Bloggang.com : weblog for you and your gang
เล่าประสบการณ์.. เมื่อคนใกล้ตัวเป็นเนื้องอกต่อมไทรอยด์
"ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน" เพิ่งเข้าใจประโยคนี้อย่างลึกซึ้งเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมานี่เอง ที่จู่ๆสามีเราก็ตรวจเจอก้อนเนื้อที่ต่อมไทรอยด์ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นก้อนมะเร็ง ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีญาติผู้ใหญ่หรือคนสูงอายุหลายๆคนที่เรารู้จักป่วยเป็นมะเร็งมาแล้ว แต่ก็ไม่ทันนึกว่าเหตุการณ์นี้จะมาเกิดกับคนอายุสามสิบแบบสามีเรา ยอมรับว่าตอนแรกก็กังวลไปต่างๆนานา แต่ด้วยกำลังใจจากคนใกล้ตัว ทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนๆ แม่เราผู้เคยเป็นผู้ป่วยมะเร็งด้วยตัวเอง ก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจขึ้นมาก ที่สำคัญอีกอย่างคือ ความรู้จากในอินเตอร์เนต บลอกของคนที่เคยผ่านประสบการณ์ประเภทนี้มาแล้ว ดังนั้นเราจึงตั้งใจเขียนบลอกนี้ขึ้นมา เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังต้องการข้อมูลในเรื่องนี้นะคะ
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนตรวจสุขภาพประจำปีกับบริษัท สามีเราถูกตรวจพบว่าไทรอยด์ด้านซ้ายบวมกว่าปกติ ก็เลยไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ไปอัลตร้าซาวด์ซึ่งตอนนั้นคุณหมอไม่ได้แจ้งว่าผลเป็นอย่างไร แต่ผลตรวจเลือดฮอร์โมนไทรอยด์ทั้ง T3 T4 TSH ปกติทั้งหมด คุณหมอเลยให้ฮอร์โมนไทรอยด์(Eltroxin) มาทาน 1 เดือน แล้วนัดตรวจซ้ำว่าก้อนยุบลงหรือไม่ พอครบกำหนดก็พบว่าก้อนไม่ได้ยุบลงจากเดิมเท่าไหร่ หมอก็เลยให้ฮอร์โมนมาทานต่ออีกเดือน แต่ด้วยความชะล่าใจเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ร่างกายก็ยังไม่ผิดปกติอะไร สามีเราเลยไม่ได้ไปรักษาต่อจากนั้นอีกเลย
ปลายปี 2555 ตรวจสุขภาพประจำปีบริษัท (อีกแล้ว^^) คุณหมอก็บอกอีกว่าไทรอยด์ข้างซ้ายโตนะ ให้ไปตรวจเพิ่มเติม พอดีว่ามีช่วงหยุดปีใหม่ว่างติดกัน 4 วัน เลยไปตรวจซะหน่อย ก็ไปที่โรงพยาบาลเดิมที่เคยมีประวัตินั่นแหละ (อารมณ์ตอนนั้น ชิลมาก..) คราวนี้คุณหมอทำการเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ (Fine Needle Aspiration, FNA) ดูว่าเซลล์มีความผิดปกติหรือไม่ แล้วแจ้งว่าจะรู้ผลภายใน 1 สัปดาห์ ผ่านมาได้ 5 วัน คุณหมอก็โทรมาแจ้งผล บอกว่าเจอเซลล์ไม่ดี แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ เบื้องต้นคือต้องทำการผ่าตัดไทรอยด์มาเพื่อวินิจฉัยยืนยันอีกที (ความรู้สึกตอนที่รู้เรื่องนี้ เหมือนฟ้าถล่มตรงหน้าเลยล่ะค่ะ)
ผลชิ้นเนื้อ ระบุว่าเจอ Hurthle cell nodule เป็นเซลล์ผิดปกติที่เจอได้ไม่บ่อยนัก แต่ไม่ใช่เซลล์มะเร็งซะทีเดียว อาจจะเจอได้ในคอพอกธรรมดาไปจนถึงมะเร็งไทรอยด์ชนิดลุกลามได้ ดังนั้นหากทำ FNA แล้วเจอเซลล์นี้ ต้องทำการผ่าตัดนำก้อนเนื้อไทรอยด์มาตรวจดูเพื่อยืนยันอีกครั้งค่ะ
หลังจากหาข้อมูล โทรถามคนนู้นคนนี้ เราตัดสินใจจะย้ายประวัติมารักษาต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็เลยไปขอผลแลบ ผลอัลตร้าซาวน์ และผลตรวจเซลล์มาจากโรงพยาบาลเดิม เลยเพิ่งรู้ผลว่าก้อนเนื้อที่เคยอัลตร้าซาวด์ไปเมื่อ 2 ปีก่อน มีขนาด 3*4*2 cm มีลักษณะเป็นถุงน้ำภายใน ถือว่าขนาดใหญ่พอสมควรเลยนะ
จริงๆช่วงที่หาที่รักษาใหม่ก็ค่อนข้างสับสนวุ่นวายพอสมควร สรุปสุดท้าย คือ ได้เข้ารักษาที่ คลินิกพรีเมี่ยม หู คอ จมูก ศุนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดีค่ะ ข้อดีคือ การบริการสะดวกรวดเร็วเหมือนโรงพยาบาลเอกชน มีอาจารย์หมอรักษา ได้คิวไวมาก ข้อเสียคือ ค่าใช้จ่ายพอๆกับโรงพยาบาลเอกชนเลยค่ะ แต่พอดีมีสวัสดิการบริษัทช่วยอยู่ เลยลดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง
จากนี้จะขอเล่าตามลำดับเหตุการณ์ไปเลยนะคะ
10 ม.ค. 2556 เข้าไปขอนัดคิวที่โรงพยาบาล ได้คิวมาพบอาจารย์หมอครั้งแรกในวันถัดมาเลยค่ะ (ตอนแรกเราไปขอคิวนัดพบหมอที่คลินิกนอกเวลา ได้คิวอีกตั้งเกือบ 2 สัปดาห์แน่ะ)
11 ม.ค. 2556 เอาผลแลบทั้งหมดไปให้อาจารย์หมอ อาจารย์แจ้งว่าโอกาสที่จะเป็นมะเร็งมีประมาณ 30% แจ้งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการผ่าตัด เช่น เสียงแหบ เจ็บคอ และประมาณค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดและพักฟื้นอยู่ที่ 55,000-65,000 นัดผ่าตัดวันที่ 25 ม.ค. 56
18 ม.ค. 2556 นัดพบวิสัญญีแพทย์ เช็คเลือด x-ray ช่องอก ผลออกปกติดีทุกอย่าง คุณหมอแจ้งให้อดน้ำอดอาหารเองมาจากบ้าน ตั้งแต่ตีสองของวันที่ 25 ม.ค. แล้วให้มาแอดมิทเป็นผู้ป่วยในตอนแปดโมงเช้า เริ่มการผ่าตัดประมาณบ่ายโมง จากนั้นก็ไปจองห้องพักผู้ป่วย เราจองห้อง Standard ไว้ เน้นราคาถูกไว้ก่อน
บรรยากาศห้องนอนผู้ป่วยแบบ Standard
25 ม.ค. 2556 มาถึงโรงพยาบาลตอน 7.30 น. จัดการเรื่องห้องพักเรียบร้อย ก็ขึ้นไปรอเวลาผ่าตัด ระหว่างรอพยาบาลก็มาแทงเส้นให้น้ำเกลือเตรียมไว้ และให้ทานยานอนหลับ Dormicum พยาบาลแจ้งว่า การผ่าตัดจะเริ่มเวลาบ่ายโมง ใช้เวลาผ่าประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง จากนั้นจะรอให้คนไข้รู้สึกตัวดีแล้วค่อยพากลับมาห้องพัก
พอช่วงเที่ยง ก็ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดแล้ว จากที่ถามคุณสามีว่าโดนอะไรบ้าง เค้าก็เล่าว่า เข้าไปปุ๊บก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด มีเจ้าหน้าที่ 6-7 คนมาติดเครื่องมือต่างๆตามตัว (เดาว่าน่าจะเป็นพวกตรวจวัดสัญญาณชีพ) แล้วก็มีหมอวิสัญญีมาแนะนำตัว พอหมอวิสัญญีบอกว่าจะเริ่มเดินยาแล้วนะ ยังไม่ทันจะตอบครับ ก็หมดสติไปแล้ว ตื่นมาอีกก็เห็นนาฬิกาบอกเวลา 15.30 น. ซักพักก็ถูกเข็นกลับมาที่ห้อง ส่วนหน้าที่ญาติเฝ้าไข้อย่างเราก็นั่งรอกันไป ไม่มีอะไรมาก
วิวจากห้อง มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพระจากวัดพระธรรมกายเดินธุดงค์ผ่านข้างโรงพยาบาลพอดี
นั่งรอจนเวลาสี่โมงเย็น ก็ถูกเข็นกลับเข้ามาที่ห้อง สภาพคอหลังผ่าตัด อ่านในเนตบางคนที่ผ่าไทรอยด์จะมีสายเดรนเลือดจากแผลออกมาด้วย แต่ของสามีเรามีแค่ก๊อซหนาๆกดแผลไว้เฉยๆ
อาการหลังผ่าตัด
- เจ็บปวดแผล พยาบาลจะเข้ามาถามให้คะแนนความเจ็บปวด 0-10 ถ้าปวดมากก็จะฉีดยาลดปวดให้
- ช่วง 12 ชั่วโมงแรก จะมีการวัดความดัน อุณหภูมิ ทุก 2 ชั่วโมง ถามว่ามีอาเจียนมั้ย ปัสสาวะ อุจจาระได้รึยัง
- ช่วง 1-2 วันแรก จะรู้สึกระคายคอ อยากไอ มีเสมหะ เพราะหลอดลมระคายเคืองจากการสอดท่อช่วยหายใจตอนผ่าตัด แก้ไขโดยการดื่มน้ำมากๆ ถ้าเป็นมากอาจต้องทานยาละลายเสมหะ
- อาการเสียงแหบอาจเจอได้ในผู้ที่ทำการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ แต่ของสามีเราเสียงเป็นปกติตั้งแต่วันแรก
- ทานอาหารอ่อนได้ตั้งแต่เย็นวันที่ผ่าตัด อาหารของโรงพยาบาลอร่อยทุกมื้อเลย (แอบชิมตลอด)
26 ม.ค. 2556 อาจารย์หมอเข้ามาสอบถามอาการ คือ ถ้าทานอาหารได้ ขับถ่ายเป็นปกติ ก็ให้ถอดสายน้ำเกลือออก แล้วให้กลับบ้านวันพรุ่งนี้ได้เลย วันนี้ก็พักผ่อนนอนเล่นกันไปก่อน ส่วนผลตรวจชิ้นเนื้อจะแจ้งในวันที่มาตัดไหม วันนี้สามีเราบ่นเจ็บแผล เลยได้พาราเซตามอลมาทาน 2 เม็ด
27 ม.ค. 2556 วันนี้เอาผ้าก๊อซออก ดูแผล แผลแห้งดี แต่กลายเป็นว่าผิวแพ้ผ้าเทปปิดแผล จนเกิดเป็นตุ่มน้ำแตกออกมาเลย
แปะแผลใหม่ เตรียมตัวกลับบ้าน เปลี่ยนเป็นที่แปะแผลแบบกันน้ำ จะได้อาบน้ำได้แต่ห้ามขัดถูบริเวณขอบ เดี๋ยวเทปหลุด ส่วนตรงที่แพ้เทปก็ได้ยาปฏิชีวนะมาทา
หลังจากกลับมาบ้านก็ใช้ชีวิตได้เกือบปกติ ยกเว้นห้ามยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากๆหรือเคลื่อนไหวมากๆ
1 ก.พ. 2556 นัดตัดไหม พร้อมแจ้งผลตรวจชิ้นเนื้อ ปรากฎว่า ไม่เป็นมะเร็งค่ะ ดีใจมากๆ แผลผ่าตัดก็ติดกันดี แอบมีขอบเหลื่อมเล็กน้อยตรงฝั่งซ้าย แต่แค่รู้ว่าไม่เป็นมะเร็งแค่นี้ก็ลืมทุกอย่างไปเลย
แจ้งผลว่าเป็น Nodular goiter หรือคอพอกแบบไม่เป็นพิษ บางจุดพบ Hurthle cell แต่ไม่มีความรุนแรงค่ะ
จากนี้ มีนัดตรวจอีกที 1 เดือนข้างหน้า เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนหลังจากเอาต่อมไทรอยด์ออกไป 1 ข้าง เราก็หวังว่าทุกอย่างจะเป็นปกติ แต่ ณ ตอนนี้ สามีเราเจอสิ่งผิดปกติ 1 อย่าง คือ เมื่อวาน (3 ก.พ.56) เพิ่งเจอว่าลูกกระเดือกเบี้ยวออกไปทางขวาประมาณ 1cm จากแกนกลางลำตัว แต่ยังไม่รู้สึกว่าหายใจหรือกลืนลำบาก เราก็เลยว่าจะรอดูอาการไปก่อน คือไม่แน่ใจว่าเป็นมาตั้งแต่หลังผ่าตัดแล้วเพิ่งมาเห็น (คือสัปดาห์แรกแปะเทปอยู่เลยไม่ได้ยุ่งกับลำคอมาก เลยไม่ทันสังเกต) หรือว่าเพิ่งเกิดเมื่อวาน (เพิ่งเห็นว่าเบี้ยวหลังจากสำลักน้ำแกงแล้วไอ พอเจ็บคอ เลยไปส่องกระจกแล้วเห็นว่าเอียงน่ะค่ะ)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง (ขนาดว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง แถมถึงเป็นมะเร็งไทรอยด์ขึ้นมาจริงๆ ก็จัดว่าเป็นมะเร็งประเภทที่ผลการรักษาประสบความสำเร็จดีอีกด้วย) เคยคิดว่าอายุยังไม่มาก มีเวลาทำอะไรอีกตั้งนาน แต่ที่จริงชีวิตมันไม่แน่นอน ดังนั้นเวลา ณ ปัจจุบันสำคัญที่สุด รู้สึกรักครอบครัวมากขึ้น ได้นึกถึงว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับชิวิตจริงๆกันแน่ สุดท้ายนี้เราขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่เผชิญความเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ว่าจะเกิดกับตัวเองหรือคนใกล้ชิด ให้เข้มแข็ง สู้เข้าไว้นะคะ
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 5 เมษายน 2557 23:47:01 น.
Counter : 105121 Pageviews.
Share
Tweet
khimyo
Location :
ลำพูน Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
?
]
Group Blog
เที่ยวไทย..ไม่ไปไม่รู้
นอนนอกบ้าน
ชวนไปชิม
เรื่องของเรื่องไม่เป็นเรื่อง
Khimyo's Kitchen
Singapore Sisterhood Travel
ปักกิ่งหนาวมาก
Autumn in New Zealand '09
ฮ่องกง มาเก๊าตามเค้าว่า
คุนหมิง - ต้าหลี่ - ลี่เจียง
Tokyo Blossom 2012
เล่าเรื่องเมืองเสียมราฐ 2012
มีเรื่อง อยากจะเล่า...
Kansai 2014
Singapore 2015
ทอดน่องอินฮ่องกง 2015
Kansai Tsuyu 2018
หลวงพระบาง 2019
ฉายเดี่ยวเที่ยวอิตาลี 2019
ฉายเดี่ยวเที่ยวชูบุ 2023
All Blogs
เล่าประสบการณ์.. เมื่อคนใกล้ตัวเป็นเนื้องอกต่อมไทรอยด์
Friends' blogs
f18hornet
UnderSunShine*
Bad Girl So Bad
MCO
ยายกุ๊กไ่ก่
anone
the fivedog
mr-biggg
Webmaster - BlogGang
[Add khimyo's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.