Group Blog All Blog
|
ลูกวัยอนุบาล ต้องทำโฮมสคูลด้วยเหรอ? ลูกวัยอนุบาล ต้องทำโฮมสคูลด้วยเหรอ??? เป็นคำถามที่หลายๆ คนอาจสงสัย เพราะเราคิดว่า เด็กเล็ก! ไปโรงเรียนก็เสี่ยงเชื้อโรค / ห่างสายตาก็น่าเป็นห่วง / เรามีเวลาดูแลเต็มที่ อย่างไรก็มีคุณภาพได้ไม่ต้องจดอะไรหรอก...ฯลฯ อีกหนึ่งจังหวะที่อยากแบ่งปัน หลายบ้านพลาดเพราะคำว่า "อนุบาลไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับ ไม่ทำบ้านเรียนหรือไม่ได้เข้าโรงเรียนก็ไม่ผิดกฏหมาย" หลายบ้านก็ไม่ทำอะไร แค่สอนเองจัดการเตรียมความพร้อมไปตามจังหวะ แต่เมื่อจะเข้าป.1 กลับต้องรอให้ครบ 7 ปีบริบูรณ์ตามระเบียบของการเข้าเรียน ทำให้เด็กอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ หลายคน หรือครอบครัวบางครอบครัว ไม่สามารถจดทะเบียนบ้านเรียนทำโฮมสคูลให้ลูกได้ตามที่ต้องการ หรือไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนได้เพราะอายุยังไม่ครบ 7 ปี และไม่มีใบรับรองการจบอนุบาล หลายบ้านไม่ซีเรียส รอเข้าประถมตามอายุ ก็ว่ากันไป แต่ก็มีบางบ้านบางครอบครัว ที่ประสงค์จะให้ลูกได้เข้าเรียนพร้อมเพื่อนๆ ที่อายุ 6 ปีแล้วเหมือนๆ กัน แต่ไม่สามารถเข้าเรียนในระบบการศึกษาได้เพราะข้อมูลข้างต้น "เด็กเล็ก / ลูกเล็ก ยังไม่อยากให้ไปโรงเรียน / อยากให้ได้เล่นได้โตอย่างธรรมชาติไปก่อน / ที่บ้านไม่รีบค่ะ /ไม่รู้จะทำไหวไหม / และอีกหลากหลายแคปชั่นของครอบครัว" อยากแนะนำว่า แม้อนุบาลไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับ ไม่จดหรือไม่เข้าเรียนก็ไม่ผิดกฏหมาย แต่ก็อาจมีผลกระทบในการเดินทางต่อไประดับประถม หากไม่เหนือบ่ากว่าแรง อยากให้จดทะเบียนบ้านเรียนไว้เถอะค่ะ ในการจดจัดทำบ้านเรียน /โฮมสคูล /การจัดการศึกษาโดยครอบครัว คุณพ่อคุณแม่และลูก สามารถเลือกจดแบบกลุ่มประสบการณ์ได้ เพื่อให้เอื้อต่อลักษณะการเรียนรู้ พัฒนาการ 4 ด้านของเด็กๆ ที่เหมาะสมกับบริบทครอบครัวได้ งานที่เพิ่มขึ้นมาก็แค่พ่อแม่ต้องจัดการเรื่องเอกสารต่างๆ เพิ่มขึ้นกว่าชีวิตปกติทั่วไป และอีกส่วน รัฐ มีสวัสดิการส่วนนี้ให้ลูกเราแล้ว ลูกมีสิทธิ์ที่จะได้รับ พ่อแม่จะรักษาสิทธิ์ให้ลูก หรือจะปล่อยไปเพราะคิดว่า... ยังไม่พร้อม ยังไม่อยากทำ ยังไม่อยากวุ่นวายเรื่องเอกสารสาร ก็อาจต้องพิจารณาสักนิดนะคะ หากไม่ลำบากจนเกินไป แนะนำทำเถอะค่ะ เขียนแผนไม่เป็นมาปรึกษากันค่ะ ปรึกษาฟรีเลยค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่าย หากใครไม่แน่ใจว่า จะต้องเจออะไรบ้างในระหว่างการเติบโตในการทำบ้านเรียน เอาจริงๆ เรามีพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆ บ้านเรียนร่วมเดินทาง ร่วมแบ่งปัน ร่วมให้กำลังใจกันได้ตลอดทางนะคะ แต่ไม่ว่าจะกำลังใจจากใคร ก็ไม่เท่ากับใจเราเอง "ใจ" ของความเป็นพ่อเป็นแม่ ใจที่จะรักษาสิทธิ์และทำให้ลูก เติบโตและเดินไปด้วยกัน อย่าคิดว่าเป็นภาระ เพราะอยากให้เป็นไปตามความสะดวกและความเข้าใจของครอบครัว (หากไม่เข้าใจ ไม่แน่ชัด ก็คุยกันปรึกษากันกับพี่ๆ ที่ปรึกษาได้ค่ะ) อย่างน้อยๆ ลูกได้สิทธิ์ที่รัฐมีไว้ให้ อย่างน้อยๆ ลูกก็ไปต่อระดับประถมได้ต่อเนื่อง อย่างน้อยๆ ลูกก็ได้เล่น ได้เรียนรู้ ได้เติบโตไปกับครอบครัว และอย่างน้อยๆ เราก็จะเข้าใจในวิถีโฮมสคูลได้มากขึ้นไปอีกด้วย ข้อดีไม่น้อย ข้อเสียไม่รู้จะมีเท่าไหร่ แต่ทุกการเดินทาง เราสามารถบริหารจัดการด้วยตัวเราเองและครอบครัวเราได้ เอาเป็นว่า ชีวิตเราต้องเดินต่อไปทุกวัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็เรียนรู้และปรับตัว ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนกันไปอยู่แล้ว หากการทำบ้านเรียนจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งประเด็นของการเรียนรู้เพิ่มเติม หรือการปรับ Mind Set บางอย่างของเราเอง แต่สามารถเรียนรู้ไปตามวิถีชีวิตได้ ก็น่าจะพิจารณาจัดการสักนิดนะคะ อ่ะ สู้ๆ กันต่อ ทุกการเลือกเดินมีผลตามมาเสมอ ไม่ว่าจะเลือกอย่างไร แนวไหน เป็นสิทธิ์ของทุกคนค่ะ เป็นสิทธิ์ของพ่อ ของแม่ และอย่าลืมว่า ลูกก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับการรักษาสิทธิ์ เรียนรู้เพื่อทำตามสิทธิ์ตนเองเช่นกัน ส่งกำลังใจในทุกการก้าวเดินนะคะ #วาระของช่วงประเมิน #วาระของช่วงเตรียมเขียนแผน #วาระของการศึกษาตามอัธยาศัย #การศึกษาตามอัธยาศัย #บ้านเรียน #Homeschool #การศึกษาที่เลือกได้ เด็กเล็ก #อนุบาล #ปฐมวัย #ประถมศึกษา #การศึกษา บันทึกแม่หญิงข้าวฟ่าง 12/01/2023 |
สมาชิกหมายเลข 1559763
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?] ทักทายเรื่องราวมากมาย รู้จักผ่านปลายปากกา สัมผัสนามแฝงแห่งคุณค่า ชื่อว่า "ข้าวฟ่าง" และ "เฌอมาลย์" ...รักกัน รักกันค่ะ... ปล.ยินดีให้คำปรึกษาและเขียนแผนบ้านเรียน Homeschool Friends Blog Link |