
ภาพแสดงพื้นที่ของ สามเหลี่ยมเมอร์มิวด้า (ถาพ : เว็บไซต์ social.truelif )

ภาพฝูงบิน 19 ที่หายไป (ภาพ : เว็บไซต์วิกิพีเดีย)

ภาพแสดงพื้นที่ของ สามเหลี่ยมมังกร (ถาพ : เว็บไซต์ social.truelif )

สามเหลี่ยมนรก (ภาพ : นสพ.ไทยรัฐ)

ภาพแสดงจุดเชื่อมโยงของพื้นของ สอง 3เหลี่ยมมรณะ (ถาพ : เว็บไซต์ social.truelif)

ภาพแสดง ข้อสันนิษฐาน ประตูมิติ (ภาพ : เว็บไซต์ scishanks.blogspot.com)
เหตุการณ์ความลึกลับของการหายไปของเครื่องบินและเรืออย่างไร้ร่องรอยนั้น นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความลึกลับและเป็นปริศนาที่ผู้คนบนโลกนี้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการหายไปในพื้นที่ของสองสามเหลี่ยมมรณะ คือ "สามเหลี่ยมเมอร์มิวด้า" และ "สามเหลี่ยมมังกร" และเรื่องราวดังกล่าวก็ยังคงเป็นปริศนาที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ แม้กระทั่งในปัจจุบันก็ยังมีการกล่าวถึงเรื่องราวของพื้นที่อาถรรพ์นี้อยู่บ่อยครั้ง
อีกทั้งไม่นานมานี้ได้มีข่าวการหายไปอย่างไร้ร่องรอย ของเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่เอ็มเอช 370 (MH370) โดยก่อนจะมีการแถลงข่าวจากทางการประเทศมาเลเซียว่าเครื่องบินได้ถูกจี้ไปนั้น ก็ได้มีการหาเหตุผลต่างๆนานาว่าเครื่องบินนั้นได้หายไปอย่างไร ซึ่งหนึ่งในเหตุผลของการหายไป ก็ได้มีการเชื่อมโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องความเร้นลับของสามเหลี่ยมมรณะนี้ด้วย
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในความลึกลับนี้ โดย สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา (Bermuda Triangle) หรืออาจรู้จักกันในชื่อ สามเหลี่ยมปีศาจ" (Devil's Triangle) เป็นพื้นที่สมมุติทางตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ โดยเป็นพื้นที่เชื่อมโยงอยู่ระหว่างจุด 3 จุด ได้แก่ เกาะเปอร์โตริโก ปลายสุดของรัฐฟลอริดาประเทศสหรัฐอเมริกาและเกาะเบอร์มิวดา ดินแดนในปกครองของสหราชอาณาจักร ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก พื้นที่ดังกล่าวได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการหายไปของเครื่องบินและเรืออย่างลึกลับ
มีเรื่องราวมากมายของการหายไปของเครื่องบินและเรือในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งได้มีการบันทึกไว้ตั้งแต่อดีตหนึ่งในนั้นคือบทความสั้นของ จอร์จ แอกซ์. แซนด์ ซึ่งได้เขียนถึงเครื่องบินและเรือจำนวนมากที่หายสาบสูญไป รวมไปถึงการหายสาบสูญและหาสาเหตุไม่ได้ ของฝูงบิน 19 เครื่องบินเครื่องบินทิ้งระเบิดทีบีเอ็ม อแวงเกอร์ของกองทัพเรือสหรัฐ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2488 ที่อยู่ในระหว่างการฝึกบินในพื้นที่ดังกล่าว จนกลายมาเป็นหนึ่งในเรื่องการหายสาบสูญที่แปลกประหลาดที่สุดของประวัติศาสตร์การบิน ที่มีความเกี่ยวข้องกับสามเหลี่ยมเมอร์มิวด้าแห่งนี้
อีกหนึ่งพื้นที่ลึกลับที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวการหายไปของเรือและเครื่องบินอย่างเป็นปริศนา คือที่ สามเหลี่ยมมังกร (Dragon 's Triangle) หรือทะเลปีศาจ (The Devil 's Sea) หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแปซิฟิก (Pacific Bermuda Triangle) โดยเป็นชื่อเรียกของอีกหนึ่งพื้นที่สมมุติ ที่มีเนื้อที่เป็นรูปสามเหลี่ยม ตั้งอยู่รอบเกาะมิยากะที่ห่างออกไปประมาณ 100 กิโลเมตรจากตอนใต้ของกรุงโตเกียวกลางมหาสุมทรแปซิฟิก ไปจรดถึงตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลฟิลิปปินส์
กล่าวกันว่า ในแผนที่เดินทะเลของญี่ปุ่นได้กำหนดให้บริเวณนี้เป็นเขตอันตรายเพราะมีเรือ และเครื่องบินหายสาบสูญในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มีตีพิมพ์ไว้ในหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่น ฉบับเดือนมกราคม ค.ศ. 1955 โดยได้เขียนไว้ว่า ได้มีเรือ 9 ลำได้หายสาบสูญไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก่อนหน้านั้นเรือประมงขนาดเล็กอีก 7 ลำ ก็หายสูญหายไประหว่างเดือนเมษายน ค.ศ. 1949 จนถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 1953 ระหว่างเกาะมิยาเกะและเกาะอิซุโอชิมะ"
แม้เรื่องราวของการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของเครื่องบินและเรือในพื้นที่สามเหลี่ยมมังกรนั้น จะมีจำนวนน้อยกว่าสามเหลี่ยมเมอร์มิวด้า แต่ก็ได้มีข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจ คือ ตำแหน่งบนแผนที่โลกของสามเหลี่ยมมังกรและสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้น อยู่ในด้านที่ตรงกันข้ามกันพอดีในซีกโลกอีกด้าน อีกทั้งก็ยังมีร่องลึกก้นสมุทรอยู่เช่นเดียวกันทั้ง 2 ที่ โดยสามเหลี่ยมเมอร์มิวด้านั้น มีร่องลึกสมุทรเปอร์โตริโก ที่มีความลึกที่สุดถึง 8,605 เมตร และที่และสามเหลี่ยมมังกร มีร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา โดยมีจุดที่ลึกที่สุด ลึกมากถึง 10,911 เมตร ข้อสันนิษฐานดังกล่าวนี้จึงทำให้สามเหลี่ยมมรณะทั้งสองมีความเกี่ยวพันกัน
อีกหนึ่งสามเหลี่ยมมรณะที่ได้มีการกล่าวถึง และได้ถูกนำไปเชื่อมโยงเข้ากับข่าวการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ในช่วงแรก ก่อนที่ทางการมาเลเซียจะได้ออกมาแถลงว่าได้ถูกจี้ไปนั้น ก็คือ สามเหลี่ยมนรก สามเหลี่ยมมรณะแห่งใหม่ในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีพื้นที่บริเวณตั้งเเต่ทางตอนเหนือสุมาตรา ไปถึงทางตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย เเละบริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว อีกทั้งได้มีการกล่าวถึงความลึกลับในบทความเมื่อ 20 ปีก่อน โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเดือนเมษายน 2536 ว่ามีความลึกลับไม่แพ้สามเหลี่ยมอื่นๆ
การหายไปอย่างลึกลับในพื้นที่สามเหลี่ยมนี้ ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ได้พยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งส่วนมากทำได้เพียงแค่ตั้งข้อสันนิษฐานแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งข้อสันนิษฐานเเต่ละข้อนั้น โดยส่วนมากจะเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติเเทบทั้งสิ้น ข้อสันนิษฐานที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ ข้อสันนิษฐานว่า พื้นที่สามเหลี่ยมเป็นประตูมิติ โดยบริเวณที่ตั้งอยู่นั้น ได้ตั้งอยู่ในจุดสมดุลของสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากับพลังของสนามแรงโน้มถ่วง ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างที่เชื่อมต่อกับอีกมิติหนึ่งในห้วงเวลาอวกาศ เมื่อวัตถุหลุดผ่านเข้าไปอีกมิติแล้วจะไม่สามารถกลับมาได้อีก
อีกหนึ่งข้อสันนิษฐานเหนือธรรมชาติก็คือ พื้นที่สามเหลี่ยมดังกล่าวเป็นที่อยู่ของมนุษย์ต่างดาว ที่ต้องการขโมยเรือหรือเครื่องบิน และสิ่งมีชีวิตไปเพื่อศึกษาหรือทดลองบางอย่าง ข้อสันนิษฐานนี้ ได้สอดคล้องกับเรื่องที่ มักมีผู้พบเห็นจานบินลึกลับบินเหนือสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าอยู่หลายครั้ง ถึงจะมีข้อสันนิษฐานออกมามากมาย แต่ก็ยังไม่มีข้อใดที่จะสามารถอธิบายถึงปริศนาของความลักลับนี้ได้อย่างสมบูรณ์
เรื่องราวการหายไปอย่างลึกลับและไร้ร่องรอยของเครื่องบินและเรือ ก็ยังคงเป็นปริศนาและเป็นเรื่องที่ผู้คนสนใจเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แม้เหตุการณ์การหายไปของเที่ยวบบินเอ็มเอช 370 จะไม่ได้ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวลึกลับนี้แล้ว แต่การสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยไม่ว่าจะจากเหตุการณ์ใดๆ ก็ทำให้เกิดความเสียใจของผู้ที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักที่ไม่สามารถประมูลค่าได้ และไม่ควรที่จะเกิดขึ้นอีก ซึ่งคงได้แต่หวังว่าพวกเค้าเหล่านั้นที่ได้พลัดพรากคงปลอดภัยเพื่อรอวันที่จะพบกัน และทุกๆเหตุการณ์คงจะมีคำตอบที่สามารถอธิบายได้ในอนาคตข้างหน้า
ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์