~*~ หน้าโหด แต่ใจดี ~*~
Group Blog
เ รื่ อ ง เ ล่ า จ า ก รู ป ภ า พ
เ รื่ อ ง เ ล่ า เ รื่ อ ย เ ปื่ อ ย
ส มุ ด เ ยี่ ย ม . . . . ! ! ! !
T o p . . S e c r e t
เ พ ล ง โ ป ร ด
ลิ ง ค์ เ พื่ อ น ๆ
<<
กุมภาพันธ์ 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
26 กุมภาพันธ์ 2551
หนังสือในดวงใจ
All Blogs
วันนี้จะขอพล่าม.....
วันนี้ที่รอคอย
ช่วงชีวิตหนึ่ง
คนที่ผมเคยรัก
หนังสือในดวงใจ
เลือกเองทั้งนั้น
มารยาท
It's all in a State of Mind
เคยแสดงความรักไม่เป็นกันมั้ยคับ?
ตอนจบของอิตาลี.....
เวนิซ ในตำนาน (เที่ยวต่อ ภาค 1.2)
เที่ยวไม่ใกล้ ไม่ไกล ที่ Bolzano/Bozen (ภาค 1.1)
Trip 2 Mitte
ครั้งแรกในชีวิต กับ ชาวดอยช์
ความจริงใจรู้ได้เมื่อเกิดเรื่องเท่านั้น
ชีวิตคือการเดินทาง
Final Score 365 วัน - ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์
It's not easy .........
ติดหนังเกาหลี...หลี หลี หลี หลี..............
"เธอไม่ได้เป็นคนมีปัญหา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอ"
Love is a Force of Nature
Is this love???
หวัดดี ปีพ้นเบญจเพสค้าบบ !!!
นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่รุ่นที่ 1
วันที่บอกกับแม่ วันที่มีความสุขมากๆ
แม่
คืนสู่เหย้า
หน้าด้าน
กล้า .... ดีมั้ยหว่า o_O"
The more I see of men, the better I like my dog
พัด'จิ ลาดกระบัง
+++.....14 คำคม จาก 14 หนังรัก.....+++
อยากร้องเพลง....
++. . อารมณ์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง. .++
เข้าง่าย ออกสะดวก.....
:: Update ชีวิต ::
คิดถึงมันผิดไหม....
วันหวานๆ in ลำปาง
. . . . ความรู้สึกดีๆ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา . . . .
What if .......
ความลับ กับ ลูกสาว
รถคันงาม กับ ความสุขของพี่ชาย
......ความรัก กับ พยัญชนะ ก-ฮ......
สารภาพบาป
Said I loved you, but I lied......
When it rains, it comes.......
เรื่อยๆ
Meeting Project : มหกรรมลดความอ้วน
แจ่มใส แบบแพนด้า แพนด้า
เบลอๆ
งานไม่เสร็จ แต่อยากอัพ มีปัญหาอ่ะป่าว..
พักก่อนคับ
วิชาการเพื่อน้องหญิงทั้งหลาย "หน้า 7 หลัง 7"
วันแห่งความรัก ...แผลเป็นที่รัก.... - -"
ปัญหาเส้นผมบังหัวล้าน - -"
.....ที่ว่าง (อีกครั้ง)......
++++++++ ที่ว่าง +++++++++
.....ขอเปลี่ยนโหมด อารมณ์หน่อย อุอุอุ......
ตรงไหนของหัวใจเธอ....
วิธีที่ทำให้สิวหาย...รับรองผล 100 %
..... ไประลึกความหลัง กะห้างเก่า สมัยเรียน เหอ เหอ ......
ระวัง!!!!! การอัพเกรดโปรแกรม Wife 1.0
+-+-+Upgrade Program Boyfriend to Program Husband+-+-+
+-+-+-+-+-+ อาจารย์ "ที่ปรึกษา" +-+-+-+-+-+
....วันนี้มีความสุข.....
กลับมาทำ Thesis เป็นวันแรกในรอบเดือน...ดีใจที่ทำได้
........ตัวใครตัวมันละโว้ย.....ทำ Thesis ไ้ด้ซักที.........
ตั้งใจทำ Thesis เรื่องรักพักไว้ก่อน ... จะตายแหล่ว
เดี๋ยวไม่มีคนมาอ่านของเรา...
หนังสือในดวงใจ
เมื่อไม่นานมานี้
ผมได้ยินมาว่ามีการสร้างหนังเรื่อง
" The Diving Bell and The Butterfly "
และได้รับการกล่าวขานอย่างมากมายว่าเป็นหนังที่เป็นตัวเก็งออสการ์ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
ทั้งยังไปกวาดรางวัลเล็ก รางวัลใหญ่มาอีกเพียบ
โดยหารู้ไม่ว่า มันคือ หนังที่สร้างจากหนังสือซึ่งเป็นที่รักของผมมากๆ - -"
นั่นคือ วรรณกรรมของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ ที่ชื่อว่า
"ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ"
ซึ่งแต่งโดย ฌ็อง-โดมินิก โบบี้ (Jean-Dominique Bauby)
ก่อนอื่นต้องอธิบายคำจำกัดความของคำว่า "
แต่ง
" ก่อนนะคับ
นักเขียนทั่วๆ ไป จะแต่งด้วยการเขียน ไม่ก็พิมพ์ หรือเล่าแล้วมีคนนำไปเรียบเรียงใหม่
แต่สำหรับ โบบี้ ไม่ใช่แบบนั้นครับ
ถ้าจะพูดให้เวอร์ๆ ก็คือ เขาทะลายกำแพงคำจำกัดความคำว่า แต่งหนังสือไปเรียบร้อยแล้ว
จะมีใครเคยคิดมั้ยครับว่า
จะมีใคร ซึ่ง "แต่ง" หนังสือสักเล่ม ด้วยการ
เลิกเปลือกตาข้างซ้าย !!!
อ่านไม่ผิดหรอกครับ โบบี้แต่งเรื่องนี้ด้วยวิธีนั้นจริงๆ
เริ่มสงสัยใช่ไหมครับ ว่าแต่งได้ยังไง
เรามาดูประวัติของผู้ชายคนนี้กัน
(สำหรับท่านผู้อ่านที่เคยอ่านแล้ว ก็ขออภัยนะครับ ผมอธิบายไว้ เผื่อจะมีคนไม่เคยรู้มาก่อน ^^)
|
|
|
V
ฌ็อง-โดมินิก โบบี้ (Jean-Dominique Bauby)
เป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียน และบรรณาธิการของนิตยสาร ELLE
ชีวิตที่กำลังก้าวหน้า รุ่งเรือง ในฐานะบรรณาธิการนิตยสารชั้นนำของโลก
แต่แล้ว เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1995
เขาได้ล้มลง จากอาการเส้นเลือดสมองแตก และก้านสมองเสียหาย
ขณะนั้นเขามีอายุ 43 ปี
โบบี้สลบไป 20 วัน
และเมื่อฟื้นขึ้นมาเขาพบว่าตัวเองไม่สามารถพูดได้ และเป็นอัมพาตทั้งตัว
เขาอยู่ที่สภาพที่ทางการแพทย์เรียกว่า Locked-in Syndrome
แต่ในระหว่างที่เขาตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น
เขาได้ค้นพบการสื่อสารด้วยสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่ นั่นคือ การขยับเปลือกตาข้างซ้าย
เมื่อสมองยังทำงานได้ปรกติ และมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
แม้ว่าอาการอัมพาตทั้งตัวจะทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกกดทับและติดอยู่ในชุดประดาน้ำ
แต่ความนึกคิดของเขายังโบยบินเหมือนผีเสื้อ
เขาจึงเริ่ม "แต่ง" หนังสือ
โดยให้คนท่องชุดตัวอักษรที่เรียงตามความถี่ในการใช้ในภาษาฝรั่งเศส
และโบบี้จะกระพริบตาเมื่อถึงตัวอักษรที่เขาต้องการ
จากตัวอักษร ก็เป็นคำ
จากคำ เป็นประโยค ... เป็นย่อหน้า...
เป็นบท...
และเป็นเล่มในที่สุด
.
.
.
หนังสือเล่มนี้มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า
Le Scaphandre et Le Papillon
(ต้องขอบคุณผู้แปลเป็นภาษาไทย คือ คุณวัลยา วิวัฒน์ศร แห่งสำนักพิมพ์ผีเสื้อ ที่ทำให้คนอ่านภาษาฝรั่งเศสไม่ออกอยางผม ได้มีโอกาสซึมซับเรื่องราวดีๆ แบบนี้)
โบบี้จะแต่งและเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดในสมอง
และให้คนเขียนตามคำบอกทีละตัวอักษร ด้วยวิธีที่ผมบอกไป
เมื่อจบแต่ละบท ก็จะทำการตรวจทานอีกครั้งหนึ่ง
(ถึงตรงนี้ก็ต้องนับถือน้ำใจคนที่ขานตัวอักษรให้ฟังนะครับ นั่นก็คือ โกล๊ด มองดิบิล บรรณาธิการหนังสือเล่มนี้นั่นเอง อดทนพอๆ กันเลย ^^")
โบบี้เป็นอัมพาตทั้งสิ้น 15 เดือน
และใช้เวลาในการแต่งหนังสือเล่มนี้ทั้งสิ้น 2 เดือน
หนังสือของเขาวางขายในฝรั่งเศสในวันที่ 6 มีนาคม 1997
ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีเยี่ยม และขายได้ถึง 150,000 เล่มในสัปดาห์แรก
โบบี้เสียชีวิต 3 วันหลังจากหนังสือออกวางขาย
แทบไม่มีโอกาสได้รับรู้เลยว่า สิ่งที่เขาทำไว้เพียงแค่ 2 เดือน ในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น
จะเป็นประโยชน์และสร้างกำลังใจให้กับคนทั่วโลกอีกมากมาย ในอีกสิบปีต่อมา
ตัวหนังสือของโบบี้ไม่ได้หดหู่ ไม่ได้ฟูมฟาย
หรือเศร้ากับสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่
แต่มัน กลับทำให้คนอ่านได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีชีวิตอยู่
รวมทั้งได้เข้าใจข้อจำกัดสำคัญของการมีชีวิต นั่นก็คือ ความตาย
ลองนึกดูซิครับ
คนที่ขยับเนื้อขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิด
ขยับได้แค่เปลือกตา ยังมีวิธีคิด วิธีสร้างกำลังใจให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี
มีทัศนคติในเชิงบวก อย่างที่เรานึกไม่ออกว่า คนที่ตกอยู่ในสภาพแบบนั้น จะทำได้อย่างไร
เข้มแข็ง อดทน ต่อสู้ แม้ไม่รู้ว่า จะมีวันพรุ่งนี้สำหรับเขาอีกหรือเปล่า
นับถือน้ำใจผู้ชายคนนี้ครับ
และนี่เอง คือ หนังสือในดวงใจของผมครับ
มีเวลาลองไปอ่านดูนะครับ
ปล.
ขอบคุณ คุณแก้ว ผู้แต่งหนังสือ เอดส์ไดอารี (ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งผู้แต่งหนังสือในดวงใจ) ที่แนะนำให้ผมมีโอกาสได้รู้จักหนังสือเล่มนี้ผ่านงานเขียนของเธอนะครับ
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2551 23:57:16 น.
13 comments
Counter : 1342 Pageviews.
Share
Tweet
คนที่ไม่ฟูมฟายหดหู่กับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตเค้าได้นี่เข้มแข็งน่านับถือจิงๆ เนอะ
เวลามีเรื่องหนักๆเข้ามาในชีวิตก็พยายามจะทำให้ได้แบบนั้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา มันก็เป็นเรื่องของเรา ฟูมฟายไปก็สร้างความรำคาญกับคนอื่นเปล่าๆ ยิ่งหดหู่ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ตัวเรารู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ
โพสต์ยาว อิน 555
โดย: ปรางกี้ IP: 203.185.154.66 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:31:11 น.
อ่านแล้วอึ้ง
แล้วก็รู้สึกโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่
ขอบใจเช่นกันจ้ะที่จุดประกายเรื่องดีๆ
แต่อยากรู้เรื่องย่อมั่งอ่ะ
สรุปให้ฟังหน่อยจิ
โดย: MiuHung IP: 203.185.154.66 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:31:48 น.
เนื้อเรื่องดีครับ
มีความเนียนครับ
ชีวิตมันไม่ง่ายครับ
ไว้ว่างๆ ขอยืมหนังสือบ้างได้ไหมครับ
อยากอ่านบ้างหนะครับ
โดย: Hobbit-Ska IP: 203.185.154.66 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:38:16 น.
เรื่องนี้ผมชอบครับ ยิ่งตอนพระอภัยใส่ชุดประดาน้ำขี่นางเงือกหนีผีเสื้อสมุทร ไปถึงเกาะแก้วพิสดาร โอ้โห ตื่นเต้นครับ... อ้าว ไม่เกี่ยวกันนี่นา ล้อเล่นนะคับ
ไว้ว่างๆ จะหามาอ่านดูบ้างครับ ขอบคุณที่เอาข้อมูลดีๆ มาแชร์กันครับ... ว่าแต่เปียกันเมื่อไหร่บอกด้วย จะไปกินโต๊ะแชร์ฟรี... อ้าว ไม่เกี่ยวอีกแระ
โดย: นพแปด IP: 203.185.154.66 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:54:42 น.
เคยได้ยินเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้มานาน แต่ยังไม่ได้ซื้อมาอ่านซะที เป็นแรงบันดาลใจที่ดี จะได้อยากซื้อมาอ่านมากขึ้น บางทีอาจไปตอนงานสัปดาห์หนังสือฯ เพราะมีหนังสืออยากได้เยอะมากกกกกก แต่อ่านยังไม่ทันซะที
โดย: Kae IP: 203.185.154.66 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:11:41 น.
เคยได้ยินเรื่องของคนนี้มาเมื่อนานมาแล้ว รู้สึกอี้งและทึ่งกับความพยายามของคนคนนี้มั่กๆ
น่าเสียดายที่เค้าเสียชีวิตไปซะก่อน ทำให้เค้าไม่ได้รู้ว่าเรื่องของเค้าได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนอีกหลายล้านคนในเวลาต่อมา
ขอให้ไปสู่สุขคตินะคะ
โดย: pummie IP: 203.185.154.74 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:41:47 น.
อืม ดีครับ ชีวิตยังไงก็ต้องมีแสงสว่าง
แค่ผมร่วง ............ ไม่เห็นจะเสียหาย
จริงมั้ยครับ
555
โดย: Tup IP: 203.185.154.66 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:59:47 น.
ของเขาดีจริง ๆๆ
แบบว่า วันนั้น อ่านบทความเกี่ยวกับกงสุลของญี่ปุ่นที่ช่วยชาวยิว ทั้งที่ เขาห้ามออกวีซ๋าให้ แต่เขาก็ยังออกวีซ่า ตลอดเวลาที่เขาทำได้ แล้วกลับมาโดนลงโทษ ติดคุก เมียและลูกถูกข่มขืน กว่าเขาจะได้รับการยกย่อง ก็ตายไปแล้ว
แต่คนที่เขาช่วยได้ก็เดินทางไปตามหาเขานะ อ่านแล้วอินอ่า
บางที หน้าที่กะหัวใจมันก็แยกกันได้
โดย: nancy IP: 203.185.154.66 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:54:02 น.
เราก็ชอบเล่มนี้นะ ชอบมากด้วย
อ่านเมื่อไหร่ก็รู้สึกฮึกเหิมกับพลังชีวิตของมนุษย์อะ
โดย:
แพนด้ามหาภัย
วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:04:20 น.
ได้ยินเรื่องราวของหนังสือเล่มนี้มานานมาก
แต่ไม่ได้อ่านซะทีอ่ะ
สร้างเป็นหนังแล้วเหรอ - -"
โดย: พี่ส้ม IP: 203.170.234.20 วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:05:16 น.
อ่านแล้วทึ่งมาก นับถือทั้งคนแต่งและบรรณาธิการคนนั้น
ต้องไปหามาอ่านมั่งแล้วสิ
โดย:
อะ-โล-ฮ่า
วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:1:04:01 น.
โห กำลังจะทำรีวิวหนังสือเล่มนี้พอดีเลย ตกลงเค้าก็ได้รางวัลปีนี้ชิมิล่า
โดยส่วนตัวเราว่าหนังสือเล่มนี้ต้องแบ่งการมองเป็น 2 แบบนะ หนึ่งคือมองเฉพาะเนื้อหาวรรณกรรม เพื่อการวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมา กับสอง คือมองทั้งเนื้อหาและความเป็นมาของผู้เขียน (สภาพที่ locked in นั่นแหละ)
ตอนนี้กำลังทวนใหม่อีกครั้ง เป็นหนังสือเล่มเล็กที่ใช้เวลาอ่านได้ยาวนานเหลือใจจริงๆ
โดย: เมี๊ยวว IP: 203.185.154.66 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:10:24:20 น.
ดีใจเหลือเกินที่ได้ฟังเรื่องเล่าของคุณผู้เป็นกำลังใจที่ดีของฉัน
ของให้ผลบุญแห่งความพยายามของเค้าที่ถ่ายทอดความหนักหนาและความเจ็บปวด ที่ถ่ายทอดมาสู่ฉัน
ส่งเขาไปสู่สุขติ
โดย: cyberlearn IP: 10.6.145.53, 202.28.179.4 วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:16:23:01 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ตะวันยิ้ม :-)
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ห ลั ง ไ ม ค์
ถึ ง
ต ะ วั น ยิ้ ม :-)
จิ้มดูอมยิ้ม
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add ตะวันยิ้ม :-)'s blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เวลามีเรื่องหนักๆเข้ามาในชีวิตก็พยายามจะทำให้ได้แบบนั้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา มันก็เป็นเรื่องของเรา ฟูมฟายไปก็สร้างความรำคาญกับคนอื่นเปล่าๆ ยิ่งหดหู่ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ตัวเรารู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ
โพสต์ยาว อิน 555