Group Blog
กรกฏาคม 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
ไขข้อข้องใจ เทคนิคการฝึกฝนภาษาอังกฤษของครูเคท เรื่องการฝีกพูดตามหนังฝรั่งและเรื่องการฝึกทักษะการฟัง
บ่อยครั้งที่มักจะมีลูกศิษย์ของผมหรือของครูท่านอื่นที่ผ่านหลักสูตรของครูเคทมา post ถามเรื่องเทคนิคการฝึกฝนภาษาอังกฤษของครูเคท ผมเลยมีความคิดสร้างกลุ่ม blog ขึ้นมาใหม่เพื่อตอบคำถามเหล่านี้โดยเฉพาะ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับลูกศิษย์คนอื่นๆ ด้วยหรือแม้จะไม่ใช่ลูกศิษย์ก็สามารถส่งคำถามมาได้นะครับ ถ้ามีข้อสงสัย

สิ่งที่ผมเจอมาตลอดกว่า 7 ปีที่สอนที่โรงเรียนฯ คือนักเรียนมักจะทำผิดวิธีแบบไม่รู้ตัว ซึ่งน่าเสียดายที่บางคนขยันฝึกฝนอย่างมากแต่ไม่ค่อยเห็นผลเท่าที่ควรเพราะทำผิดวิธีนี่เอง คนที่ขยันฝึกฝนอย่างถูกวิธีจะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ดังตัวอย่างของการฝึกผิดวิธีก็เป็นประโยชน์แก่หลายๆ คนเพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้เราระวังในการฝึกฝน

คำถามทุกคำถามที่เข้ามาจึงมีประโยชน์แก่ผู้อ่านทั้งนั้นครับ ขอบคุณสำหรับทุกคำถามที่ส่งเข้ามานะครับ แล้วผมพยายามจะหาเวลามาตอบให้ครับ

ผมขอประเดิมบทความแรกด้วยคำถามจากคุณปกรณ์ที่น่าสนใจทีเดียวครับ

ถามโดยคุณปกรณ์ IP: 124.120.192.249 วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:59:06 น.

"การบ้านที่ครูที่โรงเรียนแต่ละคนให้เนี่ยเหมือนกันหรือป่าวครับ ตอนที่ผมเรียนบทแรกๆจะเป็นท่องกลอน sh ch แล้วโทรไปส่ง แต่หลังๆไม่เห็นมีการบ้านต้องโทรส่งเลยอ่ะครับ
มีแต่ให้ไปฝึกเองเช่น อ่านหนังสือแบบแยกเสียง แล้วก็อ่านหนังสือให้จบในอาทิตย์เดียว ไม่ค่อยมีการบ้านต้องส่งเลยครับ เลยงงว่าอาจารย์แต่ละคนสอนเหมือนกันป่าว"


ครูเฟียตตอบคุณปกรณ์

"ไม่ทราบว่าคุณปกรณ์เรียนที่กรุงเทพฯ ใช่ไหมครับ?

การให้การบ้านแล้วแต่ครูครับ ช่วงแรกๆ ที่เรียนเกี่ยวกับการออกเสียงจะมีการบ้านมากหน่อยเมื่อเทียบกับช่วงหลังๆ ใครที่ทำการบ้านเยอะก็จะเห็นผลเร็ว แต่ที่สำคัญคือต้องทำให้ถูกวิธีด้วยนะครับ แนะนำให้โทรส่งการบ้านกับครูที่สอนบ่อยๆ จะได้รู้ว่าฝึกถูกต้องหรือเปล่า หากมีคำถามหรือปัญหาสงสัยให้รีบปรึกษาครูที่สอนครับ ขยันฝึกเยอะๆ นะครับ จะได้เป็นเร็วๆ เอาใจช่วยทุกคนที่ขยันครับ"

ถามต่อจากคุณปกรณ์ IP: 115.87.70.243 วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:47:41 น.


"ครูเฟียตครับขอถามเรื่องการฝึกพูดตามหนังหน่อยครับคือผมจัดตารางฝึกแบบนี้นะครับ(อันนี้ครูที่โรงเรียนเคยแนะนำไว้)
1. ปิดเสียงดูปากอย่างเดียว
2. ฮึมฮัมตาม
3. พูดตามไปโลด(ซึ่งจะได้แค่ช่วงต้นและปลายประโยคส่วนกลางๆอาจจะฮึมฮัมตามหรือถ้าไม่ได้ก็จะกลายเป็นพูดต้นแล้วก็ปลายประโยคเลย555)
4. จับคำ 1 คำออกเสียงตาม
อันนี้คือจะใช้กับหนัง 1 เรื่องโดยแบ่งการฝึกช่วงละ 5-10 นาที ไม่ทราบว่าครูเฟียตให้ลูกศิษย์ทำแบบนี้หรือป่าวครับ
ผมอยากรู้เพราะจะได้เอามาปรับให้มันเหมาะสม เพราะเวลาฝึกจริงๆ ผมจำไม่ทำข้อ1 เพราะรู้สึกว่าไหนๆจะดูแล้วจะปิดเสียงทำไม"


ครูเฟียตตอบคุณปกรณ์

"การฝึกแต่ละอย่างมีเหตุผลที่ให้ฝึกครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะได้อะไร ผมจะอธิบายดังต่อไปนี้

1. ปิดเสียงดูปากอย่างเดียว

>>> การขยับปากตามฝรั่งโดยปิดเสียงจะทำให้คุณรู้ความแตกต่างของการใช้กล้ามเนื้อปากในการพูดภาษาอังกฤษเมื่อเทียบกับภาษาไทย ซึ่งภาษาอังกฤษจะใช้กล้ามเนื้อปากมากกว่าภาษาไทยครับ ปกติผมจะให้ทำแค่สัปดาห์แรกที่มาเรียนแค่นั้น ถ้าคุณทำแล้วเห็นความแตกต่างก็พอครับ เอาเวลาไปฝึกออกเสียงตามฝรั่งจะได้สำเนียงเหมือนฝรั่งดีกว่า

2. ฮึมฮัมตาม

>>>การฮึมฮัมตามหนัง ต้องพยายามทำทำนองให้เหมือนกับเสียงฝรั่งที่ได้ยินมากที่สุด เพื่อให้เราคุ้นเคยกับสำเนียงฝรั่ง ผมจะแนะนำให้ทำวิธีนี้กับหนังฝรั่งวันละ 1 เรื่องในสัปดาห์แรก หลังจากนั้นให้พูดตามไปเลย (ไม่ต้องฮัมแล้วครับ) สาเหตุที่ให้ฮัมแทนที่จะพูดตามไปเลยตั้งแต่แรกเพราะมีนักเรียนหลายคนมีปัญหาว่าพูดตามไม่ทัน ไม่ได้แม้แต่บางคำในประโยค จึงให้แค่ฮัมตามอย่างเดียวไปก่อนครับ

3. พูดตามไปโลด(ซึ่งจะได้แค่ช่วงต้นและปลายประโยคส่วนกลางๆอาจจะฮึมฮัมตามหรือถ้าไม่ได้ก็จะกลายเป็นพูดต้นแล้วก็ปลายประโยคเลย555)

>>> วิธีนี้แหละครับที่อยากให้ทำจริงๆ กับหนังฝรั่งวันละ 1 เรื่อง อย่าลืมปิด subtitle เสมอนะครับ การพูดตามถ้าพูดไม่ทันเค้า ไม่เป็นไร ให้มั่วไปเลยแต่ต้องมั่วอย่างมีศิลปะ คือทำนองยังเหมือนหรือใกล้เคียงกับเค้าแม้จะไม่เป็นคำๆ ชัดเจนเหมือนเค้าก็ตาม (ให้คุณนึกถึงพวกตลกคาเฟ่ ที่เค้าแกล้งพูดภาษาต่างๆ เช่น ภาษาจีน ญี่ปุ่น ฯลฯ แบบมั่วๆ ทั้งๆ ที่เค้าไม่ได้เรียนภาษานั้น แต่ฟังเผินๆ แล้วเหมือนเค้าพูดภาษานั้น อย่างนั้นเลย) ต้องพูดตามทันทีเลยนะครับ ห้ามหยุดฟังทีละประโยคแล้วค่อยพูดตามซึ่งมันจะทำให้คุณใช้สมองคิดว่าเค้าพูดคำว่าอะไร ซึ่งผิดวิธี และที่สำคัญที่ผมย้ำนักเรียนของผมเสมอคือ คุณไม่ต้องรู้เรื่องหนังใดๆ ทั้งสิ้น ขอย้ำอีกทีว่า ไม่ต้องรู้เรื่องหนังใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเรากำลังฝึกเพื่อปรับสำเนียงอยู่นะครับ ไม่ได้ฝึกให้ฟังออก เดี๋ยวพอสำเนียงคุณเหมือนฝรั่งแล้ว คุณจะฟังออกเองครับ ใจเย็นๆ

ข้อสังเกตอีกอย่างเวลาทำวิธีนี้ คือ ทำแล้วต้องไม่เครียด ถ้าเครียดเมื่อไหร่ หยุดทันทีเพราะคุณกำลังทำแบบผิดวิธีเพราะมีการใช้สมองคิด ผมสามารถพูดตามหนังได้ทั้งเรื่องโดยไม่เครียด รู้อยู่อย่างเดียวว่าเลียนเสียงให้เหมือนกับต้นแบบมากที่สุด และผมขอยืนยัน นั่งยันและนอนยันเลยว่า วิธีการนี้ WORK สุดๆ เพราะมันทำให้สำเนียงผมดีขึ้นทันตาเห็นเลย บอกได้เลยว่าทุกวันนี้ สำเนียงผมดีกว่าคนไทยทั่วไป ฝรั่งชื่นชม ทั้งๆ ที่ไม่เคยไปเรียนต่างประเทศก็ด้วยเทคนิคนี้ของครูเคทจริงๆ ครับ ลองไปทำดูนะครับ สนุกดี สำเนียงดีด้วย

4. จับคำ 1 คำออกเสียงตาม

>>> การจับมา 1 คำแล้วพูดตามไป 20-30 รอบจนกว่าจะคล่องเป็นการฝึกในเรื่องของ stress ครับ มันจะช่วยแก้ไขคำที่คุณออกเสียงผิด ไม่เหมือนฝรั่ง ให้เหมือนฝรั่งในที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ฝรั่งไม่ได้เรียก "sadist" ว่า ซาดิสถ์ อย่างคนไทยเรียก ผมเคยดูหนังฝรั่งแล้วเค้าเรียกว่า "เซ้-ดิสถ์" คุณได้ยินอย่างไหนก็ให้พูดตามไปอย่างนั้น ห้ามเปลี่ยนมาเป็นเสียงที่ตนเองคุ้นเคยเด็ดขาด มันจะทำให้คุณทำเสียงในแต่ละคำได้เหมือนฝรั่ง ก็จะช่วยให้คุณออกเสียงคำศัพท์ในภาษาอังกฤษให้เหมือนฝรั่งไงครับ ถ้าเราออกเสียงแต่ละคำเหมือนฝรั่งบวกกับสำเนียงเสียงขึ้นลง (intonation) เหมือนกับฝรั่ง (จากที่คุณฝึกพูดตามหนังทั้งเรื่อง) มันก็จะทำให้คุณพูดได้เหมือนฝรั่งในทึ่สุดไงครับ แล้วเดี๋ยวคุณจะแปลกใจว่าทักษะการฟังมันจะตามมาเอง คือฟังออกมากกว่าเดิมขึ้นมากหลังจากสำเนียงใกล้เคียงฝรั่งแล้วครับ

ผมแนะนำให้คุณปกรณ์ถามคุณครูที่สอนคุณนะครับถึงเหตุผลที่ให้ฝึกแต่ละเทคนิค ผมเชื่อว่าเค้าจะมีเหตุผลรองรับแต่ละเทคนิคเสมอว่าทำไมถึงให้ฝึกอย่างนี้ ซึ่งผมเองก็พยายามบอกลูกศิษย์ทุกครั้ง

ตอบซะยืดยาวเลย หวังว่าคงทำให้กระจ่างในเรื่องของเทคนิคการฝึกฝนภาษาอังกฤษของครูเคทนะครับ"


ถามโดยคุณปกรณ์ IP: 124.120.193.63 วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:23:41 น.

"ช่วงกลางวันผมแปลงไฟล์ซีรียส์เรื่อง Friends เป็น Mp3 ไว้ฟังตอนทำงานด้วยครับ หลังจากฟังตอนเดิมๆซ้ำกันไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าตอนนี้ผมเริ่มฟังบางประโยคเข้าใจแล้ว แต่เป็นการเข้าใจโดยผ่านการแปลนะครับ คือฟังเกือบสิบรอบล่ะอยู่ๆ ผมก็จับประโยคได้ว่าเค้าพูดอะไร แต่เทียบแล้วก็ยังไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของที่ฟังทั้งหมด"


ครูเฟียตตอบคุณปกรณ์

"การที่คุณทำเช่นนี้ เรียกว่าเป็นการทดสอบทักษะการฟังของคุณครับ ไม่ใช่การฝึกฟังให้ออกหรอกครับ เพราะถ้ามันฟังไม่ออก ฟังอีกกี่เที่ยวก็คงฟังไม่ออกอยู่ดี ผมแนะนำให้คุณฝึกปรับสำเนียงให้ใกล้เคียงฝรั่งก่อนอย่างที่คุณฝึกพูดตามหนังหรือฝึกพูดเป็นคำๆ นั่นแหละครับ เมื่อสำเนียงคุณใกล้เคียงฝรั่งแล้ว คุณจะฟังฝรั่งออกมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนไทยส่วนใหญ่มักคิดว่าตนเองรู้คำศัพท์น้อยทำให้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วคนไทยรู้คำศัพท์ไม่น้อยหรอกครับ เพียงแต่นำคำศัพท์ที่รู้อยู่แล้วมาใช้งานจริงๆ ไม่ได้เพราะการออกเสียงที่ไม่เหมือนฝรั่ง ทำให้เราฟังฝรั่งไม่ออกทั้งๆ ที่เรารู้คำศัพท์นั้น ครูเคทชอบยกตัวอย่างคำว่า chocolate คนไทยทุกคนรู้จัก ช็อคโกแล็ต และเราก็คิดว่าฝรั่งน่าจะออกเสียงว่า ช็อค-โก-แล็ต เหมือนที่เราออกกัน แต่จริงๆ แล้ว ฝรั่งออกเสียงประมาณว่า "ช็อค-คลึต" ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ฟังไม่ออกครับ

เมื่อก่อนผมก็ฟังฝรั่งออกน้อยมากๆ ตอนเรียนอยู่ปี 4 เคยไปลงคอร์ส listening ของที่มหาวิทยาลัยที่ผมเรียน แล้วต้องเข้าห้อง sound lab ไปทำแบบทดสอบ TOEFL ทุกสัปดาห์ ปรากฏว่าได้คะแนนดูไม่จืดเลยครับ เกือบตกทุกสัปดาห์เลย ก็คนมันฟังไม่ออกน่ะ จะให้เข้าห้อง sound lab ทุกวันก็คงฟังไม่ออกอยู่ดี ไม่มีคนมาชี้แนะว่าจะทำยังไงให้ฟังออก จนกระทั่งผมมาฝึกเรื่องการออกเสียงให้ใกล้เคียงฝรั่งนี่แหละครับ ที่พลิกทักษะการฟังขงผมให้ดีกว่าเดิมมากทีเดียว เพราะเหมือนเราจูนคลื่นได้ตรงกับฝรั่ง เลยพูดคุยกันรู้เรื่องนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอบอกก่อนว่าการที่คุณฟังหนังไม่ออกอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น สำเนียงผู้พูด คนไทยจะคุ้นเคยสำเนียงชาวอเมริกันมากกว่าอังกฤษ ดังนั้นเวลาคุณฟังหนังชาวอังกฤษอย่าง Harry Potter อาจจะเข้าใจยากสักหน่อย หรือเมื่อไม่กี่วันมานี้ผมได้ดูคุณสุทธิชัย หยุ่น สัมภาษณ์ฮิลารี คลินตัน เธอพูดสำเนียงอเมริกันชัดเจน ซึ่งฟังง่ายมากๆ

อีกสาเหตุที่อาจทำให้คุณฟังไม่ออกคือเรื่องของคำศัพท์เทคนิค เช่น สมมุติเป็นฉากในศาล คุณอาจจะไม่มีประสบการณ์ในเรื่องของคำศัพท์ที่ใช้ในศาล คุณก็อาจจะไม่รู้เรื่องก็เป็นได้

แต่ถ้าคุณฟังเรื่องทั่วๆ ไป ควรจะฟังออกครับ ลองพยายามดูนะครับ"

ขอบคุณคุณปกรณ์สำหรับทุกคำถามนะครับ





Create Date : 25 กรกฎาคม 2552
Last Update : 25 กรกฎาคม 2552 16:48:04 น.
Counter : 10834 Pageviews.

21 comments
  
ขอบคุณครูเฟียตเช่นกันครับที่กรุณาตอบคำถามของผม
โดย: ปกรณ์ IP: 115.87.69.59 วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:47:51 น.
  

ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษเลยค่ะ ถ้าจะเริ่มเรียน
ต้องเริ่มต้นอย่างไร คะ?
โดย: กลับไปไม่เหมือนเดิม วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:30:53 น.
  
ครูเฟียตคะ ไม่ทราบว่าครูเฟียตรับสอน toefl มั้ยคะ
อยากจะทำให้ได้ 600 อ่ะค่ะ เผื่อต้องเอาไปใช้เรียนต่อ
โดย: chales_za IP: 10.9.111.235, 58.97.32.113 วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:24:17 น.
  
สุดยอดครับ

สำหรับเนื้อหาต่าง ๆ ที่ครูเฟียตนำมาสอน

จะติดตามผลงานอยู่ของครูเฟียตต่อไปครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณมากนะครับ
โดย: alys_man IP: 203.144.180.65 วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:24:37 น.
  
เจ๋งมากๆเลยคะ ครูเฟียต
หญิงขอซูหก ยกนิ้วโป้งให้หมดเลย
ชักอยากจะเรียนกับครูเฟียตบ้างแล้วล่ะค่ะ
โดย: onsutee วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:16:24 น.
  
เอาเวปฟังวิทยุมาฝากครับ//www.surfmusic.de/country/california.html
โดย: ปกรณ์ IP: 192.168.201.79, 58.137.210.68 วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:41:16 น.
  
มีเวลาอีกประมาณ 2 เดือน จะต้องไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกาแล้ว เครียดมาก ภาษาอังกฤษยังไม่ดีเลย ไม่ได้มีเวลาไปเรียนจริงๆจังๆ เนื่องจากงานในเวลาก็ยุ่งมากๆ อาศัยฟังข่าวและรายการวิทยุภาษาอังกฤษ ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง Kru Fiat มีคำแนะนำอย่างไรบ้างครับ ควรทำยังไงดี มีที่สอนแบบเร่งรัดสุดๆไหมครับ

ช่วยตอบด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
โดย: Kingkong IP: 124.121.172.75 วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:33:53 น.
  
ตอบคุณ Kingkong

ไม่มีใครจะช่วยคุณไปได้ดีกว่าคุณต้องช่วยเหลือตัวเองครับ แนะนำให้ใช้เวลาที่เหลือพูดตามหนังมากๆ ลองเข้าไปดูตาม link ข้างล่างแล้วลองฝึกตามนะครับ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=krufiat&month=12-2007&date=15&group=2&gblog=2

ขอให้โชคดีและฝึกฝนจนสำเร็จก่อนไปเมืองนอกนะครับ จะได้ไปอย่างสบายๆ
โดย: Kru FIAT (KruFiat ) วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:12:47:49 น.
  
ขอบคุณมากนะคะ KruFiat สำหรับคอมเมนท์และคำแนะนำดีๆ
โดย: onsutee วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:13:55:25 น.
  
ครูเฟียตคะลูกศิษย์ที่เรียนกับครูเฟียตเนียในแต่ละคอร์สจะมีคนฝึกสำเร็จสักกี่คนคะ แล้วใช้เวลาเฉลี่ยสักประมาณกี่เดือนคะ
โดย: นัท IP: 192.168.201.216, 58.137.210.68 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:14:00:00 น.
  
การฝึกพูดตามหนังน่ะครับถ้าฝรั่งเริ่มพูดเราก็เริ่มพูดเลยเช่น
ฝรั่ง: I #@Xx$$%!!!!.... today.
ผม : ..... I #@Xx$$%!!!....today. ( จบช้ากว่าฝรั่งนิดนึง)
ปัญหาที่พบคือ
1. ฟังไม่ทันว่าเค้าพูดว่าอะไร
2. ช่วงกลางประโยคแทบจะฟังไม่รู้เรื่องจับได้บ้างเป็นคำๆทำให้พูดตามค่อนข้างลำบาก
3. พอทำแบบนี้แล้วมันชักไม่แน่ใจว่าที่พูดตามเนี่ยเสียงเหมือนหรือป่าว ( เริ่มเครียดแล้วครับ )
ปกติการฝึกแบบนี้ต้องใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ครับถึงจะเริ่มชินแล้วก็พูดตามได้
โดย: ปกรณ์ IP: 124.120.130.78 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:21:20:00 น.
  
ตอบคุณนัท

ที่ถามว่า
"ครูเฟียตคะลูกศิษย์ที่เรียนกับครูเฟียตเนียในแต่ละคอร์สจะมีคนฝึกสำเร็จสักกี่คนคะ แล้วใช้เวลาเฉลี่ยสักประมาณกี่เดือนคะ"

ตอบ:
คำถามของคุณนัทเป็นคำถามที่มักมีคนถามผมเป็นประจำ แต่การตอบ บอกตามตรงว่าตอบยากครับ เพราะคำว่า "ฝึกสำเร็จ" ของแต่ละคนอาจมีมาตรฐานไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น บางคนสำเนียงเป็นฝรั่งมากขึ้นก็ถือว่าสำเร็จแล้ว บางคนฟังออกมากขึ้นก็ถือว่าสำเร็จ หรือบางคนมาตรฐานสูงอาจจะต้องพูดได้สำเนียงเป็นฝรั่งไปเลยจึงจะเรียกว่าฝึกสำเร็จ

จากประสบการณ์การสอนของผม ผมมักจะถามลูกศิษย์หลังจากเรียนจบ 3 เดือนว่าเห็นพัฒนาการอย่างไรบ้าง? แทบทุกคนที่เรียนกับผมจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เค้าสามารถฟังออกมากขึ้น ส่วนจะฟังออกมากขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าเค้าฝึกฝนมากหรือน้อย ส่วนการฝึกสำเนียงจะให้ได้ผลจริงๆ ต้องฝึกจนกระทั่งเป็นทักษะเลยครับ คือเวลาพูดสดๆ สำเนียงนั้นก็ออกมาเลยโดยไม่ต้องคิดปรุงแต่งสำเนียงเองให้เหมือนฝรั่ง ลองเข้าไปอ่านบทความจาก link ข้างล่างดูนะครับ จะเข้าใจว่า "ทักษะ" เป็นอย่างไร?

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=krufiat&month=15-12-2007&group=2&gblog=5

จากลูกศิษย์ที่ผมเห็นว่าสามารถเปลี่ยนสำเนียงได้เร็ว น่าจะใช้เวลาประมาณเพียง 6 สัปดาห์ แต่คนพวกนี้จะฝึกหนักมากนะครับ บางคนพูดตามหนังฝรั่งวันธรรมดาวันละ 1-2 เรื่อง ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เค้าพูดประมาณ 4-6 เรื่อง คือพูดตามหนังทั้งวัน ถ้าทำได้อย่างนี้แบบถูกวิธีด้วยนะครับ จะใช้เวลาไม่เกิน 6 สัปดาห์ สำเนียงก็จะเปลี่ยนเป็นฝรั่งไปเลย แต่คนทั่วไปที่ทำได้วันละ 1 เรื่องน่าจะใช้เวลาประมาณ 3เดือนนะครับจึงจะเห็นผลชัดเจน

ลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จแบบเห็นได้ชัดอย่างน่าทึ่งมีไม่เยอะหรอกครับ (แต่มีนะครับ) แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเจอคือ คนไทยอยากเก่งภาษาอังกฤษทุกคนแหละครับ แต่ไม่มีวินัยในการฝึกฝน ไม่มีเวลาฝึก หรือฝึกแต่ฝึกผิดวิธี คนเหล่านี้ก็จะฝึกไม่สำเร็จและรู้สึกท้อแท้ในการฝึกฝนว่าทำไมภาษาอังกฤษยากจัง

ถ้าให้ตีคร่าวๆ ผมว่าประมาณสัก 30% นะครับของลูกศิษย์ที่ผมเจอที่จะฝึกจนเห็นผล ไม่ท้อแท้ไปซะก่อน ขอเพียงคุณขยันฝึกฝนและมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง พยายามทำตามที่ครูแนะนำทุกอย่าง รับรองว่าสำเร็จแน่นอนครับ เอาใจช่วยให้ฝึกจนสำเร็จครับ
โดย: Kru FIAT (KruFiat ) วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:7:39:11 น.
  
ขอเสนอความเห็นนิดนึงนะครับ
ผมว่าในห้องเรียนของครูเคทน่าจะมีทีวีพร้อมกับแผ่นหนังสักเรื่องนึงเอาไว้เปิดแล้วทำตัวอย่างให้นักเรียนได้ดูเลยว่าจะต้องพูดตามยังไงบ้าง เพื่อที่ทุกคนจะได้ทำได้อย่างถูกต้องตรงกันน่ะครับ
โดย: ปกรณ์ IP: 192.168.201.62, 58.137.210.68 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:12:19:05 น.
  
ขอถามหน่อยนะค่ะ คือดิฉันสงสัยว่าหากผู้ที่จะฝึกด้วยวิธีนี้มีความรู้พื้นฐานน้อยมากๆ จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะพอเห็นความแตกต่างหรือการเปลี่ยนแปลง
โดย: ดาว IP: 124.121.198.170 วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:22:36:58 น.
  
ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนครับ แต่ขึ้นกับผู้เรียนด้วยนะครับ ถ้าผู้เรียนมีพื้นฐานน้อยแต่ขยันฝึกฝนอย่างถูกวิธีก็จะเห็นผลเร็วแน่นอนครับ
โดย: KruFiat วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:23:56:34 น.
  
เราสามารถใช้ดิกอังกฤษ-อังกฤษในการฝึกออกเสียงได้ไหมครับมันตรงกับสำเนียงฝรั่งไหม ในดิกนี่ถ้าใช้ได้มันจะมีเขียนว่าคำไหนต้องลงเสียงหนักเบา ถ้าใช้ได้เราแทบไม่จำเป็นต้องฟังเสียงฝรั่งจากเทปเลยนะครับ จริงไหมครับครู
โดย: PAN IP: 58.9.149.245 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:41:13 น.
  
สวัสดีคะ ชื่อเก่งนะคะ ก่อนอื่น ขอรบกวนเวลาครูไม่มากน่ะคะ
ดิฉันอยากเรียนโดยใช้วิธีที่ครูเคทว่า เรียนภาษานอร์เวย์โดยไม่ผ่านการแปล แต่ติดปัญหานิดนึงคะ

1.ดิฉันอาศัยอยุ่นอร์เวย์ ต้องเขาเรียนภาษานอร์เวย์ ซึ่งปกติครูไม่พูดอังกฤษ แต่บางครั้งครูจะแปลเป็นอังกฤษให้ฟังเพื่อให้นักเรียนเข้าใจ พยายามพูดนอร์เวย์อย่างเดียวกับสามี แต่บางเรื่องจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษอยู่ จะให้ผ่านเลยไป มันก็จะไม่เข้าใจกัน ก็เลยต้องแปลนอร์เวย์ อังกฤษ และ อังกฤษ นอร์เวย์ ประจำ แบบนี้จะเป็นปัญหามากมั้ยคะ
2.ส่วนที่ครูเคท ให้ดูหนัง รายการหนังที่เป็นภาษานอร์เวย์ แทบไม่มีเลยคะ ส่วนรายการการ์ตูนนอร์เวย์ ก็จะเป็นตอนกลางวัน ซึ่งเป็นเวลาที่ดิฉันทำงาน ส่วนซีดีหนังนอร์เวย์ก็มีน้อย จะเป็นอะไรมั้ยคะถ้าจะดูซ้ำ และเราสามารถดูข่าวนอร์เวย์แทนหนังนอร์เวย์ได้มั้ยคะ หรือรายการอื่นๆที่เขาพูดนอร์เวย์กัน

ด้วยความเคารพอย่างสูง

เก่ง
โดย: เก่ง IP: 84.215.240.242 วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:4:22:17 น.
  
อยากสอบถามอาจารย์ว่าถ้าเรียนภาษาจีนแล้วสามารถใข้วิธีครูเคทพูดอังกฤษได้ผลเหมือนกันไหมคะ
ที่ว่าดูหนังฝรั่งพูดตามวันละชั่วโมง แล้วถ้าจะพูดจีน Mandarin ให้ได้ก็ต้องดูหนังจีนวันละชั่วโมงพูดตามใช้ได้เหมือนกันไหมคะ ขอบคุณคะ
โดย: Tang IP: 119.46.107.162 วันที่: 6 มิถุนายน 2555 เวลา:19:20:02 น.
  
อาจารย์ค่ะ มีคลิปสอนแบบว่าฝึกดูหนังแล้วพูดตามเลยอ่ะค่ะ มีหรือเปล่า เอาแบบที่ครูสอนว่าจับหนึ่งคำในหนึ่งประโยคด้วยค่ะ อยากจะพูดเป็นจริงๆอ่ะค่ะ ซื้อหนังสือครูเคทมาแล้ว อยากฝึกด้วยตนเองค่ะ
โดย: ก้อย IP: 180.218.36.252 วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:13:10:44 น.
  
คือ ผมอยากรู้ว่า การที่คนเราจะพูดภาษาอังกฤษแบบฝรั่งได้
คือต้องได้สำเนียงกับฟังออก แค่นี้ใช่มั้ยคับ
โดย: นิพล IP: 27.55.224.37 วันที่: 27 กันยายน 2557 เวลา:22:08:49 น.
  
ยอดเยี่ยม..และใช้ได้ผลจริงดิฉันก็อ่านหนังสือของครูเคทแล้วก็ทำตามเรียนเหมือนเด็กที่พูดไม่ได้อ่านไม่ออกฟัง..ฟังและก็ค่อยๆเข้าใจ..ในที่สุดก็ดีขึ้น
โดย: เรืองรอง บราวน์ IP: 192.99.14.34 วันที่: 11 เมษายน 2559 เวลา:17:57:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KruFiat
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 304 คน [?]



ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง
"หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน"
ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook 4| | | ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook | | |3