Day 6 .... อาหารเช้า La Vista Hotel / Hachimansaka slope (เนินแฟนเดย์) / Mt.Hakodate ภูเขาฮาโกดาเตะ
เริ่มบันทึก Diary ต่อ วันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2019วันนี้จะเดินทางไปเมือง Noboribetsu Onsen
เวลาตี5 ตื่นอาบน้ำแต่งตัว
เก็บกระเป๋าเดินทางทั้งหมด จนเสร็จเรียบร้อย
แล้วจะลงไปเดินเที่ยวตลาดเช้ากัน
อาการป่วยของเฮีย ดีขึ้นมาก เกือบจะปรกติ
วันนี้จึงยังเที่ยวตาม plan เดิมที่วางไว้
คือ ช่วงเช้าจะลงมาเดินเที่ยวตลาดเช้าหน้าโรงแรม
พอลงมาประมาณ 6 โมง
เราลงมาหน้าโรงแรมเพื่อเที่ยวตลาดเช้า
แต่ยังมืดอยู่เลย ร้านค้าก็ยังไม่ค่อยเปิด
นี่ถ้าเป็นประเทศไทย 6 โมงตลาดก็เกือบวายละ
เราก็เดินเที่ยวทั้งๆที่ร้านยังไม่เปิดนี่ละ ก็ทำไงได้ เดี๋ยวต้องไปสถานีรถไฟแล้ว
เข้ามาในโซนร้านอาหาร ...
ไคเซ็นด้ง ...
(ข้าวไคเซ็นด้ง คือ ข้าวญี่ปุ่นแต่งหน้าด้วยปลาดิบและของทะเลชนิดต่างๆ)
ร้านตรงนี้เปิดกันแต่เช้า
ผู้คนก็เริ่มมาดูเมนูต่างๆกันบ้างแล้ว
ลองดูเมนูหน้าร้าน
แสงเริ่มสว่าง เราแวะเข้าใปในตลาดอีกโซน
เริ่มมีของขายเพิ่มขึ้นเยอะเลย
แสงอาทิตย์เริ่มมาแล้ว
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อย
เรายืนถ่ายกันหน้าโรงแรมที่พัก
Hotel New Ohte
ประมาณ 6.30 เรากลับเข้าโรงแรม
ไปเอากระเป๋าเดินทาง และ check out กัน
ลากกระเป๋าเดินทางไปสถานีรถไฟ JR Hakodate
แค่ 1 นาทีก็ถึง
ควักตั๋วมาดูเวลา
รถไฟไป Noboribetsu ออกเวลา 8.54
(เราจองที่นั่งล่วงหน้าไว้แล้ว)
เรารู้สึกว่ารถไฟออกช้าไปหน่อย
จึงไปติดต่อเปลี่ยนตั๋วให้เร็วขึ้น ที่ห้องตั๋ว JR Office
ได้เวลาเร็วขึ้นอีกนิดนึง (จำเวลาไม่ได้แล้ว)
เวลายังเหลืออีกมาก
แวะไปเซเว่น หาขนมเครื่องดื่มไว้กินบนรถไฟ
และซื้อ ...
ปลาหมึกยัดไส้ข้าว ... มาลองกินด้วย
ซื้อเซเว่น อุ่นเวฟ กินได้เลย
หาที่นั่งรอเวลารถไฟ
แล้วก็ทานกันเลย ...
ปลาหมึกยัดไส้ข้าวปรุงรส ...
ของดีของดัง ที่มาถึงฮาโกดาเตะ ต้องกินสักครั้ง
รสชาติก็ ok นะอร่อยดี
ปลาหมึกหอมซีอิ้ว นุ่มเหนียวกำลังดี
แต่ข้าวรู้สึกเฉยๆ
สรุปแล้วถ้าให้ซื้อกินอีก คงไม่ซื้อละ
มีเวลาเหลือเดินเล่นในสถานี
มาที่กระดาษที่เราเขียนเล่นกันเมื่อคืน
วันนี้เค้าลบออกหมดแล้ว เลยเขียนกันใหม่
ใกล้เวลารถไฟออก
เดินเข้ามารถโซนชานชลา ซึ่งอากาศหนาวมากๆๆ
ขึ้นรถไฟได้ที่นั่งแล้ว
ก็เตรียมขนมเครื่องดื่ม อาหารเช้า
เราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.
จาก Hakodate ไปเมือง Noboribetsu
อันนี้อร่อยมาก
เป็นเจลลี่แคนตาลูป ที่ซื้อตามรีวิวแนะนำ
สรุปอร่อยจริงๆแหละ เหมือนกินผลไม้สดๆเลย
นั่งกินไป ชมวิวไป
วันนี้รถไฟว่างมาก
พอกินอาหารเช้ากันเสร็จ
ก็เลยแยกย้าย หามุมสะดวกที่ชอบ
เฮียนอนยาวสบายๆ
ส่วนเรานั่งชมวิวไป กินขนมที่เตรียมมา
สถานีรถไฟ ระหว่างทางไป Noboribetsu
ชอบสถานีนี้มาก เหมือนในหนังญี่ปุ่นเลย
ดูโดดเดียว เหงาๆ
เวลาเกือบเที่ยง
เราลงรถไฟ และก็เดินหวังจะไปหารถบัส
แต่เริ่มผิดสังเกตุที่สถานีนี้มีลิฟท์
เพราะอ่านรีวิวเตรียมตัวมาเยอะ
ทุกคนบ่นว่าสถานี Noboribetsu ไม่มีลิฟท์
เลยคิดว่าเราน่าจะลง ...
ผิดสถานี
เราไปถามเจ้าหน้าที่ให้รู้แน่
สรุปเราลงก่อนถึงป้าย Noboribetsu จริงๆด้วย
เจ้าหน้าที่แนะนำให้เรานั่งรถไฟ สายท้องถิ่นไปอีก 15 นาที
รถไฟสายท้องถิ่น จอดทุกสถานี
ผู้คนก็จะเป็นคนพื้นที่ นั่งผู้คนเพลินๆ สนุกดี
ส่วนเฮียก็นอนอีกละ เพราะยังคงมีอาการป่วยอยู่
ครานี้เราลงถูกสถานีละ
แล้วก็ต้องรีบไปซื้อตั๋วรถบัสกัน
ซื้อจากตู้หยอดเหรียญ
ราคาขาเดียว 340 yen / ไปกลับ 620 yen
เราซื้อแบบแรก
340yen (คิดเป็นเงินไทย 99 บาท / คน)
เพราะขาเข้า sapporo เราจะนั่งบัสโรงแรม
ซื้อตั๋วแล้วก็ออกมาหน้าสถานี
จะมีป้ายรถเมล์ ยืนรอเดี๋ยวรถก็มา
รถมาก็รีบขึ้น เพราะเป็นรถเมล์แบบไม่ระบุที่นั่ง
กระเป๋าเดินทางต้องหิ้วขึ้นรถ เอาไว้ข้างตัว
คนค่อนข้างเยอะ ถ้าไม่รีบขึ้นอาจต้องยืนยาว 20 นาที
หรือได้ที่นั่ง ในที่วางกระเป๋าเดินทางลำบาก
ประมาณ 20 นาที
เราก็มาถึงเมือง ...
Noboribetsu Onsen ...
เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ (เล็กมาก)
เดินสัก 10 นาทีก็ทั่งเมืองแล้วมั้ง
วันนี้ตั้งใจมากินอาหารเที่ยงที่เมืองนี้
เรา plan มาแล้วว่าจะกิน ...
เทมปุระ เพราะยังติดใจร้านแนวนี้จากเมืองออนเซน kusatsu
หาข้อมูลมาว่าเป็นร้านอันดับ1 ของเมืองนี้
ชื่อร้าน ...
Sobadokoro Fuku ...
Sobadokoro Fuku ร้านอาหารในเมือง Noboribetsu การันตีด้วย 4 ดาวครึ่ง จากเวป tripadvison
เมนูขึ้นชื่อคือ ... โซบะเทมปุระ และ ข้าวเทมปุระ
ดูรีวิวจากนักท่องเที่ยวทั่วไปได้จาก >>>>.........
กดตรงนี้ เดินจากสถานีรถบัสสัก 3 นาที
ร้านจะอยู่ขวามือ ตรงข้ามกับสำนักงานท่องเที่ยวพอดี
และแน่นอน .... แน่นอนว่าคิวยาว
แต่โชคดีที่เรามา บ่ายโมงกว่าแล้ว
คนก็น้อยลงพอสมควร เราได้เป็นคิวที่ 2
ช่วงยืนรอคิว
มีเมนูหน้าร้านให้ดูด้วย
เข้ามาภายในร้าน คนนั่งเต็มพื้นที่
เราได้นั่งโต๊ะส่วนตัว
บางคนต้องนั่งโต๊ะรวม 4 คน
แบบ 2 คู่นั่งกินโต๊ะเล็กๆ โต๊ะเดียวกัน
บริเวณเคาเตอร์ จะได้เห็นเชฟทำอาหารด้วย
เจ้าของร้านเอาเมนูมาให้เราดู
แต่เราเลือกที่จะเปิดมือถือ
ดูเมนูแนะนำใน tripadvison เลยดีกว่า
เปิดรูปที่อยากกิน ส่งให้เจ้าของร้านดู
เค้าก็รับรู้ จดออเดอร์ไป
อาหารจานแรกมาแล้ว
จานนี้เป็นของเราเอง
...
เทนด้ง + โซบะซุป + เครื่องเคียง ...
(tendon คือ ข้าวหน้าเทมปุระราดซอส )
อาหารจานนี้ อร่อยมาก
เทมปุระทอดไม่อมน้ำมัน กรอบ ไม่มีกลิ่นหื่นน้ำมัน
กุ้งตัวใหญ่ เนื้อเด้ง
ซอสที่ราดมาก็หวานเค็มกำลังดี
โซบะซุปก็กำลังดี
จานที่ 2 ของเฮีย
...
ซารุโซบะ เสริฟกับ เทมปุระรวม + เครื่องเคียง ...
( zaru soba คือ โซบะเย็นกินแบบจุ่มกับซอสเย็น)
จานนี้อร่อย โซบะดี น้ำซอสสดชื่น
เทมปุระก็กรอบ ไม่เลี่ยน ไม่อมน้ำมัน
แต่ใจก็ยังคิดถึงเมนูเดียวกันนี้ที่เมือง kusatsu
เราว่าที่โน้นอร่อยกว่านิดนึง
เคยทำ vdo ไว้ >>>>
กดตรงนี้ภาพรวม
ที่นั่งตรงเคาเตอร์
เหมือนเล่นเกาอี้ดนตรี เพราะคนจะลุกกันเร็ว
อาจเพราะไม่ได้คุยกันเท่าไร เน้นกินๆๆ
ห้องน้ำร้านนี้สะอาดมาก
ค่าอาหารมื้อนี้คือ
2230 yen( คิดเป็นเงินไทย 651 บาท)
ราคาไม่แพงเลย
เพราะคุณภาพอาหารดีมาก
กินมื้อเที่ยงเสร็จ
เราเอากระเป๋าเดินทาง ไปฝากที่โรงแรมที่พัก
....
Dai-ichi Takimotokan ....
พอมาถึงพนักงานให้เรา check in เลย
พร้อมเอากระเป๋าเข้าห้องพัก
โรงแรม Dai-ichi Takimotokan- เป็นที่พักเก่าแก่ขนาดใหญ่ มีหลายตึกมาก ตั้งอยู่ห่างจากบ่อน้ำพุร้อน Jigokudani แค่เดิน 5 นาที
- มีออนเซนที่ใหญ่มาก วิวหุบเขานรก บ่อมีหลากหลายแบบ+หลายอุณหภูมิ มีจากุชชี ห้องซาวน่า ห้องสตรีม และสระว่ายน้ำในร่ม
- สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อความบันเทิง เช่น ห้องคาราโอเกะ ศูนย์เกมในสถานที่ และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) ฟรี ในพื้นที่ส่วนกลาง
- มีป้ายรถประจำทางอยู่หน้าที่พัก สามารถขึ้นรถเพียง 15-20 นาทีก็จะถึงสถานี JR Noboribetsu
- มีบริการรถบัสรับส่งไปและจากสถานี JR Sapporo Station เมื่อแจ้งความประสงค์เมื่อจองห้องและบริการนี้มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
เราชำระเงินค่าห้องพักเลย
ราคาอยู่ที่
32,400 yen (คิดเป้นเงินไทย 9460 บาท)
ราคานี้รวมอาหาร 2 มื้อ
อาหารค่ำแบบบุฟเฟ่นานาชาติ
อาหารเช้าบุฟเฟ่นานาชาติ
onsen + สระว่ายน้ำ วิวหุบเขานรก
ห้องพักแบบญี่ปุ่น
----------------------------------------------
บริเวณ lobby
เรา check in ตรงนี้
หลังจากเอากระเป๋าเข้าเก็บในห้องแล้ว
ก็รีบออกไปข้างนอกเพื่อเดินเที่ยว
...
หุบเขานรก Jigokudani ...
จากโรงแรมเราเดินแค่ 1 นาที ก็จะถึงทางเข้าหุบเขานรกละ
มีลานจอดรถ มีทัวร์ลงหลายคันเลย
ในรูปจะเห็นตุึกซ้ายมือ นั้นละโรงแรมไดอิชิ
เดินยังไม่ทันถึงทางเข้าหุบเขานรก
หิมะก็เริ่มตกซะงั้น ตกหนักเสียด้วย
(ลองเทียบรูปล่าง กับรูปบนได้เลย)
ยิ่งเดินเข้าไป ก็ยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
หนักจนเดินเข้าไปภายในหุบเขานรกไม่ได้
ร่มก็ไม่ได้เตรียมมาด้วย เพราะไม่คิดว่าจะตกหนักขนาดนี้
ยืนถ่ายรูปกลางหิมะ
ยืนรอให้หิมะหยุดตก หรือ ตกเบาลง
ไม่่มีวี่แววว่าจะเบาลงสักนิด มีแต่หนักขึ้น และลมแรงมาก
เฮียเลยตัดสินใจเดินเข้าไปด้านในคนเดียว
เรายืนเล่นตากหิมะ รออยู่ที่ตรงนี้
ทัวร์จีนลงเยอะมากๆๆ มีแต่คนจีนตะโกนกันไปมา
ถ่ายรูปกลางหิมะกันสนุกสนาน
ภาพจากเฮีย ที่เดินเข้าไปด้านใน
เห็นว่าทางเดินลื่นมาก
ช่วงเดินออก หิมะหยุดตกแล้ว
และแสงก็เริ่มหมดแล้ว
ได้วิวสวยๆ ประมาณนี้
ทางเดินกลับ เห็นโรงแรมที่พักของเรา
ในรูปตรงกระจกใหญ่ๆ มีไฟสีเขียวๆ
นั้นคือห้อง onsen ของโรงแรมไดอิชิ ที่พักของเรา
สัก 20 นาที
เฮียก็ออกมาเจอเรา ถ่ายรูปกับป้ายเป็นที่ระลึก
แล้วก็เดินกลับโรงแรม
ช่วงเดินกลับโรงแรม
หิมะก็เริ่มตกหนักอีกครั้ง
กลับถึงโรงแรมที่พัก
เราก็ตั้งใจไป onsen กันต่อเลย
update อาการป่วยวันที่ 2.1 (5 มค. 2019) - ช่วงเช้าอาการตัวร้อนของเฮียหายดี มึนหัวไม่มี แต่ยังมีน้ำมูกใสๆ ยังคงกินยาดีคอลเจลอยู่
- ช่วงบ่ายมีน้ำมูกไสมากขึ้น และหลังไปโต้ลม+หิมะหนักหน่วงแล้ว ไข้ก็เริ่มมา- ช่วงเช้าเราไม่มีอาการป่วยอะไรเลย
- ช่วงบ่าย หลังโดนลมและหิมะ ก็เริ่มมึนๆหัว มีไข้อ่อนๆ Blog นี้ขอจบไว้ตรงนี้
Blog ต่อไป >>>
กดตรงนี้ ...
" Day 7-8 โรงแรม Dai-ichi Takimotokan / บุฟเฟ่อาหารเช้า+เย็น / ออนเซน .... "
ขอให้มีความสุข กับ Trip ของคุณ