วันแรกในหลวงพระบาง
จัดทริปครอบครัวไปเที่ยวหลวงพระบางตามรีเควสของแม่ ช่วงกลางเดือนมกราคม 62 จากเชียงใหม่มีบินตรงไปหลวงพระบางวันละ 1 เที่ยวบิน ของสายการบินลาวแอร์ไลน์ ก่อนเดินทางก็แอบกังวล เพราะต้องนั่งเครื่องบินแบบใบพัดเป็นครั้งแรก แลจะหวิวๆ ได้แต่นึกปลอบใจตัวเอง ว่าเค้าก็บินไปๆมาๆอยู่ทุกวัน แถมช่วงที่ไปก็เป็นช่วงหน้าหนาวอากาศนิ่ง ฟ้าเปิด ทุกอย่างคงผ่านไปอย่างราบรื่นแหละน่าา
แล้ววันเดินทางก็มาถึง เครื่องออกตอน 15.15 เคาเตอร์เปิดให้เช็คอินก่อน 2.30 ชม. ไม่ค่อยได้โผล่มาฝั่งอินเตอร์ของสนามบินเชียงใหม่ซักเท่าไหร่ แต่แปลกใจว่าโถงเช็คอินฝั่งนี้ไม่มีเก้าอี้นั่งเลยซักตัว (ซึ่งฝั่งโดเมสติกมีนะ) ด้วยความที่ใช้เครื่องบินไซส์เล็กก็บัสเกตแน่นอน ตอนเรียกขึ้นเครื่องเค้าจะให้ครึ่งหน้าแถว 1-10 ไปขึ้นรถก่อน ส่วนเราและพ่อแม่ได้แถว 17 ก็รอขึ้นคันถัดไป ซึ่งพอขึ้นเครื่องนั่งปุ๊บ ไม่ถึง 5 นาที กัปตันก็ถอยเครื่อง แล่นเข้ารันเวย์ทันที อะไรมันจะเร็วขนาดนั้น 55
ที่นั่งจัดแบบ 2-2 มีทั้งหมด 18 แถว เหมือนนั่งรถทัวร์เลยอ่ะ
ความรู้สึกตอนอยู่บนเครื่องดีกว่าที่จินตนาการไว้เยอะ ระหว่างทางก็สบายๆ อากาศดีแทบไม่มีเมฆ
พอบินได้ระดับ ก็มีแจกกล่องอาหารว่าง เสิร์ฟเครื่องดื่ม มีเบียร์ลาวให้ดื่มก่อนถึงลาวด้วย
ตอนลดระดับ ก็จะเห็นวิวเทือกเขาสวยๆของฝั่งลาว เขียวชอุ่ม และเสียวว่าจะบินใกล้ภูเขาไปมั้ย 55
ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงสนามบินหลวงพระบาง จากนั้นก็แลกเงินจากบูธในสนามบิน(18/1/62 1บาท=272กีบ) แล้วหารถแท็กซี่เข้าเมือง ของเรามากัน 4 คน จ่ายไป 80000 กีบ ไม่ได้เหมานะคะ มีนทท.มาจอยเพิ่มอีก 2 คน ถือว่าสะดวกมาก รถตู้ใหม่ กว้างขวางดี ไม่ต้องต่อรองราคาด้วย ด้วยความที่จองโรงแรม ในโซนเที่ยวเกินไป 55 คืออยู่ในโซนตลาดมืด ทำให้รถไม่สามารถไปส่งถึงหน้าโรงแรมได้ เพราะเค้าปิดถนนตั้งขายของกันแล้ว เลยต้องลากกระเป๋าตะลุยตลาด (แต่ก็ไม่ได้ไกลจากจุดดจอดรถมากน่าจะ 200 เมตร) พาพ่อแม่มาลำบากอีกแล้ว
จองโรงแรม หลวงพระบางเรสซิเด้นซ์ 3 คืน 2 ห้อง ผ่านอโกด้าในราคา 13,***บาทไม่รวมอาหารเช้า ตกห้องละสองพันนิดๆต่อคืน แถมจ่ายตังไปก่อนตั้งแต่ตุลาด้วยนะ เพราะเป็นโปรถูกสุดๆงี้ไง มาช้ำใจก่อนวันจะไป นึกยังไงไม่รู้ ลองจองวันที่เราจะไปขำๆดูซิ ได้ห้องคืนละ 1,6** รวมอาหารเช้าด้วยจ้า ฮือออ (แต่เป็นห้องคนละไทป์กัน)
ที่เลือกโรงแรมนี้ เพราะทำเลในการออกเที่ยวดีมาก (ไม่นับการที่รถเข้าไม่ถึงหน้าโรงแรมนะ) หน้าโรงแรมคือตลาดเช้า ซึ่งพ่อแม่เราเค้าชอบเดินตลาด ตื่นมาก็สามารถเดินตลาดเองได้เลย เราก็ไม่ต้องตื่นเช้าไปส่งไง ฮ่าาา เดินไปใส่บาตร หรือเดินตลาดมืดก็ง่าย โรงแรมอยู่ติดกับหลังวัดใหม่ ทั้งโรงแรมมีห้องพักอยู่ 7 ห้อง ก็น่าสงบเป็นส่วนตัวเหมาะกับผู้สูงอายุ จริงๆ ที่พักที่เล็งไว้ตอนแรก คือ Le Bougainvillier อยู่ย่านเดียวกันนี่แหละ แต่ดันมาเต็มไปก่อนซะนี้
ห้องแบบ Deluxe Suite Double กว้างขวางทั้งในส่วนห้องนอนและห้องน้ำ
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ ก็ออกมาเดินสำรวจข้าวของที่ตลาดมืด หรือถนนคนเดิน ปิดถนนตั้งเต้นท์ขายของตั้งแต่สี่แยกตึกการท่องเที่ยวไปจนถึงสุดกำแพงวังเก่า ระยะทาง 400 เมตรได้ เกือบทั้งหมดก็คือ ของฝาก ของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว คนไม่แน่น เดินกำลังสบายๆเลยค่ะ
ทานอาหารเย็น ที่ร้านตำหนักลาว เห็นหลายคนบอกว่าที่นี่อาหารอร่อยถูกปากคนไทย
สั่งอาหารลาวมาทานหลายอย่าง ซึ่งเป็นรสชาติที่คุ้นเคยมาก ไม่ต้องปรับตัวในส่วนอาหารการกิน มีไคแผ่น ซึ่งเป็นสาหร่ายทอดทานคู่กับแจ่วบอง / ส้มตำ แซ่บมากสมคำร่ำลือ / ไส้อั่วหลวงพระบาง หมูปรุงรสแต่ไม่ใส่ข่าตะไคร้พริกแบบเชียงใหม่ / ลาบ / เห็ดทอด
จากนั้นก็เดินย่อยอาหารกลับโรงแรม เตรียมตัวเที่ยววันรุ่งขึ้นค่ะ ขากลับ แวะซื้อขนมหวานล้างปากที่ Indigo cafe เค้าจะมาตั้งโต๊ะขายขนม สังเกตง่ายมาก มีอยู่ร้านเดียวในตลาดมืด ซึ่งเท่าที่ได้ทาน เราว่าไม่อร่อยอ่ะ ได้ชิมบราวนี่กับขนมปังเนย นี่เราตั้งความหวังไว้มากกับขนมปังขนมอบเพราะเห็นว่าเคยถูกฝรั่งเศสปกครอง แถมนักท่องเที่ยวฝรั่งก็เต็มเมือง
แต่วันหลังๆ ได้ทานครัวซองที่ Le banneton เจ้านี้อร่อย ฟินมาก ผิวนอกกัดร่วงกราว หอมเนยสุดๆ ราคาก็ถูกกว่าด้วยแหละ
Create Date : 26 มกราคม 2562 |
Last Update : 26 มกราคม 2562 17:50:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1016 Pageviews. |
|
|