Group Blog All Blog
|
เมื่อฉันต้องเป็นครูมือสมัครเล่น แม้จะไม่ได้เป็นครูตามสาขาวิชาที่กำลังร่ำเรียนอยู่ด้วยความยากลำบาก(ใจ) :D แต่พระเจ้าก็ทรงโปรด ไม่ให้วิชาการที่ร่ำเรียนมาต้องสูญเปล่าไป เทอมที่ผ่านมา หลานสอบตกวิชาภาษาอังกฤษ ปิดเทอมพี่สะใภ้ก็เลยจัดการส่งมาให้ช่วยสอนภาษาอังกฤษให้หลานหน่อย กลางวันทำงานอยู่ออฟฟิศ ตอนเย็นก็เป็นครูสอนภาษาอังกฤษไปโดยปริยาย สอนมาได้ 2 วัน ยิ่งสอนยิ่งกลุ้มใจเสียจริง ตอนแรกจากที่ประเมินเอาด้วยสายตาว่าหลานกำลังจะขึ้น ม.6 น่าจะมีพื้นฐานความรู้มาแค่นั้น แค่นี้ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ วันแรกที่ทำการเรียนการสอน ก็พบว่า....โอ๊ววว!!! แม่เจ้าโว๊ย ต้องย้อนความกันไปถึงเรื่องของพื้นฐานที่เรียนกันตอนประถมเลยทีเดียว ต้องมาสอนชนิดของคำ โครงสร้างประโยค !!!! แต่ก็ยังดีที่ไม่ต้องย้อนกลับไปให้ท่อง A-Z ใหม่ วันแรกผ่านไป ก็พอรู้ปัญหาว่า วันที่สองต้องสอนเรื่องอะไร ก็เลยเตรียมเรื่องชนิดของคำไปสอน พอเริ่มสอนไปไม่กี่นาที ก็ต้องตะลึงพลึงเพลิด เกิดเหงื่อตกก้อนเบ้อเร้อ -_-! ค้นพบว่า สงสัยฉันต้องสอนภาษาไทยให้ก่อนแล้วหละ เพราะแปลภาษาอังกฤษเป็นไทยแล้วก็ยังจำต้องอธิบายคำหมายของภาษาไทยเป็นภาษาไทยอีกทอดหนึ่ง เฮ๊ย!!! เรื่องพวกนี้มันเริ่มเรียนตั้งแต่อยู่ประถมแล้วน่ะ แม้จะจำไม่ได้ แต่ก็ควรที่จะรู้บ้าง เพราะมันคือเรื่องพื้นฐาน นี่อะไรกัน องค์ความรู้ในหัวสมองไม่มีเลย แล้วที่เรียนมาตั้งสิบปีตั้งแต่ประถมจนจะขึ้น ม.6 มีความรู้อะไรอยู่ในหัวบ้างเนี๊ยะ เรียกได้ว่าต้องปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนกันครั้งต่อครั้ง โดยยึดองค์ความรู้พื้นฐานของผู้เรียนเป็นหลัก แบบนี้ครูมือสมัครเล่นอย่างฉันก็อ่วมอรทัยละสิครับท่านผู้ช๊ม -_-! บวกกับเด็กไม่ค่อยมีความตั้งใจที่จะใฝ่เรียนรู้เท่าไหร่ ทำให้ภาระของผู้สอนหนักขึ้นเป็นอีกเท่าตัว เมื่อวานขณะที่กำลังทำการเรียนการสอนอยู่ ก็มีคนโทรเข้ามือถือ หลานก็ตัดสายทิ้ง โทรเข้า 6-7 รอบ ฉันชักจะรำคาญมากขึ้นทุกขณะ เฮ๊ย!! แล้วก็สังเกตเห็นว่าหลานไม่ค่อยมีกระจิตกระใจที่จะเรียน พะวงกับสายที่เพื่อนโทรเข้า เลยให้โทรไปบอกว่าไม่สะดวกที่จะเมาท์ในเวลานี้ เด็กอยู่ในช่วงวัยรุ่น รักสนุก คุยโทรศัพท์ไร้สาระทั้งวัน เรียนก็เรียนให้ผ่านไปวัน ๆ สองวันที่เรียนผ่านไป วัดและประเมินผลด้วยความรู้สึกของครูผู้สอนอย่างเราแล้ว ก็ประเมินว่าเด็กไม่กระตือรือร้น ไม่จดจ่อ ไม่แสดงออกถึงความพยายามซักเท่าไหร่ ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป คงไม่ได้เห็นอัตราพัฒนาการที่ดีขึ้นของผู้เรียนเป็นแน่ คิดแล้วก็สงสารพ่อแม่ ที่ยอมสียเวลา เสียเงินส่งมาเรียน สงสัยจะต้องใช้ไม้โหด ตกลงกันกับหลานให้เข้าใจและยอมรับในวัตถุประสงค์ของการมาในครั้งนี้ร่วมกัน ถ้าไม่ตั้งใจจริง ๆ ก็ไม่อยากจะเสียเวลาทำมาหากินมาสอนให้นะ เพราะไม่ใช่ไม่เหนื่อย ไม่ใช่ไม่มีอะไรจะทำ การสอนครั้งนี้ถือว่าเสียสละเลยก็ว่าได้ ต้องเจียดเวลาที่ฉันจะต้องได้ทำวิทยานิพนธ์มาเป็นการสอนในทุก ๆ เย็นหลังเลิกงาน ...วิญญาณเผด็จการเหมือนครูฝ่ายปกครองเริ่มสำแดงนะเรา =^_^= ว่าแล้วก็จัดการโทรไปรายงานพฤติกรรมหลานสาวให้พี่สะใภ้ฟังซะเลย แถมด้วยไม้เด็ดว่า...ถ้าในช่วง 1 สัปดาห์นี้ ไม่เห็นว่าหลานมีพัฒนาการในการเรียนที่ดีขึ้นทั้งในความตั้งใจและผลการเรียนรู้แล้วล่ะก็ งานนี้ขอจบเอง....จะส่งตัวหลานกลับคืนไปทันที จบข่าว! สวัสดีครับ ขอเป็นกำลังใจให้ประสบความสำเร็จในบทบาทครูสมัครเล่น
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบ้านและอ่านเรื่องตุรกีตอนแรก วันนี้แวะมาบอกว่าผมลงตอนที่ 2 แล้วครับ โดย: ทองกาญจนา วันที่: 5 เมษายน 2555 เวลา:9:55:54 น.
สวัสดีวันจันทร์สดใสครับ คุณ ishi_imp
ขอบคุณมากครับที่ไปเพิ่มความเห็นในบล็อกเรื่องตุรกี มาแจ้งข่าวว่าเขียนตอน 3 เสร็จแล้ว เชิญแวะชมครับ. โดย: ทองกาญจนา วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:10:45:37 น.
ไม้อ่อนไม่ได้ผลก็ต้องใช้ไม้แข็งกันละครับ
ภาษาอังกฤษสำคัญกับการสอบเรียนต่อด้วย โดย: Don't try this at home. วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:21:35:23 น.
ถ้าเด็กไม่ร่วมมือ ยังไงเราก็ช่วยอะไรเค้าไม่ได้อยู่ดี เสียเวลาป่าวทั้งเราทั้งเค้า
เอาใจช่วยนะคะ โดย: Kioku วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:22:42:36 น.
อยู่บ้านก็สบายดีครับเพราะปีนี้แม่ผมยังไม่ได้พาไปฉีดยาโรคกลัวน้ำเลย อิอิ
ราตรีสวัสดิ์ครับ โดย: Don't try this at home. วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:22:53:30 น.
โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:7:01:02 น.
|
Wueng
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] If life was easy, Where would all the adventures be? . . All is well.
Friends Blog
Link |
อยู่ ม 6 Eng ไม่เข้าใจ ก็พอรับเพราะบางคนไม่ชอบจริงแต่ต้องแปลไทยเป็นไทย ไม่ไหวนะคะ เป็นลูกเป็นหลานจะส่งกลับไปเรียนกับเด็กประถมใหม่ให้อายไปเลย (หาแบบเด็กประถมเก่งๆ ด้วยนะ)