ไม่ผิดแผน แต่ผิดทาง 555
วันแรกคว่ำไม่เป็นท่า ไม่เห็นซากุระเล้ย การปรับแผนจึงต้องทำอย่างรีบด่วน

คืนนั้น เราต้องประสานมาทางกรุงเทพ ให้คนที่อยู่เมืองไทยแต่อ่านภาษาญี่ปุ่นได้ เช็คว่าที่ไหนมีซากุระบานเต็มที่แล้ว( full bloom) ผลคือเราขยับการไป Kitakami Tenshoji Park จากเดิมวันอังคารขึ้นมา 4 วัน เพราะที่นั่นซากุระบานเต็มที่แล้ว จาก Morioka St. เรานั่งรถไฟไปแค่ 15 นาที ลงที่ Kitakami St. แล้วต่อรถเมล์ที่ Esashi Bus Center Tenshoji นั่งไป 15 นาที ลงรถแล้วเดินตรงไปเรื่อย พอทะลุแม่น้ำ ฝั่งตรงข้าม ซากุระบานสะพรั่งเต็มไปหมด งามจับตาจับใจ เขาผูกปลากระดาษสีสรรสวยงามหลายสิบตัวกับเชือกที่โยงข้ามแม่น้ำไว้ 2 เส้น เพิ่มความสวยขึ้นไปอีก เดินข้ามฝั่งไป ต้นซากุระถูกปลูกไว้ริมแม่น้ำเป็น 2 แถวห่างกันประมาณ 5 เมตรมั้ง ไม่ค่อยเก่งเรื่องกะระยะ ผู้คนมากมายมหาศาล ทั้งคนท้องถิ่นและต่างชาติ เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์

เดินไปบนถนนตรงกลางระหว่างต้นซากุระที่บานเต็มที่ ทุกต้นสวยงามมาก มองไปทางไหนมีแต่สีชมพูอ่อนแก่แล้วแต่พันธุ์ เพิ่งเข้าใจเดียวนี้แหละว่าทำไมคนถึงอยากมาดูซากุระ มันช่างงดงาม อ่อนหวาน รื่นรมย์ ถึงคนมากมาย แต่ไม่มีเสียงดังรบกวนกัน (ยกเว้นเสียงรถม้าเทียมรถลากให้ผู้ที่เดินไม่ไหวหรือไม่ประสงค์จะเดิน แต่อยากชมต้นซากุระตลอดแนว ใช้บริการ) ไม่มีเสียงเพลงของฉิ่งฉับทัวร์เคาะขวดเคาะกระป๋องของมุษย์นิยมเหล้าที่ไม่พึงประสงค์ทำลายบรรยากาศ ผู้คนเดินกันเงียบๆ ชื่นชมความสุนทรีย์ของธรรมชาติ

บ้านเราน่าจะปลูกดอกไม้เยอะๆ แบบนี้บ้าง ปลูกต้นอะไรก็ได้ที่ยืนต้นมีดอกเยอะๆ บานพร้อมๆกันทุกๆปี เงินทองคงไหลมาเทมาแน่จากการท่องเที่ยว

นอกจากดอกไม้ ลึกเข้าไปหลังแนวต้นซากุระ มีแผงชั่วคราวตั้งเรียงราย ขายอาหารเครื่องดื่มหลากหลายประเภท เรากินหอยเชลล์เผา ตัวเบ่อเร่อ จำราคาไม่ได้แล้ว สดมาก อร่อยดี แค่ตัวเดียวก็พอ แล้วก็นั่งๆเดินๆ อยู่จนบ่ายแก่ๆ เราจึงเดินกลับมาขึ้นรถไป ปราสาท Hirosaki
สมใจอยากแล้ว คุ้มค่าทริปนี้


นั่งรถมาได้ 2 สถานี ผู้นำคณะบอกขึ้นผิดทางง่ะ แต่ไม่เป็นไร เปลี่ยนแผนได้เพราะทางนี้ก็ไป Ichinote ซึ่งข้อมูลที่ได้มาบอกว่าต้นซากุระริมลำธารบานแล้ว 50 %

ถึงแล้ว บ่าย2 โมงหิวเต็มที่ มองหาร้านกินข้าว เห็นร้านหนึ่งหน้าสถานีนั่นเอง ต้องอร่อยแน่ร้านนี้ ดูขลังดีตั้งแต่หน้าร้าน ในร้านก็ดูดี แต่งแบบโบราณ คนขายก็เหมือนพ่อแม่ลูกๆหลานๆ เขาใกล้จะปิดการขายอาหารกลางวันแล้ว เราต้องรีบสั่ง ร้านนี้มีปลาไหลเป็นจานดัง เพื่อนๆกินแล้ว บอกอร่อยมั้กกก ใครมาเมืองนี้แนะนำเลย ออกจากก็เห็นร้านอยู่ตรงหน้าด้านขวามือ


ท้องอิ่มแล้วก็นั่งรถเมล์ไปดูซากุระ ถึงจุดชมใครๆก็ลง นี่เป็นวิธีสังเกตที่เที่ยว ก่อนลงรถก็เลาะมาตามร่องน้ำต่ำลึกลงไประหว่างเขา ต้นซากุระที่เรียงรายอยู่บนสองฝั่งของร่องน้ำลึก ดอกบานยังไม่เต็มที่ แต่ก็พอดูได้ บรรยากาศไม่ตื่นตาตื่นใจเหมือนตอนเช้า แปลกไปเพราะมีธารน้ำไหลลงมาตามร่องเขา ดอกซากุระมีมากฝั่งถนน พอข้ามธารน้ำมาไม่มีดอกเลย

เราเลยจ่อมอยู่ที่ร้านขายของตรงสะพาน กินไอติม ชมกาชาและคุยกับเจ้าของร้านที่ชมชอบเมืองไทยม้ากมาก แต่ไปหนเดียวเมื่อ 40 ปีก่อน
วันนี้จบทริปที่นี่ กลับโรงแรมไปนอนเอาแรงต่อพรุ่งนี้




Create Date : 28 กรกฎาคม 2561
Last Update : 8 มิถุนายน 2563 16:21:41 น.
Counter : 586 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3444784
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กรกฏาคม 2561

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31