เที่ยวสิงคโปร์กับน้องสาว วันที่ 4 แยกย้าย



แล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของการเที่ยวครั้งนี้แล้วนะคะ วันนี้เราแยกกันเที่ยวกับน้องสาวค่ะ เพราะว่าต่างคนก็อยากมีที่ที่อยากไปเก็บตกของตัวเอง ก็เลยตกลงว่าสี่โมงเจอกันที่โรงแรมละกัน

เริ่มตอนเช้าค่ะ วันนี้เริ่มฉลาดขึ้น ไม่เดินไป MRT แล้วค่ะ เดินไปขึ้นรถเมล์ที่ปากซอยแปด ห่างจากโรงแรมประมาณ 50 เมตร จะไป arab street ด้วยสายรถเมล์ที่มีคนแนะนำมากที่สุด สาย 80 ค่ะ ตอนไป arab street นี่ยังไปกับน้องสาวอยู่นะคะ

ตึกสียังสดใสเหมือนเดิม



จากนั้นเราก็ไป Chinatown ต่อ เพื่อไปหาซื้อของฝาก ลงที่ป้าย Maxwell หาข้าวกินไปด้วย เราทาน Mee Pok ไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ เป็นเส้นบะหมี่ แล้วใส่พริกคล้ายๆ พริกกะเหรี่ยงลงไปค่ะ



เสร็จแล้วก็นั่งสาย 80 ย้อนไปแถว City Hall เพื่อไปเที่ยวสถานที่สำคัญใจกลางเมืองสิงคโปร์ค่ะ
แผนการเดินเที่ยวค่ะ (แต่ไม่ได้เดินตามนะคะ)



เริ่มจากโบสถ์


สถานีดับเพลิง


สีสดใส


ท่านเซอร์สีขาว


..และสีดำ


ชักจะเหนื่อยค่ะ เลยลงไปพักที่ Citylink Mall พักทานกาแฟที่ร้าน tcc ร้านนี้มีสาขาเยอะนะ ไปที่ไหนก็เจอ คนทานเยอะด้วย เราเลยอยากลองมั้ง สั่ง azuki coffee เพิ่งรู้ว่ามันแปลว่ากาแฟถั่วแดงนั้นเอง ทานแล้วน้ำตาจะไหล เสียไป 9 เหรียญ ได้รองเท้าอีกคู่เลยนะเนี่ย



ตามเก็บของที่อยากได้ คือ กระเป๋า แอบเล็งมาหลายวันแล้ว ในที่สุดก็ตกเป็นของชั้นซะที พอเอามาใช้ ปรากฎว่าพี่ที่ทำงานบอกว่า น้องจะไปจ่ายตลาดที่ไหนเหรอ.. ไม่มีเซ้นส์ซะเล้ยย พวกนี้

เสร็จสิ้นภาระกิจแล้ว เราก็กลับไปรอน้องที่โรงแรม ขึ้นเครื่องตอน 18.50 น. แล้วก็เดินทางกลับกทม. โดยสวัสดิภาพ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ ถือว่าเป็นรีวิวชุดแรกของเรา ติชมได้นะคะ

ปิดท้ายด้วยภาพสนามบินชางงีเทอร์มินอลใหม่ สำหรับสายการบิน lowcost ค่ะ






 

Create Date : 30 มีนาคม 2551    
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 23:43:20 น.
Counter : 2262 Pageviews.  

เที่ยวสิงคโปร์กับน้องสาว วันที่ 3 เที่ยวไปบ่นไป



หลังจากที่หักโหมกับการเที่ยวเมื่อวาน วันนี้กว่าจะตื่น กว่าจะอาบน้ำ แต่งตัว โผล่หัวจากโรงแรมก็สิบโมงค่ะ เดินไปกินติ่มซำที่ซอย 8 มงก๊กติ่มซำ เข่งนึงนี่ใหญ่มากนะคะ เราชินแต่กินโชคดีติ่มซำ ไปเจอที่สิงคโปร์นี่แทบช็อก ตอนแรกสั่งไปห้าอย่าง แต่เห็นโต๊ะข้างกิน แล้วรีบแก้ออเดอร์เลยค่ะ เหลือสามอย่าง ยังจุกเลยค่ะ
รูปไม่ค่อยสวยนะคะ ถ่ายตอนกินไปแล้วอ่ะ



จากนั้นนั่ง MRT ไป Paya Laber อ่อ วันนี้เราใช้บัตร STP เติมเงินละค่ะ คุณสมบัติเหมือน ez-link เติมเงินขั้นต่ำ 10 เหรียญ เราก็เติมแบบขั้นต่ำเนี่ยแหละ วันนี้เราจะมาเที่ยว Joo Chiat Rd. กันค่ะ เราอ่านมาจากโบรชัวร์การท่องเที่ยวสิงคโปร์นี่แหละ เห็นรูปแล้วสวยดี อากาศวันนี้ร้อนอบอ้าวและมีฝนตกตลอดทั้งวัน เดินมาไม่ถึงไหนเราก็เริ่มปวดเท้าแล้ว ก็เลยตัดใจซื้อรองเท้าแตะ (แบบธรรมด๊าธรรมดา) ใส่ดีกว่าเผื่ออาการจะดีขึ้น แพงมากค่ะ ราคาเท่ากับรองเท้า Charles & Keith ที่เราซื้อมาวันแรกเลย T_T

แถมเราเดินไปผิดทาง ไปเข้าโซนที่อยู่อาศัยเป็นแฟลตไปเรื่อยๆ อ้อมไปซะไกลเลยค่ะ

ไม่เป็นไรค่ะ ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้ Joo Chiat Rd. ด้วยความเข้าใจของเราว่า สิงคโปร์เนี่ยเมืองเล็กนี๊ดเดียว เดินแป๊บๆก็ถึงกันหมดแล้ว ดูจากแผนที่ สถานที่น่าสนใจของที่นี่ก็ไม่ไกลกันมาก สบายแน่สำหรับคนหนุ่มสาวอย่างเรา ปรากฎว่าเป็นความเข้าใจผิดอย่างแรงค่ะ เพราะแผนที่โกหกเราค่ะ ไกลกันมากค่ะแต่ละที่ (โทษแผนที่ซะงั้น ที่จริงอาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายไม่พร้อมเองก็ได้) แถมบางที่เดินไปแล้วปิดปรับปรุงด้วย ที่เด่นๆก็คงจะเป็นตึกแถวบล็อกนี้แหละค่ะ คอนเซ็ปต์สีสันฉูดฉาดเข้าว่า น่ารักดีค่ะ ถ่ายรูปไป หอบแดดไป



แต่ว่าโชคยังแอบเข้าข้างเราหน่อยนึง ตรงที่ตึกเก่าๆที่สิงคโปร์จะมีลักษณะที่เป็นทางเดินร่มๆให้คนเดินข้างใน ให้เดินหลบแดดได้ค่ะ มีทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ลิตเติ้ลอินเดีย ไชน่าทาวน์ รวมถึงที่จูเชี้ยตนี้ด้วยค่ะ



เดินมาจนสุดถนนค่ะ คราวนี้เกิดปัญหาอีกว่า แล้วจะเดินกลับไปที่ MRT เหรอ?? ไกลนะนั้น ขึ้นรถเมล์ดีกว่าค่ะ เพิ่งค้นพบว่านั่งรถเมล์นี่สบายมากค่ะ ป้ายดูง่าย มีรายละเอียดของรถเมล์ทุกสายที่ขับผ่านว่าไปลงป้ายไหนมั้ง จ่ายค่ารถเมล์ก็ใช้ STP ที่เติมเงินนั้นแหละค่ะ เอาแปะที่เครื่องอ่านตอนขึ้น ตอนลงก็แปะอีกที แค่นี้เอ๊งงง ไม่ต้องเดินไกลด้วย

นั่งรถเมล์ไปลงที่ vivo city ค่ะ เพื่อจะไปเที่ยวเกาะประจำชาติสิงคโปร์ เซ็นโตซ่าค่ะ ช่วงนี้ฝนตกหนักมากกก เราเลยเดินเล่นไปมาในห้างพักใหญ่เลยค่ะ กว่าฝนจะหยุด เริ่มหิวค่ะ เลยไปหาอะไรทานที่ food republic ซะหน่อย เราทานบักกุดเต๋อร่อยดีค่ะ ศูนย์อาหารเค้าตกแต่งสวยดีนะ ที่ vivo city แต่งเป็นบ้านสมัยโบราณ แต่งละเอียดมากๆเลย



เที่ยวเซนโตซ่านิดๆหน่อยๆ ไม่ได้ซื้อโปรแกรม ถือว่าไปเที่ยวที่นี่น้อยมาก ออกตัวไว้ก่อนเลยค่ะ ไปดู merlion ตัวพ่อ (รึปล่าว) แต่ไม่ได้เข้าไปข้างในนะ



Images of Singapore ทำดีนะ หลอนหน่อยๆ



หลังจากนั้นก็กลับเข้าฝั่ง นั่งรถเมล์ไปถ่ายรูปกับพี่เมอร์ตัวแม่และเอสพลาเนดตอนทีมีแสงกลางวัน หัวค่ำก็ไปที่ ซันเทค รอดูโชว์น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง หรือ Fountain of Wealth แล้วก็กลับเข้าที่พักโดย MRT มาถึงวันนี้รู้สึกว่าระยะทางจาก MRT มาถึงโรงแรมมันช่างไกลเหลือเกิน เดินวันแรกนี้แป๊บเดียวก็ถึงละ เราว่าระยะทางคร่าวๆประมาณ 600 เมตรได้นะ




 

Create Date : 30 มีนาคม 2551    
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 23:43:53 น.
Counter : 1439 Pageviews.  

เที่ยวสิงคโปร์กับน้องสาว วันที่ 2 เดิน เดิน เดิน



มาถึงวันที่สอง ของการมาเที่ยวของเราในครั้งนี้นะคะ

บรรยากาศระหว่างทางจากโรงแรมไปยัง MRT Kallang



ร้านที่เห็น จะเริ่มเปิดช่วงสายๆ ไปจนถึงดึกเลยค่ะ เป็นร้านอาหารหม้อไฟซะเยอะเลย ตอนเดินกลับโรงแรมกลางคืน เห็นคนมาทานกันเยอะเลย



วันนี้ไปหลายที่เลยค่ะ เดินทางโดยใช้บัตร STP เริ่มจากไปหาอาหารเช้ากินแถวๆบูกิส รูปบังคับค่ะ บันไดวน



จากนั้นก็เดินไป ลิตเติ้ลอินเดีย ถ่ายรูปบ้านช่องไปเรื่อยๆ ตอนแรกจะไปมัสยิด..(จำชื่อไม่ได้แล้วอ่ะ) แต่ว่าไปได้แค่เลียบกำแพง เพราะว่าเค้าปิดอ่ะค่ะ
บ้านเรือนแถวนี้ เค้าทาสีกันแร๊งแรงเนอะ





เดินไปจนถึงห้าง Mustafa แต่ก็ไม่ได้เสียตังซื้ออะไร เริ่มเมื่อยแล้วค่ะ
ไปต่อที่ Chinatown เจอคนไทยเพียบเลยค่ะ แถวนี้ มีร้านขายของฝาก ของที่ระลึกมากมาย รวมทั้งอาหารการกินด้วย เราทานข้าวเที่ยงที่ Maxwell กะว่าจะกินข้าวมันไก่ชื่อดังที่นี้ซักหน่อย แต่ก็ไม่ไหวค่ะ คนต่อคิวยาวมาก เลยแก้ขัดโดยไปกินข้าวมันไก่เจ้าอื่นแทน เราว่ารสชาติที่เมืองไทยอร่อยกว่านะ อาจเป็นเพราะไม่ใช่เจ้าที่อร่อยก็ได้ น้ำเปล่าที่นี้ แพงจริงๆค่ะ ราคาตั้งแต่ 1-1.5 เหรียญ

จากนั้นก็เดินไปที่ Ann Siang Rd. น้องเราอยากไปที่นี่ เพราะว่าไปอ่านเจอจาก lonely planet แถบนี้บ้านจะตกแต่งเป็นโรงแรม หรือว่าร้านออกแบบเก๋ๆ ทำนองนี้อ่ะค่ะ เราชอบ 7-11 ที่สาขาถนนนี้นะ ตกแต่งกลมกลืนกับสถาปัตยกรรมโดยรอบมาก อย่างที่บอกตามหัวข้อบล็อกเลยค่ะ เราจะเดิน เดิน เดินกันไป ผ่าน far east square แป๊บๆ ก็มาโผล่ที่โรงแรม Fullerton เฉยเลยค่ะ เจอ Merlion อีกแล้ว..

ร่างกายเริ่มไม่ไหวละค่ะ ปกติไม่ค่อยได้เดินไกลๆ ว่าแล้วก็ลง MRT ดีกว่า มาเที่ยวกันต่อค่ะ โรงแรมราฟเฟิลส์ สวยคลาสสิกมากมาก เราพยายามเดินหารูปปั้นท่านเซอร์ราฟเฟิลส์ในโรงแรม แต่หาไม่เจอ ไม่รู้ว่ามีรึปล่าว ใครรู้บอกกันหน่อยนะคะ เผื่อข้อมูลเราผิดพลาด





ดูเวลา อ๊ะ เพิ่งสี่โมงกว่าๆ ไปไหนต่อดี ขอลัดโปรแกรมเลย จากที่จะไป Orchard วันต่อไป เปลี่ยนเป็นวันนี้เลยดีกว่า เราจะได้มีเวลาเก็บตกเยอะขึ้น อิอิ
เมื่อมาถึง Orchard ก็พบสัจธรรมว่าไม่สามารถฝืนร่างกายได้แล้วค่ะ เมื่อยมากๆ เดินไม่สนุกเลย ตังก็ไม่ค่อยมีให้ช้อป เราก็เลยแวะนั่งตามที่ต่างๆ ปล่อยให้น้องเราเข้าร้านนู้นร้านนี้ไป แวะไปนวดที่ Singapore Visiting Centre ระหว่างรอน้องเราไป HMV สบายเท้าขึ้นอีกเยอะเลย

ตกเย็น เราก็ไปต่อที่ริมแม่น้ำสิงคโปร์กันค่ะ แถวๆ Clark Quey Boat Quey โรงแรม Fullerton นี่แหละค่ะ เดินเยอะจนมึนไปเลย ตั้งใจว่าจะกินปูผัดพริกที่จัมโบ้แต่ก็ไม่ได้กิน เพราะไม่ได้จองไว้ น้องที่ร้านบอกว่าถ้าไม่ได้จองให้มาอีกทีตอนสี่ทุ่มนะคะ โอ้ววว กลับมากินปูผัดผงกะหรี่ที่สามย่านดีกว่าเรา







ยังค่ะ ยังไม่พอ ไปเดินบูกิสต่อค่ะ ไปบูกิสสตรีท หาซื้อเสื้อใส่ น้องเราเอาเสื้อมา 2 ตัว ชีกะมาหาซื้อเสื้อที่สิงคโปร์ค่ะ ข้าวของที่ขายเหมือนแพลตตินั่มหรือเจเจบ้านเราอ่ะค่ะ แต่ที่นี่ขายแพงกว่า แฟชั่นใกล้เคียงกับเมืองไทยค่ะ ว่าจะเข้าไปที่บูกิสจังชั่นแต่เค้าจะปิดร้านกันแล้วล่ะค่ะ สุดท้ายก็หาซื้อเสื้อไม่ได้ค่ะ
เย้.... แอบดีใจได้กลับไปนอนซะที

ขอจบการเที่ยวในวันที่สอง แค่นี้ก่อนนะคะ เดี่ยวมาต่อวันที่ 3 กัน




 

Create Date : 30 มีนาคม 2551    
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 23:42:38 น.
Counter : 801 Pageviews.  

เที่ยวสิงคโปร์กับน้องสาว วันแรกแสนสาหัส


เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา เราได้ไปเที่ยวสิงคโปร์มา โดยบินไปกับสายการบิน Jetstar ตอนแรก ก็คิดอยากจะถ่ายรูปพิธีกวนสมุทรแบบคนอื่นๆเค้ามั้ง แต่ติดที่เรามาถึงสุวรรณภูมิด้วยเวลาอันแสนกระชั้นชิด เลยต้องวิ่งหูตูบกับน้องไปที่เกทซะก่อน (เกทเอฟค่ะ ไกลมากกก) เดี๋ยวจะไม่ได้ออกนอกประเทศกัน ตามเวลาเครื่องออกก็ 14.45 ค่ะ แต่ก็ออกจริงๆช้าไปประมาณ 45 นาที แล้วก็ถึงสิงคโปร์ประมาณ 18.30 น. ลงที่เทอร์มินัล 1 แล้วก็ไปแลกตัง ได้มาในเรท 22.90 บาท ได้น้อยกว่าชาวบ้านชาวเมืองเค้าค่ะ เพราะว่าวันนี้รีบมากๆจริงๆ ช่วงก่อนขึ้นเครื่องเนี่ย

จากนั้นเราก็นั่งรถไฟฟ้ามาที่เทอร์มินัล 2 เพื่อต่อรถเข้าเมือง ตอนจะซื้อตั๋วก็งงๆค่ะว่าทำยังไง แต่โชคดีที่มีพนักงานคอยดูแลนักท่องเที่ยวที่ทำหน้างงๆ ตอนจะซื้อตั๋ว เข้ามาให้คำแนะนำ วันนี้เราซื้อเป็นตั๋วแบบธรรมดา ต้องกดเอาจากตู้ขายตั๋วไปเป็นเที่ยวๆ เวลาถึงที่หมายก็เอาบัตรไปคืน ก็จะได้ค่ามัดจำบัตรกลับมา 1 เหรียญ เหตุที่ซื้อตั๋วแบบธรรมดา เพราะว่าเราได้บัตร Singapore Tourist Pass มา กะจะเอาไปใช้ในวันต่อไป

แล้วเราก็นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Kallang เพื่อเช็คอินโรงแรม Fragrance Emerald และเอาของมาเก็บกันก่อน มาถึงก็มืดแล้วล่ะค่ะ ก็พยายามถามทางเอาจากคนแถวนั้น แต่ไม่มีใครรู้เลยจักเลย เพราะว่าเราถามใครเค้าก็บอกว่าไม่ใช่คนแถวนี้ เป็นนักท่องเที่ยว จะบอกว่าเซ้นส์การแยกหน้าตานักท่องเที่ยวกะคนสิงคโปร์ของเราต่ำมาก วันถัดๆมาเราก็ถามทางพวกเดียวกันบ่อยเหมือนกันค่ะ ในที่สุด เราก็มั่วๆทางมาจะเจอซอย 6 Gaylang จนได้ บรรยากาศระหว่างทางมาโรงแรมก็ไม่ได้น่ากลัวเลยค่ะ เป็นห้องแถวร้านค้าติดๆกัน ส่วนใหญ่ขายพวกบุฟเฟ่ต์หม้อไฟ ไม่มีสิ่งใดให้ระเคืองตาค่ะ


สำหรับการจองโรงแรมเราจองผ่าน octopustravel ได้ราคา 1,290 บาทต่อคืน ไปพวกกันซะ 3 คืน ก็ตก 3,870 บาทค่ะ ห้องพักของเราก็กว้างใช้ได้เลย ก่อนจะไปกังวลหน่อยๆ เพราะไปอ่านรีวิวเค้าบอกว่าห้องเล็กมาก ต้องเปิดกระเป๋าบนเตียง แต่ห้องเราไม่เป็นนะ แต่ว่าห้องน้ำเหม็นรานะ แล้วก็น้ำที่นี่อุ่นที่นี้ ร้อนมากๆ สมคำร่ำลือ หน้าต่างห้องมองออกมาจะเห็น hotel6 เป็นโรงแรมที่มีพักแบบชั่วคราวกับค้างคืน มองออกไปก็จะเห็นหมวยๆ มายืนหน้าโรงแรม

อันนี้เป็นสภาพห้องของเรา ถ่ายจากบนเตียงออกมา



กว่าเราจะออกจากห้องมาก็เกือบสามทุ่ม นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Raffles Place เพื่อไปดู ม้าน้ำ เอ๊ย สิงโต Merlion ตอนแรกเราดูจากแผนที่ก็นึกว่าจะไกล แต่ที่จริงแล้วแต่ละที่อยู่ใกล้ๆกันเลย


เดินไป Esplanade ตอนนั้นมีเทศกาลดนตรี Mosaic พอดี


เดินลงไป citylink mall (ได้รองเท้ามา 1 คู่ ) แล้วก็ไปเดินโฉบๆแถวโรงแรมราฟเฟิลส์ แต่มันก็มืดๆ ไม่มีอะไร เลยกะจะมาที่นี่อีกครั้งตอนกลางวัน สุดท้ายก็นั่ง MRT ที่ City Mall กลับที่พักค่ะ




 

Create Date : 30 มีนาคม 2551    
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 23:44:24 น.
Counter : 1067 Pageviews.  


khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.