สอนลูกเย็บผ้าห่ม
การเป็นแม่คนนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเนอะ ตอนทำนี่แหมมมมมมมม จัดไปเต็มๆมีเท่าไหร่งัดออกมาไม่ยั้ง ตอนที่ต้องเลี้ยงดูนี่ดิง่ายๆเลย ถ้าสักแต่จะโยนข้าว โยนสปาเก็ตตี้ให้กินก็นี่สบาย แต่การอบรมไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เช่นสอนให้รู้จักใช้เวลาให้มีค่า มีประโยชน์ อย่าทำตัวให้เป็นปัญหาแก่สังคม และคนรอบข้างนี้ไม่ใช่ง่ายเลย แล้วยิ่งเป็นเด็กสองสัญชาติด้วย บางทีภาษาเดียวพูดกันไม่รู้เรื่อง ต้องใช้ทั้งภาษาของพ่อ(มัน)และภาษาของแม่(มัน) ดีไม่ดีมีประกอบฉากอีกต่างหาก แล้วยิ่งสมัยนี้อะไรๆก็ไฮเท็คไปซะหมด ตอนเล็กๆมันติดเรา พอตอนโตมันติดคอมเป็นหน้าพ่อ หน้าแม่ โดยเฉพาะลูกจิ๋วนี่เป็นหนัก อยุ่ในบ้านมันก็หอบหิ้วโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหน ยกเว้นตอนกินข้าวแม้กระทั้งเข้าห้องน้ำก็หอบหิ้วเข้าไป แหมขนาดขี้ยังหอบเข้าไปด้วย มันมากเกินไปแล้ว ต้องหาวิธีจัดการ หาอะไรให้ลูกทำซะหน่อยเอาง่ายๆ เห็นผลงานเร็ว คิดๆๆๆๆๆ พูดกับตัวเองว่าอย่าไปคาดหวัง ไม่บังคับแต่ใช้วิธีหาเหตุจูงใจให้อยากทำ เอาว่ะ แม่มันก็ถนัดเย็บผ้าเอาเย็บผ้านี่แหละโฉมหน้าคนแบกคอมไปขี้ จะให้ใช้จักรตัวเองเย็บผ้าก็กลัวจะมาทำเจ้ง นึกขึ้นได้ว่ามีจักรที่ซื้อให้ลูกคนโตตอนอายุ 16 ไม่ได้ใช้งาน เอามาเป้นมรดกตกทอดให้ลูกคนเล็กเย็บดีกว่า เจ้งขึ้นมาก็ไม่เสียดาย เอ้า เอาเลยลูกเหยียบให้เต็มที่เลยเริ่มทำการถ่ายทอดวิชาสอน บอกวิธี ฮาวทูไป แล้วก็ให้บรรเลงเลือกสีสรรเอาเอง แต่อีแม่ก็ยังงกผ้าอยู่ ไม่กล้าเสียง ให้ใช้ผ้าเก่าๆหรือเศษผ้าไปก่อน ตามสบายเลยลูก อาหารการกินเอามาวางไว้ให้พร้อม ดันน่าดู เลือกผ้าสอนวิธีการใช้โรตารี่ สอนวิธีการตัดผ้า กำลังมองลายผ้ากว่าจะได้สักชิ้นนึง สองวัน เอาวะเตรียมใจไว้แล้วไงว่าอย่าไปคาดหวัง ปล่อยให้เค้าคิดเลือกสีเองเราคอยนั่งอยุ่เป็นเพื่อน ชวนเม้าส์ไปเรื่อยเปื่อย ยกยอ ชมว่าสวย เด็กก็ไม่เบื่อ มีกำลังใจ ภาคภูมิใจในผลงานตัวเองลองเอาวางต่อลายดูแม่มันสวยดีเนอะชีว่า ใช่ๆ แพรวเก่งนะเนี่ย อัดเข้าไป ที่นี้ก็เริ่มทำเร็วขึ้นหน่อย จากชิ้นนึงสองวัน เป็นวันละ สองชิ้นต่อไป ต่อมาฝรั่งงง วางลายกลับหัวกลับหาง เราก็นั่งดูเฉยๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ดูซิว่าจะทำไงนับๆๆๆ แม่แล้วเราจะเอาไปทำอะไรหล่ะเนี่ย เอาไว้คลุมเตียงแพรวไง แพรวจะได้ไปอวดเพื่อนอวดใครๆได้ไงว่าแพรวทำเอง หามันก็ต้องใหญ่นะซิ เออ สู้ๆลูกเห็นความพยายามและความตั้งใจของลูกแล้ว ก็สงสารไม่อยากบังคับให้ทำต่อเดี๋ยวจะเบื่อซะ อยากให้ทำด้วยใจดีกว่าเลยบอกเอาอีกแถวเดียวก็พอ ไม่รู้ว่าิยิ้มดีใจที่สั่งให้หยุด หรือยิ้มภูมิใจในผลงานตัวเอง ปัจจุบันผ้าผืนนี้เค้าหอบเอาไปให้ยายที่เมืองไทยแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่ช่วงนึงที่สั้นๆที่ทำให้ลูกเลิกหนีบคอมเข้าไปขี้ด้วยได้ ก็ถือว่าประสพความสำเร็จได้ในจุดนึง พอเสร็จงานชิ้นนี้มั้นก็หนีบคอมเข้าไปขี้เหมือนเดิม เฮ้อออออออ ต้องหาคิดโปรเจ็คใหม่อีกต่อไป