วันที่ 2 เดินตลาดเช้า เที่ยวตาดกวงสี ดูอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาบนพูสี

 

  เช้าวันที่ 2 ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เพื่อออกมาดูลาดเลาการตักบาตรข้าวเหนียว 
ออกจากโรงแรมตอนเกือบๆหกโมงเช้า ซึ่งน่าจะสายไปซักหน่อยในการมาตักบาตรที่นี่ (สำหรับนักท่องเที่ยว)
แต่ก็ยังได้เจอพระกำลังยืนให้พรกับกรุ๊ปนุ่งขาวห่มขาวหน้าวัดใหม่ คิดว่าเค้าน่าจะเป็นกรุ๊ปพิเศษนะ เพราะปกติตักบาตรที่นี่พระท่านจะเดินต่อเลยไม่มีหยุดให้พร
ระหว่างเดินสำรวจหลวงพระบางยามเช้า ก็เห็นชาวบ้านรอใส่บาตรตามถนนที่ไม่ได้เป็นจุดที่มีการขายกระติ๊บข้าวเหนียวสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ 
 
วิวหอพระบางยามเช้าตรู่ หกโมงครึ่งฟ้าก็ยังไม่สว่าง
 
 
พระกำลังเดินกลับเข้าวัด
 
 
กลับมาถึงโรงแรม มารับพ่อแม่ไปเดินตลาดเช้าดีกว่า
เคาะห้องอยู่พักใหญ่ก็ไม่มีใครตอบ.. ปรากฎว่าตายายหนีไปเดินตลาดกันก่อนซะแล้ว แต่ซักพักก็กลับมาถึงตามนัดว่าจะพาไปกินร้านประชานิยม
ออกประตูโรงแรมไป ก็คือตลาดเช้า นี่ก็ไปเดินมันทุกวัน ชอบบบ
 
 
บรรยากาศก็เหมือนเดินตลาดแถวบ้านอ่ะนะ แถวเชียงใหม่ลำพูนพวกตลาดวัวตลาดบ้านนอกก็มีของป่าวาไรตี้มาขายเยอะเหมือนกัน แต่แหล่งโปรตีนที่หลวงพระบางจะหลากหลายกว่ามาก มีทั้ง นกหลายชนิด หนูหลายไซส์ กบ กระรอก หนอน
ส่วนเมืองไทยเท่าที่เห็น จะมีแค่ หมู ไก่ ปลา เนื้อวัว เออ..แต่ตลาดเช้าหลวงพระบางไม่มีซีฟู้ดนะ เห็นแต่ปลาหมึกแห้ง
 
 
 
นักท่องเที่ยวไทยเดินตลาดเช้าเสร็จแล้วไปไหน...
ร้านประชานิยมสิคะ
 
 
บอกเลยว่าที่นั่งข้างๆกัน มีแต่คนไทยล้วนๆ
อาหารอาจจะรสชาติทั่วๆไป แต่บรรยากาศมันได้ นั่งทานล้อมวงคนทำอาหาร ทานเสร็จก็หัวเหม็นควันไฟ ไอน้ำมันกันไป
 
 
ถือเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเรานะ ช่วง 7-8 โมงคนจะทยอยมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ 
ถ้าอยากนั่งสั่งทานแบบสบายๆ อีกวันนึงเราเดินมาหลังจากตักบาตรเสร็จ หกโมงนี่แทบไม่มีคน 
 
นัดรถตู้ที่เหมาไปเที่ยวน้้ำตกกวงสี หรือตาดกวงสี มาเจอกันที่โรงแรมตอน 9โมงครึ่ง ราคาที่ 300,000 กีบ 
ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงนิดๆ หนทางไปคดเคี้ยวใช้ได้ กว่าจะถึงก็เมารถกันไปไม่มากก็น้อย
 
 
ไปถึงพ่อเลยซื้อมะม่วงแก้เมาให้ 1 แพ็ค
 
 
ซื้อตั๋วเข้าน้ำตก คนละ 20000 กีบ 
 
 
ทางเดินไปน้ำตก 
 
 
ผ่านศูนย์อนุรักษ์หมี มองไกลๆนึกว่าถุงขยะ
 
 
มีของที่ระลึกขาย ราคาไม่แพง ใครสนใจช่วยอนุรักษ์หมีก็อุดหนุนกันได้ 
 
 
เดินไปอีกไม่ไกล ตาดกวงสีก็เริ่มเผยหน้าตามาให้เห็น น้ำสีสวยมากเลย
 
 
แต่ละชั้นก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป ทางเดินสบาย เรียบๆไม่ชัน ถ้าไม่มีปัญหาสุขภาพใดๆเป็นพิเศษ อายุ 68 แบบพ่อเราก็เดินมาได้
 
 
จุดไฮไลต์ สวยงาม
 
 
วันที่ไปอุณหภูมิประมาณ 18 องศาเซลเซียส เราก็คิดอยู่ว่าจะมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำมั้ย ปรากฎว่ามี!! 
เห็นอยู่กรุ๊ปนึง มีอยู่ 3-4 คน ไม่เชิงมาเล่นน้ำ แต่ลงไปเพื่อถ่ายรูปโพสว่ามาเล่นน้ำแล้วก็ขึ้นทันที น้ำเย็นเจี๊ยบซะขนาดนั้น ยอมใจ
 
กลับมาทานข้าวเที่ยงในเมืองหลวงระบาง ร้านโคโค่นัทการ์เด้น
 
 
สั่งอาหารลาวมาทานเช่นเคย มื้อนี้มี ต้มส้มปลา/ออแลมหมูคล้ายแกงแคของภาคเหนือ ใส่ผักหลายอย่าง ข้าวคั่ว หมูย่าง น้ำนี่น่าจะใส่กะปิหรือปลาร้าลงไปด้วย/สลัดหลวงพระบาง น้ำสลัดรสเปรี้ยวหวานคล้ายน้ำยำ โรยหอมเจียวเพิ่มความหอม/คะนาบปลาคล้ายแอ่บของภาคเหนือเป็นหมูสับกับปลาปรุงรสแล้วนำไปห่อใบตองย่าง และที่ขาดไม่ได้..ส้มตำซิจ้ะ
 
อร่อยมากๆ ถูกปากเราทุกจานเช่นเคย ชอบอาหารที่เลือกสั่งมื้อนี้มากกว่าที่ตำหนักลาวหน่อยนึง
 
 
ทานเสร็จพาพ่อแม่ส่งโรงแรม หลบแดดบ่ายอันร้อนแรง
ส่วนเราชักมึนหัว สงสัยคาเฟอีนจากชาร้อนประชานิยมจะไม่ถึง เลยมากินกาแฟที่ร้าน Saffron  
ตอนแรกตื่นเต้นกับหลอดรีไซเคิลนี่มาก แต่ไปๆมาๆ พบว่าคาเฟ่ในหลวงพระบางที่ไปมาทุกร้านใช้อิหลอดไม้รีไซเคิลนี้กันหมด
 
 
สาขานี้อยู่ติดกับโรงแรม My Lao Home ตรงนี้มีเรือนไม้ที่เป็น UNESCO protected ด้วย
 
 
ช่วงเย็น เดินขึ้นเขาพูสี ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน
ลานตรงทางขึ้้นเขาพูสี ที่มาถ่ายรูปเมื่อตอนเช้า (มาแวะชมวิวตรงนี้บ่อยมาก มีรูปทุกช่วงเวลา เช้า สาย บ่าย เย็น)
 
 
เราแวะซื้อดอกไม้ที่มาตั้งขายตรงบันไดทางขึ้น ไปไหว้พระด้านบนด้วย ราคาไม่แพง 2 กระทง 5000 กีบ
 
 
เสียค่าขึ้น 20000 กีบต่อคน เช่นเคย 
กว่าจะมาถึงข้างบน ก็หอบ ใจเต้นไม่เป็นระส่ำอยู่เหมือนกัน 
 
 
คนมารอดูพระอาทิตย์ตกแน่นขนัดจุดชมวิว
 
 
วิวมุมสูงฝั่งแม่น้ำคาน
 
 
พระธาตุพูสี สีทองอร่าม
 
 
รอจนเก็บภาพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาสำเร็จก็กลับลงมา 
 
 
มื้อเย็น ต้องเดินข้ามสะพานไม้ไผ่ไป เป็นนักท่องเที่ยวก็เสียค่าผ่านทางคนละ 5000 กีบ
 
 
ร้านเย็นสบาย อยู่ติดน้ำคาน ที่จริงมีอาหารขายหลายประเภท แต่ที่จะมาทานกัน คือ หมูกระทะ หรือชื่อตามเมนูของร้าน คือ ลาวฟองดู
 
 
สั่งมาเป็นเซ็ตหมูและเซ็ตไก่ ใน 1 เซ็ต ก็จะมีเนื้อสัตว์ 1 จาน ตะกร้าผัก 1 ตะกร้า และมะเขือชุบแป้งทอด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสุกี้
ส่วนเรื่องความอร่อยนั้น... เนื้อที่เค้าให้มาหมูก็เป็นเนื้อแดง ไก่ก็เป็นเนื้ออก ลีนมากๆ กินแล้วฝืดคอสุด ไม่วาไรตี้แบบเมืองไทยเลยอ่ะ แพงกว่าด้วย ไม่ให้ผ่านนะคะ 
 
 
วันนี้ไปเที่ยวทั้งขึ้นเขาทั้งลงห้วย ทรมานสังขารของทุกคนในครอบครัว 
ส่วนบลอกหน้าจะเที่ยวทางราบ ชมวัดชมวังกันบ้าง (แต่สุดท้ายพาเดินอ้อมไปอย่างไกล) 




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2562
1 comments
Last Update : 24 ตุลาคม 2562 14:57:06 น.
Counter : 1956 Pageviews.

 

แอบมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

 

โดย: Willkommen IP: 163.172.136.205 2 กุมภาพันธ์ 2562 2:38:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2562
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
1 กุมภาพันธ์ 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.