วันที่ 2 Uji Day ชมดอกอะจิไซ ช้อปปิ้งชาเขียว เที่ยววัดเบียวโดอิน



แล้วก็มาถึงมิิชชั่นสำคัญในทริปนี้ คือการชมดอกอะจิไซ หรือไฮเดรนเยีย ซึ่งจะบานสะพรั่งในช่วงฤดูฝน  
หนึ่งในจุดชมอะจิไซที่ว่ากันว่าสวยงามมากแห่งหนึ่ง คือวัด Mimuroto-ji Temple เมืองอุจิ ที่จะไปเที่ยววันนี้แหละ



เรานั่งรถจากสถานีใกล้ที่พัก มาถึงสถานี Mimurodo ในช่วงสาย
ซึ่งวัดอยู่ห่างสถานีไปอีกประมาณกิโลกว่าๆ ตอนแรกก็กลัวว่าจะหลงนะ แต่พอมาถึง คนมาเที่ยวที่นี่เยอะเลย ก็เดินตามๆเค้าไปเดี๋ยวก็มาถึงวัดเองค่ะ



เทพเจ้าแห่งการท่องเที่ยวเข้าข้าง มาเที่ยว 5 วันในหน้าฝน แต่ไม่เจอฝนตอนออกเที่ยวเลย อย่างวันนี้ก็สดใสมาก 
ก่อนไปถึงวัด ผ่านซูเปอร์มาร์เก็ต ยังไม่ได้ทานข้าวเช้า เลยแวะซื้ออาหารกล่องไว้ไปหาที่ทานกันข้างหน้า

ก่อนอื่น เสียค่าเข้า 800 เยน 
คนมาชมสวนเยอะมาก ช่วงแรกๆต้องเดินทยอยตามคนอื่นไป แต่พอเข้ามาลึกอีกหน่อยก็เริ่มเดินสบายขึ้นเพราะต่างคนก็แยกย้ายกันไปชื่นชมตามซอกนู้นซอกนี้ 



ดอกอะจิไซ จะเต่งตึงมากถ้ามีฝนตก นี่ฝนขาดช่วงมาหลายวันก็ดูหงอยๆหน่อย 
มีระยะเวลาบานนานเป็นเดือนแต่นี่ก็เข้าสู่ช่วงท้ายฤดูกาลแล้วแหละ





เพลินกับการหามุมถ่ายรูป



อะจิไซโทนสีหวานมาก ม่วง ชมพู ฟ้า ขาว เราก็เตรียมเสื้อชมพูมาใส่วันนี้โดยเฉพาะเลย 
แต่เท่าที่เห็น น่าจะเป็นคนเดียวที่ใส่สีสดใสเบอร์นี้มา ส่วนใหญ่เค้าก็จะแต่งแบบคุมโทน สีสดใสสุดก็สีฟ้าอ่อนไรงี้้ 55 



ตามหลัก ก็ต้องหาอะจิไซรูปหัวใจ 



ชักหิว ว่าแล้วห็หามุมสงบๆ จัดการอาหารกล่องที่ซื้อมาตะกี้ เสื้อขาวนั่งอยู่นั่น น้องเราเอง



จากนั้นก็เดินบันไดไต่เขาย่อมๆ ก็จะไปถึงตัววิหาร(เค้าเรียกแบบนี้มั้ย)ของวัดมิมุโระโทจิ



วัดนี้ขึ้นชื่อว่ามีดอกไม้สวยงามให้ชมตลอดทั้งปี พอเข้าหน้าร้อน ก็จะถึงคิวดอกบัวด้านหน้าวิหารบานต่อ



มีรูปสลักศักดิ์สิทธิ์กระจายอยู่ เห็นคนมาลูปๆคลำๆตลอด แต่เราไม่ได้ลูบนะ แบบว่าไม่รู้สรรพคุณ





แล้วก็ต้องเสียเงินให้กับอะไรอย่างนี้ตลอด น่ารักมากๆมีหลายแบบให้เลือกด้วย



รูปสุดท้ายของสวนอะจิไซ ก่อนไปกันต่อ



ระหว่างทางเดินไปวัดเบียวโดอิน ก็ผ่านร้านของฝากจากเมืองชาเขียว Itoh Kyuemon พอดี สาขานี้คือสาขาหลัก
ขอเข้าไปหาอะไรทาน ได้ตากแอร์ให้ชื่นใจซักนิดเถอะ



เข้าไปก็จะเจอความชุลมุนประมาณนี้ ฟากนี้ที่ถ่ายมาจะเป็นโซนของฝาก มีนานาของฝากจากชาเขียว นี่มันร้านแม่กิมลั้งแห่งอุจิชัดๆ
ระหว่างรอคิวเรียกเข้าไปสั่งอาหาร ก็ช้อปกันก่อนได้ ที่เราได้มาจากที่นี่ ก็เป็นผงชาเขียว ช็อกโกแลตชาเขียว และชาเขียวคาปูชิโน่



สั่งของหวานเย็นๆ พาเฟ่ต์กับพุดดิ้้ง รสชาติโดยรวมก็ทั่วๆไป แต่ถ่ายรูปแล้วดูดีเชียว



เดินต่อจ้ะ ข้ามแม่น้ำอุจิ 



ถึงเชิงสะะพานอีกฝั่ง ก็จะเจอรูปสลักของ Murasaki Shikibu เป็นผู้แต่งนิยาย ตำนานของเก็นจิ (Tales of Genji)
ซึ่งก็ว่ากันมาว่า เป็นนิยายที่เก่าแก่ที่สุด เค้ามีการฉลองครบรอบ 1,000ปี (ถูกค่ะ พิมพ์ไม่ผิดหนึ่งพันปี) ไปเมื่อปี 2008 นี่เอง
โดยในบทตอนท้ายๆ มาใช้โลเคชั่นที่เมืองอุจิซะเยอะ ถึงกับมีการตั้งพิพิธภัณฑ์ตำนานเก็นจิขึ้นในเมืองนี้เลย



สิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยววัดดังๆของญี่ปุ่น.. ซอยละลายทรัพย์จ้าาา ขนม ของฝาก ร้านอาหาร สารพัดสิ่งชวนให้สละสมบัติก่อนเข้าวัดทั้งสิ้น





แล้วเราก็มาถึงวัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple)จุดที่เด่นที่สุดในวัดมรดกโลกแห่งนี้ ก็คือ ศาลาฟีนิกซ์ (Phoenix Hall) โดดเด่นขนาดต้องปั๊มลงบนเหรียญ 10 เยนเลยเชียว
ถ้ามาตอนบ่าย ก็จะถ่ายย้อนแสงมืดๆแบบนี้ ถ้าอยากเข้าไปชมด้านในศาลาต้องจ่ายเพิ่มอีก 300 เยน จากค่าเข้าวัดที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว 600 เยนเด้อ



นกฟีนิกซ์สีทอง ที่อยู่บนหลังคา ถ้าอยากเห็นใกล้กว่านี้ ของดั้งเดิมอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของวัด ซึ่งเค้าห้ามถ่ายรูปด้านใน แต่สวยมีพลังมากกกก เป็นสีออกเขียวๆ
พิพิธภัณฑ์ของวัด จัดดีมาก ยิ่งไปอากาศร้อนๆแบบนี้ แค่ไปเดินเอาแอร์ก็คุ้มค่าเข้าวัด 600 เยนที่เสียไปแล้ว



สวนหน้าห้องน้ำ



สืบเนื่องจากในพิพิธภัณฑ์เค้าห้ามถ่ายรูป แต่พอออกมาแล้วก็จะเจอส่วนให้นั่งพักแบบนี้ ชอบมาก เป็นชานพักเอาแรงก่อนไปจุดหมายต่อไป



เด็กนักเรียน เข้าใจว่ามุงซื้อซอฟท์ครีมนะ



สตาร์บักส์ สาขาวัดเบียวโดอิน เจ้านี้ก็ตีเนียนกลมกลืนกับทุกสิ่งแวดล้อมอ่ะนะ



ขากลับเดินข้ามอีกสะพานนึง นี่สำหรับคนเดินโดยเฉพาะ



แล้วก็อีกสะพานนึง 55



เชิงสะพาน เจอรูปสลักอีกครั้ง เป็นตัวละครจากนิยายตำนานเก็นจิในช่วงท้ายที่เรื่องราวเกิดในเมืองอุจิ 
เป็นเรื่องรักสามเส้าของลูกชายเก็นจิ ใครอยากรู้เรื่องก็ไปหาอ่านกันเองละกันเนาะ กลัวเล่าผิด แฮ่... (เราก็ยังไม่เคยอ่าน)



กลับมาทานมื้อเย็นที่เกียวโต อาคารร้านค้าแบบเก่าๆในเกียวโต(เช่นร้านนี้เป็นต้น) จะมีจุดเด่น คือจะมี courtyard อยู่ตรงกลาง
หน้าร้านแคบๆ แต่ยาวลึกเข้าไป ด้วยความที่ภาษีอาคารจะเก็บตามพื้นที่ด้านหน้า ทำแบบนี้ก็เสียภาษีน้อยลง เรียกรูปแบบอาคารแบบนี้ว่า kyomachiya



อาหารมาแล้ว ปิ้งย่างเสียบไม้ ชอบสุดคือเห็ดย่าง จำชื่อเห็ดไม่ได้แล้ว ห๊อมหอม
ตอนแรกกะกินขำๆ แล้วค่อยไปต่อมื้อเย็นจริงจังอีกที แต่ไปๆมาๆก็สั่งข้าวมาเพิ่มคนละถ้วยเฉ้ย..



เดินย่านช้อปปิ้งของเกียวโต แถวสถานี Kawaramachi
โซนร้าน Sou Sou เป็นร้านขายผ้า ออกแบบลายผ้ากุ๊กกิ๊กมินิมอลแบบญี่ปุ่น เสื้อผ้าข้าวของน่ารักมาก แต่ไม่มีตังซื้อจ่ะ 



เดินดูผู้คนข้าวของ



กะจะถ่ายสี่แยกยามค่ำคืน แต่ติดคู่รักเดินจับมือกันหนุงหนิงมาด้วย



ปิดท้ายวันด้วย การเดินขาลากเลาะแม่น้ำคาโมะกลับโฮสเทล





 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2561
0 comments
Last Update : 17 กรกฎาคม 2561 14:22:43 น.
Counter : 950 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2561
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 กรกฏาคม 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.