จองจนลืมกับตั๋วเครื่องบินราคาถูกไปจังหวัดที่อยากไปมานาน กระบี่ จำไม่ได้ว่าจองไปเมื่อไหร่ แต่ต้นๆ ปี น่าจะเดือนกุมภาฯ หรือ มีนาคม เพราะราคาค่อนข้างถูก ช่วงเวลาเดินทางเป็นกันยายน หรือตุลาคม โดยจองเอาไว้ 2ใบ เพราะเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่แต่งงานกันครบ 21ปี ซึ่งภรรยาผมเขาอยากจะไปจังหวัดนี้มาก เพราะว่าเคยเห็นแต่ในรูป โดยเฉพาะเกาะพีพี ถึงวันเดินทางเป็นวันเสาร์ที่ 28 กันยายน โดยขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองประมาณเที่ยง ไปถึงที่กระบี่ก็บ่ายสองนิดๆ จากนั้นก็หารถครับที่ราคาไม่แพง เพื่อนั่งไปที่รีสอร์จที่จองเอาไว้ เป็นรีสอร์จที่อยู่กึ่งกลางระหว่างตัวอำเภอเมืองกระบี่ กับอ่าวนาง โดยห่างจากทั้งสองที่ประมาณ10กม. เท่าๆ กัน ไปถึงที่พักก็บ่ายสามโมงเช็คอินแล้วก็ต้องออกไปเที่ยวครับ โดยเป้าหมายแรกก็คือ อ่าวนาง แต่ว่าที่พักอยู่ในป่ายางเลย 555 และห่างจากเป้าหมายไป 10กม. ก็ต้องหาพาหนะกันก่อน โดยขอเช่ารถมอเตอร์ไซด์ ที่รีสอร์จนี่แหละครับ 100บาทต่อวัน จากนั้นก็แปลงร่างเป็นนักบิดครับกว่าจะมาถึงอ่าวนางก็แดดร่ม ลมตกพอดี บรรยากาศดี ที่ต้องทำก่อนคือสัมผัสกับน้ำของ ทะเลอันดามัน อยากบอกว่ามีแต่คนต่างประเทศ ยิ่งดึกคนก็ยิ่งเยอะ คนไทยจะมีแต่คนขายของ ก็รู้สึกภูมิใจนิดๆ ขนาดถามคนขายของเขาบอกว่านี่ถือว่าคนน้อย ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยว หรือช่วงโรงเรียนปิดเทอมนักท่องเที่ยวจะเยอะกว่านี้มากของกินก็เยอะมาก แต่ราคาก็สำหรับนักท่องเที่ยวครับ แต่ยังดีที่คนขายบอกว่าราคาคนไทยก็มี ยังไงก็จัดอาหารเย็นที่อ่าวนางซักหน่อย มาทะเลก็ต้องอาหารทะเล กุ้ง หมึก หอย หลังจากที่อิ่มแล้วก็ต้องบิดรถกลับที่พักกันครับ หมดทริปวันแรกในวันที่สองก็จะเป็นการตามฝัน คือทริปเกาะพีพี โดยจองเป็นทัวร์เอาไว้ ซึ่งเขาจะส่งรถมารับที่โรงแรมตอน 8โมงเช้า เพื่อไปขึ้นเรือที่วังทราย ซึ่งก็จะมีบริการอาหารเช้า กาแฟ ผลไม้ ก่อนที่จะขึ้นเรือสปีดโบ๊ท ประมาณ 9:30จุดแรกที่แวะคือ หาดไร่เลย์ เพื่อรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ได้ให้ลงไปเดินถ่ายรูปได้ในขณะรอด้วยจากนั้นก็พาไปแวะที่เกาะไผ่ แล้วก็ไปที่เกาะพีพี เพื่อดำน้ำดูปลาการ์ตูน ที่อยู่ด้านหลังของเกาะพีพีดอน จากนั้นก็พาไปดูที่อ่าวมาหยา แต่ว่าไม่สามารถขึ้นไปได้เพราะว่าเขาปิดอุทยาน เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวเลยได้แค่ลอยเรืออยู่ห่างๆ แล้วก็ถ่ายรูปครับ จากนั้นไปพาไปดูถ้ำไวกิ้ง ที่เขาเก็บรังนกนางแอ่นกัน อันนี้ก็เข้าไม่ได้ เพราะว่าเป็นสัมปทาน เหมือนกับเป็นที่ดินส่วนบุคคล จากนั้นก็ไปที่ อ่าวโล๊ะซามะ อ่าวปิเล๊ะจุดชมวิว หาดลิง ตามลำดับในโปรแกรม ก่อนที่จะพาไปทานอาหาร ตรงอ่าวไทร แต่ว่าโชคร้านตรงที่ฝนตกอย่างหนัก ทำให้โปรแกรมช่วงบ่ายทุกยกเลิก เพราะว่ากว่าฝนจะหยุดตกก็ปาไป เกือบบ่าย 3โมง และใช้เวลาประมาณ 1ชม. เศษ เพื่อเข้าฝั่ง อีกอย่างคือตอนกลับก็กลัวฝนจะกลับมาด้วย เพราะว่ายังมีละอองฝนอยู่เลย เรียกว่าเสียวมาก อีกอย่างคือคลื่นสูง ที่เขาพูกกันนี่เป็นแบบนี้เอง ทะเลก็น่ากลัวเวลาฝนตก ลมแรง ต่างกลับตอนขาไปลิบลับเลยทะเลนิ่งๆ แต่ก็คิดว่าดี 2รสชาตในทริปเดียวคืนนั้นนอนหลับสนิทมาก เพราะเพลียสุดๆ โดยเฉพาะนั่งเรือโต้คลื่นตอนขากลับวันรุ่งขึ้น ก็ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้ามืด จบทริปจังหวัดที่อยากไป และฉลองครบรอบ 21ปีที่มีเธอเคียงข้าง แบบเหนื่อยๆby: kcan#kcan, #kcan9, #กระบี่, #Krabi, #เกาะพีพี