☄ เซลลูไลท์วายร้ายของคุณผู้หญิง?

ในสายตาคนทั่วไป การพิจารณารูปร่างใครสักคนว่า จะดีหรือได้สัดส่วนมีเกณฑ์อย่างไร? เพราะหากมีเกณฑ์เหมือนดารา หรือนางแบบในปัจจุบัน คาดว่าผู้หญิง 80% อาจไม่ผ่าน แม้ว่าค่าดัชนีมวลกาย (BMI) หรือความสมดุลระหว่างน้ำหนักและส่วนสูง จะต่ำกว่ามาตรฐานอยู่แล้วก็ตาม ซึ่งกระแสนิยมหุ่นผอมเพรียวอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทำให้หลายคนกังวลเรื่องรูปร่างเกินพอดี


หากย้อนกลับไปสมัยอารยธรรมโบราณ เช่น กรีก โรมัน ศิลปกรรมมากมายสะท้อนภาพลักษณ์ ผู้หญิงที่สวยงามต้องมีรูปร่างท้วม ต่อมาความคิดนี้ได้เปลี่ยนไป เมื่อประเทศตะวันตกได้รับอิทธิพลแฟชั่น ผู้หญิงใส่เสื้อผ้าเปิดเผยเนื้อหนังมากขึ้น เกิดการเปรียบเทียบรูปร่าง กำหนดรูปร่างในอุดมคติ จนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิง รุ่นใหม่กลัวความอ้วนมากกว่าการเจ็บป่วย แม้คนที่น้ำหนักปกติจนถึงขั้นผอมก็หันมาควบคุมน้ำหนัก ขจัดไขมันส่วนเกิน ซึ่งล่าสุดเกิดกระแสขจัดเซลลูไลท์ เพื่อให้สวยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น



ไขมันส่วนเกิน VS เซลลูไลท์ ?

อันดับแรกต้องเข้าใจว่า ไขมันส่วนเกินกับเซลลูไลท์ ไม่เหมือนกัน ไขมันส่วนเกินหมายรวมถึง ไขมันที่มากเกินปกติ อาจสะสมอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังทั้งลึกและตื้น รวมถึงสะสมที่อวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ภาวะนี้เกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ถ้ามีไขมันส่วนเกินสะสมไปทั่วร่างกาย สามารถเห็นส่วนโค้งของก้อนไขมันสะสมยื่นนูนชัดเจน ซึ่งผิวหนังบริเวณนั้นก็อาจเรียบตึง และที่สำคัญสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ปัญหาข้อเสื่อม ปวดหลัง เส้นเลือดขอด โรคตับ แต่สำหรับคำว่าเซลลูไลท์ ที่ใช้เรียกกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ใช่ศัพท์บัญญัติทางการแพทย์ หรือทางวิทยาศาสตร์ เป็นการเรียกเซลล์ไขมันที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ในชั้นล่างของผิวหนัง ผิวหนังบริเวณนั้น จึงถูกดันให้นูนขึ้น ก่อให้เกิดผิวลักษณะเป็นคลื่นตะปุ่มตะป่ำคล้ายผิวเปลือกส้ม สามารถพบได้ทั้งคนอ้วนและไม่อ้วน โดยเฉพาะผู้หญิงจะพบมากบริเวณต้นขาและสะโพก เซลลูไลท์ไม่ก่อให้เกิดผลเสีย ทางสุขภาพแต่อย่างใด ยกเว้นเรื่องความสวยงามหรือความมั่นใจเท่านั้น



ทำไมถึงเกิดเซลลูไลท์ ?

ชั้นใต้ผิวหนังส่วนใหญ่ประกอบด้วย เซลล์ไขมันและเนื้อเยื่อ ซึ่งเซลล์ไขมันจะเรียงกันเป็นกลุ่มก้อน (fat lobule) มากมาย โดยมีเส้นใยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหุ้มรอบๆ อีกที เมื่อเรารับประทานไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป เซลล์ไขมันเหล่านี้ ก็จะพองตัวและอาจขยายขึ้นได้มากกว่า 3 เท่าของขนาดปกติ เนื้อเยื่อไขมันจึงดันตัวออกนอกกรอบ แต่เส้นใยที่ขึงอยู่นั้น ไม่ยืดตาม ทำให้เกิดการรัดตึง ในบางแห่งจนเห็นริ้วคลื่นบนผิวหนังได้ โดยเฉพาะกับผู้หญิง ที่มีผิวบางกว่าผู้ชาย จะเห็นรอยได้ชัดเจน และเมื่อมีการสะสมมาก เซลล์ไขมันที่ก่อตัวผิดปกติ จะเบียดหลอดเลือดและท่อน้ำเหลือง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สม่ำเสมอ การถ่ายเทของเสียผ่านท่อน้ำเหลือง ระบบแลกเปลี่ยนสารต่างๆ ระหว่างเซลล์เสียสมดุล โครงสร้างเนื้อเยื่อของเซลล์ใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพ และขาดความกระชับยืดหยุ่น



วิธีขจัดไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์

วิธีลดไขมันส่วนเกินที่ได้ผลดีที่สุดคือ การออกกำลังกายและควบคุมอาหาร แต่สำหรับปัญหาเซลลูไลท์ แม้ว่าควบคุมอาหาร ก็ไม่สามารถขจัดได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงรูปร่าง สมส่วนที่ควบคุมอาหาร ก็ยังพบว่ามีเซลลูไลท์ ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยหลายด้านเกี่ยวข้อง เช่น พฤติกรรมการกิน พันธุกรรม ฮอร์โมน การตั้งครรภ์ การสูบบุหรี่ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยแปรรูปเนื้อเยื่อไขมัน ที่สะสมในร่างกายออกมาใช้เป็นพลังงาน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อในชั้นผิวหนัง ซึ่งจะเสริมความแข็งแรง เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น



ทางเลือกในการขจัดเซลลูไลท์

ปัจจุบันนี้สถานบริการความงาม เสนอวิธีลัดสำหรับคนที่ต้องการดูดี แบบประหยัดเวลา มีทั้งการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย ร่วมกับการนวดด้วยครีม และวิธีการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก เริ่มจากหลักการการทำงาน ของเครื่องมือนวดกระชับสัดส่วน คือ การอาศัยเทคนิคต่างๆ เช่น พลังงานความร้อน-เย็น คลื่นความถี่ต่ำ หรือแรงดูดสูญญากาศและการนวด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ลดการบวมน้ำ และช่วยให้ไขมันใต้ผิวหนัง จัดเรียงตัวใหม่อย่างมีระเบียบ ทำให้รู้สึกว่าผิวกระชับขึ้น ส่วนการใช้ครีมนวดกระชับสัดส่วน แม้ว่าจะมีบทความโฆษณา สรรพคุณของสารมากมายหลายชนิด แต่ก็ไม่สามารถหางานวิจัยที่เชื่อถือได้มาอ้างอิง จึงยังไม่มีข้อสรุปทางการแพทย์ ว่าสามารถสลาย หรือขจัดไขมันที่สะสมในร่างกายได้จริง อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบหลักของครีมเหล่านี้ มักมาจากสารสกัดจากพืชบางชนิด ซึ่งเชื่อว่ามีผลต่อเซลล์ไขมัน เช่น theophyline ที่พบมากในชา ส่วนผสมของคาเฟอีนที่พบในกาแฟ ชา ต้นโคล่า และ aminophyline ซึ่งใช้รักษาอาการหอบหืด เป็นต้น แม้ว่าการนวดที่ถูกวิธี สามารถกระตุ้นระบบน้ำเหลือง และทำให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้นจริง แต่การประสบความสำเร็จ ในการลดเซลลูไลท์ได้หรือไม่ คงยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้านของแต่ละบุคคล เพราะสุดท้ายอย่าลืมว่า ไม่ว่าจะใช้เทคนิคลดสัดส่วนแบบใด ไขมันส่วนเกินก็ยังคงอยู่ในร่างกาย เพียงแต่อาจเรียงตัวใหม่เท่านั้น



การแพทย์ทางเลือกประยุกต์เพื่อความสวยงาม

การแพทย์ทางเลือกที่ใช้รักษาโรคตั้งแต่อดีตได้รับ การประยุกต์มาใช้ ในเรื่องความสวยงามในยุคปัจจุบันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมโสเทอราปี (mesotherapy) และคาร์บอกซี- เทอราปี (carboxytherapy)

     • เมโสเทอราปี (mesotherapy) คิดค้นโดย นพ.ไมเคิล ฟิสโต ชาวฝรั่งเศส เมโสเทอราปี เดิมใช้รักษาอาการปวด อันสืบเนื่องมาจากปัญหาหลอดเลือด เป็นทางเลือกในรักษา โดยใช้ยาฉีดยาเข้าผิวหนังชั้นกลางโดยตรง เรียกว่า เป็นทางเลือกในการรักษา นอกเหนือจากการรับประทานยา แต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน มีแพทย์นำมาประยุกต์ใช้ในการเสริมสวย เพื่อสลายไขมันส่วนเกิน จนกลายเป็นที่นิยมในทวีปยุโรปและอเมริกาใต้ ซึ่งยาฉีดส่วนใหญ่จะเป็นวิตามิน สารสกัดจากพืช phosphatidylcholine หรือ deoxycholate ซึ่งเชื่อว่าสามารถช่วย ลดริ้วรอย ไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ ด้วยหลักการเดียวกันคือ ปรับปรุงระบบ ไหลเวียนโลหิต ซึ่งผลข้างเคียงของการฉีดคือ รอยฟกช้ำ อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยาของหลายประเทศ ยังไม่ได้รับรองความปลอดภัย และประสิทธิภาพของการรักษา เนื่องจากยาฉีดมาจากหลายแหล่ง และมีหลายขนาน ดังนั้น ผู้รับบริการจึงต้องใช้วิจารณญาณให้มาก โดยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และพึ่งพาแหล่งบริการที่ได้รับมาตรฐานเท่านั้น

     • คาร์บอกซีเทอราปี (carboxy-therapy) เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอน-ไดออกไซด์ในชั้นผิวหนัง ซึ่งเดิมทีใช้ร่วมกับการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เพื่อขยายพื้นที่ภายในบริเวณรอบๆ จุดที่จะทำการผ่าตัด เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนอวัยวะอื่นๆ แต่ด้านความสวยงาม เชื่อว่า การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านเข็มขนาดเล็ก จะกำจัดเซลล์ไขมัน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด แก้ไขปัญหาเซลลูไลท์ และผิวลาย มีรายงานวิจัยแสดงการตรวจชิ้นเนื้อไขมันใต้ผิวหนังภายหลัง การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พบว่าเซลล์ไขมันถูกทำลายโดยตรง และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต มายังบริเวณที่ก๊าซแทรกซึมไปขณะรักษา จึงช่วยแก้ไขปัญหาเซลลูไลท์และผิวแตกลาย วิธีนี้ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ว่า ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ยกเว้นหลังการฉีดจะรู้สึกอุ่น แสบและตึงๆ ผิวบริเวณชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และควรระมัดระวังในผู้มีปัญหาโรคปอด



ได้ผลจริงหรือไม่และเห็นผลนานเพียงใด ?

เป็นความจริงที่ว่า ในทางการแพทย์ไม่มีการรักษาใดที่จะได้ผลหรือปลอดภัย 100% เช่นเดียวกับวิธีขจัดเซลลูไลท์ ไม่ว่าจะอาศัยเครื่องมือนวด ใช้แรงมือนวด ครีมต่างๆ หรือกระทั่งการรักษาแบบทางเลือก ก็ใช่ว่าช่วยให้คุณมีหุ่นผอมเพรียวเหมือนนางแบบ หรือคำโฆษณา เพราะคนเรามีรูปร่างต่างกัน วิถีในการดำรงชีวิตต่างกัน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยทางจิตวิทยาเกี่ยวข้องอีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น ในการทดลองของแผนกศัลยกรรมพลาสติกที่ Bradford Royal Infirmary เวสต์ ยอร์คเชียร์ ประเทศอังกฤษ ทดสอบการขจัดเซลลูไลท์ ด้วยครีมกระชับสัดส่วน ด้วยการให้ผู้หญิงที่มีปัญหาเซลลูไลท์ 35 คน ทาครีมกระชับสัดส่วนโดยทาขาทั้งซ้ายและขวา วันละ 2 ครั้ง โดยผู้เข้าร่วมทดลองไม่ทราบว่า มีกลุ่มหนึ่งทาครีมธรรมดา (ยาหลอก) และอีกกลุ่มทาครีมกระชับสัดส่วน ปรากฏว่าค่า BMI และเส้นรอบวงของต้นขาทั้งสอง ก่อนและหลังการทาครีมกระชับสัดส่วน นาน 12 สัปดาห์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น ไม่แตกต่างจากการได้รับ ยาหลอก แต่ผู้หญิง 3 คนจากทั้งหมด รู้สึกว่าผิวกระชับขึ้น สรุปว่าการได้รับการรักษาวิธีใด วิธีหนึ่งอยู่ก็สามารถส่งผลดีต่อจิตใจ ดังนั้น ผู้ให้บริการจึงใช้วิธีต่างๆ หรือให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ใช้บริการ เพื่อสร้างกำลังใจในการขจัดเซลลูไลท์ เช่น คำแนะนำในการปรับปรุงการรับประทานอาหาร และความสำคัญของการออกกำลังกาย ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม การรักษาเพื่อขจัดไขมันส่วนเกิน และเซลลูไลท์ด้วยวิธีต่างๆ ไม่สามารถขจัดไขมันส่วนเกินให้หายขาดได้ หากปราศจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง ควบคู่กับการออกกำลังกาย ก็มีโอกาสที่เซลล์ไขมันจะขยายขนาด สู่สภาพเดิมหรือ มากขึ้นกว่าเดิม ส่วนปัญหาเซลลูไลท์ ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ ดังนั้น หากไม่หวังผลในด้านบุคลิกภาพ หรือรูปร่างเหมือนดารา นางแบบ ก็ไม่จำเป็นต้องรักษา การมีสุขภาพที่ดี เริ่มจากพื้นฐานเรื่องอาหาร และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพียงแค่นี้ ก็ทำให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส อ่อนวัยไปอีกหลายปี

และสำหรับสาวๆ ที่กำลังวิ่งตามกระแสแฟชั่นหุ่นผอมเพรียว ขอย้ำว่าไม่จำเป็นต้องมีสัดส่วนดูดี 100% คุณก็สามารถดูดีได้จากการแต่งกาย การเดิน ยืน นั่ง พูด และที่สำคัญความสามารถทางความคิด ซึ่งทำให้คนรอบข้าง ชื่นชมรักใคร่



คุณรู้ไหมว่า...

การลดไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขา หรือสะโพกด้วยวิธีอดอาหาร ไม่สามารถขจัดไขมันเฉพาะส่วนได้ นอกจากนี้ หากสูญเสียไขมันบริเวณนั้นเป็นเวลานาน ผิวหนังซึ่งเดิมยืดตามไขมันที่พอกตัวเกินจะหย่อนคล้อย ทำให้เกิดผิวหนัง ส่วนเกิน ดังนั้นการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักแบบ เห็นผลเร่งด่วนจึงไม่ดีต่อสุขภาพและรูปร่าง





» ที่มา : yourhealthyguide








Create Date : 01 เมษายน 2553
Last Update : 1 เมษายน 2553 22:49:03 น.
Counter : 468 Pageviews.

0 comments

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
เมษายน 2553

 
 
 
 
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
25
26
27
29
30
 
 
All Blog