๕๑ ปี..นนทรีทรงปลูก..ดนตรีทรงโปรด
วันประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งวันหนึ่ง ของชาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นวันแห่งความปลาบปลื้มปีติ และตราตรึงอยู่ในความทรงจำอย่างไม่มีวันจางหายไปในจิตใจของชาว ม.เกษตรฯ ทุกคน ก็คือ วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงปลูกต้นนนทรี จำนวน 9 ต้น และพระราชทานต้นนนทรีเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย ณ บริเวณด้านหน้าอาคารหอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2506 เวลา 15.30 น. พร้อมกับทรงมีพระมหากรุณาธิคุณร่วมทรงดนตรีที่หอประชุมเป็นครั้งแรก ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระกระแสรับสั่ง ตอนหนึ่งว่า ขอพูดอะไรสักหน่อย วันนี้ได้รับเชิญมาปลูกต้นไม้ ก็ทำให้คิดว่า การปลูกต้นไม้ก็จำเป็นจะต้องเลือกว่าต้นอะไรจึงจะดี เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย ต้นไม้อะไรๆ ก็สีเขียว ต้นนนทรีที่เลือกเป็นต้นไม้ของเกษตร ก็เหมาะสมที่มีสีเขียวด้วย เหมาะมากและน่ายินดีมาก ที่ต้นนนทรีนั้นปลูกได้ทั้งทุกแห่งของไทย เพราะทนแล้ง ทนแดดได้ นี่เป็นความหมายที่ดี เพราะคนไทยถ้าปลูกในแผ่นดินไทย ก็เติบโตดี และเจริญดี ต้นไม้ต้องมีดิน จึงจะเจริญได้ดี ถ้าเอาไปไว้ในกระถาง หรือเอาไปปลูกในน้ำหรือปลูกในน้ำยาคุณภาพดีๆ จากต่างประเทศ ก็จะหงอย อยู่ไม่ได้ เขาต้องการดิน ขอฝากต้นไม้นี้ให้มหาวิทยาลัยและนิสิตช่วยกันรักษาให้ดี อย่าให้หงอย ขอฝากนิสิตทั้งหลาย ขอให้ช่วยกันรักษาตัวเองให้ดี และอย่าลืมว่าตัวเองนั้นจะอยู่กันได้ก็ด้วยแผ่นดินไทย ขอให้ช่วยรักษาแผ่นดินไทยไว้ด้วย คนไทยถ้าไร้แผ่นดินก็จะหงอยกันหมด อยู่กันไม่ได้ และเราก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ในคราวเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ นิสิตปัจจุบัน นิสิตเก่า และคณาจารย์เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นนนทรีเรียบร้อยแล้ว ล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่หอประชุม เพื่อทรงดนตรีร่วมกับ วง อ.ส.วันศุกร์ ซึ่งมีอาจารย์ และศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย รวมอยู่ด้วย ได้แก่ อาจารย์ระพี สาคริก (นักดนตรีและโฆษก) ม.ร.ว. เทพฤทธิ์ เทวกุล (โฆษก) และนายอวบ เหมะรัชตะ เป็นต้น นับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน กล่าวคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกต้นนนทรี และทรงดนตรี ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นการส่วนพระองค์ เป็นครั้งแรก และทรงเป็นกันเองอย่างที่สุด ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่นำมาสู่การเสด็จพระราชดำเนิน เยี่ยมต้นนนทรี ที่ทรงปลูก และ ทรงดนตรี สืบเนื่องมาจนถึงปีพุทธศักราช 2515 รวมจำนวน 9 ครั้ง นายชัยวัฒน์ ศีตะจิตต์ นิสิต ปี 1 เค ยู 23 อดีตผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถ่ายทอดความรู้สึกด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า นับเป็นบุญวาสนาอย่างยิ่ง ที่ได้เข้าร่วม วันนนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด ครบทั้ง 10 ครั้ง ปี พ.ศ. 2509 เมื่อครั้งที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาจารย์และนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าเฝ้าฯ เพื่อทรงดนตรีเป็นการพิเศษ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และในครั้งนั้นได้พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ เกษตรศาสตร์ เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วย ในฐานะนิสิตปี 1 แต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบสำหรับการเข้าร่วมงานพระราชพิธี ก็คือ ชุดขาว ผูกเนคไทสีเขียว นิสิตทั้งชายและหญิงยืนทั้งสองด้านถนนรอบสระหน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขบวนรถพระที่นั่งมาถึงปะรำพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มาถึง ทรงเริ่มปลูกต้นนนทรี ต้นแรกอยู่ทางด้านทิศใต้ ก็คือด้านที่ไปทางถนนงามวงศ์วาน แล้วก็ปลูกเป็นลำดับมาจนครบ 9 ต้น ตัวกระผมนั้นอยู่ด้านหลังของต้นที่ 5 เป็นบุญและโชคดีมากๆ เลยที่ได้มีภาพของผมอยู่ด้านหลังของท่านศาสตราจารย์ ชวนชม จันทรเปารยะ ซึ่งเป็นผู้อัญเชิญเครื่องพระสุหร่าย ภาพนั้น เห็นชัดเจนมาก เป็นความภาคภูมิใจมากๆ เพราะว่า ภาวนาจิตคอยตั้งแต่พระองค์ท่านทรงปลูกต้นแรก นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อทรงปลูกนนทรีครบทั้ง 9 ต้นแล้ว ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ เข้าสู่หอประชุม มก. เพื่อทรงดนตรีร่วมกับวง อ.ส.วันศุกร์ และโปรดเกล้าฯ ให้นิสิตเก่า นิสิตปัจจุบัน รวมทั้งครูบาอาจารย์ได้เข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด และทรงเป็นกันเองอย่างที่สุด ภายในหอประชุม ซึ่งแน่นมาก ต้องบอกว่ามีผู้มาเฝ้าแน่นมากๆ จนกระทั่งล้นออกมาด้านนอก รายการดนตรีที่เกิดขึ้นบนหอประชุมนั้น หลักก็คือวง อ.ส.วันศุกร์ จะมีวงดนตรี KU band เข้าร่วมก็เป็นบางส่วน มีอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซึ่งในขณะนั้นทำหน้าที่เป็นพิธีกรด้วยก็คือ ศาสตราจารย์ระพี สาคริก กับอีกท่านหนึ่ง คือ หม่อมราชวงศ์ เทพฤทธิ์ เทวกุล ก็ได้รับพระบรมราชานุญาตให้สร้างบรรยากาศอันดี คือ บรรยากาศ ซึ่งทรงเป็นกันเองมากๆ กับทั้งนิสิตและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดนตรีนั้นจะออกแนวดนตรีที่ทรงโปรด คือ ออกแนวของแจ๊ส แล้วก็มีดนตรีที่ไพเราะที่เป็นที่ชื่นชอบของนิสิตค่อนข้างจะมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดนตรีได้หลายชิ้น หลายเครื่องมาก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเป่า อย่าง แซกโซโฟน หรือ แตรทรัมเป็ต ปี่แคลริเน็ต แล้วบางครั้งก็ทรงเปียโนเอง บรรยากาศในหอประชุมนั้นครึกครื้นมาก ครึกครื้น ก็คือว่า ทุกวินาทีผู้ฟังใจจดจ่อ จดจ่อทั้งกับเสียงเพลง แล้วก็ คอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาตรงหน้าไมโครโฟน ก็จะรู้แล้วว่า จะมีพระราชกระแส มีพระราชดำรัสอะไรที่ทุกคนจะตั้งใจฟังทุกคำและพระองค์ท่านก็จะมีพระอารมณ์ขันสอดแทรกอยู่ในพระราชดำรัสอยู่ตลอดเวลา นายชัยวัฒน์ กล่าว นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 จนถึงปัจจุบัน ต้นนนทรีทั้ง 9 ต้น มีอายุ 51 ปีเต็ม เติบโตเป็นต้นไม้สูงใหญ่ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโดยเฉลี่ย 66.8. ซม. มีความสูงเฉลี่ยประมาณ 11.7 เมตร มีพื้นที่เรือนยอดปกคลุม 130 ตารางเมตรต่อต้น หรือคิดเป็นพื้นที่เรือนยอดปกคลุม รวม 1,173 ตารางเมตร นับว่าเป็นต้นนนทรีขนาดใหญ่ที่หาพบได้ยากในกรุงเทพมหานคร ในวาระสำคัญ ซึ่งเวียนมาบรรจบครบรอบ 51 ปี แห่งพระมหากรุณาธิคุณ นนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงขอเชิญชวนศิษย์เก่า นิสิตปัจจุบัน บุคลากร และประชาชน ร่วมงาน วันที่ระลึกวันนนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด สืบสานวันทรงดนตรี เพื่อแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
.. ข้อมูลโดย ผกามาศ ธนพัฒนพงศ์ เรียบเรียงโดย ณพาภรณ์ ปรีเสม //www.chaoprayanews.com/2014/11/26/%e0%b9%95%e0%b9%91-%e0%b8%9b%e0%b8%b5-%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81-%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5/
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2557 1:00:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 22889 Pageviews. |
|
|