☄ เซลลูไลท์วายร้ายของคุณผู้หญิง?
ไขมันส่วนเกิน VS เซลลูไลท์ ? อันดับแรกต้องเข้าใจว่า ไขมันส่วนเกินกับเซลลูไลท์ ไม่เหมือนกัน ไขมันส่วนเกินหมายรวมถึง ไขมันที่มากเกินปกติ อาจสะสมอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังทั้งลึกและตื้น รวมถึงสะสมที่อวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ภาวะนี้เกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ถ้ามีไขมันส่วนเกินสะสมไปทั่วร่างกาย สามารถเห็นส่วนโค้งของก้อนไขมันสะสมยื่นนูนชัดเจน ซึ่งผิวหนังบริเวณนั้นก็อาจเรียบตึง และที่สำคัญสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ปัญหาข้อเสื่อม ปวดหลัง เส้นเลือดขอด โรคตับ แต่สำหรับคำว่าเซลลูไลท์ ที่ใช้เรียกกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ใช่ศัพท์บัญญัติทางการแพทย์ หรือทางวิทยาศาสตร์ เป็นการเรียกเซลล์ไขมันที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ในชั้นล่างของผิวหนัง ผิวหนังบริเวณนั้น จึงถูกดันให้นูนขึ้น ก่อให้เกิดผิวลักษณะเป็นคลื่นตะปุ่มตะป่ำคล้ายผิวเปลือกส้ม สามารถพบได้ทั้งคนอ้วนและไม่อ้วน โดยเฉพาะผู้หญิงจะพบมากบริเวณต้นขาและสะโพก เซลลูไลท์ไม่ก่อให้เกิดผลเสีย ทางสุขภาพแต่อย่างใด ยกเว้นเรื่องความสวยงามหรือความมั่นใจเท่านั้น ทำไมถึงเกิดเซลลูไลท์ ? ชั้นใต้ผิวหนังส่วนใหญ่ประกอบด้วย เซลล์ไขมันและเนื้อเยื่อ ซึ่งเซลล์ไขมันจะเรียงกันเป็นกลุ่มก้อน (fat lobule) มากมาย โดยมีเส้นใยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหุ้มรอบๆ อีกที เมื่อเรารับประทานไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป เซลล์ไขมันเหล่านี้ ก็จะพองตัวและอาจขยายขึ้นได้มากกว่า 3 เท่าของขนาดปกติ เนื้อเยื่อไขมันจึงดันตัวออกนอกกรอบ แต่เส้นใยที่ขึงอยู่นั้น ไม่ยืดตาม ทำให้เกิดการรัดตึง ในบางแห่งจนเห็นริ้วคลื่นบนผิวหนังได้ โดยเฉพาะกับผู้หญิง ที่มีผิวบางกว่าผู้ชาย จะเห็นรอยได้ชัดเจน และเมื่อมีการสะสมมาก เซลล์ไขมันที่ก่อตัวผิดปกติ จะเบียดหลอดเลือดและท่อน้ำเหลือง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สม่ำเสมอ การถ่ายเทของเสียผ่านท่อน้ำเหลือง ระบบแลกเปลี่ยนสารต่างๆ ระหว่างเซลล์เสียสมดุล โครงสร้างเนื้อเยื่อของเซลล์ใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพ และขาดความกระชับยืดหยุ่น วิธีขจัดไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ วิธีลดไขมันส่วนเกินที่ได้ผลดีที่สุดคือ การออกกำลังกายและควบคุมอาหาร แต่สำหรับปัญหาเซลลูไลท์ แม้ว่าควบคุมอาหาร ก็ไม่สามารถขจัดได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงรูปร่าง สมส่วนที่ควบคุมอาหาร ก็ยังพบว่ามีเซลลูไลท์ ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยหลายด้านเกี่ยวข้อง เช่น พฤติกรรมการกิน พันธุกรรม ฮอร์โมน การตั้งครรภ์ การสูบบุหรี่ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยแปรรูปเนื้อเยื่อไขมัน ที่สะสมในร่างกายออกมาใช้เป็นพลังงาน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อในชั้นผิวหนัง ซึ่งจะเสริมความแข็งแรง เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น ทางเลือกในการขจัดเซลลูไลท์ ปัจจุบันนี้สถานบริการความงาม เสนอวิธีลัดสำหรับคนที่ต้องการดูดี แบบประหยัดเวลา มีทั้งการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย ร่วมกับการนวดด้วยครีม และวิธีการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก เริ่มจากหลักการการทำงาน ของเครื่องมือนวดกระชับสัดส่วน คือ การอาศัยเทคนิคต่างๆ เช่น พลังงานความร้อน-เย็น คลื่นความถี่ต่ำ หรือแรงดูดสูญญากาศและการนวด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ลดการบวมน้ำ และช่วยให้ไขมันใต้ผิวหนัง จัดเรียงตัวใหม่อย่างมีระเบียบ ทำให้รู้สึกว่าผิวกระชับขึ้น ส่วนการใช้ครีมนวดกระชับสัดส่วน แม้ว่าจะมีบทความโฆษณา สรรพคุณของสารมากมายหลายชนิด แต่ก็ไม่สามารถหางานวิจัยที่เชื่อถือได้มาอ้างอิง จึงยังไม่มีข้อสรุปทางการแพทย์ ว่าสามารถสลาย หรือขจัดไขมันที่สะสมในร่างกายได้จริง อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบหลักของครีมเหล่านี้ มักมาจากสารสกัดจากพืชบางชนิด ซึ่งเชื่อว่ามีผลต่อเซลล์ไขมัน เช่น theophyline ที่พบมากในชา ส่วนผสมของคาเฟอีนที่พบในกาแฟ ชา ต้นโคล่า และ aminophyline ซึ่งใช้รักษาอาการหอบหืด เป็นต้น แม้ว่าการนวดที่ถูกวิธี สามารถกระตุ้นระบบน้ำเหลือง และทำให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้นจริง แต่การประสบความสำเร็จ ในการลดเซลลูไลท์ได้หรือไม่ คงยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้านของแต่ละบุคคล เพราะสุดท้ายอย่าลืมว่า ไม่ว่าจะใช้เทคนิคลดสัดส่วนแบบใด ไขมันส่วนเกินก็ยังคงอยู่ในร่างกาย เพียงแต่อาจเรียงตัวใหม่เท่านั้น การแพทย์ทางเลือกประยุกต์เพื่อความสวยงาม การแพทย์ทางเลือกที่ใช้รักษาโรคตั้งแต่อดีตได้รับ การประยุกต์มาใช้ ในเรื่องความสวยงามในยุคปัจจุบันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมโสเทอราปี (mesotherapy) และคาร์บอกซี- เทอราปี (carboxytherapy) ได้ผลจริงหรือไม่และเห็นผลนานเพียงใด ? เป็นความจริงที่ว่า ในทางการแพทย์ไม่มีการรักษาใดที่จะได้ผลหรือปลอดภัย 100% เช่นเดียวกับวิธีขจัดเซลลูไลท์ ไม่ว่าจะอาศัยเครื่องมือนวด ใช้แรงมือนวด ครีมต่างๆ หรือกระทั่งการรักษาแบบทางเลือก ก็ใช่ว่าช่วยให้คุณมีหุ่นผอมเพรียวเหมือนนางแบบ หรือคำโฆษณา เพราะคนเรามีรูปร่างต่างกัน วิถีในการดำรงชีวิตต่างกัน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยทางจิตวิทยาเกี่ยวข้องอีกด้วย คุณรู้ไหมว่า... การลดไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขา หรือสะโพกด้วยวิธีอดอาหาร ไม่สามารถขจัดไขมันเฉพาะส่วนได้ นอกจากนี้ หากสูญเสียไขมันบริเวณนั้นเป็นเวลานาน ผิวหนังซึ่งเดิมยืดตามไขมันที่พอกตัวเกินจะหย่อนคล้อย ทำให้เกิดผิวหนัง ส่วนเกิน ดังนั้นการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักแบบ เห็นผลเร่งด่วนจึงไม่ดีต่อสุขภาพและรูปร่าง » ที่มา : yourhealthyguide |
ไลเดเลีย
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] ร้อยรส...กลอนกานท์ จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ All Blog
|
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |