~*~ หน้าโหด แต่ใจดี ~*~
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
3 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
เที่ยวไม่ใกล้ ไม่ไกล ที่ Bolzano/Bozen (ภาค 1.1)



ห่างหายหน้ากันไปนานพอควรทีเดียวนะครับ กับบล็อคของกระผม

นับๆ ดูแล้วก็เป็นเดือนเหมือนกันเนอะ ที่ไม่ได้อัพบล้อคนี้

ยังไงก็ดี ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว หุหุ

==================

ความจริงอยากจะเล่าให้มากๆ เพราะมีเวลาไปเที่ยวเกือบทุกสัปดาห์เลย ไม่ว่าจะไปเรื่องงาน หรือเที่ยวเองก็ตาม

ก็ใครน้า เคยบอกว่า ทำงานให้หนัก เล่นก็ให้หนักด้วย ให้มันบาลานซ์ ใช่ป่ะครับ


ผมก็ทำตัวแบบนั้นแหล่ะครับ ^^

===============

มาเข้าเรื่องกันดีกว่า

ทริปเกือบๆ ล่าสุดที่ไปมานี้ คือ ไปอิตาลีมาครับ

ใครอย่าเพิ่งนึกว่า ไปอิตาลี เนี่ย ไปโรม มิลานนะครับ

ผมไปเมือง Bolzano/Bozen


งง อย่าทำเป็นงง ^^"



เที่ยวแบบของผม มันต้องอย่าให้ซ้ำกับใคร

เพื่อนบอกว่า ผมไปบ้านนอกของอิตาลี หุหุ

คือจริงๆ มันก็งั้นๆ แหล่ะครับ เพราะผมเกิดมาก็ไม่เคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาก่อน


เหตุผลที่จะไป เพราะว่าจะไปเยี่ยม และเที่ยวหาเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวอิตาลี ซึ่งเคยเรียนด้วยกันตอนเรียนปริญญาโท (จริงๆ ตอนนี้ผมก็ยังต้องเรียนอยู่อ่ะนะครับ )


ก็เอาเป็นว่า มีโปรแกรมไปปีนเขาที่บ้านของเพื่อน คิดดูแล้วกันว่ามันบ้านนอกแค่ไหน




จริงๆ มันมีเรื่องสนุกๆ ตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทางด้วยซ้ำ

ตั้งแต่เริ่มจองตั๋ว ราคาที่เช็คไว้ราคานึง แต่พอไปซื้อจริง แพงกว่าเกือบเท่า แถมโดนฤทธิ์เดชเจ๊ขายตั๋วคนเยอรมันอีก




กว่าจะขออนุญาตที่ทำงานอีก ก็เกือบวันเดินทางแล้ว

ลุ้นมากๆ ว่าจะได้ไปรึเปล่า หรือจะต้องทิ้งตั๋วราคาเกือบสองร้อยยูโร มานั่งทำงานเศร้าๆ วันสุดสัปดาห์



เพราะจริงๆ ผมแอบซื้อตั๋วไปก่อน โดยไม่ได้บอกที่ทำงานไว้

กว่าจะได้บอก ก็วันพฤหัสบดี ก็ขอเค้าไว้ว่า ขออาทิตย์นี้ไม่ทำงานเสาร์ อาทิตย์ แค่ครั้งเดียว

ต่อไปจะไม่ขออีกแล้ว ก็เลยได้มา สบายใจ


พอทุกอย่างโปร่งโล่ง ก็ออกเดินทางตอนเย็นวันศุกร์ นั่งรถไฟที่สถานีใกล้บ้าน ไปยังจุดหมาย โดยซื้อตั๋วแบบนอน หรือ Nachtzugreise




ตอนแรกก็นึกภาพไม่ค่อยออกว่าจะนอนเข้าไปยังไง 6 คน เพราะมันเขียนไว้ว่าเป็น 6 Coach

พอเข้าไปเจอของจริงแล้วก็ เข้าใจ มันจะนั่งฝั่งละ 3 คน แล้วพอจะนอน ก็ปรับเป็นฝั่งละ 3 คน มีคนนอนตรงกลาง 1 คน

น่ากลัวจะตกเหมือนกัน เพราะผมนอนตรงกลางพอดีซะด้วย

ระหว่างทาง ก็มีฝรั่งชาวเยอรมัน ชวนคุยตลอดเวลา
เหนื่อยก็เหนื่อย อยากจะให้มันหยุดคุย
พอชาวบ้านหลับ มันก็ชวนไปคุยนอกห้อง จะบ้าตาย

แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน ไม่เหงา


ตื่นเช้ามาได้สักพัก ก็ถึงซะที สถานีที่ต้องการ



จริงๆ รูปนี้ถ่ายตอนกลับ เพราะตอนขาไปไม่มีเวลาถ่ายเพราะกลัวลงรถไฟไม่ทัน แถมยังกลัวเพื่อนรอด้วย



เพื่อนมารับเรียบร้อย มันก็พาไปกินกาแฟให้ตื่นนิดนึง
(แอบคิดว่า เราอาจจะมาเช้าไป บ้านมันอาจจะยังไม่ตื่น ก็เลยพาเราไปนั่งเล่นฆ่าเวลาซะเลย หุหุ)

พอเดินทางไปถึงบ้านเค้า



บ้านเพื่อนผมคนนี้ใหญ่โตทีเดียว อยู่ริมภูเขาเลย


เพราะอยู่กันประมาณ 7 คน โดยข้างล่างให้ครอบครัวอื่นเช่าอยู่

บ้านแถบนี้น่าอยู่กันทุกหลัง เพราะอยู่ติดภูเขา เหมือนในโลเกชันหนังที่เคยมาถ่ายกัน

ได้บรรยากาศความเป็นยุโรปมากๆ


ลืมบอกไป ว่าเพื่อนผมคนนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับ รถแทรกเตอร์อ่ะครับ

ก็เป็นธุรกิจครอบครัวที่ทำมานาน

มันก็ต้องสานต่อ โดยตอนนี้ตำแหน่งของมันคือ Sale Executive สักอย่างนึงนะครับ (จำตำแหน่งมันไม่ได้ รู้แต่ว่า สักวันต้องเป็นเจ้าของอยู่เลย เลยขี้เกียจถาม เหอ เหอ)


พอถึงบ้านมัน ก็เข้าไปเก็บของสักพัก

หวัดดีพ่อแม่ ทักทายพี่น้องมัน ก็เอาของฝากให้เรียบร้อย ก็ยังงงๆ ว่าจะทำอะไรต่อดี

ดูเมืองตอนนั่งรถผ่านแล้วก็ยังงงๆ ว่าจะไปเที่ยวไหนดี
เพราะเห็นมีแต่ป่าแต่ดอย

เก็บข้าวของเสร็จ ออกมา มันบอกว่า ปะ ไปเวนิซ กันดีกว่า (ชื่อจริงๆ คือ เวเนเซีย หรือ เวเนดิก) เราก็เอาว่ะ ไปก็ไป ไม่ได้คิดอะไร

แค่มาเจอหน้ามันก็ดีใจแล้ว


และนี่คือโฉมหน้าของพาหนะที่มันจะพาผมไปนะครับ




ก็เริ่มออกเดินทางกันไป

ระหว่างนั้นก็ถ่ายตำบล หรือว่าเขตที่บ้านเพื่อนของผมตั้งอยู่ก่อนนะครับ

เค้าเรียกแถวนี้ว่า Eppan/Appiano



ระหว่างทาง มันก็อธิบายให้ฟังว่า แคว้นนี้เรียกว่า Bozen/Bolzano

เป็นเขตที่เมื่อก่อนเป็นท่าที่จะแลกเปลี่ยนสินค้า หรือเป็นเขตติดต่อของทั้งเยอรมนี และอิตาลี

ป้ายตามทางต่างๆ ก็เลยต้องมีสองภาษา คือ ภาษาอิตาลี และเยอรมัน

อย่างชื่อเมือง ก็ต้องมี 2 ภาษา คือ Bozen เป็นภาษาเยอรมัน ส่วน Bolzano เป็นภาษาอิตาลี

เดินทางไปที่ไหนก็จะเห็นป้ายที่มีสองภาษาตลอดทางเลย

จนกระทั่ง ถึงช่องเขาแห่งนี้



ซึ่งเพื่อนผมอธิบายว่า มันเป็นกำแพงธรรมชาติ
ที่กำหนดเขตแดนว่า

ถ้าเลยจากภูเขาลูกนี้ไป ก็จะเป็นเขตที่พูดแต่ภาษาอิตาลีเพียงอย่างเดียว (จากปกติที่คนแถบนี้จะพูดได้ทั้งสองภาษา)

ต่อจากนี้ผมก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง หลับๆ ตื่นๆ

เพราะเริ่มง่วงนอน เพื่อนมันก็ขับรถต่อไปเรื่อยๆ


ระหว่างทางก็ถ่ายรูปข้างทาง ซึ่งฟ้าสวยใสมาก



แบบนี้อ่ะ นี่ขนาดถ่ายจากในรถที่กระจก(สกปรกๆ นะเนี่ย)






จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปถึงเวนิซ



เพื่อนบอกว่า ที่นี่เป็นเมืองแห่งนักท่องเที่ยว ทุกคนล้วนเป็นฝรั่งกันหมด

พอมาถึง ใช่ว่าจะถึงเลย ก็ต้องไปจอดรถซึ่งไกลมากๆ

แถมค่าจอดรถก็แพงมากเช่นกัน ชั่วโมงละ 3 ยูโร

ก็ต้องจอดกันไป แล้วก็ต้องเดินตากแดดไปขึ้นเรืออีก

เสียเงินอีกคนละ 6 ยูโร ค่าเรือ

ระหว่างทางก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ







และก็ถ่ายรูปนักท่องเที่ยวกับไกด์จำเป็นกันสักหน่อย เพราะว่า ไม่มีตากล้องประจำตัว





และแล้ว เราก็กำลังจะขึ้นบกกันแล้วนะครับ

======================

เผอิญวันนี้มีเวลาแค่นี้ เด๋วมาอัพต่อกันนะครับ







Create Date : 03 กรกฎาคม 2550
Last Update : 4 กรกฎาคม 2550 14:27:22 น. 0 comments
Counter : 2366 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตะวันยิ้ม :-)
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










ห ลั ง ไ ม ค์
ถึ ง
ต ะ วั น ยิ้ ม :-)




จิ้มดูอมยิ้ม


Friends' blogs
[Add ตะวันยิ้ม :-)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.