กันยายน 2549

 
 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
14
15
16
17
19
20
21
23
24
25
27
28
29
30
 
All Blog
....เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม....
...สิ่งที่คิด อาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น
สิ่งที่เป็น อาจไม่ใช่สิ่งที่คิด....

โดยสรุปแล้ว คนเราส่วนใหญ่ หรือไม่อย่างน้อยก็มีคนจำนวนหนึ่ง ที่มักจะตีความเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตไปในทางไม่ดี หรือเลวร้ายเกินกว่าเหตุทั้งสิ้น บางทีเหตุการณ์มีเค้าอยู่หน่อยนึง ก็คิดโน่นแต่งนี่ เติมนั่น จนกลายเป็นเรื่องไม่ดี ที่ฝังหัวทั้งที่ความจริงอาจไม่ได้เป็นเช่นที่คิดก็ได้

กรณีตัวอย่างที่เล่าได้ดี๊.. ดี อยู่ในหนังสือ แปล เรื่อง "เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม" วรรณกรรมแปลระดับรางวัลจากนักเขียนญี่ปุ่น...ชื่ออะไร...นึกไม่ออก..เดี๋ยวมาบอกทีหลัง

เป็นหนังสือที่เจอโดยบังเอิญ โดยไม่รู้ที่มาที่ไปมาก่อน แต่เห็นว่ามีการตีพิมพ์มาสิบกว่าครั้งแล้ว ก็แปลว่าต้องมีอะไรดีในระดับหนึ่ง (ซึ่งการตีความอย่างนี้ อาจไม่ถูกเสมอไป)

ความอยากรู้อยากเห็นเป็นตัวนำ แล้วสมองก็สั่งการตามมา บอกให้มือหยิบคว้าเอามาอ่านดูซิว่ามันเป็นยังไง...ทำไมขายดีนัก


ได้ผลแฮะ ...อ่านแล้วก็..ตะลิ้ด ติ้ด ชึ่ง ตึง ตึง โป๊ะ ...ชนิดวางไม่ลง ติดตามเรื่องของเด็กชายมาโซโตะ ไปได้สองตอนแล้วก็ลงทุนซื้อมาอ่านต่อ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท

มาโซโตะ เด็กชายผู้คิดมากขนาด ต้องถึงฆ่าตัวตาย เพราะไปดันแอบรู้ว่าแม่มีชู้ แล้วก็คิดว่าพ่องี่เง่า พี่ชายไม่ได้เรื่อง เพื่อนไม่คบ สาวที่ตัวหลงรักก็ทำอะไรแปลกๆ คนรอบตัวมาโซโตะไม่เห็นมีใครดีสักคน ทนไม่ไหว ไปตายดีกว่า

เสร็จแล้วก็มีเทวดาบ้าแต่น่ารัก ปรากฎตัวขึ้นมา บอกเด็กชายว่า เธอจะได้รางวัลอันหนึ่ง เธอจงไปกลับในร่างของเด็กชายคนหนึ่ง แล้วพยายามหาคำตอบให้ได้ว่าเธอทำความผิดอะไรมา แล้วจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไร เมื่อเรียนรู้แล้วเธอจะได้ชีวิตของเธอกลับคืนมาอีกครั้ง...แล้วก็นั่นแหละ....เรื่องเล่าทั้งหมดจึงเผยตัวออกมา...ว่า..เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม แล้ว ผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง

หนังสือคล้ายจะบอกกลายๆ ถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่ เพื่อเรียนรู้อะไรบางอย่าง ทำบางสิ่งบางอย่าง และสร้างสรรค์สิ่งที่ควรด้วยความเข้าใจในจุดมุ่งหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์

บางทีมันอาจตีความได้มากมายกว่านี้ มันก็แล้วแต่ประสบการณ์ของคนอ่านเองด้วย ว่าจะคิดเห็นตีความอย่างไร และจะใส่อะไรลงไปในช่องว่างของความคิด ระหว่างบรรทัดตรงนั้น

อย่างเราเอง อ่านวันนี้ คิดอย่างนี้ อีกสองปี หรือสิบปีมาอ่านอีกที อาจคิดอะไรไม่เหมือนกันเลย ก็คงไม่ใช่ความผิดอันใดนิ...

จึงแชร์เรื่องเล่าแต่เพียงเท่านี้ก่อน โดยที่ก็ไม่สนใจหรอกว่าจะมีคนมาฟังหรือไม่ ...ไม่ใช่ปัญหาของข้าพเจ้าซักนิด

เอาเป็นว่าอยากเล่าก็เล่า และสำหรับวันนี้ ...สวัสดีค่ะ



Create Date : 13 กันยายน 2549
Last Update : 13 กันยายน 2549 13:46:36 น.
Counter : 476 Pageviews.

5 comments
  
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีแฮะ แวะมาเยี่ยมครับ
โดย: tpipe วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:11:06:09 น.
  
up blog ได้แล้วตัว หรือไปกับพระเอกแล้ว..อิอิ


โดย: Life's like that IP: 202.91.23.1 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:11:28:20 น.
**********************************
เรา up blog ตามคำขู่ แย้ว ตะเอง แหะๆๆ
พระเอก ม่ายมี ให้หนีตามสักกกกกกกกะคน
โดย: tanoy~ตะนอย วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:17:11:08 น.
  
อ้อ เราอ่าน ที่ตะเองเขียน เขียนดีจัง ขอบคุณจ้า..
...สิ่งที่คิด อาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น
สิ่งที่เป็น อาจไม่ใช่สิ่งที่คิด....
โดย: tanoy~ตะนอย วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:17:12:39 น.
  
แวะมาเซเฮลโลค่ะ..ขอบคุณที่แวะมาคอมเมนต์นะคะ..ว่างๆจะแวะมาใหม่
โดย: nightshushu วันที่: 18 กันยายน 2549 เวลา:11:05:59 น.
  
ใช่แล้วค่ะเรื่องนี้ ดีจริงๆ ค่ะ ติดใจอยู่เหมือนกัน อิอิ

มีความสุขกับการอ่านหนังสือมากๆนะค่ะ
โดย: neppen (neppen ) วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:18:23:21 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Life's like that
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีค่ะ
เป็นสมาชิกแบบเป็นๆหายๆของท่านนายพันติ๊บ มาก็หลายปีแล้วล่ะ ทำตัวล่อของลับ..เอ๊ย...55..ลับๆล่อๆ อยู่ด้วยชื่อต่างๆ มาหลายชื่อ เลยไม่ดังติดอันดับกะเค้าซักที ตามประสาคนขี้อาย ไม่อยากให้ใครจดจำ มาคราวนี้ ตกผลึกทางความคิด แล้วก็...หาทางแก้ปัญหาชื่อ ล็อคอินที่ไม่เข้าตาตัวเอง ด้วยวิธีการอันแยบยล จนได้ชื่อนี้ในที่สุด พอใจล่ะ ก็ผ่านร้อนๆหนาวๆ มาซะขนาดนี้ ก็พอเข้าใจล่ะ ว่า life's like that.......ชีวิตก็เป็นเช่นนั้นเอง