เราชอบมาวัดอาซากุซะ วันปีใหม่ เพราะ
จะมีจัดออกร้านอาหารแผงลอยกันครึกครื้น สนุกดี
มีอาหารให้เลือกเยอะมากๆ อร่อยทั้งนั้น
เรามาโตเกียวทุกครั้งในช่วงปีใหม่
ก็จะไม่พลาดมางานนี้เสมอ
เราแวะมาร้านเดิมที่กินปีที่แล้ว
ไก่ทอดย่างกะทะอร่อยดี แล้วก็หมูย่าง
ใกล้ๆกัน มีสวนหย่อมให้นั่งพักเหนื่อย
และก็มีมีนักท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่น และต่างชาติ
นั่งทานอาหารที่ซื้อมากันมากมาย
เราก็เลือกนั่งทานตรงนี้นี่ละ
หมูย่างชิ้นหนา และ ไก่ทอดแบบญี่ปุ่น
ใช้เวลาที่นี่สักพักใหญ่
แล้วก็มุ่งหน้าย้ายที่กัน เดี๋ยวไปเที่ยวริมน้ำ sumida กัน
เราเดินออกด้านข้างของวัดอาซากุซะ
เพื่อจะไปเที่ยว ริมแม่น้ำ sumida
เพื่อชมตึกอาซาฮี และ โตเกียวสกายทรี
ระหว่างทาง มีอะไรให้ชมไปเรื่อยๆ
ถนนรอบๆวัด
วันนี้เค้าปิดถนนกันจริงจังมาก
เดินเที่ยวกันสบายๆ
ระหว่างทางเดิน เพื่อไปแม่น้ำ
จะเห็น tokyo sky tree ตลอดเวลา
เดินเล่นๆชิลล์ๆ จากวัดอาซากุซะ
ไม่เกิน 10 นาทีก็จะถึงริมแม่น้ำ sumida
ตรงนี้จะเห็นวิว ... ตึกอาซาฮี
ที่มีฟองเบียร์สีทองเป็นสัญลักษณ์สำคัญ
และได้เห็น tokyo sky tree ไปด้วยในทีเดียวเลย
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย
ตรงนี้คือลานชั้น 2 จะได้วิวแบบนี้
ดูผู้คนไปเพลินๆ เราชอบตรงนี้จัง
มาโตเกียวหลายครั้งมาก แต่ไม่เคยเดินมาตรงนี้เลย
เดินลงมาที่ชั้นล่าง ที่ติดกับแม่น้ำ sumida
ตรงนี้มีท่าเรือท่องเที่ยว เรือจะแล่นไปตามแม่น้ำ
ให้ชมวิวและมีจุดขึ้นลงตามจุดท่องเที่ยวด้วย
เราตัดสินใจ นั่งเล่นริมแม่น้ำกัน
ตรงนี้นก
เยอะมาก ไม่รู้ว่านกอะไร
แต่มันทำตัวสนิทสนมกับคนมากๆ คงจะมีคนมาให้ของกินประจำ
ก็ยังคงนั่งชิลล์ๆกันต่ออีกพักใหญ่
จากริมแม่น้ำ ถ่ายย้อนกลับไป
จะเห็นที่ชมวิว ชั้น2 ด้านบน
ฟ้าเริ่มสลัวแล้ว (น่าจะเพิ่ง 3-4 โมงเย็น)
ฤดูหนาวฟ้ามืดเร็วมากๆ
ผู้คนก็ยังมากันเรื่อยๆ ชมบรรยากาศผู้คนก็สนุกไปอีกแบบ
พอฟ้าเริ่มสลัว เราก็จะกลับ ueno กันละ
ระหว่างทางเดินไป subway เราเจอที่ถ่ายรปสนุกๆ
ลักษณะเป็นจานใบใหญ่ๆ ปลูกต้นไม้ไว้เต็ม
แล้วก็มีช่องให้เราสอดหัวเข้าไป
ถ่ายรูปเล่นกัน สนุกดี
สวยดี
มาถึง ueno เดินเที่ยวด้วยกันสักพัก
แวะไปดูร้านอาหารปิ้งย่างสุดฮิตของคนไทย
.... Isomaru Suisan ....
ที่พักหลังๆ ใครๆมาโตเกียว ก็มาก็ต้องมากินกัน
เราตัดสินใจกันสักพักว่ากินไม่กินดี
แต่ด้วยเวลาที่เหลือไม่มาก
และเราคงได้กินอาหารแบบนี้ที่ฮอกไกโกแน่ๆ
เลยขอผ่านไปก่อนรอบนี้ ไว้มาโตเกียวรอบหน้าจะลองมากิน
หลังจากนั้น เรากับเฮีย
ก็แยกกันเดินเที่ยว (อีกแล้ว)
เฮียไปเดินเล่น hoppy off
ส่วนเราไปเดินเล่น supermarket
เราซื้อกาแฟและของกิน
เพื่อเอากลับเมืองไทยจากที่นี่เลย
เพราะต้องการ pack ลงกระเป๋าใหญ่เพื่อส่งไป sapporo เลย
เวลาเที่ยวช่วงกลาง trip
จะได้ไม่ต้องพะวงเรื่องซื้อของพวกนี้อีก
เราก็ข้ามฝั่งไปสถานีรถไฟ ueno
เพื่อขึ้นรถไฟชินคันเซน ไป Sendai
เรามาก่อนเวลาพอสมควร
ก็เลยหาที่นั่งพักขาสักหน่อย เมื่อยมากจริงๆ
เรากลับมาถึงโรงแรม Dormy inn ที่ sendai 3 ทุ่มได้
พร้อมรับกระเป๋าใหญ่ 2 ใบที่เราส่งมาจากสนามบินนาริตะ
เลือกเครื่องแบบ .... ซักและอบเสร็จในตัวเลย ...
ผ้ามีทั้งกางเกงยีนส์ เสื้อกันหนาวแบบหนา
ตั้งเวลา เดินเครื่อง
สรุปเครื่องบอก ... ใช้เวลาทั้งหมด 5.36 ชม.
ตอนแรกก็งงๆนะ
แต่ก็เดินเครื่องไปแล้ว เราก็เลยตามเลย
มารู้ทีหลังว่าใช้เวลานานเพราะ เราใส่ผ้าหนาและเยอะ ปรกติซักอย่างเดียวก็ 2 ชม.แล้วละ นี่มีอบแห้งผ้าด้วยก็เลยนานเพิ่มอีกเท่าตัว
แต่สุดท้ายตอนเอาผ้าออก ก็แห้งหอมสะอาด ใส่ได้ทันทีเลยละ
มาญี่ปุ่นครั้งนี้ เราตั้งใจให้มีการซักผ้า
เพราะเตรียมเสื้อผ้ามาน้อย ด้วยไปโซนฮอกไกโด
จึงเตรียมแต่เสื้อผ้าหนาๆมามาก
หากเตรียมครบวันกระเป๋าไม่พอใส่แน่ๆ
ห้องซักอบผ้าของ dormy inn express sendai ที่ชั้น2 มีเครื่องซํกผ้าพร้อมอบ 2 เครื่อง / ซักอย่างเดียว 2 เครื่อง และเครื่องอบอย่างเดียว 2 เครื่อง
ที่ชั้น1 มีเครื่องซักผ้าพร้อมอบ 2 เครื่อง
ฟรีทั้งเครื่องซักผ้า อบผ้า และ ผงซักฟอก
ยกเว้นเครื่องอบอย่างเดียว มีค่าใช้จ่าย
เอาผ้าเข้าเครื่องเสร็จ
ก็ลงมาชั้น1 เพื่อกินราเมนฟรีกัน
ช่วงรอราเมน ก็กดเครื่องดื่มได้ฟรี
กินเสร็จขึ้นห้องไปพักผ่อน
ก่อนเข้านอนลงมาดูเครื่องซักผ้า
.. เหลืออีกเกือบ 4 ชม. ถึงจะเอาผ้าออกได้
ok .... งั้นไปนอนก่อนละกันจ้า
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตี 4 กว่าๆได้
ตื่นลงมาเอาผ้าแบบ มึนๆ ง่วงๆ
ผ้ายังไม่เสร็จจ้า ... นั่งเฝ้าหน้าเครื่องซะเลย
กลับขึ้นห้อง ก็จัดการกับผ้าก่อน
แล้วก็นอนต่อ
นี่คือผ้าทั้งหมดที่เราซัก
เป็นเสื้อผ้า 3 วันที่ใส่มาตั้งแต่เมืองไทย
และยังมีเสื้อกันหนาวอีกตัวไม่ได้ถ่ายมา