Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 เมษายน 2555
 
All Blogs
 

โบรกแนะเลือกซื้อ 14 หุ้นแกร่ง ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ ตลาดยังเสี่ยง ดัชนี PM จีนเม.ย.ดีขึ้น

ที่มา เว็บไซต์ ข่าวหุ้นดอทคอม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.92 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ โดยดัชนี PM ของจีนจะปรับตัวดีขึ้นในเดือนเม.ย.มาอยู่ที่ระดับ 49.1 จากเดือนมี.ค.ซึ่งอยู่ที่ 48.3 แต่ยังต่ำกว่า 50 นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่องอีกครั้ง แต่ความเสี่ยงทั้งในและนอกประเทศก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น เก็งกำไร 14 หุ้นเด่น ได้แก่ SAT, CPF, KH, TTW,ADVANC, LHBANK, UIC, KBANK, AH,SCC, SIRI,HEMRAJ , STEC  และ AP

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : เทรดในกรอบ 1190-1205  กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรแบบ ”ขึ้นขาย ลงซื้อ” ในกรอบ

ภายหลังการฟื้นตัวได้ค่อนข้างดีตลอด 3 วันทำการติดต่อกันเกือบ 35 จุด ด้วยแรงหนุนจากการกลับมาสะสมหุ้นอีกครั้งของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้บรรยากาศลงทุนดูดีขึ้นบางส่วน อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายยังให้น้ำหนักกับปัจจัยลบที่เป็นความเสี่ยงล้อมกรอบตลาดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะวิกฤติหนี้ยุโรป, การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงการเมืองภายในที่อาจร้อนแรงขึ้นจากประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและพ.ร.บ.ปรองดอง ดังนั้น คาดว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยจะเริ่มเทรดในกรอบจำกัดมากขึ้น ขณะที่ตัวแปรเรื่องการเก็งกำไรผลประกอบการจะเข้ามาทำให้เกิดความผันผวนในระหว่างทางมากขึ้น โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ระหว่าง 1190-1205 จุด

กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นให้เก็งกำไรแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” เน้นหุ้นที่คาดจะมีผลประกอบการดี แนวต้าน : 1205-1214 แนวรับ : 1190-1184

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CPF, KH, TTW

หุ้นที่ปรับออก : BAY, THCOM

หุ้นที่แนะนำ :ADVANC เก็งกำไร FV 186 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 186.50 รับ 172.00 Cut loss 169.00 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดยังมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นเน้นแค่เทรดดิ้งสั้นๆ..ขึ้นขาย-ลงซื้อ..ไว้ก่อน

กลยุทธ์: รอจังหวะซื้อเมื่อตลาดปรับพักตัวลงก่อนดีกว่า โดยยังแนะนำเป็นลงซื้อ-ขึ้นขายในลักษณะเทรดดิ้งตามรอบเท่านั้นก่อน โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ หุ้นกลุ่มแบงก์ (KBANK) เนื่องจากรายได้หลักเติบโตเกินคาด, หุ้นกลุ่มยานยนต์(SAT , AH) จากยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน มี.ค. ที่ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ รวมทั้ง SCC ที่แม้ว่ากำไร 1Q12 จะฟื้นตัวไม่เต็มที่ แต่คาดจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้

หุ้นเด่นทางเทคนิค   LHBANK, UIC, MAJOR (SBL)

แนวโน้ม ในช่วงท้ายของสัปดาห์ก่อนตลาดหุ้นไทยเริ่มมีแรงซื้อกลับของนักลงทุนต่างประเทศอีกครั้ง หลัง IMF ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ขณะที่มีข่าวเรื่องการเพิ่มวงเงินช่วยเหลือยูโรโซนส่งผ่านทาง IMF ของหลายๆ ประเทศด้วย รวมทั้งตัวเลขผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐกลับมาช่วยหนุนความมั่นใจในเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง นอกจากนี้ FSS คาดว่าแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานรายไตรมาสจะออกมาดีจะยังช่วยหนุนให้ SET ยังมีจังหวะแกว่งบวกได้อยู่ แต่เนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วดัขนีขยับขึ้นมาพอควรแล้ว และเริ่มเข้าใกล้ระดับสูงสุดเดิม ซึ่งรอบที่แล้วมีแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศกดดัน โดยที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาให้เห็นมากนัก เราจึงคาดว่าดัชนีจะยังแกว่งตัวบวก-ลบในกรอบจำกัดต่อไปอีกสักพัก ดังนั้นช่วงนี้เราจึงยังแนะนำเพียงการเข้าเทรดดิ้งสั้นๆ ตามรอบ และยังควรมองหาจังหวะขายทำกำไรเมื่อตลาดบวกขึ้นอยู่เช่นเดิม โดยถ้าจะมองหาจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อ แนะนำให้รอ SET แกว่งลงเท่านั้น

แนวรับ  1190 , 1185-1180 จุด    แนวต้าน  1196-1198 , 1200-1206  จุด

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันจันทร์ยังมีแรงผลักขึ้นอยู่บ้าง หลังจากข้อมูลความเชื่อมั่นภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของเยอรมันเมื่อวันศุกร์ออกมาดี และการประชุมระหว่าง IMF กับเจ้าหน้าที่ของประเทศกลุ่ม G-20 แม้จะไม่มีเรื่องใหม่ๆ แต่ก็มีพัฒนาการเชิงบวกว่าประเทศต่างๆ พร้อมลงขันเพิ่มวงเงินฉุกเฉินอีก 4.3 แสนล้านดอลล่าร์ฯ เพื่อป้องกันวิกฤตในอนาคต อย่างไรก็ดีหุ้นไทยจะบวกได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับการรายงานดัชนี Flash PMI เดือน เม.ย. ของจีนเป็นสิ่งสำคัญ (ตัวเลขดังกล่าวจะออกมาเวลา 9.30 น.) ภาพรวมแล้วทางขึ้นของ SET ไม่น่าจะมากหลังจากดัชนีฯ บวกแรงมาตั้งแต่พฤหัสฯ ที่ผ่านมารับรู้กำไรไตรมาส 2/55 ของภาคธนาคารที่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนในสัปดาห์นี้จะเริ่มเข้าสู่การแจ้งกำไรของกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และจะส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรดี เช่นโรงกลั่นอสังหาริมทรัพย์ และนิคมฯ ยังคงแข็งแกร่งกว่าตลาด

กลยุทธ์: หากดัชนี PMI ของจีนออกมาดี แนะซื้อเก็งกำไรหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ที่แนวโน้มกำไรดีเช่น TOP*และ IVL* แต่ถ้าดัชนีดังกล่าวออกมาไม่ดี แนะเลี่ยงหุ้นหลักต่อไป ทั้งนี้ไม่ว่ากรณีใดเรายังคงมีมุมมองที่ดีต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยอดขายไตรมาสแรกค่อนข้างดีและนำไปสู่แนวโน้มกำไรที่สดใส ซื้อ SIRI,HEMRAJ และ STEC ส่วน AP แนะนำถือหุ้นไว้ก่อน (ยังไม่ขาย) หลังจากราคาขึ้นมาแรงและอยู่ใกล้กับมูลค่าพื้นฐานที่ 7.0 บาท




 

Create Date : 23 เมษายน 2555
0 comments
Last Update : 23 เมษายน 2555 9:58:12 น.
Counter : 592 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


JitJai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add JitJai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.