|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
หนังสือทรงคุณค่าแห่งปี...ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสฯ นับแต่ปี ๒๔๙๓ ๒๕๔๘
ราษฎรทั้งหลาย ในวันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช ๒๔๙๓ นี้ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย จงช่วยดลบันดาลให้ท่านทั้งหลาย ประสบแต่ความเจริญสุขสวัสดี เพื่อจะได้ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ ทำนุบำรุงชาติบ้านเมืองของเราให้รุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้น ในไม่ช้านี้ ข้าพเจ้าจะกลับเมืองไทยมาพบกับท่านแล้ว ขณะนี้สุขภาพของข้าพเจ้าดีขึ้นบ้าง แต่ยังมีอาการปวดศรีษะมากอยู่เสมอๆ ตั้งแต่คราวรถชน แพทย์ลงความเห็นว่า ยังไม่ควรกลับมาถูกอากาศร้อนอย่างเมืองไทยในระยะนี้ แต่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นการสมควรและจำเป็นจะได้กลับเข้ามาปฏิบัติราชการที่สำคัญตามที่ข้าพเจ้าได้เคยพูดไว้เมื่อก่อนที่จะจากท่านมาเมื่อสามปีก่อนนั้น ข้าพเจ้าหวังว่าท่านทั้งหลาย จะใช้เวลาในปีใหม่นี้ให้เป็นประโยชน์ ขอให้ท่านจงอยู่เย็นเป็นสุข ตั้งมั่งอยู่ในสามัคคีธรรมและช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคใดๆ ที่จะมีมา เพื่อชาติบ้านเมืองของเราจะได้วัฒนาถาวรสืบไป. -------------------- ข้อความข้างต้นคือพระราชดำรัส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานแก่ประชาชนในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๓ นับเป็นพระราชดำรัสครั้งแรก ก่อนพระองค์จะเสด็จนิวัติพระนครเพื่อทรงกระทำพิธีราชาภิเษก ขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ประทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้นพปฏลมหาเศวตฉัตร ในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ แล้วพระราชทานอีกหนึ่งพระบรมราชโองการแก่ไพร่ฟ้าพสกนิกรของพระองค์ ณ วันนั้น ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ------------------- จวบจนวันนี้ พ่อของแผ่นดิน ยังคงมอบคำสอนอันมากคุณค่า มอบปรัชญาอันลุ่มลึกให้แก่ลูกๆ เสมอ ทว่า ในท่ามกลางวิกฤติปัญหาสังคมที่ถาโถมเข้ามา หรือแม้แต่ในยามปกติสุขก็ตามที จะมีลูกสักกี่คน ที่นึกถึง คำของพ่อ แล้วนำมาเป็นเข็มทิศนำพานาวาชีวิตก้าวข้ามฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามไปได้ เพื่อให้ประชาชนได้น้อมนำพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้งน้อมนำเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติหน้าที่การงาน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จึงจัดทำหนังสือ ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๔๙๓ ๒๕๔๘ ขึ้น ซึ่งนอกจากจุดประสงค์ข้างต้นแล้ว ยังเพื่อเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดี เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ด้วย สำหรับความพิเศษของหนังสือชุดนี้ คือการรวบรวมพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดระยะเวลา ๕๕ ปี รวมทั้งสิ้น ๒, ๑๔๒ องค์ คือนับแต่ครั้งแรกที่พระองค์ทรงพระราชทานแก่พสกนิกร กระทั่งถึงปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ไว้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดครั้งหนึ่ง หนังสือชุดนี้ มีทั้งสิ้น ๘ เล่ม หนากว่า ๔, ๒๐๐ หน้า พร้อมดีวีดีในการสืบค้นข้อมูลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสอีกหนึ่งแผ่น จัดพิมพ์จำนวนจำกัดเพียง ๕, ๐๐๐ ชุดเท่านั้น รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ผู้สนใจติดต่อขอรับใบสั่งจองได้ที่ สำนักงาน กบข. หรือศูนย์หนังสือซีเอ็ดทั่วประเทศ ทั้งสามารถดาวน์โหลดใบสั่งจองได้ที่เว็บไซต์ กบข. //www.gpf.or.th
เนื้อความในหนังสือ ใช่ว่ามีความสำคัญอยู่ที่เปรียบเสมือนหลักยึด หรือแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ผู้อ่านจะได้รับ หากแต่ยังสะท้อนถึงความเป็นไปของยุคสมัย สะท้อนถึงวิถีชีวิต หรือสภาพปัญหาต่างๆ ของสังคมด้วย ดังที่ วิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ กบข. เคยกล่าวไว้ว่า ทุกพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระองค์ท่านล้วนสะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ซึ่งหมายถึงประโยชน์ที่จะเกิดแก่ประเทศชาติและประชาชน ยึดมั่นในความสามัคคี ความสงบเรียบร้อยของชาติบ้านเมือง การร่วมปลูกจิตสำนึกในคุณธรรม จริยธรรม ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ทุกยุคสมัย ทั้งนับได้ว่าเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของชาติไทยในแต่ละปีไว้อย่างชัดเจน นับเป็นสิ่งประเมินค่ามิได้ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย ดังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และพฤษภาทมิฬ 2535 ------------- พระราชดำรัส ณ หอพระสมุด สวนจิตรลดา วันอาทิตย์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ "วันนี้ เป็นวันมหาวิปโยค ที่น่าเศร้าสลดอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอดระยะเวลา ๖-๗ วัน ที่ผ่านมา ได้มีการเรียกร้องและการเจรจากัน จนกระทั่งนักศึกษาและรัฐบาลทำข้อตกลงกันได้ แต่แล้วมีการขว้างระเบิดขวดและยิงแก็สน้ำตาขึ้น ทำให้เกิดการปะทะกัน และมีคนได้รับบาดเจ็บหลายคน ความรุนแรงได้ทวีขึ้นทั้งพระนคร ถึงขั้นจลาจล และยังไม่สิ้นสุด มีคนไทยด้วยกันต้องเสียชีวิตนับร้อย ขอให้ทุกฝ่ายทุกคนจงระงับเหตุแห่งความรุนแรงด้วยการตั้งสติยับยั้ง เพื่อให้ชาติบ้านเมือง คืนสู่สภาพปรกติเร็วที่สุด อนึ่งเพื่อขจัดเหตุร้ายนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อค่ำวันนี้ ข้าพเจ้าจึงแต่งตั้งให้ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายร่วมกันสนับสนุน เพื่อให้คณะรัฐบาลใหม่สามารถบริหารงานแผ่นดินได้โดยมีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม และแก้ไขสถานการณ์ให้คืนสู่สภาพเรียบร้อยให้โดยเร็ว ยังความสงบสุขความเจริญรุ่งเรือง ให้บังเกิดแก่ประเทศและประชาชนชาวไทยโดยทั่วกัน." ------------------ พระราชดำรัส (๑) ในโอกาสที่นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรี และ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรี นำพลเอก สุจินดา คราประยูร และพลตรี จำลอง ศรีเมือง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันพุธที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๕ เวลา ๒๑.๓๐ น. "๑. คงไม่เป็นที่แปลกใจทำไมถึงเชิญให้ท่านมาพบกันอย่างนี้ เพราะว่าทุกคนก็ทราบว่าเหตุการณ์มีความยุ่งเหยิงอย่างไร และก็จะทำให้ประเทศชาติล่มจมไปได้ แต่ที่จะแปลกใจก็อาจจะมีว่าทำไมเชิญ พลเอก สุจินดา คราประยูร และพลตรี จำลอง ศรีเมือง เพราะว่าอาจจะมีผู้ที่เป็นตัวแสดง ตัวละครมากกว่านี้ แต่ที่เชิญมาเพราะว่า ตั้งแต่แรกที่มีเหตุการณ์ สองท่านเป็นผู้ที่เผชิญหน้ากัน และก็ในที่สุด การต่อสู้หรือการเผชิญหน้า กว้างขวางออกไป ถึงได้เชิญสองท่านมา ๒. การเผชิญหน้าตอนแรก ก็จะเห็นจุดประสงค์ของทั้งสองฝ่ายได้ชัดเจนพอสมควร แต่ต่อมาภายหลัง ๑๐ กว่าวัน ก็เห็นแล้วว่าการเผชิญหน้านั้น เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างมาก จนกระทั่งผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม ก็จะเสียทั้งนั้น เพราะว่าทำให้มีความเสียหายในทางชีวิตเลือดเนื้อของคนจำนวนมากพอสมควร แล้วก็มีความเสียหายทางวัตถุ ซึ่งเป็นของส่วนราชการและส่วนบุคคล เป็นมูลค่ามากมาย นอกจากนั้นก็มีความเสียหายในทางจิตใจและในทางเศรษฐกิจของประเทศชาติอย่างที่จะนับคณาไม่ได้ ฉะนั้นการที่จะเป็นไปอย่างนี้ต่อไป จะเป็นด้วยเหตุผลหรือต้นตอใดก็ช่าง เพราะเดี๋ยวนี้เหตุผลเปลี่ยนไป ถ้าหากว่าเผชิญหน้ากันแบบนี้ต่อไป เมืองไทยมีแต่ล่มจมลงไป แล้วก็จะทำให้ประเทศไทยที่เราสร้างเสริมขึ้นมาอย่างดีเป็นเวลานาน จะกลายเป็นประเทศที่ไม่มีความหมาย หรือมีความหมายในทางลบอย่างมาก ซึ่งก็เริ่มปรากฏผลแล้ว ฉะนั้นจะต้องแก้ไข โดยที่ดูว่ามีข้อขัดแย้งอย่างไร แล้วก็พยายามที่จะแก้ไขตามลำดับ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ ปัญหาที่มีอยู่ทุกวันนี้ สองสามวันนี้มันเปลี่ยนไป ปัญหาไม่ใช่เรื่องของที่เรียกว่าการเมือง หรือเรียกว่าของการดำรงตำแหน่งอะไร มันเป็นปัญหาของการสึกหรอของประเทศชาติ ฉะนั้นจะต้องช่วยกันแก้ไข" ------------------ สุดท้าย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาโครงการ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของหนังสือชุดนี้ว่า ตลอดระยะเวลากว่า ๖๐ ปี ที่ทรงครองราชย์ พระองค์ได้ทรงสั่งสอนประชาชนพสกนิกร ในแง่มุมต่างๆ ทั้งในด้านการพัฒนาประเทศ ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นประโยชน์ ควรค่าแก่การรวบรวมและเผยแพร่...นับเป็นองค์ความรู้ที่เงินทองก็ไม่เทียบเท่าคุณค่าของความหมายที่เป็นมงคล นอกจากความหมายเลอค่าในวโรกาสมหามงคล เหตุการณ์สำคัญในแต่ละยุคแล้ว คุณธรรมที่ พ่อ ปลูกฝังแก่ลูกๆ ตลอดกึ่งศตวรรษที่ผ่านมา อันว่าด้วยความสามัคคี มีน้ำใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ก็ได้รับการบันทึกไว้อย่างครบถ้วนในหนังสือชุดนี้ด้วยเช่นกัน
โดย ผู้จัดการออนไลน์
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า บล็อกเกอร์ สาว17
Create Date : 06 ธันวาคม 2550 |
|
1 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2550 0:02:17 น. |
Counter : 580 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ดุ๊ค IP: 125.24.15.226 6 ธันวาคม 2550 16:06:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
Color Codes ป้ามด
เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย ดูอย่างต้นไม้ซิ มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี อดทนและอดทน เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข
|
|
|
|
|
|
|
|