|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อต้องอยู่กับมัน(ส์) ตอน มนุษย์ดัดแปลงหมายเลข 21
คำเตือน
บล็อกนี้อาจจะมีภาพประกอบที่เป็นรูปแผลซึ่งไม่น่าดูนัก ท่านที่คิดว่าไม่ชอบเห็นแผลกรุณาผ่านไปบล็อกหน้าโลดครับ ขอบคุณครับ
เฮ้อ...กว่าจะหยุด (ไม่ใช่่วันหยุดนะ)
การให้เคโมมันเป็นธรรมดาที่ย่อมต้องมีผลข้างเคียง บางคนก็มาก บางคนก็น้อย ต่างกันไปตามแต่สภาพร่างกายและบุญ
กรรมที่ทำมา อาการข้างเคียงบางอย่างอาจจะทำให้เราตกใจได้ในเวลาที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามสังเกตตัวเอง
ตลอดเวลา เพื่อจะได้รับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตระหนกตกใจ
หลังจากเคโมครั้งที่ 4 ก็มีเรื่องให้ตระหนกตกใจ ตื่นเต้นกันทั้งบ้านขึ้นมาครั้งหนึ่ง...จนได้...
ตัวยาตัวนึงที่ผมได้รับมา มันมีผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น เลือดออกในทางเดินอาหาร เบื่ออาหาร เลือดกำเดาไหล ไอ้
เจ้าอาการเลือดกำเดาไหลเนี่ยแหละครับ ที่มันทำให้แตกตื่นกันทั้งบ้าน คืนนั้น กลับถึงบ้านเหตุการณ์ก็ดูเหมือนกับไม่มีอะไร
แล้วจู่ๆก็เหมือนกับมีอาการจี๊ดขึ้นมา ถึงจมูก จากนั้นเลือดกำเดาก็ไหลทะลักทะลายท่วมบ้าน คือแบบว่า หยดกันเป็นหย่อมๆ ตั้งแต่ห้องนอนไปถึงห้องน้ำ ไอ้ครั้นจะเอาน้ำแข็งมาโปะไว้ ก็ดันมีอาการมือชา หมอห้ามไม่ให้โดนของเย็นนานๆ ไม่งั้นอาจจะปวดได้ ก็ต้องใช้มือ บีบจมูกไว้ เพื่อให้เลือดหยุดไหล ไหลไปไหลมา ทำท่าจะใช้เวลานาน ผมจึงรีบให้น้องสาวโทรหาเพื่อนที่เป็นหมอทันที..
ยี่สิบนาทีผ่านไป...มันก็ดูท่ายังจะไม่หยุดไหล
น้องสาวพร่ำถามเป็นระยะระยะว่า "เฮีย.. รถพยาบาลไหม รถพยาบาลไหม น้ำแข็งหมดตู้เย็นแล้วนะ?"
ช่างเป็นฉากที่ตื่นเต้น เร้าใจ ไร้สแตนอิน ที่แสดงเอง ไม่ต้องเทคนิคพิเศษก็เลือดสาดกระจายทั่วบ้านได้...
กว่าจะหยุด ก็ปาเข้าไปเกือบ ครึ่งชั่วโมง...
ยังดีที่เลือดหยุดได้เอง เพราะนั่นหมายถึงว่า เกล็ดเลือดเรายังมีพอที่จะรับมือกับแผลพวกนี้ เพราะในบางกรณีให้เคโมแล้วเกล็ดเลือดต่ำมาก ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะนั่นมันอาจจะทำให้เลือดออกไม่หยุดซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต..
เคโมครั้งถัดไป หมอก็เลยสั่งงดยาตัวนั้นไปครั้งหนึ่ง ก็ช่วยให้อาการดีขึ้นได้พอสมควรทีเดียว
ความอดทนคนเราน่ะ มันมีขีดจำกัด
การให้ยาเคโมโดยผ่านทางสายน้ำเกลือนั้น เวลาเราไปถึงโรงพยาบาล ก็ต้องทำการ"หาเส้น"กันครับ ไม่ใช่เล่นเส้นสาย เล่นพรรคเล่นพวกอะไรนะครับ แต่เส้นเลือดเนี่ยแหละ เวลาเราให้ยาไปแล้ว มันจะเกิดอาการ "เส้นเลือดแข็ง" เพราะว่าโดนฤทธิ์ของยากัด หรือบางเส้น ก็เห็นเป็นรอยไหม้ขึ้นมาถึงผิวหนังเลยครับ ดูแล้วก็สยดสยองไม่ใช่น้อย ถ้าบางคนไม่รู้จักก็อาจจะบอกว่า
"ไอ้นี่เล่นยาชัวร์"
ใช่คับ มันดูเหมือนอย่างนั้นจริงๆ แต่ยาที่ผมเล่นเนี่ย มันไม่ค่อยจะน่าเล่นสักเท่าไรหรอก ก็มันแพงหูดับตับไหม้
ในแต่ะละครั้งนั้น บางทีให้ยาไปแล้ว เส้นเลือดเกิดการ รั่ว หรือ มีการบวมให้เห็น พยาบาลก็จะเดินเข้ามาบอกเราด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า "น้องคะ เตรียมเจาะใหม่นะคะ" อื้ม... เป็นคำพูดเรียบง่าย ที่กินใจดีเหลือเกิน คอร์สแรกๆในการให้เคโม ก็ยังดูเหมือนกับว่าเจาะไม่กี่ครั้ง แต่พอมาถึง คอร์สที่ 6 เนี่ยสิครับ...
เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 5.00น.
"น้องคะ พี่ว่ามันบวมอีกแล้วอ่ะค่ะ เดี๋ยวเปลี่ยนเส้นอีกทีนะคะ ครั้งนี้น่าจะอยู่ได้จนถึงจบ.."
เส้นความอดทนของผมขาดผึงเลยครับ ก็เพราะว่าครั้งที่กำลังจะเจาะเนี่ย มันครั้งที่ 5-6 แล้วน่ะสิครับ ได้แต่บอกต้วเองว่า "เอาน่า อดทนๆ" ขนาดผมเป็นคนไม่กลัวเข็มฉีดยาแล้วนะ แต่ก็ยังอดรนทนไม่ไหวเลย หลังจากหมดความอดทนในการเจาะและควาน
หาเส้นเลือดเพื่อให้ยาแล้ว ในใจก็ได้แต่คิดว่า สงสัยคราวนี้จะต้องยอมผ่าตัดใส่พอร์ทตรงหน้าอกซะแล้วสิ ใจหนึ่งก็กลัวเพราะไม่อยากเป็นมนุษย์ดัดแปลง (ก็มันเหมือนเอาเครื่องอะไรก็ไม่รู้มาฝังใส่ตัวเราอ่ะ) แต่อีกใจหนึ่งก็ทนเจ็บจากการเจาะน้ำเกลือไม่ไหวแล้ว แต่ด้วยความอดทนที่มันหมดลงไปแล้ว ทำให้เราตัดสินใจ ผ่าตัดเล็กอีกครั้งเพื่อใส่ พอร์ท A-Cath
Port A Cath
ถ้าถามว่าพอร์ทคืออะไร ก็ลองนึกถึงคอมพิวเตอร์นะครับ มันจะมีช่องเสียบต่างๆหลายรูปแบบ ก็เรียกว่า พอร์ท เหมือนกัน เวลาจะใช้งานอะไรก็เอาปลั๊กไปเสียบ ปุ๊บก็ใช้งานได้ทันที (แต่เสียบให้ถูกชนิดด้วยนะ) พอร์ทนี้ก็มีลักษณะเพื่ออำนวยความสะดวกเช่นกัน เวลาจะใช้งานก็จะมีเข็มมาเสียบเข้าตรงพอร์ท ซึ่งตรงนี้ก็เหมือนกับการเจาะเลือด หรือเจาะเข็มธรรมดา เพียงแต่ว่า ถ้าใช้พอร์ทแล้ว"เจาะทีเดียว แล้วเอาออกทีเดียวเลย ตอนจะกลับบ้าน" พอร์ทนี้จะต่อตรงเข้าไปยังหลอดเลือดดำใหญ่ เพราะฉะนั้น เวลาจะเจาะหรือจะทำแผล ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่า ถ้าเกิดการติดเชื้อเข้าไปแล้วเนี่ย มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ครับ... หน้าตาของ พอร์ทที่ผมใส่เข้าไปตรงหน้าอกด้านขวา
ตอนที่ต้องไปผ่าตัดเพื่อใส่พอร์ทนั้น ผมก็ไปตามนัดคุณหมอ แล้วก็เปลี่ยนชุดผ่าตัดตามขั้นตอนทุกอย่าง ตอนผ่าตัดเนี่ยก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะครับ เพราะว่าเป็นผ่าตัดเล็ก คุณหมอไม่ได้ให้ยานอนหลับ หรือยาสลบ ผมจะมีสติดีทุกอย่างขณะที่เขาผ่าตัด ถึงขนาดที่เรียกว่า ได้ยินเสียงตอนหมอเย็บแผลแล้วรูดไหมผ่านแผลเลยอ่ะครับ พอผ่าตัดเสร็จ ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยครับ พยาบาลก็งงกันไปสิ ปกติมีแต่เขากลัวตั้งแต่ก่อนผ่า แต่นี่ผ่าจนเสร็จแล้วค่อยมากลัวจนตัวสั่น แต่ไม่รู้แหละครับ กว่าจะหายสั่นก็นานพอดูอยู่เหมือนกัน
แล้วมันต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษไหม
เท่าที่ศึกษาและสอบถามมา การใส่พอร์ทจะช่วยผู้ป่วยได้มากครับ ไม่ต้องเจ็บตัวในการเจาะเข็มซ้ำๆ จนชีช้ำกะหล่ำปลี ส่วนในเรื่องการดูแลรักษานั้น ต้องไปให้ทางโรงพยาบาลเขา ล้างพอร์ท (ฟลัด) แล้วใส่น้ำยา เฮพาลีน เพื่อกันเลือดแข็งตัวแล้วพอร์ทอุดตันอย่างน้อยเดือนละครั้งครับ ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพเลือดแต่ละคนด้วย อย่างคนไข้เด็กบางคนก็อาจจะต้องมาล้างพอร์ท สองอาทิตย์ครั้ง หรืออาทิตย์ละครั้ง แล้วแต่กรณีไป (อันนี้ถามจากเพื่อนที่เป็นคุณหมอเด็กมาครับ) ส่วนในกรณีผมนั้น ผมให้ยา เดือนละสองครั้ง ในแต่ละครั้งที่ไปให้ยา คุณพยาบาลเขาก็จะล้างและใส่เฮพาลีนให้เลยครับ
บล็อกนี้มันอาจจะดูวิชาการไปสักหน่อยนะครับ แต่ผมเองก็อยากนำประสบการณ์ที่ผม ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน มาให้คนอื่นได้รู้ว่า อ้อ โลกเรามันมีอย่างนี้อยู่ด้วยน้อ ระหว่างที่ให้เคโมนั้นมีเรื่องสยองขวัญสั่นประสาทเล็กน้อย เกิดขึ้นด้วยล่ะครับ ไว้จะมาเล่าให้ฟังคราวหน้านะครับ ว่าผมเจออะไรบ้าง สำหรับบล็อกนี้ลาไปก่อนครับ
Create Date : 05 กันยายน 2550 |
|
22 comments |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2562 20:41:08 น. |
Counter : 4151 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: โอคุง IP: 58.8.124.244 5 กันยายน 2550 21:41:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: Living with Cancer (Minie' ) 7 กันยายน 2550 20:10:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: dinkun IP: 58.11.119.163 8 กันยายน 2550 22:53:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อหมี (pohmie ) 9 กันยายน 2550 8:24:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: zmen 9 กันยายน 2550 19:48:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: random-4 10 กันยายน 2550 7:20:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hematite 12 กันยายน 2550 16:33:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปืนแก๊ป 12 กันยายน 2550 22:38:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: rungrawee IP: 58.9.46.128 13 กันยายน 2550 14:07:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: LEE (lyfah ) 13 กันยายน 2550 23:07:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ha IP: 161.200.255.162 27 มีนาคม 2551 19:14:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ส.เมืองตรัง IP: 118.173.136.7 11 ตุลาคม 2554 19:45:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]
|
ชีวิตที่เปลี่ยนไปเพราะมะเร็ง.. หลายอย่างที่ผมได้เรียนรูัจากมะเร็ง.. ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันเสมอมา ผมจะดีใจมากๆ ถ้าข้อมูลในบล็อกนี้ เป็นประโยชน์กับใครสักคนที่กำลังสับสน
เข้ามาแล้วก็ฝากข้อความไว้นะครับ..
|
|
|
|
|
|
|
เอาใจช่วยวุ้ย