อ่านสักนิด ก่อนคิดจะฝึกโยคะ
Yoga
ธรรมะ
บทความดีๆ
Games สำหรับเด็ก
เรื่องสวยๆงามๆ
เขียนblog แก้เซ็ง
<<
สิงหาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
2 สิงหาคม 2554
ฉีดวัคซีน ให้ลูกน้อยอันตรายหรือไม่?
ดูแลความสะอาดร่างกายและผิวพรรณในช่วงตั้งครรภ์
แนะคุณแม่รับมือเมื่อลูกเบื่ออาหาร
ประวัติของมุก (History of the Pearl)
ลูกบ้านไหนกินยาก! ฟังทางนี้
ประวัติของมุก (History of the Pearl)
มาศึกษาประเภทของมุกกันเถอะ
เทคนิคสร้างสุขเมื่อต้องเดินทางไกล
แง่คิดจากหนัง Titanic อยู่อย่างไร ตายอย่างไร โดย ชลนิล
10 วิธีง่าย ๆ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของลูก
ฉีดวัคซีน ให้ลูกน้อยอันตรายหรือไม่?
อิ่มอุ่น จากอกแม่
7 เทคนิคดูแล ลูกสมาธิสั้น อย่างสร้างสรรค์
วิธีส่งเสริมพรสวรรค์ของลูกรัก
เลี้ยงลูกแบบตามใจ ..กลายเป็น พ่อแม่รังแกฉัน
20 แง่คิดบวก กำลังใจแด่พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
มากระตุ้นต่อม รับผิดชอบ ให้ลูก ๆ กันเถอะ
แผนที่ชีวิตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่มาของเพลง "นี่แหละความเสียใจ" ของ POTATO(อ่านแล้วซึ้งมากกกก)
ฉันไปทำ......"เสน่ห์ยาแฝด"....... (เอามาจากเมลล์ Forward)
ฉีดวัคซีน ให้ลูกน้อยอันตรายหรือไม่?
เสริมภูมิคุ้มกัน เป็นเกราะต้านโรคตอนโต
ที่มา
//kid.plearnkid.com/?p=8289
เมื่อลูกน้อยอายุได้ 1 เดือน ควรเริ่มได้รับวัคซีนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อต่างๆ และเพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีน จึงควรทราบว่าส่วนใหญ่วัคซีนที่ฉีดให้ลูกนั้น มีเชื้อใดที่เป็นสาเหตุของโรคเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเชื้อเหล่านี้เมื่อถูกทำให้ตายหรืออ่อนแรงแล้ว จะไม่สามารถถ่ายโรคได้ แต่กลับจะกระตุ้นให้ร่างกายของลูกสร้างภูมิคุ้มกันเมื่อได้รับวัคซีนเข้าไป
ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนี้เองเป็นภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นหรือสร้างเองโดยร่างกายของเด็ก ซึ่งเรียกภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นนี้ว่า แอนติบอดี้ วัคซีนมีอันตรายหรือไม่?
พ่อแม่หลายคนคงสงสัยว่า การให้วัคซีนแก่ลูกนั้นมีอันตรายหรือผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับเด็กบ้างหรือไม่ คำถามนี้ในปัจจุบันถือว่าตอบง่าย เพราะขบวนการผลิตวัคซีนในปัจจุบันนั้นทันสมัยขึ้นมาก มีความบริสุทธิ์และจำเพาะ
จึงอาจกล่าวได้ว่าการให้วัคซีนมีความปลอดภัยมากขึ้น แม้ว่าอาจทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายบ้างเมื่อรับวัคซีน แต่ลูกก็จะมีอาการเพียงเล็กน้อย ภายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เช่น มีไข้ต่ำ หรือตัวรุมๆ ในวันแรกหลังฉีดยา เมื่อทานยาลดไข้แล้วก็มักจะดีขึ้น และไม่ต้องฉีดซ้ำอีก
ข้อสำคัญที่ควรรู้ คือ ต้องระวังสำหรับวัคซีนบางชนิด เช่น วัคซีนป้องกันโรคไอกรน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหากับเด็กที่เคยมีประวัติโรคลมชักในครอบครัว เพราะมักจะทำให้มีโอกาสเกิดไข้ได้มาก แต่ในปัจจุบันมีวัคซีนที่เป็นแบบ acellular ซึ่งทำให้โอกาสเกิดไข้น้อยลง พ่อแม่หลายคนอาจเคยได้ยินว่ามีวัคซีนที่ฉีดแล้วไม่มีไข้ ตรงนี้มักชี้แจงกับคนไข้เสมอว่าฉีดแล้วก็ยังมีไข้ได้ แต่โอกาสน้อย
ดังนั้น หากบุตรหลานหรือลูกมีปัญหาดังกล่าว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าก่อนรับวัคซีนทุกครั้งหากลูกมีปัญหาต่อไปนี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการฉีดวัคซีน
1. ลูกไม่สบายหรือกำลังได้รับยาปฏิชีวนะ
2. มีไข้
3. ลูกเคยมีประวัติแพ้วัคซีน หรือเคยได้รับวัคซีนแล้วเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ไข้สูงเกิน 40 องศาเซลเซียส มีผื่นคัน ลมพิษ ชัก ร้องตลอดคืน ซึ่งครั้งต่อไปไม่ควรให้วัคซีนป้องกันไอกรน ควรให้เฉพาะวัคซีนป้องกันคอตีบ และบาดทะยัก
4. เด็กที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติแต่กำเนิด ไม่ควรได้รับวัคซีนที่มีชีวิต
5. ไม่ควรให้วัคซีนโปลิโอชนิดรับประทานแก่เด็กที่มีคนในบ้านเป็นโรคขาดภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด เพราะวัคซีนโปลิโออาจไปติดผู้ป่วยที่ขาดภูมิคุ้มกันในบ้าน และเกิดเป็นอัมพาตได้
6. ไม่ควรให้วัคซีนป้องกันวัณโรคในเด็กที่มีอาการของโรคเอดส์ ผลแทรกซ้อนจากวัคซีนที่ควรทราบและควรเฝ้าระวังลูกอาจมีไข้ได้ พ่อแม่ต้องคอยวัดอุณหภูมิร่างกาย ถ้ามีไข้มากกว่า 38 องศาเซล เซียส ควรให้ยาลดไข้และควรเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นเล็กน้อย แต่หากมีไข้สูงมาก กว่า 40 องศา หรือมีไข้นานกว่า 24 ชั่วโมง ควรรีบปรึกษาแพทย์
สิ่งที่ควรรู้ไว้คือ วัคซีนบางชนิด เช่น วัคซีนป้องกันไอกรน อาจทำให้บริเวณที่ฉีดมีอาการบวมแดงได้ จึงควรใช้ผ้าเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณที่ฉีดวัคซีนทันทีเพื่อลดอาการปวด หากหลังจาก 2 วันที่ฉีดแล้ว ยังมีอาการบวมแดงมาก กดเจ็บ มีไข้ ควรรีบมาพบแพทย์
ส่วนวัคซีนป้องกันโรคหัด อาจทำให้เกิดอาการไอ มีน้ำมูก ผื่น และไข้ขึ้นใน 10 วันหลังรับวัคซีน และวัคซีนป้องกันโรคคางทูม อาจทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก ผื่นขึ้น หน้าและคางบวมได้ภายใน 3 สัปดาห์หลังรับวัคซีน แต่พบไม่บ่อย
เมื่อลูกจะฉีดวัคซีน จะช่วยจับอย่างไรดี ?
ควรอุ้มลูกให้มั่น ระวังไม่ให้ลูกดิ้นและคอยปลอบโยนไม่ให้ตกใจกลัว แพทย์หรือพยาบาลอาจให้วัคซีนบริเวณต้นแขนหรือบริเวณต้นขาก็ได้แล้วแต่ชนิด โดยส่วนใหญ่มักจะให้บริเวณต้นขา ฉีดเข้ากล้ามเนื้อในกรณีที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งมักเป็นวัคซีนสำหรับ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน หลังจากนั้นมักฉีดที่ต้นแขนเป็นส่วนใหญ่คำอธิบายอักษรย่อของชื่อวัคซีนที่พ่อแม่ควรรู้
คำย่อเหล่านี้มักจะได้ยินจากแพทย์หรือพยาบาลพูดกันบ่อยๆ มาทำความรู้จักกันว่ามีอะไรบ้าง
BCG = วัคซีนป้องกันวัณโรค
HBV = วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี
DTP = วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก
OPV = วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ
MMR = วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน
JE = วัคซีนป้องกันไวรัสสมองอักเสบ
Hib = วัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ
HAV = วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ
VAR = วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส
โดยมีลักษณะการฉีด ดังนี้
แรกเกิด : ให้บีซีจี ป้องกันวัณโรค, ให้วัคซีนป้องกันตับอักเสบ บี ครั้งที่ 1
2 เดือน : ให้วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ครั้งที่ 1, หยอดโปลิโอ ครั้งที่ 1, ให้วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ครั้งที่ 1 ให้วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี ครั้งที่ 2
4 เดือน : ให้วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ครั้งที่ 2, หยอดโปลิโอ ครั้งที่ 2, ให้วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ครั้งที่ 2
6 เดือน : ให้วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ครั้งที่ 3, ให้วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ บี ครั้งที่ 3, หยอดโปลิโอ ครั้งที่ 3
9 12 เดือน : ให้วัคซีนรวม หัด คางทูม หัดเยอรมัน ครั้งที่ 1
1 ขวบครึ่ง : ให้วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก และหยอดโปลิโอกระตุ้น ครั้งที่ 1, ให้วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบ ครั้งที่ 1 และ 2 โดยให้ห่างกัน 1 สัปดาห์ (แพทย์บางท่านอาจเริ่มให้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ)
2 ขวบ : ให้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ ครั้งที่ 1
2 ขวบครึ่ง : ให้วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบครั้งที่ 3, ให้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ ครั้งที่ 2
4 ขวบ : ให้วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก และหยอดโปลิโอ กระตุ้นครั้งที่ 2
4 6 ขวบ : ให้วัคซีนรวม หัด คางทูม หัดเยอรมัน ครั้งที่ 2
5 ขวบ : ให้วัคซีนป้องกันไข้ไทฟอยด์
10 ขวบ : ให้วัคซีนกระตุ้นคอตีบและบาดทะยัก หลังจากนี้ ให้วัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ทุก 10 ปี
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
//kid.plearnkid.com/?cat=49
Create Date : 02 สิงหาคม 2554
Last Update : 2 สิงหาคม 2554 16:34:59 น.
0 comments
Counter : 556 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
honeymo
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
goffymew
Webmaster - BlogGang
[Add honeymo's blog to your web]
วิมุตติ
โจโฉ โหลด CD ธรรมะ
ฟังธรรม
แพ็คเกจคลอดบุตรของแต่ละโรงพยาบาล
ค้นหาโรงเรียนอนุบาล
Bloggang.com