พะเนินทุ่ง...ในอ้อมกอดของสายหมอก คละเคล้าไปด้วยละอองฝน
แวะค้างแรมคืนที่ริมเขื่อนแก่งกระจาน (ต่อเนื่องมาจาก บล็อกนี่ครับ) ก่อนนอนคืนนั้นได้ติดต่อขอขึ้นสู่พะเนินทุ่งเอาไว้ก่อน กลัวพลาดหวังครับ เพราะที่พะเนินทุ่งเขาจำกัดจำนวนเต็นท์ เนื่องเพราะมีลานให้กางเต็นท์ไม่มากนัก
เช้าวันใหม่หลังกาแฟหน้าเต็นท์ริมอ่างน้ำแล้ว สาย ๆ หน่อยลุงและคนร่วมทางก็เก็บเต็นท์โยนใส่รถ โบกมืออำลาอ่างเก็บน้ำมุ่งหน้าขึ้นสู่จุดหมายแรก บ้านกร่าง เพื่อไปยังพะเนินทุ่ง ยอดดอย (เขา) ของเมืองเพชร ที่มักมีหมอกให้ชมในช่วงเช้า ๆ ระหว่างทางเจอดอกงิ้วบานสดใสต้อนรับอย่างเป็นมิตร (เห็นดอกไม้แล้วชื่นใจลุงถึงว่า เป็นมิตรแหละครับ)

ถึงบ้านกร่างแค้มป์ในเวลาแค่ไม่นานนัก จอดรถแวะเที่ยวแวะชมอยู่เป็นชั่วโมงสองชั่วโมงเพื่อรอเวลาขึ้นพะเนินทุ่ง
(การขึ้นพะเนินทุ่งเขากำหนดเวลาขึ้นลงครับ เพราะเส้นทางแคบรถไม่สามารถสวนทางกันได้)
ระหว่างรอก็เดินเที่ยวชมไปเรื่อยเปื่อย ทั้งหาข้าวหาปลากินกันให้อิ่มหนำ ช่วงเทศกาลพอมีร้านอาหารบริการอยู่บ้าง หลายคนในคณะของลุงเดินล่าผีเสื้อหายต๋อมลงไปในลำห้วย ส่วนลุงหลังจากเดินต๊อกๆแถวใกล้ๆลานกางเต็นท์ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ไปปูเสื่อใต้ร่มไม้ใบหนาต้นหนึ่ง นอนหลับตาฟังเสียงนกเสียงกา (คน) พูดคุยกันให้แซด จับความตามเรื่องที่คุยกันล้วนเป็นเรื่องเฮฮาร่าเริงทั้งนั้น นี่แหละมนต์เสน่ห์ของป่าเขาลำเนาไพร แม้นเดินทางเหนื่อยยากทั้งขาดความสะดวกอย่างไรก็ตาม แต่ใจก็เป็นสุได้ไม่ยากเย็นเลยครับ

ผีเสื้อตามริมลำธารใกล้ ๆ ลานกางเต็นท์ ที่คนขี้เกียจเดิน (ในวันนั้น) อย่างลุงเก็บมาได้ คนเป็นร้อย ๆ เดินวนไปวนารบกวนมันอยู่เรื่อย ๆ ยังมีเกาะกลุ่มริมชานบ้านให้เห็นบ้างก็บุญแล้ว ว่ามะ คนขยันก็ได้ตัวสวย ๆ งาม ๆ มาอวดกันแหละครับ ส่วนลุงก็มีแค่นั่นแหละ

นกก็เยอะนะครับที่นี่ นักดูนกมักแวะเวียนไปเฝ้ามองในปีหนึ่งๆไม่ใช่น้อยเลย เจ้าตัวนี่น่าจะใช่นก ปรอดสวน ครับ

ถึงพะเนินทุ่งเอาตอนช่วงบ่ายแก่ ๆ กางเต็นท์เสร็จสรรพก็เดินท่อม ๆ ไปที่จุดชมวิวนี่เลย จุดนี้นี่แหละ เช้า ๆ เหล่านักท่องเที่ยวจะมายืนหน้าสะลอน เพื่อรอชมหมอกขาว ๆ กันครับ

จากนั้นก็ ถึงเวลาอาหารบนยอดเขาแล้วนะ กินกลางไพร อะไรก็อร่อย แกงเหลืองของชาวปักษ์ใต้ คนไม่ชอบขมิ้นถ้าจะทานลำบาก แต่ขมิ้นดีนะ เป็นยาแก้ท้องอื่นได้ด้วย เห็นเขาบอกว่ารักษาโรคกระเพาะก็ได้ ใช้ประกอบปรุงอาหารรสชาติแสนจะโอชะ ปลากระบอกตอดขมิ้นเอย กรรเชียงปูเอย อะไรอื่น ๆ เอย ( อิอิ นึกไม่ออกเอย แต่รู้ว่าต้องมีอีกหลายรายการอาหารแน่ ๆ เลย)

ตกเย็นเข้าหน่อยพวกก็มากันครับ มากันพร้อม ทั้งน้องฝนพรำกับละอองหมอกขาว หลังป้ายนั่นขาวโพลนเลยดูดิ

น้านนน เห็นปะ ...ลานกางเต็นท์ถูกโจมตีแล้วครับ กองทัพหมอกหนาที่มีฝนพรำเล็ก ๆ ร่วมด้วย แผ่อิทธิพลรุกคืบครอบคลุมดงเต็นท์เข้าแล้วเต็ม ๆ เอิ๊ก ๆ มาเยือนกันตั้งแต่เย็น ๆ เลยเหรอพวก แล้วพรุ่งนี้เช้าจะได้ยลทะเลหมอกมั้นน้อ... ชักหวั่นใจ

ไปชมตอนนี้เลยก็ได้ฟะ หุหุ แนวเขาตามที่เคยเห็นในภาพบนหายต๋อมไปในม่านหมอกซะแล้วครับคุณ ๆ ครับ

หมอกลงมากคนก็สนุกไปอีกแบบ เดินชมแมกไม้เคล้าสายหมอกก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร สบายอารมณ์ไปอีกแบบแหละครับ

กลับมาที่ลานกางเต็นท์ มองลงไปในถนน รถยนต์ถึงกับต้องเปิดไฟคู่ใหญ่ส่องนำทางกันแล้ว ขนาดยังไม่ค่ำนะนี่ หมอกหนา ๆ เมื่อจำเป็นต้องใช้รถใช้ถนน ควรระวังกันให้มาก ๆ นะครับ คนเคยหล่อขอเตือนครับผม

เช้าขึ้นมาอดดูทะเลหมอกเช่นที่นึกหวั่นใจนั่นแหละ เพราะเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งในทะเลหมอกซะแล้วนี่ ลุงทำได้แค่เดินดุ่ม ๆ ไปเรื่อยเปื่อย เก็บภาพหยดน้ำตามต้นไม้ใบหญ้าเอามา ก็ขอปิดท้ายกับภาพนี้เลยนะ มีความสุขนะครับ ทุกๆคน...

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2550 |
|
37 comments |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 22:42:44 น. |
Counter : 2773 Pageviews. |
|
 |
|