พระพรหมสี่หน้า เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราคงได้ยินข่าวศาลท่านท้าวมหาพรหม ซึ่งตั้งอยู่หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ ถูกชายเสียสติทุบทำลาย และชายผู้นั้นก็ถูกทำร้ายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากกรณีดังกล่าวจึงทำให้ชาวบ้านอย่างเรา ๆ ได้รู้ประวัติความเป็นมาของท่านท้าวมหาพรหมผ่านสื่อต่าง ๆ มากมาย ผู้เขียนจะไม่พูดถึงประวัติหรือเรื่องราวของท่านท้าวมหาพรหมแห่งนี้ เพราะท่านผู้อ่านคงได้ทราบรายละเอียดมามากพอสมควรแล้ว แต่ผู้เขียนจะเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับท้าวมหาพรหม นั่นคือเรื่องของพระพรหม ในคัมภีร์ศาสนาพราหมณ์เชื่อว่า พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเกี่ยวข้องกับมนุษย์มี 3 องค์ เรียกว่า “ตรีมูรติ” ได้แก่ พระนารายณ์ พระอิศวร และพระพรหม ถือกันว่าพระพรหมนั้นเป็นผู้สร้าง เป็น “สยมภู” คือเกิดเองได้ เรื่องการกำเนิดพระพรหมนั้นมีตำนานเล่าไว้มากมายหลายเรื่อง ฝ่ายที่นับถือพระศิวะเป็นเทพสูงสุดก็เล่าว่า ตอนที่โลกว่างเปล่าเป็นอากาศธาตุนั้น พระเวทย์ทั้งหลายได้มาชุมนุมกันเกิดเป็นพระผู้เป็นเจ้าขึ้นองค์หนึ่ง มีพระนามว่าพระปรเมศวรหรือพระศิวะ พระศิวะเอาพระหัตถ์ลูบพระอุระ แล้วสะบัดออกไปเบื้องหน้าพระพักตร์ ก็บังเกิดเป็นพระอุมาเทวี พอเอาพระหัตถ์ซ้ายลูบพระหัตถ์ขวาก็บังเกิดเป็นพระนารายณ์ และเมื่อเอาพระหัตถ์ขวาลูบพระหัตถ์ซ้ายก็บังเกิดเป็นพระพรหมขึ้นมามีหน้าที่สร้างโลกสร้างมนุษย์ พรหมจึงมีกำเนิดมาจากพระศิวะ ส่วนฝ่ายที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพสูงสุดก็มีตำนานเล่าว่า พระพรหมเกิดอยู่ในดอกบัวที่ผุดขึ้นมาจากสะดือของพระวิษณุขณะที่พระองค์หลับอยู่บนหลังพระยาอนันตนาคราชที่เกษียรสมุทร พรหมจึงมีกำเนิดมาจากพระวิษณุ ส่วนอีกตำนานหนึ่งก็เล่าว่า เมื่อครั้งที่ยังไม่มีโลกมีแต่ความมืดมิด พระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีลักษณะ “สยมภู” คือกำเนิดขึ้นมาเองได้ปรากฏขึ้นแล้วสร้างน้ำ หว่านพืชลงในน้ำ จากพืชก็กำเนิดเป็นไข่ทองเรียกว่าหิรัณยครรภ์ ภายในไข่นั้นคือพระพรหม ไข่นั้นคือจักรวาลกับโลก เวลาผ่านไปหลายกัปกัลป์ ไข่ก็แตกออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งลอยขึ้นไปเป็นท้องฟ้า อีกซีกหนึ่งลงต่ำกลายเป็นแผ่นดิน จากนั้นพระพรหมก็ก่อเกิดรูปกายขึ้น และเนรมิตสตรีเพศในยาม “สรัสวดี” ซึ่งต่อมากลายเป็นมเหสีและร่วมกันสร้างสัตว์ พืชพันธุ์ เทวดา อสูร และมนุษย์ขึ้นมา พระพรหมนั้นมีน้ำพระทัยเยือกเย็น มีคุณธรรมสูงสุด เปี่ยมด้วยมโนจริยา 4 ประการ คือความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ซึ่งตรงกับหลักคำสอนเรื่อง “พรหมวิหาร 4” ในพุทธศาสนา นอกจากท่านจะสร้างโลกแล้ว ยังเป็นผู้สร้างสวรรค์และมนุษย์อีกด้วย พระพรหมทรงหงส์เป็นพาหนะ มีวรกายเป็นสีแดง มี 4 กร ถือธารพระกรไม้เท้า ช้อน หม้อ และคัมภีร์ มีประคำคล้องพระศอ แต่เดิมนั้นมี 5 เศียร แต่ละเศียรหันไปยังทิศทั้งสี่ เศียรที่ห้าอยู่บนยอด เรียกว่า “พรหมปัญจมุข” ที่มี 5 เศียรก็เพราะพระองค์ทรงรักและหวงแหนพระมเหสีมาก หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้เสด็จไปช่วยได้ทัน แต่ภายหลังทรงเสียเศียรบนสุดไปเพราะไปกล่าววาจาดูถูกพระอุมาเทวี พระมเหสีของพระศิวะ จนถูกพระศิวะลงโทษตัดพระเศียร พระพรหมจึงเหลือเพียง 4 เศียร 4 พักตร์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ส่วนท้าวมหาพรหม ก็คือ พระพรหมที่อยู่บนพรหมโลกชั้นที่ 3 มหาพรหมาภูมิ เป็นประมุขแห่งพระพรหมในชั้นปฐมฌาน มหาพรหมาภูมิมีพระพรหมอยู่นับล้านองค์ แต่ท้าวมหาพรหมที่รู้จักกันในศาสนาพราหมณ์มีเพียงไม่กี่องค์ ได้แก่ พระพรหมธาดา ท้าวกบิลพรหม ท้าวพกาพรหม ฯลฯ มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และอานุภาพมากมาย ด้วยความเชื่อที่ว่าพระพรหมเป็นผู้สร้าง จึงได้มีอิทธิพลสูงสุดต่อความเป็นมนุษย์ ถึงกับว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของคนเราต้องมีคำว่า “พรหม” ร่วมด้วยเสมอ เช่น พรหมลิขิต พรหมชาติ พรหมทัณฑ์ พรหมจารี ฯลฯ นี่จึงเป็นเหตุให้คนเราเกรงกลัวอำนาจเหนือธรรมชาติของพระพรหม จึงเกิดการบนบานศาลกล่าวกับพระพรหมเพราะเชื่อว่าท่านบันดาลให้ความต้องการสำเร็จลงได้ ทำให้มีการบนและการแก้บนในเวลาต่อมา นอกจากกำเนิดของพระพรหมแล้ว ผู้เขียนอยากเล่าถึงความเกี่ยวข้องบางส่วนของท้าวมหาพรหมกับพุทธศาสนาด้วย มีตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งมีเทวดา 5 องค์ คือ สาตาคิรายักษ์ อสุรินทราหู ท้าวมหาราช ท้าวสักกะ และท้าวมหาพรหม ได้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าจนเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธองค์ถึงกับเปล่งวาจาขึ้น โดย สาตาคิรายักษ์เปล่งวาจาว่า นะโม อสุรินทราหู เปล่งวาจาว่า ตัสสะ ท้าวมหาราชเปล่งวาจาว่า ภะคะวะโต ท้าวสักกะเปล่งวาจาว่า อะระหะโต และท้าวมหาพรหมเปล่งวาจาว่า สัมมาสัมพุทธัสสะ จึงเกิดบทสวดมนต์นมัสการพระพุทธเจ้ามาตั้งแต่บัดนั้น ความหมายของบทสวดนะโมมีว่า “ขอนอบน้อมแด่สมเด็จพระผู้มีพระภาค อรหัตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น” ซึ่งถือเป็นการประกาศพระคุณของพระพุทธองค์อย่างรวบยอดซึ่งมีอยู่ 3 ประการด้วยกันคือ ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เองที่เรียกว่าพระปัญญาคุณ ทรงบริสุทธิ์สิ้นเชิงที่เรียกว่าพระวิสุทธิคุณ และทรงสั่งสอนผู้อื่นให้รู้ยิ่งตามความเป็นจริงที่เรียกว่าพระกรุณาธิคุณ บทสวดมนต์นมัสการพระบทนี้ต้องใช้ขึ้นต้นเสมอไปไม่ว่าในพิธีใด ๆ เพราะถือเป็นบทไหว้พระบรมครู เป็นการแสดงความเคารพต่อท่านผู้เป็นพระบรมครูของโลกผู้เริ่มสร้างหลักธรรมของพระพุทธ ศาสนาขึ้นจะได้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ในบทที่จะสวดต่อไป ส่วนอีกเรื่องหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่เล่าถึงพระคุณของท้าวมหาพรหม เรื่องมีอยู่ว่าพระวิปัสสีพุทธเจ้าเมื่อทรงตรัสรู้แล้วก็เห็นควรแสดงธรรม แต่ทรงคิดว่าธรรมที่บรรลุนั้นลึกซึ้ง เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต ไม่ใช่วิสัย เป็นตรรกะ มีความละเอียด บัณฑิตจึงจะรู้ได้ ผู้คนทั่วไปคงเรียนรู้และเข้าใจหลัก ธรรมคำสอนด้วยความยากลำบาก ถ้าแสดงธรรมไป ผู้อื่นไม่เข้าใจ ก็จะเป็นความเหน็ดเหนื่อยเปล่า ๆ แต่ท้าวมหาพรหมองค์หนึ่งได้ประนมมือกราบทูลขอให้พระพุทธองค์ทรงโปรดแสดงธรรม โดยกล่าวว่า ในโลกนี้ยังมีเหล่าสัตว์ผู้มี กิเลส ราคะ โทสะ โมหะ ในปัญญา สัตว์เหล่านั้นจะเสื่อมเพราะไม่ได้ฟังธรรม และเหล่าสัตว์ที่อาจจะรู้ธรรมได้นั้นก็ยังมีอยู่ พระพุทธองค์ฟังดังนั้นจึงได้ทรงแสดงธรรม ด้วยเหตุนี้ จึงนับว่าท่านท้าวมหาพรหมมีพระคุณแก่มวลมนุษย์อยู่มากที่ทรงทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม ดังนั้นเวลาไปงานศพก่อนพระจะสวดพระอภิธรรม จึงมีบทอาราธนาธรรม พรหมา จะโลกา ธิปปะติ ฯลฯ นี่จึงเป็นที่มาของการอาราธนาธรรม ในส่วนนี้ก็ทำให้เกิดฉุกคิดต่อไปว่า ถ้าเราเกิดมาในห้วงที่ว่างเว้นพุทธศาสนา จะเป็นอย่างไร ขนาดว่าเราเกิดมาในสมัยที่มีพุทธศาสนาแล้ว คนเราก็ยังทำตัวให้จิตใจว่างเว้นจากพุทธศาสนา ดังนั้นการช่วยแบ่งปันความรู้ทางธรรมะที่ตนเองพอมีอยู่ให้กับเพื่อนมนุษย์จึงนับเป็นหน้าที่สำคัญประการหนึ่งทีเดียว และด้วยความเชื่อและศรัทธาในท้าวมหาพรหมของมนุษย์เรา จึงทำให้มีการสร้างเทวาลัย เทวสถาน หรือศาลขึ้นมาหลายแห่งเพื่อเป็นศูนย์กลางในการสักการบูชา ในกรุงเทพฯ นั้นนอกจากศาลท้าวมหาพรหมที่โรงแรมเอราวัณแล้ว ยังมีศาลพระพรหมที่โบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้าอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาทั้งของชาวไทยและต่างประเทศอีกด้วย ปัจจุบันศาลท่านท้าวมหาพรหมที่โรงแรมเอราวัณอยู่ในความดูแลของมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม ซึ่งมูลนิธินี้มีเงินที่รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธามากมาย และในแต่ละปีมูลนิธิฯ ได้บริจาคเงินเพื่อสาธารณกุศลไปไม่ใช่น้อย โดยมีวัตถุประสงค์ชัดเจน คือ การบริจาคให้กับโรงเรียน โรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ การจัดซื้อเครื่องมือแพทย์สำหรับการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยที่ยากไร้ ฯลฯ นี่นับเป็นผลพลอยได้จากความศรัทธาของผู้คนซึ่งผู้เขียนเห็นว่าก่อเกิดประโยชน์แก่สังคมเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน นอกเหนือจากที่ได้รับการนับถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจของคนไทยมากว่า 50 ปีแล้ว   Create Date : 21 พฤษภาคม 2549 24 comments Last Update : 21 พฤษภาคม 2549 22:50:04 น. Counter : 7132 Pageviews. Share Tweet

ตอนนี้พระพรหมองค์ใหม่ได้รับการประดิษฐานเรียบร้อยแล้ว เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คือพรหมวิหาร 4 ของพุทธศาสนา หากเราปฏิบัติได้ตามนี้ ตัวเราเองนี้แหละจะเป็นพรหม เพราะพระพุทธองค์ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติบูชา อะ อุ มะ คือคำย่อเรียกขานพระศิวะ พระนารายณ์และพระพรหม รวบรัด 3 คำเข้าด้วยกันเรียกว่า โอม คือคำอัญเชิญเทพเจ้าทั้ง 3 เวลาร่ายมนตร์เสกคาถา มีคำว่า โอมเพี้ยง นั้นแหละมาจากคำว่า โอม (อะ อุ มะ) บทสวดโองการแช่งน้ำถวายสัตย์ต่อกษัตริย์สมัยอุยธยา ขึ้นต้นด้วย โอม เช่นกัน ให้เทพเจ้าทั้ง 3 เป็นพยานในการถวายสัตย์ของข้าราชบริพาร   โดย: J IP: 203.154.114.253 22 พฤษภาคม 2549 15:00:56 น.

สำหรับพี่หนอนฯ ก็เชื่อเช่นเดียวกับที่คุณ J ว่า "หากเราปฏิบัติได้ตามนี้ ตัวเราเองนี้แหละจะเป็นพรหม เพราะพระพุทธองค์ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติบูชา" แต่ในสังคมปัจจุบัน บางทีก็พูดลำบาก เพราะดูเหมือน...คนเรายังต้องการหาอะไรไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจอยู่เหมือนกันล่ะนะ คงเพื่อความสบายใจ ทั้งที่รู้...แต่คนเราก็อดไม่ได้ที่จะแสวงหา...ความมั่นคงทางจิตใจ ยิ่งในยามที่ชีวิตประสบภาวะวิกฤต นอกจากการพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างที่สุดแล้ว ส่วนใหญ่ก็ต้องขอพึ่งพาท่านท้าวมหาพรหม (และอื่น ๆ) เป็นกำลังใจหนุนอีกแรงหนึ่งเสมอ นี่พี่หนอนฯ ว่าแบบที่เห็นมากับตาครึ่งค่อนชีวิตนะนี่ (รวมทั้งบางทีก็มีบ้างเหมือนกัน ที่ตัวเองก็หลงอยู่ในวังวนลักษณะนี้น่ะ)   โดย: หนอนเมืองกรุงฯ 23 พฤษภาคม 2549 2:38:12 น.

เนี่ยนะ แม่น้องนิกเห็นพี่หนอนฯแวะเข้าไปในบล๊อกแม่น้องนิก ยังคิดว่าเอ๊ะ..พี่ หนอนฯส่งสัญญาณอะไรหรือปล่าวเนี่ย แม่น้องนิกเดาเอาว่า พี่หนอนฯจะต้องอัพ เดทบล๊อกแล้วแน่ๆเลย ถึงได้มีเวลาพอโผล่ไปเยี่ยมได้ พอแวบเข้าบล๊อกพี่หนอนฯแล้ว ดีใจว่าตัวเองเดาถูก แล้วทำไมซื้อหวยล๊อตโต้มันไม่ ถูกอย่างนี้บ้างนะ ถ้าถูกจะแบ่งให้พี่หนอนฯใช้บ้าง พูดจริงนะ ท่านท้าวมหาพรหม คงไม่ช่วยในกรณีนี้หรอกนะคะพี่หนอนฯ เดี๋ยวว่างจะแวะมาอ่านค่ะ ตอนนี้ขอไปอาบน้ำก่อนพาลูกเข้านอน เพราะต้องอ่าน หนังสือให้อลีนา และฟังนิกอ่านหนังสือด้วย ขาดไม่ได้เลย   โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 23 พฤษภาคม 2549 10:37:19 น.

ชวนแม่มาเล่นเน็ต อ่านโน่นนี่เล่น จนมาเปิดบลอคพี่หนอนฯ ก็อ่านให้แม่ฟัง แรกๆแม่ฟังบ้าง หลังๆหลับตาฟังก็มีบ้าง อิอิ..ยอมรับแกมีแอบหลับ เลยพักก่อน ไว้มาอ่านต่อ เดี๋ยวแกจะเครียด..อิอิ อากาศกรุงเทพเป็นไงบ้างคะ ที่นี่โดนมรสุมจันจู โจมตีค่ะ..ทุกวันเลย..   โดย: วีดวาด (วีดวาด ) 23 พฤษภาคม 2549 18:49:06 น.

คุณแม่น้องนิก ฮ่ะ ฮ่า พี่หนอนฯ เปล่าสงสัญญาณอันใด เพียงแต่เมื่อได้เข้ามาบล็อก ก็พยายามจะไปแวะเวียน เยี่ยมเยือน เพื่อน ๆ ซักหน่อย พอให้คลายคิดถึง ที่จริงก็มีแอบแวะไปดูบ้างล่ะนะ แต่ก็ไม่ได้เม้นต์อะไรไว้ เพราะรีบ ช่วงนี้ลูก ๆ เพิ่งเปิดเทอม ก็มีการปรับเปลี่ยน ว่าจะเข้านอนเร็วหน่อย เพราะตื่นเช้ามากขึ้น เจ้าแป้งต้องปรับพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างใหม่ตามที่คุณหมอแนะนำ (เป็นเด็กมีปัญหาสำหรัคุณครูน่ะจ้ะ) ก็เลยทำให้พี่หนอนฯ ต้องพลอยปรับพฤติกรรมไปด้วย กับลูกคงได้ผล กะพี่หนอนฯ เองก็ยังไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่อ่ะนะ แต่ก็จะพยายาม คนเป็นแม่คนก็เหนื่อยยากเช่นนี้เอง (อิ อิ แอบบ่น) คุณวีดวาด อ่านเรื่องอย่างนี้ให้คุณแม่ฟัง ก็ต้องหลับล่ะสิ เป็นยานอนหลับอย่างดีเชียวแหละ มาใส่เรื่องนี้ไว้ก็เพราะวันนั้นมีข่าวท่านท้าวมหาพรหมได้กลับมาประดิษฐานใหม่แล้ว เห็นมีผู้คนมากมายรอสักการะบูชา กรุงเทพฯ ฝนตกบ้างเป็นช่วง ๆ น่ะจ้ะ แต่ก็ชอบเพราะอากาศเย็นสบายดี ที่ทำงานพี่หนอนฯ มีต้นไม้ต้นเก่าแก่ล้มตายหลายต้นจากแรงลมพัด ล้มทีละสองต้นก็มี เป็นเพราะปลวกเข้าไปเจาะลำต้นด้วย (ไม่น่าเชื่อเลยนิ) เสียดายเหมือนกัน แต่ก็ปลูกทดแทน ตอนนี้ที่ทำงานกำลังปลูกต้นจันทร์ผาเป็นที่เอิกเกริก (เขียนถูกหรือเปล่านี่) และยังระบาดไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ภายในมหาวิทยาลัยที่ศาลายานี่ล่ะ เป็นเพราะอาจารย์อาวุโสท่านนึงเกษียณแล้วมาช่วยงานที่ทำงาน ท่านอยากพัฒนาและตอบแทนคุณมหาวิทยาลัย ลงต้นนี้ล่ะที่ตึกพี่หนอนฯ ก็หลายต้น และยังตั้งเป้าทั่วมหาวิทยาลัยอีกแปดสิบกว่าต้น จะปลูกให้ได้จำนวนเท่ากับอายุของท่านอดีตอธิกาบดีซึ่งถึงแก่อนิจกรรมไปแล้วที่ท่านนับถือมาก ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ อาจารย์ท่านนี้มาทำงานมีแต่ให้เป็นส่วนใหญ่ ท่านว่าถือเป็นการตอบแทนมหาวิทยาลัยที่เลี้ยงดูท่านมาตลอดชีวิตการทำงาน ถ้าคิดได้อย่างนี้หลาย ๆ คน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ก็น่าจะดีไม่น้อยนิ ว่าเรื่องท่านท้าวมหาพรหมมาถึงเรื่องต้นไม้และคุณงามความดีของคนจนได้ หวังว่าวีดวาดคงมีความสุขกับงานที่ทำ (ให้อิจฉาหน่อย ๆ) และคุณแม่คงมีสุขภาพแข็งแรงนะจ๊ะ   โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.169.66 24 พฤษภาคม 2549 2:12:33 น.

พี่หนอนฯขา เดือนมิถุนาไม่เห็นอัพบล๊อกเลย   โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 1 กรกฎาคม 2549 23:22:26 น.

คุณแม่น้องนิก ขอโทษจ้ะ ติดงาน เดี๋ยวมีเวลางาม ๆ จะเข้ามา...อัพจ้า   โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.173.158 7 กรกฎาคม 2549 1:18:06 น.

เวลางามๆ เวลาไหนล่ะคะ ไม่ได้อัพจนลืมระหัสผ่านใช่มั๊ยคะ   โดย: Mommy and me 8 กรกฎาคม 2549 4:52:09 น.

แหะ แหะ แหม...แม่น้องนิกรู้จริง (เคยมีประสบการณ์แน่ ๆ เลย ...ล้อเล่นนะ) ก็เป็นจริงอย่างแม่น้องนิกว่าแหละ คือหาประตูเข้าบล็อกไม่เจอ งมอยู่ซักอึดใจใหญ่น่ะ แต่ก็...อีกไม่ช้าหรอก เวลางาม ๆ ที่ว่าก็จะต้องมาถึง (อ่อย....เอาไว้ก่อน แม่น้องนิกจะได้ตามมาเปิดดูบ่อย ๆ )   โดย: หนอนเมืองกรุงฯ 8 กรกฎาคม 2549 9:43:41 น.

คุยกับพี่หนอนฯทิ้งไว้ตรงนี้แหละนะคะ หยุดสามสี่วันพี่หนอนฯต้องนอนอ่านหนังสือแน่ๆเลย ตามมาเปิดบล๊อกบ่อยๆ เพราะกลัวว่า พี่หนอนฯอัพบล๊อกแล้วไม่กล้ากระทุ้งบอก ก็เลยเปิดเข้ามาเช็คบ่อยครั้ง ว่างตอนไหนก็เช็คตอนนั้นแหละค่ะ   โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.138.77 10 กรกฎาคม 2549 9:30:47 น.

สวัสดีค่ะ พี่หนอน นานแล้วไม่ได้เข้ามาที่นี่ คิดถึงเหมือนเดิมนะคะ แล้วมาบอกเรื่องป้ายคำอวยพรสีแดงที่พี่หนอนส่งมาที่ร้าน ได้รับแล้ว ทันเวลาใช้งานพอดี ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ ขอโทษที่มาบอกช้าหน่อย แต่ ฝากบอกทางพ่อพเยียแล้วค่ะ ถ้าพี่ว่าก็ไปเที่ยวที่บลอคนะคะ ไปดูบรรยากาศในความต่างของรุ่นสู่รุ่น ทั้งเก่า -ใหม่ ที่ร้านกาแฟของครอบครัวเราค่ะ   โดย: วีดวาด 9 สิงหาคม 2549 8:21:59 น.

อยากทราบว่าทำไมคนจึงนิยมนำดอกบัวมาบูชาพระ ใครทราบบ้าง กรุณาช่วยบอกที เพราะจะนำขอมูลไปประกอบการเรียน   โดย: wave2544@hotmail.com IP: 61.19.219.144 22 กันยายน 2549 8:56:49 น.

โดย: Ohm De Puerto Rico (sochana9 ) 15 พฤศจิกายน 2549 0:19:56 น.

พี่หนอนฯ สวัสดีค่ะ .. สบายดีไหมคะพี่   โดย: ดุสิตา IP: 125.24.140.122 28 เมษายน 2550 17:28:07 น.

โอม...ขอพรแห่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ อำนวยพรแก่ทุกท่านเทอญฯ...มะ อะ อุ อุ อะ มะฯ   โดย: เย็นใจเจ้า IP: 58.181.128.154 16 พฤษภาคม 2550 16:19:32 น.

สวัสดีจ้ะดุสิตา พี่หนอนฯ ต้องขอโทษจริง ๆ ทิ้งบ้านให้ร้างนานนม เพราะเหตุผลบางประการ ไม่ได้มาเยี่ยมเยือนด้วยซ้ำ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็เลยแวะมาดูบ้าง เจอะดุสิตา พี่หนอนฯ คิดถึงอยู่เสมอ ยังเขียนหนังสือหรือเปล่า ส่งที่อยู่มาให้หน่อยได้ไหม ? คุณเย็นใจเจ้า ขออภัย ที่มาเยี่ยมบ้านแล้วเจ้าของบ้านไม่มาต้อนรับ มัวไปทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ล่ะ ว่าง ๆ แวะมาใหม่ ขอแก้ตัวค่ะ คุณโอมคะ แวะไปเยือนบ้านของคุณแล้ว ว่างจะไปอ่านเรื่องของคนครึ่งบกครึ่งน้ำที่อเมริกา แอบไปดูแล้ว น่าสนใจค่ะ สำหรับทุกท่าน หนอนฯ ขอขอบคุณที่แวะมาเยือนค่ะ จะพยายามมาปัดกวาดฝุ่น จัดระเบียบบ้านใหม่ค่ะ ไม่รู้จะได้เรื่องหรือเปล่า   โดย: หนอนเมืองกรุงฯ 27 พฤษภาคม 2550 13:06:17 น.

เรารักในหลวงค่ะ   โดย: สุนิสา IP: 203.172.199.254 30 พฤศจิกายน 2550 15:53:19 น.

เรารักแม่ค่ะทีมงานzeroทีม   โดย: สุนิสา IP: 203.172.199.254 30 พฤศจิกายน 2550 15:56:05 น.

รักนะ   โดย: สุนิสา IP: 203.172.199.254 30 พฤศจิกายน 2550 16:03:34 น.

โดย: พิมพ์ค่ะ IP: 118.175.196.32 23 พฤษภาคม 2551 9:21:04 น.

อยากรู้ว่าการรำแก้บน ต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่   โดย: คนไม่รู้ IP: 206.53.152.107 14 มกราคม 2554 18:28:50 น.

ดิฉันมีเรื่องที่อยากจะทราบมากเลยค่ะ ไม่ทราบว่าดิฉันเป็นอะไรทำไมเวลาดิฉันได้เห็นหรือได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องพระพรหม ดิฉันจะต้องร้องไห้ทุกครั้งร้องเอาจริงเอาจังด้วยทุกครั้งที่ได้เห็นพระพรหมไม่ว่าจะเป็นรูปหรือรูปปั้นหรือทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับท่านดิฉันจะร้องไห้ทุกครั้งแล้วรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเหมือนมีใครอีกคนในตัวดิฉันๆอยากทราบมากเลยค่ะว่าดิฉันเป็นอะไร   โดย: ปทิตตา IP: 61.90.8.115 8 มิถุนายน 2554 18:11:37 น.

อยากทราบว่าไคมีองค์พรหมปะติมากร 4 หน้า 4 กร บ้างไหมค่ะ จะนำไปบูชาน่ะค่ะ 0867020156   โดย: กัสจัง IP: 101.51.250.70 24 ตุลาคม 2555 17:15:25 น.

ขออนุญาติแนะนำนะคะ เยือน 23 ดิฉันบูชาองค์พรหม หรือเทวดาทุกองค์ ด้วยการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ถวายบุญกุศล ให้ท่าน แล้วท่านจะปกป้องคุ้มครอง แน่นอน   โดย: เมตตา IP: 14.207.95.71 26 กรกฎาคม 2556 21:20:49 น.