|
 |
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
 |
19 พฤศจิกายน 2557
|
|
|
|
ตำนานผีญี่ปุ่น 2
 Kamai-tachi... ฟันแล้วไม่ทิ้ง  Nekomata...แมวปีศาจ  Rokurokubi...สาวคอยาว  Hanako-san...วิญญาณในห้องน้ำ  Camelia...ดอกไม้สีเลือด  Teke-Teke
ผีบนรางรถไฟ Kamai-tachi... ฟันแล้วไม่ทิ้ง
คาไมทาจิ เป็นภูติลมตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น เคลื่อนไหวรวดเร็วเหมือนลม ตามตำนานเล่าว่า คามัยทาจิอาศัยอยู่บนภูเขา มีอยู่ด้วยกัน 3 ตัว จะทำอันตราย เมื่อมีนักเดินทางผ่านมาจะเจอกับลมพายุหมุน โดยตัวแรกจะชนเหยื่อในล้ม ตามด้วยตัวที่สองฟันเหยื่อให้เป็นแผล
ส่วนตัวสุดท้ายจะทายาแก้ปวดให้กับเหยื่อ แต่ยังไม่จบแค่นั้น คาไมทาจิ มีนิสัยรักการต่อสู้ ซึ่งไม่ไม่รู้ว่าไปรักตั้งแต่ตอนไหน คาไมทาจิฟันแล้วไม่ทิ้งอย่างแน่นอน แต่จะทายาและฟันซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะพอใจ นิสัยอย่างนี้แม้แต่ผีด้วยกันเองยังขยาดเล้ย !
Nekomata...แมวปีศาจ
เนโกะมาตะ ตามตำนานเล่าว่า เมื่อแมวบางตัวมีอายุมากจะมีตบะที่สูงขึ้นด้วย และมันจะกลายเป็นแมวผี ที่เรียกว่า บะเกะเนะโกะ หากหางมันแยกออกเป็น 2 หางเมื่อไหร่ เมื่อนั้นมันจะสามารถอัพเกรดตัวเองกลายเป็น เนะโกะมะตะ ถือเป็นขั้นสุดของแมวปีศาจ สามารถขยายตัวเองได้ถึง 1 เมตร และเปลี่ยนสัญชาติตัวเองด้วยการเดินขาหลัง 2 ขา นอกจากนั้นยังเป็นแมวผีที่ไม่ยอมให้ใครมาดูถูก ถ้าใครทำไม่ดีกับมันพึงระลึกไว้ว่ามันไม่มีทางลืมอย่างแน่นอน
นอกจากนั้นยังเชื่อกันว่า การเต้นรำของเนะโกะมะตะสามารถควบคุมคนตายได้ และยังเชื่ออีกว่าเนะโกะมะตะเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ที่ผิดปกติ จึงมีความเชื่อบางอย่างที่จะตัดหางของแมวออก เพื่อป้องกันไม่ให้มันกลายเป็นเนะโกะมะตะ เรื่องเล่าของเนโกะมาตะนั้น แตกต่างไปตามแต่ละพื้นที่ บ้างก็ว่าห้ามทิ้งแมวไว้กับศพ เพราะมันจะปลุกศพคนตายให้ฟื้นคืนชีพ บ้างก็ว่าเนโกะมาตะจะกินคนที่เป็นเจ้านายของมัน และมีบางตำนานที่เล่าว่าในตอนกลางคืน เนโกะมาตะ จะแปลงกายเป็นสาวงามเพื่อปรนนิบัติเจ้านายที่มันหลงรักอีกด้วย ความสามรถขั้นเทพจริงๆ !
Rokurokubi...สาวคอยาว
โรคุโรคุบิ ตำนานเกี่ยวกับมนุษย์ ที่โดนคำสาปจากไหนก็ไม่รู้อีกแล้ว โดยตอนกลางวันเป็นคนปกติธรรมดาเหมือนเราๆนี่แหละ แต่พอตกกลางคืนคอของเธอก็จะยืดยาวออกมา ส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้หญิงเนื้อเรื่องแอบคล้ายกระสือของพี่ไทยอยู่หน่อยๆ ต่างกันตรงที่ความสามารถพิเศษเท่านั้นเอง เพราะโรคุโรคุบินั้น จะยืดแค่คอ หัวและตัวนั้นลอยออกไปพร้อมกัน ไม่ได้ถอดหัวทิ้งร่างไว้แต่อย่างใด
และจะดูดพลังวิญญาณของคนและสัตว์ไปเป็นอาหาร แต่ที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษคือพลังชีวิตของชายหนุ่ม เธอมักจะแฝงตัวและปิดบังตัวเอง แต่ปิดยังไง๊ ยังไงก็ไม่อยู่ จึงต้องแสดงตัวตนออกมา แต่เฉพาะกับพวกขี้เมา และผู้ชายงี่เงาเท่านั้น เหตุก็เพราะว่า เธอกลัวชายหนุ่มที่สนใจผิดหวังในคอยาวๆของเธอน่ะสิ ถึงจะคอยาวแต่เธอก็ยังเป็นหญิงสาวว่างั้น
Hanako-san...วิญญาณในห้องน้ำ
ฮานาโกะซัง ตำนานเมืองสมัยใหม่ที่นิยมมากในญี่ปุ่น โดยเฉพาะเด็กนักเรียน ที่จะใช้ตำนานนี้ในการวัดความกล้าสำหรับบรรดาน้องใหม่ทั้งหลาย ฮานาโกะซัง คือ เด็กผู้หญิงในชุดเอี๊ยมกระโปรงแดง ตัดผมสั้นทรงกะลา ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงหนูหิ่นอินเตอร์ของบ้านเราไว้ นั่นแหละคือฮานาโกะซัง วันหนึ่งตอนพักกลางวันเธอแอบเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาไม่ได้
เด็กสาวจึงต้องเอาตัวรอดด้วยการจับแมลงและกินน้ำที่อยู่ในห้องน้ำนั้นเพื่อประทังชีวิต แต่น่าเสียดายที่แมลงในห้องน้ำนั้นไม่สามารถทำให้เธอรอดชีวิตได้ เธอจึงกลายเป็นวิญญาณที่ถูกขังอยู่ในห้องน้ำนับแต่นั้นมา การที่จะพบฮานาโกะซังได้นั้นจะต้องเคาะประตู 3 ครั้ง ในห้องน้ำห้องที่ 3 ชั้นที่ 4 ของโรงเรียน บ้างก็ว่าห้องสุดท้ายทางขวามือ แล้วถามว่า ฮานาโกะซัง เธออยู่ในนั้นไหม ไม่ก็ ฮานาโกะซัง มาเล่นกันเถอะ ถ้าเธอตอบ ฉันอยู่นี่ หรือ ค่ะ... หลังจากนั้นก็แล้วแต่แล้วล่ะ ว่าจะวิ่ง หรือจะเล่น
Camelia...ดอกไม้สีเลือด
คาเมเลีย เป็นดอกไม้ในตระกูลชา ดอกเป็นสีขาวและชมพู แต่บางครั้งพบสีแดงคล้ายเลือด ซึ่งมีความหมายว่า ความโศกเสร้าอันน่าสลด ตำนานคาเมเลียเป็นที่กล่าวขวัญกันในโรงเรียนประถมของญี่ปุ่น เพราะนิยมปลูกเจ้าคาเมเลียไว้ประดับโรงเรียน เมื่อพอถึงฤดูใบไม้ร่วงดอกของต้นคาเมเลียก็จะหล่นเกลื่อนกลาดเต็มพื้นทางเดินของโรงเรียน ถ้าเกิดมันเป็นสีแดง คงคล้ายกับว่าพื้นนั้นถูกย้อมไปด้วยเลือด ตำนานอาถารรพ์ของต้นคาเมเลีย เริ่มในสมัยโบราณของญี่ปุ่นที่ยังคงมีระบบศักดินา มีเจ้าหญิงไร้นามผู้หนีภัยทางการเมือง แต่โดนฝ่ายตรงข้ามจับได้ซะก่อน เธอจึงกลายเป็นเฉลยสงครามและถูกจับมัดไว้กับต้น คาเมเลีย
จากนั้นถูกทรมานสารพัดเพื่อบังคับให้เปิดเผยข้อมูลของราชสำนัก ส่วนเจ้าหญิงเองก็เป็นคนดีเก็บเงียบไม่ยอมปริปากบอกอะไรแก่ศัตรู จนในที่สุดก็เสียชีวิตและถูกฝังศพไว้ใต้ต้นคาต้นคาเมเลียนั้น ต้นคาเมเลียจึงสูบเลือดเจ้าหญิงแทนน้ำ ส่วนวิญญาณแค้นทำให้ดอกคาเมเลียกลายเป็นสีเลือด เด็กๆ จึงเชื่อกันว่าต้นคาเมเลียในโรงเรียน เป็นต้นไม้ที่สูบเลือดของเจ้าหญิง และเป็นที่น่าประหลาดใจเพราะตำนานนี้ไม่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ แต่กลับสามารถระบุวันที่เจ้าต้นคาเมเลียจะออกดอกสีแดงได้ นั่นคือ วันที่ 15 มิถุนายนของทุกปี
Teke-Teke
ผีบนรางรถไฟ
เทเกะ เทเกะ คือผีหญิงสาวที่ตายบนรางรถไฟ เล่ากันว่าเธอกระโดดตัดหน้าขบวนรถไฟ แน่นอนว่ารถไฟมันเบรคไม่ได้ ร่างกายจึงหงิกงอ ด้วยความโกรธบวกกับความทรมานหลังจากโดนรถไฟชนที่กระโดดลงไปเอง ทาเกะ ทาเกะจึงเริ่มปฏิบัติการออกหาเหยื่อในทันที เหยื่อของเธอคือคนที่เดินผ่านที่ทางที่เป็นของเธอ ในตอนกลางคืนแล้วคนที่เดินผ่านจะรู้ไหมนั่น เมื่อมีเหยื่อเดินผ่านเธอก็จะตามในทันทีถึงแม้ว่าขาจะเดินไม่ได้
แต่สามารถไปต่อด้วยการคลืบคลานทีละนิดๆ ด้วยมือและไหล่ อย่าเพิ่งหลงดีใจไปว่ามันช้าและตามไม่ทันเพราะเราโกยได้ไวกว่า ทว่าใครก็สบตากับเธอการเคลื่อนไหวจะช้าโดยฉับพลัน หนีอย่างไรก็ไม่รอด บางครั้งก็เล่าว่า เหยื่อจะกลายเป็นทาเกะ ทาเกะซะเอง นี่มันผีชีวะหรืออะไรเนี่ย ทั้งนี้ทั้งนั้นเทเกะ เทเกะเป็นตำนานที่เอาไว้เตือนเด็กไม่ให้อยู่นอกบ้านดึกดื่นเกินไปนั่นเอง เอาเป็นว่ารีบกลับเข้าบ้านกันไปเถอะ จะได้ไม่มีตำนานสยองๆ โผล่มาอีก ผู้ใหญ่เค้ากลัว
ข้อมูลโดย อินเตอร์เน็ต
|
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2557 8:32:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3423 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
|
 |
ญามี่ |
|
 |
|
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...

|
|
|
 |
|
|
|
|
| |