ่หรือแต่งตาแนวสโมกกี้อายส์ให้ใช้แบบแบนปลายตัดจะดีกว่า

How to: สำหรับแปรงกลม แต้มอายไลเนอร์ชนิดน้ำหรือเจล แล้วค่อยๆ ลากเส้นให้ชิดขอบตาเหมือนการเขียนดินสอส่วนแปรงแบน ให้แต้มอายไลเนอร์แล้วใช้ปลายตัดกดให้เส้นต่อๆ กันไป หรือจะลากเป็นเส้นก็ง่ายเหมือนกัน



7. Lip Brush


สารพัดประโยชน์ ใช้ลงสีให้ทั่วริมฝีปาก ตัดเส้นขอบปากให้คมกริบใช้ผสมสีลิปสติก และยังใช้แต้มลิปสติกที่ใกล้หมดได้อีกด้วย

How to: ใช้ด้านข้างของพู่กันตัดเส้นขอบปากก่อนลงสีให้ทั่วเรียวปาก แล้วจะใช้สีอื่นทาทับอีกครั้งเพื่อเป็นการผสมสีแบบง่ายๆ ก็ได้



8. Brow Brush
ควรเลือกที่มีลักษณะเรียวเล็กและเฉียงเล็กน้อย

How to: หลังจากวาดคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วแล้ว ให้นำแปรงมาปัดเส้นคิ้วเพื่อให้แลดูนุ่มนวลเหมือนคิ้วจริง

9. Other Brush


ยัง มีแปรงหน้าตาไม่คุ้นเคยอีกมายมายสำหรับใช้ประโยชน์เฉพาะด้านแบบมืออาชีพ เช่น แปรงรูปพัดใช้สำหรับเกลี่ยแป้งต่างๆ ให้ดูบางเบา แปรงรูปครึ่งวงกลมสำหรับปัดแป้งฝุ่นให้กระจายทั่วทั้งใบหน้า







วิธีทำความสะอาดแปรง


   • จุ่มแปรงลงในน้ำอุ่นให้พอเปียก ระวังอย่าให้น้ำไหลเข้าบริเวณด้ามจับ เพราะจะทำให้กาวที่ยึดขนแปรงเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและหลุดร่วงได้ง่าย

   • ใช้แชมพูสระผมเด็กค่อยๆ ลูบขนแปรงเบาๆ ตามทิศทางของเส้นขน

   • ตั้งแปรงแนวดิ่งให้หัวแปรงทิ่มลง แล้วเปิดให้น้ำไหลผ่านจนสะอาด

   • จากนั้นซับแปรงบนผ้าขนหนูเบาๆ เพื่อจัดรูปทรงแปรงให้อยู่ในสภาพเดิม แล้วปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ (ห้ามตากแดด) โดยวางพาดกับโต๊ะ ให้ขนแปรงยื่นพ้นขอบโต๊ะออกมา

   • ห้ามหงายแปรงให้แห้งในถ้วยเด็ดขาดเพราะน้ำจะไหลเข้าบริเวณด้ามจับ และถ้าปล่อยให้แห้งโดยการทิ่มขนแปรงลงในถ้วยก็จะทำให้ขนแปรงบานเสียรูปทรง เช่นกัน




Tips


   - ในเวลาเร่งด่วนอาจใช้น้ำยาทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าโดยเฉพาะเช็ดขนแปรงก่อน การใช้งานได้ทันที แต่ทางที่ดียอมเสียเวลาล้างตามขั้นตอนจะดีที่สุด

   - ควรทำความสะอาดแปรงและอุปกรณ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง

   - หลังจากใช้แปรงทุกครั้ง ให้นำทิชชูวางบนฝ่ามือ แล้วเคาะส่วนที่ยึดแปรงบนสันมือเบาๆ เพื่อให้ฝุ่นเครื่องสำอางหลุดออก หรือเช็ดครีมเครื่องสำอางด้วยทิชชูก่อนเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋าหรือซอง

   - วิธีเก็บรักษาแปรงและพู่กันที่ถูกต้องคือ การเก็บไว้ในกระเป๋าที่ออกแบบมาสำหรับเก็บแปรงโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง แสงแดด และที่สำคัญคือช่วยให้แปรงใช้งานได้นาน ไม่เสียรูปทรง





» ที่มา : women


บทความที่เกี่ยวข้อง

☄ การแต่ง " ริมฝีปาก "
☄ การแต่ง รูปดวงตา
☄ เทคนิคการแต่งหน้า
☄ การแต่งหน้าขั้นพื้นฐาน











Create Date : 18 กันยายน 2551
Last Update : 17 เมษายน 2553 12:53:41 น.
Counter : 526 Pageviews.

0 comments

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
กันยายน 2551

 
1
2
3
6
7
8
9
10
12
14
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog