Group Blog
 
 
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
เสี้ยวนาทีที่สื่อรัก

โดย...เกรียงไกร หัวบุญศาล



“คุณแม่ครับ คุณพ่อจะไปแข่งขันฟุตบอลที่เชียงใหม่คืนนี้ใช่ไหมครับ” นิดได้ยินเสียงบอลเด็กชายวัยเจ็ดขวบดังมาจากหน้าร้าน ขณะที่นิดกำลังจัดของจำพวกสบู่ ยาสีฟัน ผงซักผ้า และของใช้จิปาถะใส่ชั้นวางของในร้านอย่าง ขะมักขะเม้น
นิดเหลือบไปมองลูกชายที่นั่งอยู่บนม้านั่งหน้าร้านแวบหนึ่ง แล้วพูดกับลูกชายว่า
“คืนนี้แหละลูก”พูดพลางมือของนิดก็ยังคงง่วนอยู่กับการจัดของในร้านต่อไป
“คุณพ่อจะไปกี่วันครับคุณแม่” ผู้เป็นลูกชายถามต่อ
“ไม่รู้ รอถามคุณพ่อคืนนี้เองสิ” นิดพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิดที่ลูกชายถามจู้จี้ และนั่นก็ทำให้ลูกชายไม่กล้าปริปากถามนิดขึ้นมาอีก นิดเองก็ไม่ได้หันไปมองลูกชายอีกเช่นกัน
จนกระทั่งนิดจัดร้านเสร็จ จึงเดินไปล้างมือที่หลังร้าน จากนั้นเดินออกมาที่หน้าร้าน พบบอลผู้เป็นลูกชายยังนั่งอยู่บนม้านั่งหน้าร้านอยู่เช่นเดิม สีหน้าและแววตาของเด็กชายเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย
“บอลเป็นอะไรไปเหรอลูก” นิดถามลูกชายแล้วเดินมานั่งลงบนม้านั่งข้างๆลูกชาย เอามือลูบศีรษะลูกชายเบาๆ
“คุณแม่ดุบอล” เด็กชายพูดขึ้น ทำท่าจะร้องไห้
“คุณแม่ไม่ได้ดุบอล คุณแม่กำลังยุ่งๆอยู่กับการจัดร้าน” นิดปลอบลูกชาย
บอลสะอื้นไห้เบาๆ แล้วซบที่อกของนิด นิดเลื่อนมือลงไปลูบหลังของลูกชายเบาๆด้วยความรักลูกอย่างสุดหัวใจ
บางทีนิดเองก็อารมณ์เสียกับลูกชายบ่อยๆ เพราะทั้งเหนื่อยทั้งเพลียที่ต้องขายของที่ร้าน แล้วยังต้องดูแลลูกชายถึงสองคนคือบอลวัยเจ็ดขวบและนิกวัยสามขวบ ส่วนชัดผู้เป็นสามีแทบจะไม่สนใจลูกชายเลย สนใจแต่ฟุตบอล ที่ไหนมีการแข่งขันก็จะส่งทีมฟุตบอลที่รวบรวมเด็กในย่านนี้เข้าร่วมแข่งขันเกือบทุกรายการ หากวันไหนไม่มีแข่งขันก็จะพาเด็กๆไปฝึกซ้อมทุกวัน ทั้งที่ดูแลทีมฟุตบอลของบริษัทที่ชัดทำงานอยู่ แต่ฟุตบอลของบริษัทชัดจะดูแลในช่วงที่มีการแข่งขัน ซึ่งจะเป็นพวกผู้ใหญ่ แต่กับพวกเด็กๆ ชัดเคยพูดกกับนิดว่า อยากจะวางพื้นฐานด้านฟุตบอลให้กับเด็ก และนิดก็เคยแย้งว่าแล้วจะได้อะไร ชัดตอบแต่เพียงว่าให้โอกาสเขา ครั้นนิดถามว่าให้โอกาสเขาแล้วเราจะได้อะไร ชัดก็ตอบว่าการทำอะไรอย่าไปหวังผลตอบแทน นิดจึงต้องเดินหนีเพราะไม่อยากจะทะเลาะกัน นิดไม่เข้าใจว่าทำไมชัดไม่เอาเวลาเหล่านั้นมาคิดเรื่องการทำมาหากิน ลูกก็โตขึ้นทุกวัน ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นทุกวัน
นิดมักทะเลาะกับชัดผู้เป็นสามีบ่อยๆในเรื่องนี้ ทุกครั้งที่ทะเลาะกันนิดรู้ดีว่า บอลลูกชายคิดมากแค่ไหน แม้ว่าเวลาที่ทะเลาะกันชัดไม่เคยลงไม้ลงมือกับนิดเหมือนสามีภรรยาบางคู่ แต่เสียงที่ทะเลาะเบาะแว้งกันก็ทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีต่อพ่อแม่แล้ว ไหนจะข้างบ้านอีกล่ะ
วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่ชัดเลิกงานจากบริษัทย่านพระรามที่4 ชัดก็กลับเข้าบ้าน แต่ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปซ้อมฟุตบอลอีก หลังจากที่เอาของขายพวกสบู่ยาสีฟันซึ่งชัดแวะซื้อก่อนเข้าบ้านลงจากรถ แม้ว่าชัดจะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่ก็ดีหน่อยที่ชัดจะคอยตรวจตรารายการสินค้าว่าอะไรหมด หรือใกล้หมดแล้วควรจะซื้อเข้าร้าน แต่เรื่องช่วยขายของงในร้านยามว่างหรือวันหยุดไม่ต้องพูดถึง ชัดไม่ค่อยจะช่วยอะไรอยู่แล้ว
นิดไม่ได้หวังอะไรมากมาย เพียงแค่ให้ทดช่วยดูแลบอลผู้เป็นลูกชาย โดยเฉพาะในเรื่องช่วยดูแลเรื่องการบ้าน ส่วนนิกลูกชายวัยสามขวบนิดดูแลเอง
“คุณพ่อจะไปแข่งฟุตบอลที่เชียงใหม่คืนนี้ใช่มั้ยครับคุณแม่” บอลถามนิดผู้เป็นแม่ขึ้นอีกครั้ง
“ใช่จ๊ะ คุณพ่อคงไปดึกเลยเหล่ะ”
“คุณแม่ครับ”
“อะไรเหรอลูก”
“หนูรู้นะว่าคุณพ่อรักนิกมากกว่าบอล”
นิดตกใจในสิ่งที่ลูกชายพูด
“ลูกบอลพูดอะไรอย่างนั้น คุณพ่อกับคุณแม่รักบอลกับนิกเท่ากันนั่นแหล่ะ ” นิดปลอบลูกชาย
“คุณพ่อชอบโอ๋แต่น้องนิกนี่นา” บอลแย้ง
“ก็น้องเขายังเด็กนี่จ๊ะ คุณพ่อรักบอลกับนิกเท่ากันนั่นแหละ ตอนที่บอลเป็นเด็กคุณพ่อก็โอ๋บอลเหมือนกัน”
นิดปลอบลูกชายต่อไป และทำให้ท่าทางของบอลอ่อนลง
ความจริงแล้ว นิดเองก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะในบางครั้งการแสดงออกของชัดต่อหน้าลูกก็ให้น้ำหนักไม่เท่ากัน อาจจะเป็นเพราะว่านิกกำลังน่ารัก ส่วนบอลคิดว่าเป็นเด็กโตแล้ว ทำให้ชัดไม่ละเอียดอ่อนเพียงพอในเรื่องนี้ นิดเคยพูดกับชัดเรื่องนี้หลายครั้งอยู่เหมือนกัน

กว่าชัดจะกลับจากซ้อมฟุตบอลก็สี่ทุ่มเข้าไปแล้ว นิดยังคงนั่งขายของอยู่ที่หน้าร้าน เพราะนิดจะปิดร้านก็เกือบหกทุ่ม บอลกับนิกเพิ่งจะหลับไป
เมื่อชัดเดินเข้ามาที่หน้าร้าน นิดจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ตกลงจะไปเชียงใหม่กี่ทุ่มกี่ยามกันนี่”
“ประมาณตีหนึ่งโน้นแหล่ะ” ชัดพูดพลางหิ้วรองสตาร์ทเข้าไปหลังร้าน
“จะเดินทางยังไม่เตรียมตัว ไปซ้อมอยู่นั่นแหล่ะฟุตบอลนั่นนะ”
“อย่าบ่นเลยนะ”
นิดไม่ตอบโต้อีก เพราะรู้ว่าถ้าพูดไปก็จะทะเลาะกันเปล่าๆ

หลังจากปิดร้านแล้ว นิดก็ไม่ได้สนใจถามไถ่ชัดอีก เห็นชัดเตรียมของไม่กี่ชิ้นใส่กระเป๋าเดินทาง ก่อนออกเดินทางนิดเห็นชัดเดินเข้าไปที่ห้องของลูกชาย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติก่อนที่ชัดจะไปต่างจังหวัด ทุกครั้งที่ชัดไปเรื่องงานโดยเฉพาะชัดรับผิดชอบเกี่ยวกับทีมฟุตบอลของบริษัท บางครั้งต้องเข้าแคมป์ฝึกซ้อมกับนักฟุตบอลของบริษัทในช่วงแข่งขัน
“คุณจะกลับวันไหน” นิดถามก่อนชัดเดินออกจากบ้าน
“วันพุธ” ชัดตอบสั้นๆ
นิดไม่ได้ถามอะไรต่อไปอีก

สายแล้ว หลังจากที่นิดให้ลูกชายทั้งสองคนทานข้าว แล้วนิดก็นั่งขายของอยู่ที่หน้าร้านเหมือนเช่นทุกวัน ปล่อยให้ลูกชายนั่งดูทีวีอยู่ในห้อง
ขณะที่นิดนั่งขายของอยู่นั่น บอลผู้เป็นลูกชายก็เดินเข้ามาหา
“อ้าว! ไม่ดูโทรทัศน์กับน้องเหรอ” นิดถามลูกชาย
บอลยิ้มให้กับนิดผู้เป็นแม่ แล้วเข้ามานั่งข้างๆนิด ท่าทางเขินนิดๆ
“ผมมีอะไรจะบอกคุณแม่”
“มีอะไรเหรอ”
“เมื่อคืนนี้ ก่อนคุณพ่อจะไป คุณพ่อเข้าไปที่ห้อง” บอลพูดท่าทางเขินมากกว่าเดิม จากนั้นพูดต่อไปว่า “คุณพ่อเข้าไปหอมแก้มน้องนิก หนูก็เลยทำเป็นหลับ คุณพ่อไม่รู้หรอกว่าบอลแกล้งหลับ แล้วคุณพ่อก็มาหอมแก้มหนู”
นิดรีบเอามือสวมกอดลูกชาย แล้วลูบศีรษะเบาๆ นิดบรรยายความรู้สึกของตัวเองไม่ถูก
นิดหลับตา แล้วจินตนาการย้อนกลับไป หากชัดไม่หอมแก้มบอลแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
๘ ตุลาคม ๒๕๔๘




Create Date : 08 ธันวาคม 2548
Last Update : 23 มิถุนายน 2549 11:15:51 น. 4 comments
Counter : 553 Pageviews.

 
อารมณ์สะดุดเล็กน้อย ตรงความคิดสุดท้ายของนิดค่ะ


โดย: mda IP: 203.159.12.16 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:32:42 น.  

 
ครับ


โดย: เกรียงไกร IP: 58.8.200.58 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:16:38:34 น.  

 
เรื่องRollvaral City อ่ะ เพิ่งแต่งเสร็จลองอ่านกันดูนะจ้า




Rollvaral City

“ หวัดดีฮ่ะ ตื่นมาคุยกันเถอะฮ่ะ รัน ” เสียงเริ่มดังขึ้นพร้อมๆกับน้ำเสียงแกมโมโหนิดนิดเพราะรัน เด็กหญิงน้อยน้อย ยังคงหลับใหลอย่างไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง
“ ตื่นนนนน เถอะ ” มันเปล่งเสียงสุดชีวิตเรียกสาวน้อยอีกครั้งและดูเหมือนความพยายามของมันจะเห็นผล - - -
เด็กหญิงร่างน้อยๆบนเตียงค่อยค่อยลืมตาขึ้นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ เพราะมีเสียงบางสิ่งมารบกวนการ
พักผ่อนของเจ้าหล่อน เธอมองหาที่มาของเสียงอย่างงุนงง และสงสัยว่าใครมาเรียกเธอดึกดึกดื่น แต่ความสงสัยของเธอคงมีมากไม่เท่ากับความง่วงและขี้เซาของเธอ เพราะหลังจากลืมตามาหาอย่างงุ่มง่ามเพียงไม่กี่นาที เธอก็เอนตัวลงบนเตียงและหลับต่อ- - - -
เสียงเรียกขานหยุดลงเพราะมันคงรู้ว่าถ้าคืนเรียกต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นพาลแต่จะทำให้เจ็บคอซะเปล่าๆ



เช้าวันใหม่ที่สดใสในฤดูใบไม้ผลิเริ่มต้นขึ้น ลม และ แสงแดดอ่อนอ่อนค่อยเล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน ผ้าม่านที่อยู่ที่หน้าต่างหลุดห้อยไปข้างหนึ่ง มีก็แต่ลวดเส้นเล็กที่ขดม้วนอยู่กับตะปูและพลิ้วปลิวไปตามกระแสลม
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นจนแสบแก้วหู
รัน กดนาฬิกา ด้วยความงัวเงีย - - - เสียงนาฬิกาปลุกหยุดดัง
รันตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยดำรอบดวงตา ผลจากการอดหลับอดนอน อ่านหนังสืออยู่จนถึงเที่ยงคืนเพราะวันนี้คือวันสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่ตัวจังหวัด - - - เธอพนมมือขอให้ เจ้าป่าเจ้าเขา ผีบ้านผีเรือน พระแม่โพสพ พระแม่คงคา เจ้าแม่กวนอิม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกหลายต่อหลายอย่างที่เธอพอจะนึกได้
“ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้ลูกช้างสอบเข้าโรงเรียนนี้ให้ได้ด้วยเถิดดดดดด สาธุ”
ดูเหมือนคำขอของเธอจะทำให้เธอดูจะมีกำลังใจขึ้นอีกนิด
แล้วเธอก็นั่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืน คิดถึงเสียง ที่ร้องเรียกเธอ
“เอ...... เสียงใครหว่ะ ใครกัน น - - ”
“รัน อาบน้ำแต่งตัวยังลูก” คิมพ่อเลี้ยงของรันกล่าวเรียก
“ค่ะ พ่อ กำลังจะอาบค่ะ ”
รันอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จพร้อมทั้งถือหนังสือ วิทยาศาสตร์ง่ายนิดเดียว ไปด้วยขณะทานข้าว ดูเหมือนรันจะเครียดๆที่ อ่านยังไงก็ยังไม่เข้าหัวสักกะที เธอหัวเสียหน่อยๆที่ พรัน แม่เลี้ยงของรันกำลังดูดฝุ่นเสียงดัง ครืน ครืน รบกวนการอ่านหนังสือของเธอ
“ตายหล่ะวา 8 โมงแล้ว” รัน ร้องตะโกนอย่างร้อนรน
เธอรีบไปรอรถหน้าปากซอยอย่างรีบเร่ง
“ รัน ไปสอบเหรอ รันไม่ทันแล้วเร็วเข้า”
“ใครกัน อยู่ไหน น - - - ” รันพยายามมองหาและพึมพำ
ปริ๋น ปริ๋นนน เสียงแตรรถบัสประจำทางดังขึ้น รันหยุดหารมองหา และรีบวิ่งขึ้นรถอย่างร้อนรน ในใจก็นึกสงสัยถึงที่มาของเสียงทั้งเมื่อคืน และเมื่อสักครู่
เมื่อมาถึงรันรีบไปรายงานตัวอย่างเหนื่อยอ่อน หนูเด็กหญิง รันริโอล นัล ค่ะ
ดูเหมือนเธอคนอื่นๆจะเข้าห้องสอบกันหมดแล้ว รันค่อยค่อยเดิน หาที่นั่งที่เหลือที่เดียว ตรงมุมสุดของห้องริมหน้าต่าง เหงื่อของเธอ หยดติง ติง เนื่องด้วยเหนื่อย
“ดูคนนั้นซิดูหยิ่งเนอะ”
“ใช่ๆ ดูนั่นซิเก๊กชะมัด”
“ดูพ่อคนนั้นซิหล่อ เนอะ”
“อิอิอิอิ”
เสียงคุยกันเริ่มดังขึ้นเรื่อยและดูเหมือนคุยกันเกือบสัก 50 คนเห็นจะได้ รัน เริ่มทนไม่ได้ หันไปมองคนรอบข้าง เธองุนงงที่คนเหล่านั้นไม่ได้ยินเสียงหรือไงไม่มีใครทำท่าทีรำคาญกันซะเลย
“อาจารย์ค่ะ เสียงใครคุยกันก็ไม่รู้ค่ะ ” รันยกมือพร้อมทั้งพูดอย่างไม่สบอารมณ์กับความไม่มีมรรยาทของผู้ที่พูดเสียงดัง
อาจารย์คนที่คุมสอบหน้าห้อง เขาดูหน้าตาดุดุ ลงพุงและ หัวล้าน เดินเข้ามาใกล้ๆรัน
“ไหน อยู่ที่ไหน ? กัน”
“เสียงอยู่นอกหน้าต่างนี้ไงค่ะ”
“ไหนไม่เห็นมีใครเลย ไม่เห็นมีเสียงคุยกันสักหน่อย มีก็แต่เสียงหวี่ๆของผึ่งที่อยู่บนต้นมะขาม”
“ก็เสียง ยังอยู่ตร - - -- ”
“หยุดได้แล้ว จะมาก่อกวนกันรึไง รีบทำข้อสอบเข้า ”
“อาจารย์ค่ะ -- - - ”
“นี่ เธอ มาสายแล้วข้อหาหนึ่งนะ นี่เธอยังจะมาก่อกวนอีกหรือไง”
คราวนี้คนทั้งห้องมองมาทางเธออย่างอารมณ์เสีย
รันนั่งลงเพื่อจะทำข้อสอบต่อแต่เสียงยังคงดังขึ้นอยู่ตลอด เธองง และ งง กลับเสียประหลาดที่ไม่มีใครได้ยินเหมือนกับเธอ

“กริ๊งงงงงงงงง หมดเวลาแล้วทุกคน ส่งได้แล้ว”
รันลุกขึ้นเดินไปส่งด้วยความไม่มั่นใจ เธอออกจากห้องสอบและพยายามถามทุกคนในห้องว่ามีใครได้ยินเสียงเหมือนกับเธอมั้ย
แต่คำตอบของทุกคน คือ “ไม่” และมองเธอด้วยสีหน้าแยะแยะ พร้อมทั่งส่ายหัวไปมากับความเพ้อเจ้อของเธอ
รันรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย เธอเดินไปหา อิม เพื่อนสนิทของเธอ และคือเพื่อนคนเดียวของเธอด้วย



โดย: Ritzz IP: 203.172.59.147 วันที่: 8 มีนาคม 2549 เวลา:12:22:40 น.  

 
ขอบคุณครับที่นำเรื่องมาฝาก


โดย: เกรียงไกร IP: 203.156.21.43 วันที่: 22 มิถุนายน 2549 เวลา:15:58:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

huaboonsan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]





.....มีความฝันเป็นเรือ
ล่องลอยไปในทะเล
แห่งกาลเวลา............

Friends' blogs
[Add huaboonsan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.