แรกมีอนามัยในเมืองไทย
เรื่องอนามัย
มีเรื่องเกร็ดที่ฉันได้รู้เห็นในสมัยเมื่อมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลและการป้องกันความไข้เจ็บมาแต่ก่อนหลายเรื่อง แต่เป็นเรื่องที่อยู่ในการไม่ปรากฏจดหมายเหตุ ถ้าไม่มีใครเขียนลงไว้เมื่อหมดตัวผู้รู้ก็จะเลยสูญเสีย จึงมาเขียนเล่าในนิทานนี้ แต่เป็นเรื่องยาวจึงแยกเป็นนิทาน ๒ เรื่อง เล่าเรื่องในสมัยเมื่อก่อนฉันเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยเรียกว่า "เรื่องตั้งโรงพยาบาล" เรื่องหนึ่ง แล้วเล่าเรื่องในสมัยจัดการป้องกันความไข้เจ็บ เมื่อฉันเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยแล้ว เรียกว่า "เรื่องอนามัย" ต่อไปอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ฉันเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยแล้ว ต่อมาโปรดให้โอนราชการพลเรือนตามหัวเมือง ซึ่งแต่ก่อนแยกขึ้นอยู่ในกระทรวงมหาดไทย กลาโหม กรมท่า มารวมขึ้นกระทรวงมหาดไทยแต่กระทรวงเดียว และรวมหัวเมืองในเป็นมณฑลเทศาภิบาล จัดการปกครองท้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วทรงพระราชปรารภว่ากระทรวงเสนาบดีอื่นๆกำลังจัดระเบียบการกระทรวงที่ในกรุงเทพฯ ยังไม่สามารถจะจัดการจะจัดการแผนกกระทรวงนั้นๆ ออกไปถึงหัวเมืองได้
แต่ทรงพระราชดำริเห็นว่าไม่ควรจะรอการทำนุบำรุงหัวเมืองไว้จนกว่ากระทรวงการแผนกนั้นๆจะสามารถออกไปจัดการได้เอง จึงดำรัสสั่งว่าการทำนุบำรุงอย่างใดซึ่งควรจัดตามหัวเมืองได้ ให้กระทรวงมหาดไทยลงมือจัดการตามนั้นไปทีเดียว อันนี้เป็นเหตุให้หน้าที่จัดการบำรุงอนามัยตามหัวเมืองมาตกอยู่ในกระทรวงมหาดไทย เพราะกรมพยาบาลในกระทรวงธรรมการเพิ่งตั้งขึ้นใหม่ ด้งได้เล่าไว้ในนิทานเรื่องตั้งโรงวพยาบาล ยังไม่สามารถจะขยายการออกไปถึงหัวเมืองได้
ตามประเพณีที่จัดขึ้นใหม่ในกระทรวงมหาดไทย มีการประชุมสมุหเทศาภิบาลในกรุงเทพฯทุกปี จึงปรึกษาจัดการอนามัยตามหัวเมืองในที่ประชุมนั้น มีความคิดเห็นว่าจะจัดการอย่างในกรุงเทพฯไม่ได้ เพราะหัวเมืองไม่มีทุนและไม่มีคนจะใช้มากเหมือนอย่างในกรุงเทพฯ จะต้องคิดหาทางอื่น และทางที่จะจัดนั้นเห็นว่าควรเอาลักษณะการตามที่เป็นอยู่ตามหัวเมืองแล้วตั้งเป็นหลักคิดแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นโดยลำดับ ก็ลักษณะการอนามัยที่เป็นอยู่ตามหัวเมืองทั้งปวงนั้น ถ้าพิจารณาแยกกันก็มี ๓ อย่างดังนี้ คือ
อย่างที่ ๑ คือ ยาสำหรับรักษาไข้เจ็บ เป็นของมีใช้อยู่ในพื้นเมืองแล้ว ความบกพร่องในเรื่องยาอยูที่ไม่รู้จักหรือไม่มียาดีกว่าที่จะใช้เป็นสำคัญ
อย่างที่ ๒ คือ ความรู้ที่จะใช้ยาและรักษาไข้เจ็บ เป็นของมีใช้อยู่ในพื้นเมืองแพร่หลายอยู่แล้ว ใครรู้มากก็เรียกว่า "หมอ" มีอยู่ทั่วไปในพื้นเมือง ความบกพร่องในเรื่องใช้ยาและรักษาพยาบาลไข้เจ็บ อยู่ที่หมอมีความรู้น้อยเพราะไม่ได้เรียนตำรับตำรา อาศัยแต่ความคุ้นเคยเป็นสำคัญ ใครเคยรักษาไข้มากก็รู้มาก ใครเคยรักษาไข้น้อยก็รู้น้อย ถึงกระนั้นก็ยังสามารถรักษาไข้ที่ไม่เหลือความรู้ให้หายได้
อย่าที่ ๓ คือ ธรรมดาคนเจ็บไข้ย่อมกลัวภัยแก่ชีวิตของตน เพราะฉะนั้นถ้าเชื่อว่าใครจะช่วยชีวิตได้ก็ให้คนนั้นมารักษา ถึงผู้อื่นจะบอกว่าหมอคนไหนดีหรือยาขนานไหนดี ถ้าตัวคนไข้หรือผู้ปกครอง เช่น พ่อแม่ของคนไข้ไม่เชื่อถือก็ไม่ยอมกินยาของหมอคนนั้น จะบังคับขืนใจไม่ได้
เมื่อความจริงเป็นอยู่ดังกล่าวมา จึงเห็นว่าการบำรุงอนามัยควรจะอนุโลมต่อลักษณะที่เป็นอยู่จึงจะสำเร็จประโยชน์ กระทรวงมหาดไทยกับเทศาภิบาลจึงจัดการบำรุงอนามัยตามหัวเมืองโดยทางที่กล่าวมา เป็นการหลายอย่างดังจะพรรณนาต่อไป //board.postjung.com/819786.html
Create Date : 28 ตุลาคม 2557 |
Last Update : 28 ตุลาคม 2557 0:19:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 981 Pageviews. |
|
|