|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
หนังสือในดวงใจ
เมื่อไม่นานมานี้
ผมได้ยินมาว่ามีการสร้างหนังเรื่อง
" The Diving Bell and The Butterfly "
และได้รับการกล่าวขานอย่างมากมายว่าเป็นหนังที่เป็นตัวเก็งออสการ์ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
ทั้งยังไปกวาดรางวัลเล็ก รางวัลใหญ่มาอีกเพียบ
โดยหารู้ไม่ว่า มันคือ หนังที่สร้างจากหนังสือซึ่งเป็นที่รักของผมมากๆ - -"
นั่นคือ วรรณกรรมของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ ที่ชื่อว่า
"ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ"
ซึ่งแต่งโดย ฌ็อง-โดมินิก โบบี้ (Jean-Dominique Bauby)
ก่อนอื่นต้องอธิบายคำจำกัดความของคำว่า "แต่ง" ก่อนนะคับ
นักเขียนทั่วๆ ไป จะแต่งด้วยการเขียน ไม่ก็พิมพ์ หรือเล่าแล้วมีคนนำไปเรียบเรียงใหม่
แต่สำหรับ โบบี้ ไม่ใช่แบบนั้นครับ
ถ้าจะพูดให้เวอร์ๆ ก็คือ เขาทะลายกำแพงคำจำกัดความคำว่า แต่งหนังสือไปเรียบร้อยแล้ว
จะมีใครเคยคิดมั้ยครับว่า
จะมีใคร ซึ่ง "แต่ง" หนังสือสักเล่ม ด้วยการ เลิกเปลือกตาข้างซ้าย !!!
อ่านไม่ผิดหรอกครับ โบบี้แต่งเรื่องนี้ด้วยวิธีนั้นจริงๆ
เริ่มสงสัยใช่ไหมครับ ว่าแต่งได้ยังไง
เรามาดูประวัติของผู้ชายคนนี้กัน
(สำหรับท่านผู้อ่านที่เคยอ่านแล้ว ก็ขออภัยนะครับ ผมอธิบายไว้ เผื่อจะมีคนไม่เคยรู้มาก่อน ^^)
| | | V
ฌ็อง-โดมินิก โบบี้ (Jean-Dominique Bauby)
เป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียน และบรรณาธิการของนิตยสาร ELLE
ชีวิตที่กำลังก้าวหน้า รุ่งเรือง ในฐานะบรรณาธิการนิตยสารชั้นนำของโลก
แต่แล้ว เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1995
เขาได้ล้มลง จากอาการเส้นเลือดสมองแตก และก้านสมองเสียหาย
ขณะนั้นเขามีอายุ 43 ปี
โบบี้สลบไป 20 วัน
และเมื่อฟื้นขึ้นมาเขาพบว่าตัวเองไม่สามารถพูดได้ และเป็นอัมพาตทั้งตัว
เขาอยู่ที่สภาพที่ทางการแพทย์เรียกว่า Locked-in Syndrome
แต่ในระหว่างที่เขาตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น
เขาได้ค้นพบการสื่อสารด้วยสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่ นั่นคือ การขยับเปลือกตาข้างซ้าย
เมื่อสมองยังทำงานได้ปรกติ และมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
แม้ว่าอาการอัมพาตทั้งตัวจะทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกกดทับและติดอยู่ในชุดประดาน้ำ
แต่ความนึกคิดของเขายังโบยบินเหมือนผีเสื้อ
เขาจึงเริ่ม "แต่ง" หนังสือ
โดยให้คนท่องชุดตัวอักษรที่เรียงตามความถี่ในการใช้ในภาษาฝรั่งเศส
และโบบี้จะกระพริบตาเมื่อถึงตัวอักษรที่เขาต้องการ
จากตัวอักษร ก็เป็นคำ
จากคำ เป็นประโยค ... เป็นย่อหน้า...
เป็นบท...
และเป็นเล่มในที่สุด
.
.
.
หนังสือเล่มนี้มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า
Le Scaphandre et Le Papillon
(ต้องขอบคุณผู้แปลเป็นภาษาไทย คือ คุณวัลยา วิวัฒน์ศร แห่งสำนักพิมพ์ผีเสื้อ ที่ทำให้คนอ่านภาษาฝรั่งเศสไม่ออกอยางผม ได้มีโอกาสซึมซับเรื่องราวดีๆ แบบนี้)
โบบี้จะแต่งและเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดในสมอง
และให้คนเขียนตามคำบอกทีละตัวอักษร ด้วยวิธีที่ผมบอกไป
เมื่อจบแต่ละบท ก็จะทำการตรวจทานอีกครั้งหนึ่ง
(ถึงตรงนี้ก็ต้องนับถือน้ำใจคนที่ขานตัวอักษรให้ฟังนะครับ นั่นก็คือ โกล๊ด มองดิบิล บรรณาธิการหนังสือเล่มนี้นั่นเอง อดทนพอๆ กันเลย ^^")
โบบี้เป็นอัมพาตทั้งสิ้น 15 เดือน
และใช้เวลาในการแต่งหนังสือเล่มนี้ทั้งสิ้น 2 เดือน
หนังสือของเขาวางขายในฝรั่งเศสในวันที่ 6 มีนาคม 1997
ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีเยี่ยม และขายได้ถึง 150,000 เล่มในสัปดาห์แรก
โบบี้เสียชีวิต 3 วันหลังจากหนังสือออกวางขาย
แทบไม่มีโอกาสได้รับรู้เลยว่า สิ่งที่เขาทำไว้เพียงแค่ 2 เดือน ในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น
จะเป็นประโยชน์และสร้างกำลังใจให้กับคนทั่วโลกอีกมากมาย ในอีกสิบปีต่อมา
ตัวหนังสือของโบบี้ไม่ได้หดหู่ ไม่ได้ฟูมฟาย
หรือเศร้ากับสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่
แต่มัน กลับทำให้คนอ่านได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีชีวิตอยู่
รวมทั้งได้เข้าใจข้อจำกัดสำคัญของการมีชีวิต นั่นก็คือ ความตาย
ลองนึกดูซิครับ
คนที่ขยับเนื้อขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิด
ขยับได้แค่เปลือกตา ยังมีวิธีคิด วิธีสร้างกำลังใจให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี
มีทัศนคติในเชิงบวก อย่างที่เรานึกไม่ออกว่า คนที่ตกอยู่ในสภาพแบบนั้น จะทำได้อย่างไร
เข้มแข็ง อดทน ต่อสู้ แม้ไม่รู้ว่า จะมีวันพรุ่งนี้สำหรับเขาอีกหรือเปล่า
นับถือน้ำใจผู้ชายคนนี้ครับ
และนี่เอง คือ หนังสือในดวงใจของผมครับ
มีเวลาลองไปอ่านดูนะครับ
ปล. ขอบคุณ คุณแก้ว ผู้แต่งหนังสือ เอดส์ไดอารี (ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งผู้แต่งหนังสือในดวงใจ) ที่แนะนำให้ผมมีโอกาสได้รู้จักหนังสือเล่มนี้ผ่านงานเขียนของเธอนะครับ
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
13 comments |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2551 23:57:16 น. |
Counter : 1337 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ปรางกี้ IP: 203.185.154.66 27 กุมภาพันธ์ 2551 9:31:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: MiuHung IP: 203.185.154.66 27 กุมภาพันธ์ 2551 9:31:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: Hobbit-Ska IP: 203.185.154.66 27 กุมภาพันธ์ 2551 9:38:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: นพแปด IP: 203.185.154.66 27 กุมภาพันธ์ 2551 9:54:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: Kae IP: 203.185.154.66 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:11:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: pummie IP: 203.185.154.74 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:41:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tup IP: 203.185.154.66 28 กุมภาพันธ์ 2551 9:59:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: nancy IP: 203.185.154.66 28 กุมภาพันธ์ 2551 10:54:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่ส้ม IP: 203.170.234.20 29 กุมภาพันธ์ 2551 11:05:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: เมี๊ยวว IP: 203.185.154.66 4 มีนาคม 2551 10:24:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: cyberlearn IP: 10.6.145.53, 202.28.179.4 24 สิงหาคม 2553 16:23:01 น. |
|
|
|
| |
|
|
เวลามีเรื่องหนักๆเข้ามาในชีวิตก็พยายามจะทำให้ได้แบบนั้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา มันก็เป็นเรื่องของเรา ฟูมฟายไปก็สร้างความรำคาญกับคนอื่นเปล่าๆ ยิ่งหดหู่ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ตัวเรารู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ
โพสต์ยาว อิน 555