Be a master of your destiny, not a slave of your own fears.
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
7 ตุลาคม 2550

CSR ในเดือนตุลาคม 2550

ตอนนี้แนวคิดเรื่อง CSR (Corporate Social Responsibility) นั้นเริ่มได้รับการพูดถึงกันมากในแวดวงการตลาดและการศึกษา ไม่ว่าจะบทความ การทำประชาสัมพันธ์บริษัท เวทีนักคิด เวทีนักเขียน ล้วนแล้วแต่หยิบยกเอาประเด็นเรื่องนี้มาพูดกัน แต่สิ่งที่ผมรู้สึกคือ CSR ไม่ได้เป็นของใหม่ที่เริ่มตั้งไข่และคลอดออกมาในตอนนี้ แต่อันที่จริงแล้ว ความรับผิดชอบต่อสังคมนั้นมีมานานแล้ว องค์คุณโนปกรที่ได้เริ่มต้นในเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัดก็คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู้หัวของเรา เช่นการปลูกหญ้าแฝก การใช้ผักตบฉวาในการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย และยังมีอีกหลาย องค์กรที่ไดประพฤติปฏิบัติกันมานาน เช่น CSR ในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่าของบริษัทป.ต.ท. สินค้าไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ห้า เบนซินแกสโซฮอลล์ ฯลฯ

ประเด็นคงไม่ใช่ว่าจะทำกันรูปแบบไหนและจะเริ่มโครงการกันเมื่อไร แต่ประเด็นคำถามในตอนนี้น่าจะเป็นว่า จะส่งเสริมให้คนของเรา พนักงานของเรา แสดงความกล้าที่จะลงมือทำตามจิตสำนึกในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมได้อย่างไรต่างหาก ทำอย่างไรจะให้พวกเขามองเห็นจุดหมายเดียวกันกับที่องค์กรหรือบริษัทตั้งเป้าเอาไว้เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้โลกนี้มีสุขภาพดีขึ้น และใหญ่กว่านั้นคือกลายเป็นวาระแห่งจิตใจของคนไทยทุกคน ผมคงไม่พูดว่าอยากให้เป็นแค่วาระแห่งชาติ เพราะหลายครั้งที่คำพูดที่สวยหรู ไม่ได้เกิดผลอะไร เนื่องจากสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่อยู่ที่บริษัทอยากทำ CSR หรือไม่ แต่เป็นคนของเราเห็นคุณค่าในการทำ CSR ให้กับบ้านที่เขาอยู่ ประเทศที่เขาเกิด หรือ โลกที่เขาอาศัยหรือไม่อย่างไรต่างหาก

มองง่ายๆ วันนี้คนเดินถนนกี่คนที่เห็นขวดแก้วที่แตกกลิ้งอยู่บนทางเท้า เขามองแล้วหยิบขึ้นเก็บขวดแก้วที่แตก มีปลายคมเหล่านั้นขึ้นมาแล้วนำไปทิ้งในถังขยะ เพราะคิดว่าเดี๋ยวจะมีคนเดินมาเหยียบทำให้ได้รับบาดเจ็บ จะมีคนซักกี่คนที่เห็นคนที่ไม่รู้จักทำของตกและช่วยเขาหยิบเก็บเพราะรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่ออยู่ร่วมกันในสังคม สิ่งนี้คือภาพง่ายๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าด้านจิตสำนึกในการช่วยเหลือกันที่อยู่ในใจของคนเรา



ในความคิดของผมคนที่อยู่ในมุมมืดของสังคมไม่ใช่คนที่อยู่ในมุมมืดทางกายภาพ คืออยู่ในสถานที่เปียกแฉะและแทบจะไม่มีแสงสว่าง แต่คนที่อยู่ในมุมมืดคือคนที่ใช้จิตสำนึกในด้านมืดของใจเป็นที่สิงสถิตต่างหาก ข้อสำคัญพวกเขาอยู่ตัวคนเดียวนั้นมุมมืดที่ไม่ยอมเปิดเผยนั้น คนเหล่านี้เป็นคนที่กล้ว กลัวว่าเมื่อพวกเขาออกไปจากมุมมืด เขาจะพบกับความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงไปไม่สุขสบายเหมือนอยู่ในมุมมืดที่เคยอยู่ กลัวแม้การทำอะไรใหม่ๆ ที่ต้องพบปะผู้คนที่ไม่รู้จัก กล้วแม้กระทั่งสิ่งที่ต้องทำนั้นทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น แต่พวกเขาลืมคิดไปว่า การที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง การที่ไม่ยอมทำนั้นจะทำให้ในท้ายที่สุดก็จะทำให้เขาอยู่ไม่ได้แม้ในมุมมืด

จิตสำนึกนั้นไม่เหมือนการลงต้นกล้า รดน้ำพรวนดิน แล้วจะงอกขึ้นมาได้เสมอไป แต่จิตสำนึกกนั้นเกิดจากการมองเห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในตัวตนเรา อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีอะไรมากระตุ้นก็ได้ ดอกไม้ของจิตสำนึกนั้นอยู่เหนือกาลเวลา ไม่เคยมีคำว่าสาย ไม่มีคำว่าเหี่ยวมีแต่คำว่า “บาน” กับ “หุบ” เท่านั้น

ความรับผิดชอบไม่ต้องอยู่ในระดับของบริษัทหรือครับ เพราะระดับไม่ได้มีนัยยะมากไปกว่าขีดชั้นของกลุ่มคน แต่ความรับผิดชอบต่อสังคมนั้นก่อเกิดอยู่ในจิตของเราทุกคนอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นโจร เขาก็อยากจะให้คนที่เขารักไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือลูกมีความสุข ดังนั้นหากมองในมุมลึก โจรเองก็ไม่ได้มีจิตสำนักแตกต่างจากคนเราเลย เพียงแต่โจรนั้นมีจิตสำนึกในเรื่องความรับผิดชอบที่คับแคบ ไม่ต้องการแบ่งปันสิ่งใดให้นอกจากคนที่เขารัก จะออกจากจิตของความเป็นโจรได้ก่อนอื่นต้องรู้จักที่จะขยายความรักที่มีอยู่ในตัวเราให้กว้าง แผ่ขยายมากขึ้น รู้จักรักคนอื่นที่ไม่เกี่ยวดองกับเรา รู้จักรักสรรสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา และขอสำคัญคือต้องรู้จักคำว่า “ให้” ครับ

ในความคิดของผมนั้นคุณค่าของคนนั้นไม่ได้วัดว่า “ท่านมีอยู่เท่าไร” แต่วัดกันที่ว่า “ท่านให้ได้มากเท่าไร” ต่างหาก

บุริม โอทกานนท์
6 ต.ค. 50


บทความการตลาดใหม่ในเดือนนี้
1. การตลาดในมิติที่ 4 (มิติของเวลา)
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&group=2

2.กลยุทธ์การตลาดภายในร้านค้าปลีก
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&month=10-2007&date=04&group=2&gblog=24

บทความการจัดการใหม่
1. HELPING THE HURTING เรื่องราวของถุงทอง
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&group=3

2. กรณีศึกษาเรื่อง CSR ที่จักราช
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&month=10-2007&date=04&group=3&gblog=9

บทความเรื่องการศึกษา
1.กระบวนการ การจัด Service Learning ในมหาวิทยาลัย
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&group=5

2. ความแตกต่างของ Standard-based Test และ Standardize Test
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&month=10-2007&date=05&group=5&gblog=12

3. บันทึกเรื่อง Home School ในสหรัฐอเมริกา
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&month=10-2007&date=05&group=5&gblog=11

4. การจัดการแบบเรียนรวมในประเทศสกอตแลนด์
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&month=10-2007&date=04&group=5&gblog=10

5. กระแสของการเปลี่ยนแปลง (Wind of Change)
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzie&month=10-2007&date=04&group=5&gblog=9



Create Date : 07 ตุลาคม 2550
Last Update : 8 ตุลาคม 2550 0:19:00 น. 3 comments
Counter : 1194 Pageviews.  

 


โดย: dsfsdfdsf IP: 221.206.53.238 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:33:50 น.  

 
เคยมีผลการวิจัยของสถาบันkenan ที่ทำเรื่องCSR
บอกไว้ว่า บริษัทที่ทำCSR มียอดขายที่ดีกว่าบริษัทที่ไม่ได้ทำCSR
และนี้คงเป็นอีกเหตุผลนึง(รึเปล่า)คะ ที่ทำให้กระแสCSRแรงเหลือเกิน

เป็นคนนึงที่ทำงานด้านพัฒนาสังคม(มูลนิธิ) มีบริษัทมากมาย ติดต่อมาให้ช่วยทำกิจกรรมเพื่อสังคมให้ แต่บางที พวกเค้าก็ทำตามกระแส แต่ไม่ได้ทำจากใจเลยจริงๆ (แต่ก็ไม่เป็นไร เราเชื่อมั่นคะ ว่าถ้าพวกเค้าได้มาลองทำความดี ทำเรื่องดีๆให้สังคมแล้วล่ะก็ ต้องติดใจแล้วกลับมาทำใหม่แน่นนอน)

ปล.ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าความคิดเห็นอาจจะยาวซะหน่อย


โดย: ใจดี (jaidee.jaidee ) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:24:20 น.  

 
มีเรื่องเกี่ยวกับ การตลาดต่างประเทศ บ้างไหมค่ะ


โดย: ยอพระกลิ่น วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:33:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Jazz-zie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





ค้นหาใน GOOGLE.CO.TH
[Add Jazz-zie's blog to your web]