|
พี่ที่แสนดี (รึเปล่าหว่า)
ตอนนั้นเรียนที่เชียงใหม่เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อจัดการเรื่องเรียนต่อ ผมพักอยู่แถวลาดพร้าว แล้วนัดเจอเพื่อนๆ ที่หน้ารามฯ เนื่องจากไม่ค่อยรู้ทาง แถมนั่งรถเมล์ไม่ค่อยจะเป็น ผมก็นั่งรถเมล์สายอะไรจำไม่ได้แล้ว แต่มันกำลังจะตรงไปอนุสาวรีย์ฯ (ซึ่งถ้าอยู่ลาดพร้าว ผมควรจะนั่งไปทางอื่นจะง่ายกว่าเนาะ ก็บอกแล้วไงว่ายังนั่งไม่เป็น) ผมก็ไม่อยากจะนั่งคลำทางไปเอง ก็เลยถามกระเป๋ารถเมล์ว่า ผมจะไปหน้ารามฯ ไปยังไง กระเป๋ารถก็บอกผมว่าน้องไปต่อสายโน้น สายนี้มากมาย ซึ่งเด็กต่างจังหวัดอย่างผมจะไปเข้าใจภายในเวลาอันรวดเร็วได้อย่างไร ก็เลยทำหน้าเอ๋ออยู่พักนึง ก็มีพี่ผู้ชายคนนึงที่นั่งข้างหน้าผม หันกลับมามองหน้าผมแล้วพูดว่า พี่ : น้องจะไปหน้ารามเหรอ ผม : ครับพี่ (ทำหน้าเจี๋ยมๆ)
แล้วพี่เค้าก็ลุกมานั่งข้างผม
พี่ : มาจากต่างจังหวัดเหรอ ผม : ครับพี่ มาจากเชียงใหม่ครับ พี่ : ลำบากหน่อยนะ นั่งรถเมล์ ถ้าจะไปราม นั่งรถตู้ที่อนุสาวรีย์ดีกว่า ผม : (คิดในใจ : เอาไงดีว้า แค่ขึ้นรถเมล์ก็ไม่รู้จะลงตรงไหนอยู่แล้ว ขึ้นรถตู้มิลำบากเหรอ : ผมก็เลยได้แต่นั่งเงียบ ทำหน้าเอ๋อๆ ) .... พี่ : ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จะพาไปส่งขึ้นรถตู้เลย ผม : แหะๆๆ (คิดในใจ โห ใจดีเกินไปป่าวพี่) พี่ : เอ่อ น้องมีเบอร์โทรมั้ยครับ เผื่อพี่ไปเชียงใหม่จะโทรไปหา ผม : เอ่อ
ครับๆ (เนื่องจากพี่เค้าอุตสาห์ช่วยขนาดนี้ ก็เลยให้เบอร์ไป) พี่ : น้องนี่สมกับเป็นคนเชียงใหม่ดีเนาะ ผิวขาวดีจัง (สายตาพี่เค้ามองต้นขาผมอยู่ ตอนนั้นผมใส่กางเกงขาสั้นด้วย) ผม : เอ่อ
..แหะๆๆๆ
.. (แอบเสียวเล็กน้อย หุบขาติดกันอย่างอัตโนมัติ)
พอถึงอนุสาวรีย์ พี่เค้าก็พาเดินไปที่คิวรถตู้ แล้วก็เปิดประตู้รถ ซึ่งในนั้นมีคนประมาณ 6-7 คน แล้วพี่เค้าก็ถามเสียงดังมากว่า คันนี้ไปรามฯ รึเปล่า. คนในรถอึ้งไปซักพักนึง (ซึ่งผมก็อึ้งด้วยแหละ) คงนึกว่าจะโดนปล้นกันแล้ว (คือหน้าพี่เค้าออกจะเป็นคนดำๆ หน่อยอ่ะครับ มีหนวดมีเคราด้วย) พอทุกคนตั้งสติได้ ก็พยักหน้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
แล้วพี่เค้าก็หันมาบอกผมให้ขึ้นไปนั่งในรถ พอผมเข้าไปนั่งในรถแล้ว พี่เค้าก็บอกผมว่า โชคดีนะครับน้อง ไว้เจอกันใหม่ ไว้พี่จะโทรหานะ แล้วโบกมือบ๊ายบายให้ผม แล้วปิดประตูรถจากไปอย่างสุดเท่ห์ ทิ้งให้ผมนั่งก้มหน้าแดงๆ เป็นลูกสตอเบอรี่อยู่คนเดียวในรถ โดยมีสายตาของคนทั้งรถจ้องมองอยู่ ผมไม่รู้ว่าคนอื่นๆ จะคิดยังไงนะครับ แต่ผมรู้แต่ว่า ถ้าเป็นผม ผมคงไม่กล้าทำอะไรต่อหน้าคนมากมายแบบนั้นแน่ๆ
ซัก 2 อาทิตย์ต่อมา (ซึ่งผมกลับมาอยู่เชียงใหม่แล้ว) มีโทรศัพท์โทรหาเบอร์ในห้องผมตอนตี 2 ซึ่งผมก็งัวเงียขึ้นมารับสาย ก็เป็นเสียงผู้ชายพูดสั้นๆ ว่าอะไรก็ไม่รู้ ผมจับใจความไม่ได้ (เนื่องจากงัวเงียจัด) แล้วก็วางหูไป ผมก็คิดว่า อะไรวะโทรผิดเหรอเนี่ย ผมก็นอนต่อ ซักพักก็มีโทรศัพท์มาอีก แล้วก็พูดอะไรไม่รู้แล้ววางสายไปอีก แล้วก็โทรมาอีก คราวนี้ผมจับใจความได้ว่า พี่อยู่เชียงใหม่นะ แล้วก็วางสายไปอีก ผมก็คิดว่า อะไรวะเนี่ย ใครวะ แต่รอไปอีกซักพักก็ไม่มีโทรศัพท์มาแล้ว เนื่องจากง่วงนอนเต็มที่ ก็เลยนอนหลับไปเลย อีกวันก็เลยเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่า ที่เค้าโทรมาคุยแป๊บนึงแล้ววางเนี่ย สงสัยมือถือจะไม่มีเงิน ซึ่งสมัยนั้นมันจะมีแบบว่า โทรคุยแป๊บนึงแล้วจะไม่เสียเงิน (ใครทันรุ่นนั้นบ้างครับ ซึ่งผมจะโดนเพื่อนโทรมาแบบว่า โทรกลับกูด้วย แล้ววางสายบ่อยมาก) ผมก็ อืมมมม... อาจจะเป็นได้ แต่ดึกขนาดนั้น กูคงไม่มีอารมณ์มาคิดว่าจะโทรกลับหรอก แต่ก็นึกไปนึกมา เสียงมันเหมือนพี่ที่เราเจอที่ กทม เลยนี่หว่า ว่ะ เบอร์ก็ไม่รู้ โทรกลับก็ไม่ได้ แล้วพี่เค้าจะโทรหาเราทำไมวะ ตอนตี 2 นอนกลุ้มอยู่สองเดือนแล้วก็เลิกกลุ้มไปเอง รกสมอง แหะๆๆๆ
Create Date : 16 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2550 18:17:14 น. |
|
2 comments
|
Counter : 842 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: อมยิ้มสีฟ้า วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:39:38 น. |
|
|
|
โดย: 555 IP: 113.53.154.34 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:34:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|