พ่อ-แม่-ลูก บินหนีหนาวจากเซี่ยงไฮ้...ไปเที่ยวฮ่องกง
ครอบครัวโกวเปีย (พ่อ-แม่-ลูก) เที่ยวฮ่องกง ปี 2012 ครอบครัวของโกวเปียวางแผนว่าจะหนีหนาวเมืองเซี่ยงไฮ้ไปพักหนาวสักช่วง วางแผนกันตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปลงตัวที่ฮ่องกงอีกครั้ง เพราะแป็งแป็งอยากไปเที่ยวสวนสนุกและอยากช้อปปิ้ง ด้วยความกลัวว่าตั๋วเครื่องบินและที่พักจะเต็มช่วงปิดเทอมปีใหม่ ก็เลยซื้อตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรมเก็บไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม กำหนดวันเดินทางไว้ที่ วันที่ 7 มกราคม 2555 รอจนแป็งแป็งปิดเทอมปีใหม่ถึงจะไปเที่ยวกัน
พอใกล้ ๆ สักสองสามอาทิตย์ ปรากฏได้ข่าวไข้หวัดนกที่ฮ่องกง (ช่วงกลางเดือนธันวาคม) เซ็งกันไปทั้งบ้าน เพราะกลัวจะเที่ยวไม่สนุก เผลอ ๆ ถ้าเกิดโรคระบาดขึ้นพาลจะอดไปด้วยซ้ำ เงินค่าตั๋วเครื่องบิน และโรงแรมก็จ่ายไปหมดแล้ว ลุ้นดูก็แล้วกัน ไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่ารอดูสถานการณ์และติดตามข่าว วัน ๆ อ่านอินเตอร์เน็ตดูข่าวและอ่านบล็อก จนสถานการณ์ไข้หวัดนกดูจะดีขึ้นเรื่อย ๆ และแล้วก็ได้เดินทางไปฮ่องกงจนได้ แค่ตกลงกันไว้ว่า อย่าพยายามกินไก่ก็แล้วกัน ทุกครั้งที่ไปฮ่องกง พวกโกวเปียมักจะพักตามโรงแรมกลางเมือง ด้วยเหตุผลที่ว่า สะดวกขึ้นรถเที่ยวและออกช้อปปิ้งง่าย แต่ทุกครั้งก็จะไม่ค่อยประทับใจที่พักสักเท่าไร เพราะโรงแรมฮ่องกงที่ไปพัก ไม่ว่าจะกี่ดาว ห้องพักมักจะเล็ก บางครั้งกลิ่นไม่ค่อยจะสะอาดสะอ้าน ยิ่งจมูกสัมผัสไวอย่างโกวเปียและแป็งแป็งแบบนี้ ความเป็นแม่เลยทนไม่ได้ที่จะต้องจัดการทำความสะอาดด้วยตัวเองอีกรอบหนึ่ง เช่น เอาม่านอาบน้ำมาซัก เช็ดพื้นห้องสักรอบ ก็ต้องมานอนต้องหลายคืน คืนละหลายชั่วโมง ความรู้สึกว่ารอบข้างเรามีอนามัยที่ดี มีผลต่อสุขภาพกายและใจมากทีเดียวการเดินเที่ยวทั้งวันก็เหนื่อยเหมือนกัน เพราะตลอดทั้งวัน มีโอกาสนั่งลงก็ตอนกินข้าวเท่านั้นแหละ เหนื่อยอย่างนี้ น่าจะได้พักอยู่ในห้องที่สะอาดสดใส จะได้พักผ่อนได้เต็มอิ่ม เพื่อจะได้มีแรงลุยต่อในวันรุ่งขึ้น
มาเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้ พวกเราก็เลยให้ความสำคัญกับที่พักเป็นอันดับแรก พอดีเพื่อนชาวฮ่องกงของคุณพ่อแป็งแป็งแนะนำอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งอยู่แถว ๆ Tsuen Wan (荃湾) ชื่อ Baybridge Apartment เป็น Serviced Apartment ที่เขามาทำความสะอาดให้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เนื่องจากครอบครัวเรามีสามคน เขาเลยแนะนำให้เลือกห้องพักประเภทหนึ่งห้องนอน คือ มีห้องนอน 1ห้อง ห้องรับแขกแยกออกมาอีก 1ห้อง มีครัวเล็ก ๆ ติดกับห้องรับแขก และมีห้องน้ำ 1 ห้อง รวมพื้นที่ใหญ่ประมาณ 60 กว่าตารางเมตร แต่ต้องพักอยู่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ขึ้นไป ค่าห้องพักราคา 7,833 ฮ่องกงดอลล่าห์
พอไปถึงก็ประทับใจจริง ๆ เพราะห้องสะอาดมากทีเดียว มีจานชามช้อนหม้อกะทะครบทุกอย่าง ตู้เย็นขนาดกลาง ใส่ของสบายมากแถมมีไมโครเวฟอีก เราได้ห้องชั้นเก้า และได้ห้องหัวมุม วิวสวยงามมากทีเดียว มองออกไปเป็นทะเลที่เว้าเข้ามา ฝั่งตรงข้ามเห็นกลุ่มตึกอพาร์ทเม้นต์สูง ๆ หลายตึกแต่ไกล ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยมากเลย เห็นเรือจอดอยู่แป็งแป็งอยู่จนไม่อยากกลับเซี่ยงไฮ้ นับว่าเป็นการเลือกที่พักที่ดีมากทีเดียว
วิวตอนกลางคืนที่ถ่ายจากห้องพัก 901 ของเรา Baybridge Apartment อยู่ไปทางนอกเมืองใกล้สนามบิน ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ง่าย แม้จะไม่ได้อยู่ในตัวเมือง แต่ว่าเขามีรถรับส่งทุกชั่วโมง ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงเที่ยงคืน ส่งไปจุดหมายต่าง ๆ 5-6 ป้าย เช่น ที่ช้อปปิ้งมอลล์ใกล้ ๆ ซึ่งก็ใหญ่ดี มีส่งไปที่สถานีรถไฟใต้ดินที่ฮ่องกงเรียกว่า MTR สะดวกสบายมาก ตอนเอามาเขียนบล็อก โกวเปียยังคิดถึงอยู่เลย สงสัยครั้งหน้ามาเที่ยวฮ่องกง คงมาอยู่อพาร์ทเม้นต์นี่อีกแน่ ๆ
ภายในห้องพัก เวลาโกวเปียไปเที่ยวกับครอบครัว มักจะติดเอาอุปกรณ์ทำกินไปด้วย เพราะกินอาหารข้างนอกทุกมื้อแล้วจะรู้สึกถนัด อุปกรณ์ที่ติดไปทุกครั้ง คือหม้อหุงข้าวขนาดเล็ก ซึ่งเจ้าหม้อหุงข้าวใบนี้ ไปเที่ยวกับเรามาเจ็ดแปดปีแล้ว ไปมาตั้งแต่แป็งแป็งอายุเจ็ดขวบจนตอนนี้จะสิบห้าแล้ว ไปมาทุกที่ ไม่ว่าจะจังหวัดไหน ๆ ในประเทศไทย หรือต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย อิตาลี่ ฮ่องกง เวียดนาม สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และเมืองต่าง ๆ ในจีน ไม่ว่าจะปักกิ่ง ซีอาน หังโจว ซูโจว หนานจิง ฯลฯ ท่าทางมันก็แข็งแรงดีมาก คงตั้งใจจะไปกับเราไปทุก ๆ ที่อีกหลายสิบปีเลย นอกจากหม้อหุงข้าวจิ๋วนี้แล้ว ก็จะมีมีดปอกผักขนาดเล็ก ซึ่งมันก็เป็นเพื่อนหม้อหุงข้าวมานานแล้วเหมือนกัน ไปไหนไปด้วยทุกที่ นอกจากนี้ มีช้อนส้อมตะเกียบ และหม้อสแตนเลสขนาดจิ๋ว เอาไว้อุ่นในหม้อหุงข้าว
Our Trip Companion เพื่อนยากยามท่องเที่ยว และทุกครั้งก็จะกลัวไม่มีอาหารจะกิน จะเตรียมเอาข้าวสารไปด้วย เอาอาหารแห้งอย่างเช่น หมูหยอง น้ำพริกเผาขวดเล็ก ปลากระป๋อง มาม่า โกโก้ซอง ชา มีน้ำตาลและเกลือใส่ถุงพลาสติกเล็ก ๆ แล้วอย่าหัวเราะนะ ถ้าจะบอกว่า โกวเปียจะเตรียมผัดอาหารใส่ถุงพลาสติกไปเสมอ สำหรับอาหารมื้อแรกเมื่อเข้าถึงที่พัก เพราะส่วนใหญ่ไปถึงที่พักก็มักจะมืด รายการอาหารประจำ ก็มีหมูสับผัดหอมซอย และไก่ทอด กินกับข้าวที่หุงร้อน ๆ อร่อยมากสำหรับมื้อแรกในต่างแดนที่ไปเยือน เราไปถึงฮ่องกงประมาณ17:30 เที่ยวบินของ Shanghai Airline เที่ยวนี้ตรงเวลามาก โผล่ออกมาจากสนามบิน แป็งแป็งก็ไปถามโต๊ะประชาสัมพันธ์แท็กซี่ เพราะมีแท็กซี่สีต่าง ๆ ไม่รู้จะไปอพาร์ตเม้นต์ของเราจะต้องขึ้นรถแท็กซี่สีอะไร เขาบอกให้ขึ้นแท็กซี่สีแดง ซึ่งจากสนามบินไปถึงอพาร์ตเม้นต์ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ราคารวมค่าสะพานเชื่อมลันเตา (Lantao Link) และค่ากระเป๋าเดินทาง (ใบละ 5 ดอลลาห์) รวมแล้ว 210 ฮ่องกงดอลล่าห์ คุ้มกว่าขึ้นรถไฟ Airport Express อีก ก็แนะนำว่าใครไปฮ่องกง ถ้ามีคนไปหลายคน ให้พิจารณาขึ้นแท็กซี่เลย เพราะบางทีอาจจะคุ้มกว่าเยอะ และสะดวกสบายกว่านั่งรถไฟอีก
</p>
ที่ล็อบบี้ของโรงแรม ด้านหน้าเป็นที่รอรถชัตเติลบัส
ผู้คนเข้าแถวเตรียมขึ้นรถบัส ที่ออกรถทุกชั่วโมง มื้อแรกที่Baybridge นี้หรูกว่าทุกมื้อที่เที่ยวมา เพราะได้บะหมี่จากเมืองไทย ก็เลยทำบะหมี่แห้งหมูแดงไปด้วย ในห้องพัก มีไมโครเวฟเสร็จสรรพ พอจัดเสื้อผ้าเข้าตู้เสร็จก็อบบะหมี่หมูแดงกินกันอย่างเอร็ดอร่อย กินเสร็จแล้ว ยังไม่ถึงสองทุ่มก็เลยนั่งรถ shuttle bus ไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน TsuenWan MTR
สถานีรถไฟใต้ดินของฮ่องกงเป็นช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดย่อมทีเดียว มีร้านขายของมากมายให้เดินซื้อ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า กิฟท์ช้อป เครื่องเขียน มีร้านอาหารมากมาย ทั้งที่เป็นภัตตาคาร จนถึงร้านขายอาหารขนาดเล็ก ด้านตรงข้ามเป็นตลาดกลางคืน ชาวฮ่องกงเดินซื้อของกินกันขวักไขว่ ดูน่าสนุกจริง ๆ แป็งแป็งกับพ่อเที่ยวดูของจนเพลิน ส่วนโกวเปียรีบไปซื้อขนมปัง ไข่และหมูแฮมเบคอนสำหรับอาหารเช้าของวันรุ่งขึ้น รู้สึกว่าไปไหนเรานี่เน้นกินจริง ๆ เลยนะ
ตลาดกลางคืนที่สถานีรถไฟใต้ดินซวนวานดูคึกคักมาก
ขายของนึ่งของทอดเสียบไม้เยอะแยะไปหมด
มีขายซูชิหลายร้านเลย
ขายเครื่องในหมูต้มแกง เห็นบ่อยในหนังฮ่องกง
อันนี้เป็นข้าวเหนียงทรงเครื่อง มีกุนเชียงดูน่าทานทีเดียว อ้อ สิ่งหนึ่งที่หาไม่เจอตอนแพ็คกระเป๋า คือ Adapter เปลี่ยนหัวปลั๊ก เพราะระบบปลั๊กของฮ่องกง เป็นแบบอังกฤษ ไม่เหมือนของเมืองจีนและไทย เลยต้องเดือดร้อนออกไปหาซื้อ โชคดีที่พ่อแป็งแป็งหาซื้อได้ที่ตลาดกลางคืนที่สถานีรถไฟ เราเลยได้ชาร์จเครื่องอิเล็คโทรนิคหลายชิ้นที่ทำท่าแบตเตอรี่อ่อนมานานแล้ว จริง ๆ ซื้อมาสองอัน เพราะเดี๋ยวนี้เครื่องใช้ส่วนตัวที่เป็นอิเล็คโทรนิค หรือต้องใช้ไฟฟ้ามีมากมายเหลือเกิน เกือบจะกลับไปซื้ออีกสองอันเอาไว้ฝากน้องที่เมืองไทย แต่สุดท้ายลืมไปไม่ได้ซื้อ ตอนขากลับมาเทียบราคาที่สนามบิน ราคาแพงกว่าห้าเท่า รู้สึกเสียดายมาก ของที่สนามบินฮ่องกงแพงไปหมด คนฮ่องกงเองยังบอกเลยว่า อย่าไปซื้อของที่สนามบินฮ่องกง
Pang-Pouille/Jan 16, 2012
Create Date : 16 มกราคม 2555 |
|
2 comments |
Last Update : 18 มกราคม 2555 16:44:17 น. |
Counter : 4244 Pageviews. |
|
|
|